ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 18

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 18

Author: 여님  (ยอนิม)

 

คิมเดินเข้าไปในครัวแล้วเปิดดูเย็นดูของสดเพื่อจะทำอาหาร มีของสดมากมายที่ป้านีเอามาตุนเอาไว้ คิมจึงตั้งใจจะทำกับข้าวสักสองสามอย่าง ร่างบางเดินไปดูข้าวในหม้อซึ่งป้านีพึ่งหุงไว้เผื่อในตอนเย็น ร่างบางเดินทำโน่นทำนี่อยู่ในครัวอยู่สักพัก กมลก็เดินมายืนพิงกรอบประตูดูอยู่เงียบๆ พร้อมกับยิ้มออกมาอย่างพอใจ คิมทำทุกอย่าง อย่างคล่องแคล่ว

“อ๊ะ ตกใจหมดเลยคุณกมล มาไม่ให้สุ้มให้เสียง” คิมที่หันมาเห็นกมลก็สะดุ้งนิดๆ กมลเดินเข้าไปหาร่างบาง

“ทำอะไรกิน” กมลถามขึ้น

“ผมว่าจะทำปลาหมึกทอดกระเทียม  กระเพรากุ้งแล้วก็ต้มจืดสาหร่าย คุณกินได้มั้ย” คิมถามพร้อมกับล้างปลาหมึกไปด้วย กมลกอดเอวบางของคิมทางด้านหลังพร้อมกับหอมแก้มใสเบาๆ ทำให้คิมร้อนหน้าผ่าวๆ แต่ก็ไม่ได้ดิ้นหนีแต่อย่างไร

“นายทำอะไรมาให้กิน ชั้นก็กินได้ทุกอย่างแหละ” กมลบอกกลับ คิมย่นจมูกนิดๆ

“ถ้าผมเอายาพิษให้กิน คุณก็คงกินได้สินะ” คิมแกล้งพูดเหน็บ กมลยิ้มขำ

“กินสิ ถ้านายอยากให้ชั้นตาย ชั้นก็จะตายเพื่อนาย” กมลบอกออกมาอีก ทำให้คิมพูดต่อไม่ออก ใบหน้าใสขึ้นสีระเรื่อ

“คุณกมล อย่าเกะกะสิ ผมจะทำกับข้าว” คิมขยับตัวนิดๆ เพื่อให้กมลปล่อยเอวตนเอง

“มีอะไรให้ชั้นช่วยมั้ย” กมลถามขึ้น ทำให้คิมหันหน้ามามองอย่างแปลกใจ

“ทำเป็นเหรอครับ” คิมถามกลับ

“หึหึ เป็นสิ ชั้นเคยลำบากมาก่อนนะ ต้องหากินเอง ทำกินเอง ไม่ใช่ลูกคุณหนูนะคิม ทำไมจะทำไม่เป็นล่ะ” กมลตอบออกมา คิมลังเลนิดๆ

“งั้นแกะเปลือกกุ้งแล้วก็ผ่าหลังให้ผมหน่อย ผมไม่ค่อยชอบแกะกุ้งเลย หัวกุ้งมันชอบทิ่มมือ” คิมพูดบ่นนิดๆ กมลยิ้มขำ ก่อนจะถลกแขนเสื้อของตนเองไปที่ข้อศอกทั้งสองข้าง ก่อนจะหยิบกะละมังใส่กุ้งไปล้างและแกะเปลือกกุ้งออกให้ คิมลอบยิ้มนิดๆ ที่เห็นมาเฟียใหญ่อย่างกมลมาเป็นลูกมือในครัวให้ตนเอง ลูกน้องของกมลที่มายืนแอบดูทางประตู ก็อดที่จะอึ้งไม่ได้ ที่เห็นกมลยอมทำทุกอย่างตามที่คิมต้องการ

..

..

..

..

//พี่คม คนที่เราห้ามขัดคำสั่งโดยเด็ดขาดคือคุณคิมใช่มั้ย// ลพหันไปกระซิบถามคม

//เออ ขัดคำสั่งนายอาจจะโดนตบด้วยด้ามปืน แต่ถ้าขัดคำสั่งคุณคิม มีหวังโดนจับถ่วงน้ำแน่มึง// คมบอกกลับก่อนจะดึงคอเสื้อลพ ให้เดินออกจากทางเข้าห้องครัว เพื่อให้กมลกับคิมได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“คุณกมล วันนี้ผมขอไปส่งใบบุญที่โรงเรียนเองได้มั้ย” คิมพูดขอขึ้นในตอนเช้า ขณะนั่งกินอาหารเช้าพร้อมกับ กมล ใบบุญและคม

“จะขับรถไปเองน่ะเหรอ” กมลถามเสียงเครียด

“ครับ ผมว่าจะขอแวะไปที่สำนักงานหน่อยน่ะ ผมไม่ได้เข้าไปดูแลนานแล้วนะครับ” คิมบอกออกมาอีก

“พาลูกน้องชั้นไปสัก 2 คนได้มั้ย ชั้นขอล่ะ เผื่อมีอะไรฉุกเฉิน” กมลบอกกลับเสียงจริงจัง เพราะยังไม่แน่ใจกับสถานการณ์ของตนเองสักเท่าไร เพราะยังเหลือเฉินอีกคนที่กมลยังไม่ได้จัดการ

“ถ้าผมบอกว่าผมดูแลตัวเองได้ คุณก็คงไม่ยอมใช่มั้ยล่ะ” คิมว่ากลับไป กมลพยักหน้ารับ

“ก็ได้” คิมตอบรับอย่างจำยอม เพราะรู้ว่าดื้อไปก็เท่านั้น กมลยิ้มออกมาอย่างพอใจ เมื่อกินอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว คิมก็ให้ใบบุญไปเตรียมกระเป๋า ส่วนคนที่จะไปกับคิมคือกิจและลพ ส่วนคมต้องพากมลไปดูผับที่ถูกวางเพลิงก่อนหน้านี้ ว่าเริ่มซ่อมแซมบ้างแล้วรึยัง  คิมขึ้นไปหยิบของบนห้องโดยมีกมลตามขึ้นไปด้วย

“ไหน มานี่หน่อยสิ” กมลเรียกร่างบาง คิมเดินเข้ามาหากมลโดยดี มือแกร่งของกมลข้างหนึ่งโอบเอวบางของคิมเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็ลูบแก้มใสเบาๆ คิมรู้สึกอบอุ่นในใจขึ้นมาวูบหนึ่งเมื่อได้รับสัมผัสจากกมลอย่างอ่อนโยน

“ถ้าชั้นไม่ติดธุระอะไร จะไปหาที่สำนักงานตอนเที่ยงนะ” กมลพูดบอก คิมพยักหน้ารับ

“ถ้ามีอะไรไม่ชอบมาพากล ให้ฟังลพกับกิจ ห้ามดื้อ ตกลงมั้ย” กมลสั่งอีก

“ผมไม่ใช่เด็กนะ” คิมว่าออกมา กมลยิ้มรับ มือที่ลูบแก้มใสเลื่อนไปลูบท้ายทอยขาวของคิมเบาๆ

“ห้ามให้ผู้ชายคนไหนมาเกาะแกะนายเด็ดขาด” กมลพูดต่อเรื่อยๆ

“ทำเหมือนกับว่าลูกน้องของคุณจะปล่อยใครให้หลุดมาเกาะแกะผมอย่างนั้นแหละ” คิมพูดแขวะกลับไปทันที

“ถ้าชั้นโทรไปหาต้องรับสายทุกครั้ง” กมลบอกต่อ คิมทำปากยื่น

“ถ้าผมไม่รับ คุณก็โทรเข้าเบอร์ลูกน้องของคุณแล้วขอคุยกับผมอยู่ดี” คิมเถียงกลับไป

“หึหึ นายนี่เถียงเก่งจริงๆเลยนะ” กมลขำในลำคอ เพราะไม่ว่าเขาจะพูดอะไรไป คิมต้องหาเรื่องเถียงกลับทุกครั้ง

“ไม่ได้เถียง แค่พูดให้ฟังเฉยๆ” คิมโวยขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ขำตัวเองในใจเหมือนกัน

“ผมไปได้ยังเนี่ย เดี๋ยวใบบุญไปโรงเรียนสาย” คิมพูดขึ้น กมลก้มลงไปจูบที่ริมฝีปากของคิมเบาๆแล้วถอนออกมาโดยไม่ได้ล่วงล้ำแต่อย่างไร ทำให้คิมอดที่จะแปลกใจไม่ได้

“ชั้นไม่อยากจูบนายนานกว่านี้ เดี๋ยวเราสองคนจะไม่ได้ไปไหนไกลกว่าเตียง” กมลพูดบอก ทำให้คิมหน้าขึ้นสีทันที

“คนหื่น!” คิมว่ากมลก่อนจะรีบเดินหนีออกนอกห้องด้วยความเขิน กมลเดินยิ้มตามไปเช่นกัน ทั้งสองลงไปที่รถโดยที่ทุกคนยืนรออยู่แล้ว

“โทษทีนะใบบุญ ป่ะ ขึ้นรถเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย” คิมบอกยิ้มๆ ใบบุญยกมือไหว้กมลและทุกคนที่ยืนอยู่แถวนั้น

“ลพ กิจ ดูแลเมียชั้นด้วย มีอะไรก็โทรเข้ามาที่คม หรือไม่ก็ตรงเข้าเบอร์ชั้นได้เลย” กมลพูดสั่งลูกน้องตนเอง ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปขึ้นรถ

..

..

..

..

“ลพ กิจ เดี๋ยวชั้นลงไปส่งใบบุญแป๊บนะ” คิมพูดบอกลพกับกิจเมื่อเข้ามาจอดรถในโรงเรียนของใบบุญ

“ให้ผมลงไปด้วยมั้ยครับ” ลพถามขึ้น

“ไม่ต้อง ชั้นก็ยืนอยู่ข้างรถเนี่ยแหละ” คิมบอกกลับ ก่อนจะลงจากรถพร้อมกับใบบุญ

“สวัสดีฮะพี่คิม ขอบคุณฮะที่มาส่ง”ใบบุญยกมือไหว้คิมยิ้มๆ ตลอดทางที่นั่งรถมา ทั้งสองนั่งคุยกันมาตลอด

“ตั้งใจเรียนนะ แล้วเจอกันตอนเย็น” คิมบอกยิ้มๆ

“ฮะ” ใบบุญตอบรับ ก่อนที่อาจารย์ผู้ชายคนหนึ่งจะเดินผ่านมา

“อ่าว ใบบุญ แม่มาส่งเหรอ”อาจารย์ทักขึ้น ทำให้คิมชะงักกึก ก่อนจะมองหน้าอาจารย์หนุ่มด้วยความไม่พอใจ

“ป่ะ..เปล่าฮะครูยุทธ นี่พี่คิม เอ่อ..พี่ชายของผมเองครับ” ใบบุญรีบพูดแก้ให้ทันที

“อ่า ขอโทษทีครับ ผมไม่คิดว่า..” อาจารย์หนุ่มรีบขอโทษคิมเป็นการใหญ่

“ไม่คิดว่าผมจะเป็นผู้ชายงั้นเหรอ” คิมถามเสียงนิ่ง อาจารย์หนุ่มยิ้มแห้งๆ คิมไม่อยากสนใจอะไรมากนัก จึงหันมาหาใบบุญอีกครั้ง

“พี่ไปก่อนนะ” คิมพูดบอกกับใบบุญก่อนจะเดินกลับขึ้นรถ

“มีอะไรรึเปล่าครับคุณคิม” กิจถามขึ้นเพราะนั่งสังเกตการณ์อยู่ในรถด้วย

“ไม่มีอะไร แค่อาจารย์ของใบบุญมาทักทายน่ะ” คิมตอบกลับ แต่ก็นึกฉุนอาจารย์หนุ่มเมื่อสักครู่ไม่หาย

Tru…Tru…Tru

เสียงโทรศัพท์ของคิมดังขึ้น ร่างบางหยิบมาดูแล้วกดรับ

“ครับ” คิมรับสายเสียงเรียบ

(“ส่งใบบุญเรียบร้อยรึยัง”) เสียงกมลถามกลับมา

“พึ่งส่งเมื่อกี้ครับ นี่กำลังออกจากโรงเรียนจะไปที่สำนักงานต่อ แล้วคุณล่ะ ถึงไหนแล้ว” คิมถามกลับไปบ้าง

(“รถติดอยู่ก่อนถึงแยกจะไปร้านนี่แหละ”) กมลตอบกลับมา

“ครับ ตอนนี้ทางผมก็เริ่มติดแล้วเหมือนกัน ช่วงคนกำลังจะไปทำงานก็แบบนี้แหละครับ” คิมบอกเมื่อเห็นว่าทางตัวเองรถก็เริ่มจะติดเช่นกัน

(“อืม งั้นแค่นี้นะ ชั้นแค่โทรมาถามว่าส่งใบบุญแล้วรึยัง”) กมลพูดตัดบทเพราะไม่อยากให้คิมรำคาญถ้าเขาจะชวนคุยเรื่องอื่นๆขณะที่รถติด

“ทำไมรีบวางจัง ถึงแล้วเหรอครับ” คิมถามกลับไปทันที พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น

(“ยัง ชั้นกลัวว่านายจะเบื่อเสียงชั้น”) กมลบอกกลับ

“ยังไม่ได้พูดสักหน่อยว่าเบื่อ ระหว่างเสียงคุณกับรถติด ผมเบื่อรถติดมากกว่าอีก” คิมบอกกลับไปเสียงอ้อมแอ้ม เพราะคิมเองก็รู้สึกอยากจะคุยกับกมลต่อ ทั้งๆที่พึ่งแยกจากกันตอนจะออกมานอกบ้านเท่านั้นเอง

(“หึหึ ดีใจนะที่นายไม่เบื่อชั้น”) กมลหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่คิมจะเป็นฝ่ายชวนกมลคุยไปเรื่อยๆ เพราะไม่อยากใจจดจ่อกับรถติด คิมคุยเรื่องร้านอาหาร เรื่องอาจารย์ของใบบุญที่ทักตนเองผิดว่าเป็นแม่ของใบบุญ เรื่องทั่วไป สารพัดที่จะนึกออก คิมไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองผ่อนคลายมากแค่ไหนเมื่อคุยกับกมลแบบนี้ กมลเองก็ตอบรับกลับมา แล้วพูดคุยบ้าง แต่ส่วนใหญ่กมลจะรับฟังเสียมากกว่า กมลเองขอแค่ได้ยินเสียงของคิม เขาก็หายหงุดหงิดจากรถติดได้เลย

(“คิม ชั้นต้องวางจริงๆแล้วล่ะ ถึงร้านแล้ว เดี๋ยวเอาไว้ชั้นโทรหาอีกทีนะ”) กมลพูดบอกกลับมา ทำให้คิมสนใจวิวนอกรถบ้าง

“อ่า ผมก็ใกล้ถึงสำนักงานผมเหมือนกัน โอเคครับ งั้นแค่นี้นะครับ” คิมพูดขึ้น ก่อนที่จะวางสายไป  คิมนั่งพิงเบาะรถแล้วมานึกย้อนได้ว่า ทำไมตนเองถึงคุยกับกมลไปได้เรื่อยๆโดยไม่รู้สึกเลยว่าเวลาผ่านไปนานพอสมควร แล้วคิมก็มานึกย้อนถึงตอนที่ยังคบกับเดย์  เวลาคุยโทรศัพท์กับเดย์ เดย์ก็จะรับฟังคิมเงียบๆ มีการตอบกลับบ้าง คล้ายกับกมล แต่คิมกลับรู้สึกอึดอัดจนต้องเป็นฝ่ายขอวางไปก่อน ทั้งๆที่คุยกันได้ไม่กี่นาทีเท่านั้น พอนึกมาถึงเรื่องของเดย์ คิมก็มาคิดได้อีกว่า กมลยังไม่รู้ว่าคนที่คิมอยากจะลืมอ้อมกอดก็คือเดย์ และคิมเองก็ไม่รู้ว่า ถ้ากมลรู้เรื่องนี้ กมลจะรู้สึกยังไง แล้วจะว่าอะไรรึเปล่า

..

..

..

..

..

ทันทีที่คิมเดินเข้าไปในสำนักงาน เหล่าพนักงานและเมย์รุ่นน้องของคิมก็ดีใจกันยกใหญ่ ต่างเข้ามารุมสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันจ้าล่ะหวั่น จนคิมต้องไล่ให้บางส่วนไปทำงานต่อ เหลือเพียงเมย์ผู้ที่เป็นหุ้นส่วนและรุ่นน้องของตนเองด้วย  ส่วนลพกับกิจ ก็นั่งรอที่โซฟาหน้าห้องทำงานของคิม

“ตกลงพี่คิมไปอยู่ที่ไหนมาคะ บอกเมย์ได้มั้ย” หญิงสาวถามขึ้นทันที คิมยิ้มรับนิดๆ

“พี่ไปอยู่กับเพื่อนน่ะ มันมีเหตุจำเป็นนิดหน่อย ยังบอกรายละเอียดอะไรตอนนี้ไม่ได้จริงๆโทษทีนะเมย์” คิมบอกกลับยิ้มๆ หญิงสาวมองหน้าคิม ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ตอนแรกเมย์ก็กังวลนะคะ ว่าพี่คิมจะเป็นอะไรรึเปล่า แต่พอมาเห็นหน้าพี่คิมวันนี้ เมย์ก็สบายใจแล้วล่ะค่ะ” หญิงสาวพูดยิ้มๆเช่นกัน คิมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

“ทำไมล่ะ” คิมถามกลับ

“ก็พี่คิมดูสดใสผุดผ่องมากๆเลยน่ะสิคะ หน้าพี่คิมนะมันเหมือนมีออร่าความสุขกระจายวิ้งๆอยู่รอบๆน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดบอกออกมาอย่างขำๆ แม้แต่คิมเองก็ยังหัวเราะขำกับคำพูดของหญิงสาว

“ออร่าอะไรของเรา วิ้งๆน่ะ พี่ก็ปกตินี่”คิมถามกลับอีก

“พี่คิมอาจจะไม่รู้ตัวนะคะ ว่าเมื่อก่อน พี่คิมเหมือนคนที่มีอะไรติดค้างในใจ พี่คิมชอบทำหน้าเศร้า ทำหน้าหมองๆ เวลายิ้มก็เหมือนฝืนยิ้มออกมาตามสถานการณ์ ไม่ได้ยิ้มออกมาอย่างเต็มที่เหมือนกับตอนนี้ ตอนนี้เวลาที่พี่คิมยิ้ม ดวงตาของพี่ก็ยิ้มตามไปด้วย เมย์น่ะสังเกตมาตลอดนะคะ ถึงรู้ไงว่าพี่คิมเปลี่ยนไปแค่ไหน” หญิงสาวบอกเสียงจริงจัง ทำให้คิมนิ่งไปนิด

++++++++++++++++++ 60% ++++++++++++++++++

“เมื่อก่อนพี่เป็นแบบที่เมย์พูดจริงเหรอ” คิมถามขึ้นมาลอยๆ พลางนึกย้อนว่าสาเหตุที่ตนเองเป็นแบบนั้นคงเป็นเพราะเรื่องของเดย์ แล้วตอนนี้ล่ะ เมย์บอกว่าเขายิ้มมากขึ้นสดใสมากขึ้นเป็นเพราะใครกัน?  กมลอย่างนั้นเหรอ?

“ใช่ค่ะ เอ๊ะ พี่คิมทำไมหน้าแดงอ่ะคะ เป็นอะไรรึเปล่า” หญิงสาวตอบรับและถามกลับเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าแดงระเรื่อ

“ป่ะ..เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่พี่ไม่อยู่ สำนักงานเป็นยังไงบ้าง” คิมพูดถามเกี่ยวกับงานขึ้นมาบ้าง พร้อมกับเคลียงานสำคัญต่างๆที่คิมต้องเป็นคนเซ็นรับรอง ทั้งสองคุยงานกันสักพักใหญ่ๆ

“ถ้าเกิดมีอะไรต้องเซ็นเร่งด่วน เมย์โทรหาพี่ได้เลยนะ ถ้าพี่มาไม่ได้ พี่จะให้คนมารับเอกสารแทน” คิมพูดขึ้น เพราะคิดว่ากมลต้องไม่ยอมให้ตนเองมาสำนักงานบ่อยๆแน่

“ค่ะ อ่า เมย์ว่าจะถามพี่คิมตั้งแต่เข้ามาแล้ว สองคนที่นั่งรอพี่คิมอยู่ข้างนอกนั่นใครอ่ะคะ ใช่ลูกน้องของคนที่เคยมารับพี่คิมออกไปรึเปล่า” หญิงสาวถามขึ้นอย่างสงสัย

“ใช่” คิมตอบรับ พร้อมกับนึกขึ้นได้ว่า กมลยังไม่โทรมาหาตนเองเลยหลังจากที่คุยกันบนรถเมื่อช่วงเช้า คิมหันไปมองนาฬิกาก็เห็นว่าใกล้เที่ยงแล้ว

“ตอนเที่ยงพี่คิมจะไปไหนรึเปล่าจะกินข้าวกับพวกเมย์มั้ย” หญิงสาวถามขึ้น

“เอ่อ…พี่ขอดูก่อนนะ ไม่แน่ใจว่าคุณกมลเค้าจะมารับออกไปกินที่ไหนรึเปล่า” คิมบอกเสียงอ้อมแอ้ม

“คุณกมล? คนที่พี่คิมไปอยู่ด้วยใช่มั้ยคะ” หญิงสาวถามอีก คิมพยักหน้าน้อยๆ

“แฟนพี่คิมใช่มั้ย” หญิงสาวถามพร้อมกับมองคิมอย่างล้อๆ คิมรู้สึกร้อนหน้าวูบวาบเมื่อถูกรุ่นน้องสาวถามออกมาตรงๆ

“แล้วแต่จะคิด” คิมตอบไม่เต็มเสียงนัก เพราะขัดเขินรุ่นน้องไม่น้อย

“เค้ารักพี่คิมมากมั้ย ดีกับพี่คิมรึเปล่า…แต่..ถ้าให้เมย์เดานะ เมย์ว่าเค้าต้องดีกับพี่คิมมากแน่ๆ ไม่งั้นพี่ชายของเมย์คงไม่ดูสดใสยิ้มแย้มแบบนี้หรอก” หญิงสาวพูดแซว ทำให้คิมหน้าขึ้นสี

Tru…Tru…Tru

ไม่ทันที่คิมจะพูดต่ออะไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นร่างบางหยิบขึ้นมาดูก่อนจะคลี่ยิ้มนิดๆ หญิงสาวลอบมองคิมพร้อมกับแอบยิ้มเช่นกันเมื่อเห็นสีหน้าสดใสของคิม

“ครับ” คิมรับสายของกมล

(“ทำอะไรอยู่”) กมลถามขึ้น

“นั่งคุยเรื่องงานกับเมย์อยู่ครับ” คิมตอบกลับไป พร้อมกับหลบสายตาล้อเลียนของหญิงสาวอย่างขัดเขิน

(“เอ่อ..เที่ยงนี้ชั้นไปกินข้าวด้วยไม่ได้นะ”) เสียงนุ่มพูดขึ้น ทำให้คิมชะงักไปนิด

“ยังไม่เสร็จงานเหรอครับ” คิมถามกลับไปเสียงอ่อนลง

(“อืม ชั้นต้องคุยเรื่องซ่อมแซมกับช่างก่อนน่ะ แล้วว่าจะให้เค้าต่อเติมเพิ่มอีกนิดหน่อยด้วย”) กมลบอกกลับมาอีก คิมนิ่งเงียบ

(“คิม เป็นอะไรรึเปล่า”) กมลถามกลับมาเมื่อเห็นว่าคิมเงียบไป

“คุณไม่ได้โกหกผมใช่มั้ย” คิมถามกลับไปเสียงนิ่ง และเป็นกมลเองที่เงียบไปนิด

(“ชั้นจะโกหกนายทำไม”) กมลถามกลับมา คิมเม้มปากเข้าหากัน

“ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” คิมถามเสียงคาดคั้น

(“อยู่ที่ร้านไง ทำไมเหรอ”) กมลถามขึ้น คิมหายใจเข้าลึกๆ

“ที่ร้านงั้นเหรอ แล้วทำไมร้านคุณถึงมีเสียงประกาศรับยาด้วยหะคุณกมล! คุณคิดว่าผมโง่งั้นเหรอ คุณอยู่โรงพยาบาลใช่มั้ย บอกมาเดี๋ยวนี้นะ” คิมพูดว่ากลับไป เพราะตอนที่คุยกัน คิมได้ยินเสียงคนประกาศให้รับยาตามช่องต่างๆ เสียงกมลถอนหายใจออกมาเบาๆ

(//เมียชั้นฉลาดจริงๆ//) เสียงกมลพึมพำเบาๆ แต่คิมก็ได้ยินอยู่ดี

“ผมได้ยินนะ” คิมว่าเสียงแข็ง

(“ไม่มีอะไร ชั้นแค่ปวดแขน เลยมาเอายานวดที่โรงพยาบาล รับยาแล้วก็จะกลับไปคุยงานกับช่างต่อเลยไง”) กมลพูดบอกออกมาอีก

“ไปทำอะไรมาถึงปวดแขน เมื่อเช้าคุณยังดีๆอยู่เลยนะคุณกมล” คิมจี้ถามอีก เพราะมั่นใจว่ากมลต้องเป็นอะไรมากกว่าปวดแขน เพราะแค่ยานวดหาซื้อเอาตามร้านขายยาก็ได้

(“หึหึ สงสัยอนาคตชั้นคงไม่กล้าออกนอกลู่นอกทางไปไหนแน่ๆ เมียชั้นจับผิดเก่งจริงๆ”) กมลพูดแซวขึ้นมา

“ผมไม่ขำด้วยนะคุณกมล” คิมว่าเสียงแข็ง

(“บอกแล้ว บอกแล้ว อย่าพึ่งโกรธ ชั้นไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่ตอนเดินดูร้าน พวกคานที่ช่างเค้ารื้อออกมามันหล่นใส่ชั้นเท่านั้นเอง”) กมลบอกกลับมา

“คุณเป็นอะไรมากรึเปล่า แล้วลูกน้องคุณไม่มีใครเห็นเลยรึไง ว่าคานมันหล่นมาใส่คุณน่ะ” คิมถามขึ้นทันที

(“ชั้นไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก เอาแขนรับไว้น่ะ ไม่มีใครทันคิดนี่ว่ามันจะหล่นลงมา เจ้าคมเองก็โดนด้วยเหมือนกัน เจ็บกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง”) กมลบอกกลับมา คิมส่งเสียงฮึดฮัด

“พอกันทั้งเจ้านาย ลูกน้อง ไม่ระวังตัวกันเลย แบบนี้จะปลอดภัยจากเรื่องอื่นๆกันมั้ยครับ” คิมพูดประชดกลับไป กมลหัวเราะในลำคอเบาๆ

(“ครับๆ ต่อไปจะระวังตัวให้มากกว่านี้ นายไปกินข้าวเถอะ เที่ยงแล้ว ถ้าชั้นคุยงานเสร็จจะเข้าไปหานะ”) กมลบอกกลับมาอีก

“ครับ คุณเองก็หาอะไรกินด้วย ไม่ใช่มาห่วงแต่ผม” คิมบอกกลับไปบ้าง

(“ห่วงชั้นเหรอ”) กมลแกล้งถาม คิมหน้าร้อนนิดๆ

“ผมพูดกับคุณอยู่ จะคิดว่าผมห่วงแมวที่ไหนรึเปล่าล่ะ” คิมพูดแขวะกลับ กมลหัวเราะขำและลากันอีกนิดหน่อยแล้ววางสายไป

“จริงๆเลย ชอบทำให้หงุดหงิด” คิมบ่นอุบอิบ ก่อนจะชะงักเมื่อนึกได้ว่ารุ่นน้องสาวนั่งอยู่ด้วย

“แฟนพี่คิมโทรมาเหรอ” หญิงสาวถามยิ้มๆ คิมพยักหน้ารับด้วยความเขิน และไม่รู้ว่าจะอธิบายความสัมพันธ์ของตนเองและกมลยังไง

“ดูท่าพี่คิมจะรักและก็ห่วงแฟนพี่มากเลยนะคะ” หญิงสาวแซวขึ้นมาอีก

“พอเลยๆ ไม่ต้องแซว ไปหาอะไรกินกันเถอะ คุณกมลเค้ามาไม่ได้น่ะ” คิมพูดบอก ก่อนที่จะพากันออกมาจากห้องทำงาน คิมชวนลพกับกิจไปหาอาหารกลางวันกินด้วยกันที่ร้านใกล้ๆสำนักงาน

..

..

..

..

..

“คุณคิมรู้แล้วเหรอครับ ว่านายอยู่โรงพยาบาล” คมถามขึ้น เพราะได้ยินกมลคุยกับคิม

“อืม จับผิดเก่งจริงๆ ว่าจะไม่บอกสักหน่อย” กมลพูดยิ้มๆ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

“คิมอยู่ไหน” กมลที่เดินเข้ามาในสำนักงานของคิมพูดถามลพกับกิจในช่วงเย็นของวัน หลังจากที่กลับไปคุยกับช่างที่ผับต่อเรียบร้อย กมลก็ตรงมาหาคิมในทันที

“อยู่ในห้องทำงานครับ” ลพพูดบอก กมลหันไปมองพนักงานของคิมที่มองตนเองอย่างเกร็งๆ

“ทำตัวตามสบายเถอะ” กมลบอกเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องทำงานของร่างบาง คิมเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ

“ทำไมไม่คิดจะเคาะประตูก่อนล่ะครับ” คิมพูดตำหนิไม่จริงจังนัก

“เข้าห้องทำงานเมียไม่ต้องเคาะก็ได้มั้ง” กมลพูดบอกยิ้มๆ

“เสียมารยาท” คิมว่าเสียงอุบอิบ กมลเดินอ้อมโต๊ะมาหอมแก้มใส

“คิดถึงจัง” กมลพูดเสียงนุ่ม คิมร้อนหน้าวูบวาบ แค่ได้ยินเสียงกระซิบแผ่วๆที่หู ก็ทำให้คิมร้อนไปทั่วร่างกาย

“เว่อร์แล้วล่ะครับ ห่างกันไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเอง” คิมว่ากลับเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะหันไปมองแขนของกมลอย่างนึกได้ แต่กมลใส่แขนยาวคลุมเอาไว้

“เอาแขนมาให้ผมดูหน่อย” คิมพูดบอกในทันที กมลเลยต้องถอดเสื้อตัวนอกออก แขนขวาของกมลมีผ้าก็อตสีขาวพันเอาไว้ คิมขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะจับไปที่ผ้าที่พันเบาๆ

“หมอว่ายังไงบ้างครับ” คิมถามเสียงเครียด

“ก็ดีที่มันไม่หักอ่ะนะ  แต่ถ้าชั้นไม่ยกแขนขึ้นมากันก็คงโดนหัวเต็มๆเลยล่ะมั้ง หึหึ โดนลอบยิงลอบแทงมาตั้งหลายครั้ง ไม่เป็นอะไร จะมาตายเพราะโดนคานหล่นใส่หัวคงน่าอายพิลึก” กมลพูดออกมาอย่างขำๆ คิมลุกจากเก้าอี้ทำงาน พากมลมานั่งที่โซฟามุมห้องพร้อมกับสอบถามเรื่องยาที่ต้องกินและการดูแลแผล เนื่องจากเป็นรอยถลอกจากการครูด กมลนั่งมองคิมอ่านรายละเอียดการกินยาที่ซองยา ที่หมอให้มาแล้วยิ้มน้อยๆ ถึงแม้ว่าคิมจะทำท่าเหมือนหงุดหงิดกมลตลอดเวลา ชอบดื้อใส่ แต่กมลก็รู้ดีว่าคิมเองก็เป็นห่วงเขาไม่น้อยเหมือนกัน

“แล้วคมล่ะครับ เป็นยังไงบ้าง” คิมถามถึงคม

“คมมันเอี้ยวตัวหลบแต่ก็โดนไหล่ ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่ฟกช้ำ” กมลบอกเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“ใบบุญร้องไห้แน่ถ้ารู้ว่าคมเจ็บตัว” คิมบ่นอุบอิบ

“ว่าแต่นายเถอะจะกลับเลยรึเปล่า” กมลถามขึ้น

“ผมขอเคลียงานอีกสักครึ่งชั่วโมงได้มั้ย ไม่อยากหอบกลับไปด้วย” คิมพูดขอ กมลพยักหน้ารับ

“งั้นชั้นขอพักสายตาสักงีบก็แล้วกัน ถ้านายเสร็จแล้วก็ปลุกชั้นด้วยนะ” กมลพูดขึ้น

“ครับ” คิมตอบรับ ก่อนจะลุกไปที่โต๊ะทำงานของตนเอง ส่วนกมลก็เหยียดตัวลงนอนบนโซฟาในห้องทำงานของคิม สักพักกมลก็หลับ

ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห้องทำงานของคิมดังขึ้น ก่อนที่เมย์จะเปิดประตูเข้ามา

“พี่คิม..งาน..” เมย์พูดขึ้นโดยไม่รู้ว่ากมลนอนหลับอยู่

“ชู่วว” คิมรีบเอานิ้วชี้มาจ่อที่ปากตนเองส่งสันญานบอกให้หญิงสาวเบาเสียง เมย์ชะงักก่อนจะค่อยๆปิดประตูเบาๆ แล้วเดินมาหาคิม

//หลับเหรอคะ// หญิงสาวถามเสียงเบาๆ คิมก็พยักหน้ารับ หญิงสาวเดินย่องๆ ไปชะโงกมองหน้ากมลแต่ไม่ได้เข้าไปใกล้มากนัก

//มองชัดๆแบบนี้เขาหล่อจังเลยนะคะพี่คิม ดูดีด้วย// หญิงสาวพูดยิ้มๆ

//ก็งั้นๆแหละ// คิมบอกอย่างหมั่นไส้ ที่ใครๆก็มองว่ากมลดูดี

//งั้นๆที่ไหนกันพี่คิม เค้าดูหล่อเข้มๆ ดูเป็นผู้ใหญ่ดีด้วย แบบนี้ต้องเป็นคนอบอุ่นมากแน่ๆ เมย์เดาถูกมั้ยอ่ะคะ// หญิงสาวพูดถามขึ้นมา

//มั้ง แต่ชอบทำให้อารมณ์เสียบ่อย// คิมบอกกลับ

//แอะ ปากบอกว่าเค้าชอบทำให้อารมณ์เสีย แล้วทำไมต้องยิ้มด้วยล่ะคะ// หญิงสาวพูดแซว คิมโบกมือไปมา

//พอๆ จะเข้ามาคุยเรื่องงานไม่ใช่รึไง// คิมรีบตัดบทก่อนที่จะถูกแซวไปมากกว่านี้ หางตาก็เหลือบไปมองกมลอยู่เป็นระยะ อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเมื่อเห็นมาเฟียใหญ่มานอนรอตนเองในห้องทำงานเล็กๆแบบนี้

+++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++

2  Be   Con

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มาอัพครบร้อยแล้วนะคะ

ตอนนี้เรื่อยๆไปก่อนนะ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นสักเท่าไร

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset