ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 20
Author: 여님 (ยอนิม)
“เข้ามาเถอะ มีอะไรรึเปล่า” กมลพูดบอก คิมจึงเดินเข้ามาหากมลด้วยท่าทีอึกอักเล็กน้อย พร้อมกับเหล่มองคมนิดๆ เหมือนกับว่าไม่รู้จะพูดดีหรือไม่
“ก็…ไม่มีอะไร ผมแค่ลงมาดูเฉยๆ” คิมตอบเสียงแผ่วๆ แก้มเนียนขึ้นสีนิดๆ จนคมต้องแสร้งก้มหน้าแอบยิ้มขำกับท่าทางของเมียเจ้านาย
“ดู?? ดูอะไร” กมลแกล้งถามกลับไป เพราะเขาเองก็รู้ดีว่าคิมหมายถึงอะไร คิมขมวดคิ้วนิดๆ
“ก็ลงมาดูคุณนั่นแหละ จะให้ผมลงมาดูคมรึไงล่ะ” คิมว่ากลับ กมลยิ้มขำนิดๆ
“คม แกไปพักผ่อนก่อนเถอะ ถ้ามีอะไรด่วนชั้นจะให้คนไปตาม” กมลพูดขึ้น คมก้มหัวรับคำสั่ง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของกมล
“มานี่สิ” กมลเรียกคิมเสียงเรียบ คิมก็ยอมเดินไปหาแต่โดยดี กมลรั้งเอวบางให้นั่งบนตักตนเอง
“ลงมาดูชั้น มีอะไรอยากจะคุยรึเปล่า” กมลถามกลับไป
“ผมแค่จะลงมาดู ว่าคุณทำงานอยู่รึเปล่า ถ้าไม่ได้ทำ ผมก็จะชวนไปเซิร์ทหาว่าศุกร์หน้าเราจะไปเที่ยวทะเลที่ไหนกันดี” คิมตอบกลับ กมลยิ้มนิดๆ
“ไม่ต้องหาหรอก ชั้นคิดเอาไว้แล้วว่าจะพาไปที่ไหน” กมลบอกกลับไป คิมเลิกคิ้วขึ้น
“ที่ไหนครับ สวยมั้ย ผมไม่ชอบคนพลุกพล่านมากนะครับ” คิมพูดบอก
“รับรองว่าถูกใจนายแน่นอน” กมลบอกอีกพร้อมรอยยิ้ม
“คุณกมล ช่วงนี้คุณเครียดอะไรรึเปล่า” คิมถามขึ้น เพราะเขาสังเกตสีหน้าของกมลมาสองสามวันแล้ว คิมรู้สึกเหมือนกมลมีบางอย่างอึดอัดอยู่ในใจ กมลชะงักไปนิดเมื่อได้ยิน พลางคิดว่าเขาประมาทสายตาและความรู้สึกของคิมไม่ได้จริงๆ
“เปล่านี่ ทำไมเหรอ” กมลปฏิเสธแล้วถามกลบเกลื่อนกลับไป
“ผมแค่รู้สึกเหมือนคุณเหนื่อยๆ เครียดๆ” คิมบอกออกมา
“ชั้นไม่เป็นอะไร ดีใจนะ ที่นายเป็นห่วงชั้น” กมลพูดหยอก คิมยื่นปากออกมานิดๆแล้วเชิดหน้าขึ้น
“ก็ไม่ได้ห่วงอะไรมากสักหน่อย ผมก็แค่กลัวว่าคุณจะเปลี่ยนใจไม่พาผมกับใบบุญไปเที่ยวตะหาก” คิมพูดขึ้น แต่กมลก็รู้ดีว่าร่างบางแค่ปากแข็งไปอย่างนั้นเอง
“โอเค ไม่ห่วงก็ไม่ห่วง” กมลพูดพร้อมกับขำในลำคอ แต่ในหัวตอนนี้ก็รู้สึกเครียดเหมือนที่คิมสงสัยจริงๆนั่นแหละ การที่กมลเข้ามายืนในวงการนี้ได้ มันก็ต้องมีเบื้องหลังทั้งนั้น ถึงแม้ว่ากมลจะสร้างอำนาจขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่ใช่ว่าจะไม่มีใครคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง การที่กมลจะออกจากวงการ เขาก็อยากให้คนที่คอยสนับสนุนเขาอยู่ข้างหลังเห็นชอบด้วยเหมือนกัน แต่ปัญหาก็อยู่ที่ว่า คนพวกนั้นจะยอมให้เขาวางมือรึเปล่า เท่านั้นเอง
“คุณกมล…คุณกมล” เสียงเรียกของคิม ทำให้กมลดึงสติตัวเองกลับมา
“หืม” กมลขานรับในลำคอ
“คุณเป็นอะไรรึเปล่า บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ผมเรียกคุณตั้งหลายครั้ง จะบอกว่าไม่ได้ยินก็ไม่ใช่หรอก ผมนั่งอยู่บนตักคุณแบบนี้ แค่พูดกระซิบก็ต้องได้ยิน” คิมคาดคั้นขึ้น กมลหอมแก้มใสเบาๆ คิมยกมือขึ้นมาดันใบหน้าของกมลไม่แรงมากนัก
“ไม่ต้องมาหอมกลบเกลื่อน ผมรู้นะว่าคุณมีเรื่องเครียดอยู่ แต่คุณไม่อยากบอกผมเท่านั้นเอง” คิมพูดว่ากลับไป
“ชั้นคิดเรื่องงานนิดหน่อย ไม่มีอะไรจริงๆ ชั้นแค่กำลังคิดว่า มีงานไหนบ้างที่ชั้นต้องจัดการให้เสร็จก่อนไปเที่ยว ชั้นจะได้พานายเที่ยวแบบสบายใจไง” กมลยังคงพูดปดเพื่อให้คิมสบายใจ เขายังไม่อยากให้คิมมารับรู้เรื่องนี้
“แน่ใจนะ” คิมคาดคั้น พร้อมกับมองกมลอย่างจับผิด
“แน่ใจสิ หรือว่านายระแวงคิดว่าชั้นจะมีเมียน้อย” กมลแกล้งแหย่ เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
“ชิส์ ผมไม่ระแวงเรื่องนั้นหรอก ถ้าคุณมีคนอื่นก็ดีสิ ผมก็จะไปจากที่นี่เหมือนกัน ไม่อยู่กับคนเจ้าชู้อย่างคุณหรอก” คิมว่ากลับเสียงกระเง้ากระงอด รู้สึกฉุนนิดๆ เมื่อคิดตามว่า กมลแอบมีคนอื่นจริงๆ ทุกวันนี้ความรู้สึกของคิมที่มีกมลมันแปรเปลี่ยนไปทีละนิด และความรู้สึกของคิมที่มีต่อเดย์ก็หายไปเรื่อยๆเช่นเดียวกัน
“ชั้นไม่ได้เจ้าชู้สักหน่อย” กมลตอบพร้อมกับหอมแก้มใสอย่างเอาใจ ทั้งสองนั่งเงียบกันสักพัก คิมนั่งนวดหลังมือและนิ้วให้กมลอย่างลืมตัว กมลเองก็ไม่ทักท้วง เพราะถ้าทักไป คิมก็จะหยุดทันที
“คุณกมล แล้วคุณจะพาใครไปบ้าง” คิมถามขึ้นเมื่อนึกได้
“เดี๋ยวก็คงต้องเรียกมาคุยกันก่อน ว่าใครจะไปได้บ้าง คนที่ไม่ไปก็อาจจะให้เงินพิเศษสำหรับอยู่ดูแลบ้าน เพราะชั้นคงไม่เอาไปทุกคน ถ้าเอาไปหมดใครจะดูแลบ้าน ดูแลเสือ ดูแลหมาของชั้นล่ะ จริงมั้ย” กมลพูดบอก คิมก็พยักหน้ารับ
“แล้วนี่คุณจะนั่งทำงานต่อเหรอครับ” คิมถามกลับเมื่อคุยเรื่องไปเที่ยวกับกมลแล้ว
“อืม นายไปนอนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวชั้นตามขึ้นไป” กมลพูดขึ้น
“ครับ คุณเองก็อย่านอนดึกนักละ อายุก็มากแล้วนะ หัดนอนแต่หัวค่ำบ้างเหอะ” คิมอดที่จะแกล้งเหน็บกมลไม่ได้
“ถ้าชั้นขึ้นไปนอนตั้งแต่หัวค่ำ อาจจะกลายเป็นว่านายเองที่จะไม่ได้นอนมากกว่านะคิม” กมลบอกพร้อมกับมองคิมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม ทำให้คิมร้อนหน้าวูบวาบรีบลุกลงจากตักของกมลทันที
“งั้นก็นั่งทำงานไปเถอะครับ ขึ้นไปนอนตอนเช้าเลยก็ได้ ไม่มีใครว่าหรอก” คิมแขวะกลับก่อนจะรีบเดินออกจากห้องทำงานของกมลไป กมลก็ยิ้มขำออกมานิดๆ ก่อนจะกลับมานั่งคิดเรื่องการวางมือจากวงการต่ออีกว่าจะทำยังไง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เวลาผ่านไป
คืนก่อนการเดินทางไปเที่ยวพักผ่อน คิมมานั่งจัดกระเป๋าเดินทางของตนเองและของกมลโดยเอาเสื้อผ้าและของใช้ใส่กระเป๋าใบเดียวกัน
“คุณกมล คุณจะเอาเสื้อผ้าชุดไหนไปบ้าง” คิมถามขึ้น ขณะนั่งพับผ้าอยู่ที่พื้นห้อง ส่วนกมลก็พึ่งเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ
“นายเลือกเลยคิม ชั้นใส่ได้ทุกตัวแหละ” กมลตอบกลับ คิมพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินเลือกเสื้อผ้าในตู้มานั่งพับ กมลที่ยืนเช็ดหัวอยู่หน้าโต๊ะกระจกก็มองร่างบางที่กำลังง่วนอยู่กับการพับผ้าเตรียมของ แล้วยกยิ้มออกมาอย่างพอใจ ที่คิมเริ่มจะชินกับการที่ต้องคอยดูแลและใช้ชีวิตอยู่กับกมลเหมือนคู่สามีภรรยา
“เช็ดตัวเช็ดหัวเร็วสิครับ น้ำมันหยดลงพื้นเห็นมั้ย” คิมพูดบอกออกมาอย่างดุๆ เมื่อกมลยืนนิ่งปล่อยให้น้ำบนผมและตามตัวหยดลงพื้นห้อง
“ครับๆ” กมลรับคำย้ำแล้วเช็ดตัวเช็ดหัวให้แห้ง ก่อนจะใส่เสื้อผ้า แล้วมานั่งที่ปลายเตียงดูคิมที่ยังจัดกระเป๋าอยู่ คิมเดินไปเดินมานึกไปด้วยว่าต้องเอาอะไรไปบ้าง
“ผมลืมอะไรอีกมั้ยอ่ะคุณกมล ช่วยนึกหน่อยสิ” คิมพูดถาม กมลมองไปที่กระเป๋ากลางห้อง
“พวกครีมทาผิวของนายล่ะ เตรียมพวกครีมกันแดดไปด้วยนะ” กมลบอกกลับ ทำให้คิมเบิกตาขึ้น
“จริงด้วย ผมซื้อมาแล้ว สงสัยเก็บไว้ในตู้ หาก่อนๆ” คิมพูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาครีมกันแดดที่ตนเองซื้อเตรียมเอาไว้เพื่อไปเที่ยวทะเล กมลยิ้มขำ ก่อนจะลุกเดินไปกอดคิมจากทางด้านหลัง พอดีกับที่คิมหยิบครีมออกจากตู้เสื้อผ้าพอดี
“คุณกมล กอดทำไมเนี่ย ผมยังจัดกระเป๋าไม่เสร็จนะ” คิมพูดบอก กมลก็หอมแก้มใสเต็มปอด พร้อมกับจูบซับซอกคอขาวของคิมอย่างแผ่วเบา
“คิม ชั้นอยาก” กมลพูดบอกออกมาตรงๆ ทำให้คิมร้อนหน้าผ่าวๆ แล้วขยับตัวหันมาหากมล พร้อมกับมองด้วยสายตาอ้อนนิดๆ
“คืนนี้งดไม่ได้เหรอคุณกมล คือ..มันต้องนั่งรถนาน คุณก็รู้ เอาไว้..เอ่อ…ที่โน่นไม่ได้เหรอ” คิมบอกเสียงอ้อมแอ้ม กมลยิ้มรับนิดๆ
“ก็ได้ๆ แต่นายต้องสัญญานะ ว่าถ้าไปที่โน่นแล้ว ต้องให้ชั้นจัดเต็ม” กมลพูดกระเซ้า ยิ่งทำให้คิมหน้าแดงหนักเข้าไปใหญ่ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับน้อยๆ กมลยิ้มรับก่อนจะหอมแก้มใสของคิมอีกครั้งแล้ว ปล่อยให้คิมไปจัดกระเป๋าต่อแต่โดยดี
“แล้วใบบุญจัดกระเป๋ารึยัง” กมลถามขึ้นเมื่อนึกถึงเด็กหนุ่มอีกคนที่ตื่นเต้นกับการไปเที่ยวครั้งนี้
“จัดตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะครับ คึคึ สงสัยคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่ๆ” คิมพูดยิ้มๆ พร้อมกับนั่งจัดกระเป๋าไปเรื่อยๆ เมื่อจัดเสร็จแล้ว ก็มาล้มตัวลงนอนข้างๆกมล ที่นอนอ่านหนังสือรออยู่บนเตียง
“เราจะเดินทางกันตอนไหนครับ” คิมถามขึ้น
“สักประมาณหกโมงเช้าล่ะกัน ไปถึงที่นั่นก็จะประมาณ 10 โมงกว่าๆได้” กมลตอบกลับมา
“ตกลงว่าเราจะไปกันที่ไหนครับ คุณไม่ยอมบอกผมสักที” คิมถามขึ้นเมื่อนึกได้
“หึหึ พาไปแค่ปราณบุรีเนี่ยแหละ ใกล้หน่อย” กมลพูดบอก คิมก็พยักหน้ารับยิ้มๆ ก่อนที่จะซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดของกมลแล้วหลับลงไปในเวลาไม่นาน
..
..
..
..
เช้า
“ใบบุญ ไม่ต้องรีบ” คิมพูดขึ้นขณะนั่งกินข้าวเช้าในห้องอาหารพร้อมกับกมล ใบบุญและคม แต่เด็กหนุ่มพยายามจะกินข้าวให้หมดเร็วๆ
“ขอโทษฮะ” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆ ก่อนจะค่อยๆกินอาหารไปเรื่อยๆ
“หึหึ ตื่นเต้นรึไงเรา” กมลถามขึ้นมาบ้าง
“ฮะ ใบบุญอยากไปเห็นทะเล อยากรู้ว่าน้ำทะเลมันเค็มขนาดไหน” เด็กหนุ่มบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารยิ้มขำออกมา
“เดี๋ยวก็ได้เห็นแล้วล่ะ” คิมบอกยิ้มๆ เมื่อทุกคนทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินมาที่รถตู้หน้าบ้าน ซึ่งจอดอยู่ 2 คัน รถคันแรกจะมี กมล คิม ใบบุญ คม ลพ กิจ รุธ ป้านี ดา ไหม และลูกน้องของกมลอีก 2 คน ส่วนรถอีกคัน ก็เป็นลูกน้องของกมลอีก 10 คนเท่านั้น ส่วนคนที่อยู่ดูแลบ้าน ยอมอยู่ด้วยความเต็มใจ เพราะกมลขอความสมัครใจไม่ได้บังคับ เพราะรู้ว่าหลายคนก็อยากจะไปพักผ่อนด้วยเหมือนกัน เมื่อเอากระเป๋าขึ้นรถแล้ว ทุกคนก็ทยอยกันขึ้นนั่งบนรถ คิมจัดแจงที่นั่งให้ทุกคน
(ดังรูป ล.1 คือ ลูกน้องกมล)
เมื่อเตรียมพร้อมทุกอย่างแล้ว รถอีกคันก็ขับนำไป โดยมีรถตู้คันที่กมลกับคิมนั่งขับตามไปติดๆ
“ถ้าอยากเข้าห้องน้ำก็บอกนะ” กมลพูดบอกกับคิม คิมก็พยักหน้ารับ ร่างบางเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย ที่จะได้ไปเที่ยวพักผ่อน ถึงแม้ว่าครั้งที่แล้วก็ไปพักกับเดย์และอิฐ แต่ตอนนั้นไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว ไม่เหมือนกับตอนนี้ คิมยิ้มแทบจะตลอดเวลา คอยหันมาพูดคุยกับกมลที่นั่งข้างตนเองและหันไปคุยกับใบบุญที่นั่งอยู่ด้านหลังตนเองอยู่เรื่อยๆ เสียงของใบบุญคอยซักถามคมดังขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครรู้สึกรำคาญสักคน อาจจะยกเว้นอยู่คนหนึ่งที่คิมจัดให้ไปนั่งแยกเดี่ยวคนเดียว แต่พอรถออกจากกรุงเทพได้ไม่เท่าไร เสียงพูดคุยของใบบุญก็เงียบไป
“ใบบุญหลับรึไงคม” กมลถามขึ้น
“ครับ” คมตอบกลับ กมลยิ้มนิดๆ
“หึหึ เมื่อกี้ยังพูดไม่หยุดอยู่เลย” กมลพูดอย่างขำๆ เขาเองก็เอ็นดูใบบุญไม่น้อย
“สงสัยเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับมั้งครับ ก็เลยมาง่วงเอาตอนนี้” คมบอกออกมาอย่างขำๆเช่นเดียวกัน กมลหันมามองคนข้างกายตนเองบ้าง ก่อนจะยิ้มนิดๆ เพราะคิมก็นั่งสัปหงกเช่นเดียวกัน
“หึหึ คิมกับใบบุญนี่เหมือนกันเลยนะเลี้ยงง่ายชะมัด” กมลพูดยิ้มๆก่อนจะจับให้คิมเอนหัวมาซบไหล่แกร่งของกมลในท่าที่สบายๆหน่อย
+++++++++++++++++++++++++ 50% ++++++++++++++++++
นั่งรถมาได้สักพัก กมลก็ให้กิจจอดแวะปั้มน้ำมัน เพื่อให้ทุกคนได้ลงไปยืดเส้นยืดสายและเข้าห้องน้ำ ใบบุญที่ตื่นแล้วรีบชวนยายของตนเองกับคมไปหาซื้อขนมกินที่เซเว่นในปั๊มน้ำมันทันที ทุกคนทยอยลงจากรถเพื่อทำธุระส่วนตัว แต่คิมยังไม่ตื่น
“คิม คิม” กมลเรียกร่างบางที่ซบไหล่ของเขาอยู่ คิมปรือตาขึ้นอย่างสลึมสลือ
“ครับ..ถึงแล้วเหรอ” คิมถามขึ้น กมลยิ้มน้อยๆ
“ยังหรอก แวะปั๊มน้ำมันน่ะ นายจะลงไปเข้าห้องน้ำมั้ย” กมลถามขึ้น คิมหันไปมองรอบๆ
“ใบบุญล่ะครับ” คิมถามหาเด็กหนุ่ม
“ลงไปซื้อขนมกับเจ้าคมแล้ว” กมลบอกกลับ
“อีกไกลมั้ยครับ กว่าจะถึง”คิมถามขึ้นอีก
“ก็พอสมควรล่ะ” กมลตอบพร้อมกับยกมือไปลูบเส้นผมนุ่มของคิมให้เข้าที่
“งั้นผมไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า แล้วค่อยเข้าไปซื้อขนมกิน” คิมบอกกลับมา กมลจึงพาคิมลงจากรถ ลูกน้องของคมก็สลับกันเข้าห้องน้ำและยืดเส้นยืดสายอยู่แถวๆที่รถจอด
“คุณก็จะเข้าห้องน้ำเหมือนกันเหรอคุณกมล” คิมถามขึ้นเมื่อเห็นกมลเดินตามตนเองไปที่ห้องน้ำ
“ชั้นจะไปเป็นเพื่อนนาย” กมลบอกกลับ
“ผมไปคนเดียวได้ ไม่ใช่เด็กสักหน่อย” คิมทักท้วง กมลมองคิมด้วยสายตานิ่งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา คิมถอนหายใจเบาๆ เพราะเข้าใจความหมายในดวงตานั้น
“ไปด้วยก็ได้ หวงอะไรไม่เข้าเรื่อง” คิมบ่นอุบ ก่อนจะเดินนำกมลไปที่ห้องน้ำ กมลยกยิ้มนิดๆ ที่คิมยอมแต่โดยดี เมื่อเข้าไปด้านใน ก็มีลูกน้องของกมลอยู่บางส่วน กมลไล่ให้คิมเข้าไปทำธุระในห้องน้ำด้านใน ไม่ได้ให้ทำธุระอยู่ที่โถปัสสาวะแบบคนอื่นๆ คิมก็ยอมเข้าอย่างว่าง่าย เมื่อจัดการธุระเรียบร้อยแล้ว คิมก็ออกมาล้างมือพร้อมกับเดินไปที่เซเว่นกับกมล
“คุณกมล กินอะไรมั้ย” คิมหันมาถามกมลที่เดินตามตนเองอยู่ด้านหลัง
“อะไรก็ได้ นายซื้อมาเถอะ ชั้นกินได้ทุกอย่าง” กมลตอบกลับ คิมจึงเดินเลือกซื้อขนมขบเคี้ยวไปเรื่อยๆ ใบบุญเองก็วิ่งมาหาคิมสอบถามเรื่องขนมเป็นระยะ จนกมลอดที่จะยิ้มขำไม่ได้ เมื่อเลือกซื้อเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็กลับมาที่รถ ลูกน้องของกมลก็คุยกันเรื่องเส้นทางนิดหน่อย เมื่อตกลงกันได้แล้ว ก็ขึ้นรถเตรียมตัวเดินทางต่อ
“เปิดให้หน่อย” คิมส่งขวดน้ำส้มให้กมล กมลก็รับมาเปิดให้
“แกะให้หน่อย” คิมส่งซองขนมขบเคี้ยวให้กมล กมลก็รับมาแกะให้เช่นกัน
“อ้าปาก” เสียงคิมพูดขึ้นอีก กมลหันไปมองหน้าคิมอย่างงงๆ
“หืม” กมลส่งเสียงในลำคออย่างสงสัย
“ผมบอกว่าให้อ้าปาก ไม่กินรึไง” คิมว่าเสียงอุบอิบเมื่อยื่นขนมไปที่ปากของกมล กมลมองขนมในมือของคิมแล้วยิ้มรับ ก่อนจะอ้าปากรับขนมที่คิมป้อนมาแต่โดยดี คิมสลับหยิบขนมเข้าปากตนเองและป้อนกมลไปด้วย
“อ๊ะ” คิมร้องออกมาไม่ดังมากนัก พร้อมกับร้อนหน้าวูบวาบเมื่อคิมป้อนขนมไปให้กมล กมลก้มมากินขนม แต่แทนที่กมลจะงับไปแค่ขนม ฟันซี่สวยก็งับที่นิ้วของคิมอย่างแผ่วเบา ลิ้นร้อนแกล้งเลียนิ้วของคิมไปมา ดวงตาคมกริบก็มองหน้าคิมไปด้วยเมื่อหยอกร่างบางจนพอใจแล้ว กมลก็ขยับนั่งตามปกติ
ปึ่ก!
กมลสะดุ้งนิดๆแล้วยิ้มขำ เมื่อคิมทุบไปที่ขาของเขาไม่แรงมากนัก
//หื่นไม่ดูสถานที่เลยนะ// คิมว่าเสียงแผ่ว เพราะกลัวคนอื่นๆจะได้ยิน กมลก็ยิ้มรับแต่ไม่ได้พูดอะไร
รถตู้สองคันขับมาเรื่อยๆจนในที่สุดก็ถึงที่หมาย คิมมองออกไปนอกรถพร้อมกับยิ้มกว้าง เพราะรถมาจอดที่บ้านพักสองชั้นที่อยู่ติดกันสองหลัง มีสระว่ายน้ำด้วย และที่สำคัญหน้าบ้านหันไปทางทะเล ซึ่งทะเลอยู่ห่างจากบ้านไปแค่ 100 เมตรเท่านั้น ทุกคนทยอยลงจากรถ ลูกน้องของกมลก็มาช่วยกันยกกระเป๋า
“ที่นี่บ้านใครครับ” คิมถามกมลที่ยืนโอบเอวบางของคิมอยู่ข้างๆ
“บ้านพักตากอากาศของคนรู้จักน่ะ เค้าให้เรามาพักฟรี สวยมั้ย นายชอบรึเปล่า” กมลถามคิมอย่างเอาใจ คิมพยักหน้ารับ
“ชอบครับ สวยมากเลยครับ ติดทะเลด้วย” คิมบอกยิ้มๆ กมลมองใบหน้าใส ด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบในใจ คิมหันไปมองหาใบบุญก็ต้องยิ้มขำ พร้อมกับสะกิดกมลให้หันไปมอง
“คึคึ ดูใบบุญสิครับ ลากคมไปที่ทะเลแล้ว สงสัยจะไปชิมน้ำทะเลแน่เลย” คิมพูดออกมาอย่างขำๆ
“งั้นปล่อยให้ชิมไปก่อน เราเข้าไปข้างในกันเถอะ จะได้จัดแจงเรื่องห้องพักด้วย” กมลบอกกลับ คิมจึงเดินเข้าไปในบ้านพัก กมลแบ่งห้องนอนให้กับลูกน้องทุกคน โดยที่กมลกับคิมจะนอนที่ห้องใหญ่ชั้นสองของบ้านหลังแรก ส่วน ป้านี ดา ไหม กมลให้นอนที่ห้องใหญ่ชั้นล่างเพราะเป็นผู้หญิงด้วยกันทั้ง 3 คน ส่วนคมกับใบบุญก็นอนที่ห้องเล็กชั้นสอง และคนอื่นๆก็จัดแจงนอนห้องละสองคนบ้าง สามคนบ้าง แยกไปนอนบ้านอีกหลังด้วยเช่นกัน
“นี่ก็ใกล้เที่ยงแล้ว คุณกมลจะทานข้าวเที่ยงที่ไหน หรือจะให้ใครซื้อของสดมาให้ป้าทำมั้ยคะ ครัวของที่นี่ก็มีพร้อม” ป้านีพูดถามขึ้น
“เดี๋ยวผมพาไปกินแถวๆนี้ดีกว่า แล้วเราค่อยแวะซื้อของสด ของทะเล มาให้ป้าทำตอนเย็นๆล่ะกัน” กมลพูดบอกออกมา
“แล้วเราจะได้เล่นน้ำกันตอนไหนฮะ” ใบบุญถามขึ้นมาบ้าง กมลกับคิมยิ้มขำ
“เล่นช่วงเย็นๆดีกว่านะ แดดไม่ร้อนด้วย” กมลบอกกลับไป ทำให้ใบบุญยิ้มรับออกมาทันที
“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ ก่อนที่ทุกคนจะทยอยแยกย้ายเอาของไปเก็บที่บ้านพักห้องพักของตนเอง กมลกับคิมเดินเข้าไปในห้องนอนใหญ่ ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้า ลูกน้องของกมลยกมาวางในห้องให้เรียบร้อยแล้ว คิมถลาไปที่ระเบียงห้องทันที ร่างบางเปิดประตูกระจกและผ้าม่านออก
“ว้าว สวยมากเลยครับคุณกมล ลมทะเลพัดเข้ามาทางนี้พอดีเลย หอมกลิ่นทะเลด้วย” คิมพูดบอก เมื่อเห็นวิวทะเลอย่างชัดเจนและได้รับกลิ่นอายของทะเลด้วย กมลยิ้มรับพร้อมกับเดินมากอดคิมทางด้านหลัง ก่อนจะหอมแก้มใสของคิมเบาๆ
“แต่แก้มนายหอมกว่าตั้งเยอะ” กมลบอกกลับ ทำให้คิมรู้สึกขัดเขินขึ้นมาทันที
“อ่า จริงสิ มีอีกอย่างนะ ที่นายต้องชอบแน่ๆ” กมลพูดขึ้นพร้อมกับยกยิ้มนิดๆ
“อะไรเหรอครับ” คิมหันหน้ามาถาม กมลจับให้คิมหันมาหาตนเองแล้วพาเดินไปยังมุมห้องซึ่งเป็นทางเข้าห้องน้ำ
กึก…
( =/////= ) คิมหน้าขึ้นสีทันทีเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ตอนที่เดินเข้ามาคิมไม่ได้สังเกตุเลยว่าห้องอาบน้ำขนาดใหญ่เป็นห้องกระจกใสทั้งบาน มีอ่างอาบน้ำ ตั้งชิดกระจก และมีส่วนของฝักบัวด้วย ซึ่งสามารถนอนมองจากบนเตียงกว้างได้เลย แต่ยังดีที่ส่วนของชักโครกถูกทำหลบมุมอยู่อีกด้าน
“คุณกมล ห้องน้ำเป็นแบบนี้ ใครมันจะไปกล้าอาบล่ะ เป็นแบบนี้ทุกห้องมั้ยเนี่ย” คิมโวยขึ้นมาทันทีด้วยใบหน้าขึ้นสี
“หึหึ มันมีม่านด้วย ดึงลงมาได้ แต่ชั้นว่าเราไม่ต้องดึงลงมาหรอกนะ อาบกันแบบนี้แหละ ไม่มีใครมาเห็นหรอก” กมลบอกด้วยสายตากรุ้มกริ่ม คิมร้อนหน้าวูบวาบทันที
“นี่คุณตั้งใจเอาไว้แล้วใช่มั้ย ว่าจะพาผมมาที่นี่ เพราะมีห้องน้ำเป็นห้องกระจกน่ะ” คิมถามกลับ
“ก็…ประมาณนั้น” กมลพูดยิ้มๆ ทำให้คิมหันไปทุบไหล่ร่างแกร่งอย่างหมั่นไส้
“คนลามก….พาผมออกไปหาข้าวกินเลยนะ ผมหิวแล้ว” คิมพูดว่าก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันที กมลหัวเราะขำในลำคอ ก่อนจะโอบเอวบางพาคิมลงไปรวมกับคนอื่นๆที่ชั้นล่างของบ้าน พร้อมกับเรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันเพื่อไปทานอาหารเที่ยง
..
..
..
“ผมไปกับป้านีนะครับ” คิมพูดบอกกับกมล หลังจากที่กินข้าวกลางวันเรียบร้อยแล้ว และแวะซื้อของสดเพื่อไปทำอาหารเย็น
“นั่งรอที่ร้านกาแฟกับชั้นดีกว่ามั้ง อยากได้อะไรพิเศษก็ฝากให้คนอื่นไปซื้อดีกว่า” กมลพูดขึ้น คิมหน้ามุ่ยทันทีเมื่อได้ยิน
“ก็ผมอยากไปเดินดูเองนี่ครับ” คิมบอกกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นๆ
“อ่าๆ อยากไปก็ไป อย่าแยกไปไหนคนเดียวล่ะ อยู่ใกล้ๆลูกน้องชั้นหน่อยล่ะกัน” กมลตอบรับอย่างจำยอม ทำให้คิมยิ้มออกมาได้ ก่อนจะเดินไปยังตลาดสดพร้อมกับคนอื่นๆ และมีลูกน้องของกมลบางส่วนรออยู่กับกมลด้วย กมลสั่งกาแฟเย็นมานั่งดื่มฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ
Tru…Tru…Tru
เสียงโทรศัพท์ของกมลดังขึ้นหลังจากที่นั่งดื่มไปได้สักพักใหญ่ๆ ร่างแกร่งหยิบขึ้นมาดู ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน กมลถอนหายใจออกมาเบาๆ และลังเลอยู่ว่าจะรับสายดีหรือไม่ จนสายตัดไป และโทรกลับมาอีกรอบ กมลจึงตัดสินใจรับ
“ฮัลโหล” กมลรับสาย
(“ไฮ ที่รัก ทำไมรับสายชั้นช้าจัง”) เสียงหวานหูของใครบางคนดังขึ้น
“แล้วไม่คิดว่าชั้นจะติดธุระอะไรบ้างรึไง” กมลถามกลับไปเสียงเรียบนิ่ง
(“ทำไมน้ำเสียงห่างเหินจังละ หืมมม”) เสียงหวานถามกลับมาออกแนวยั่วโมโหเสียมากกว่า
“ดานิล นายโทรมามีธุระอะไร พูดมาเลย ชั้นไม่ว่างมานั่งคุยเล่นกับนายหรอกนะ” กมลว่ากลับเสียงเรียบนิ่งเช่นเคย
(“ใจร้ายจังเลยนะ ก็ไม่มีอะไร ชั้นแค่อยากโทรมาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบนายเท่านั้นเอง”) อีกฝ่ายพูดตอบกลับมา
“อย่ามาแหลใส่ชั้นดานิล นายโทรมาเพราะเรื่องอีเมลล์ที่ชั้นส่งให้อีวานใช่มั้ย ชั้นรู้หรอกว่าคนสอดรู้สอดเห็นอย่างนายต้องเห็นอีเมลล์ที่ชั้นส่งไปแน่นอน” กมลบอกกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น
(“ปากร้ายเหมือนเดิมเลยนะกมล ใช่ ชั้นโทรมาหานายเรื่องนี้ ชั้นทนรอให้นายบินมาอธิบายเรื่องทั้งหมดเลยไม่ได้เลยหรอกนะ ชั้นอยากรู้ว่าที่นายส่งมามันหมายความว่ายังไงกันแน่”) เสียงอีกฝ่ายถามอย่างฉุนๆ
“ชั้นจะคุยเรื่องนี้ต่อหน้าอีธานเท่านั้น นายไม่ต้องมาเซ้าซี้ถามชั้นหรอก” กมลว่ากลับ อีกฝ่ายสงเสียงฮึดฮัดออกมาให้ได้ยิน ซึ่งกมลรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงอารมณ์เสียไม่น้อย
(“อีวานบอกว่า นายเหมือนอยากจะวางมือจากวงการนี้”) ดานิลถามขึ้นมาอีก
“……………” กมลไม่พูดอะไรต่อ ได้แต่นิ่งเงียบ เพราะเขาตั้งใจว่าจะคุยเรื่องนี้กับอีวานเท่านั้น
(“ชั้นไม่ยอมให้นายวางมือแน่กมล!!”) เสียงเกรี้ยวกราดของอีกฝ่ายดังขึ้นมาทันที
“นายไม่ใช่เจ้าชีวิตชั้น ดานิล” กมลบอกเสียงเข้ม ดวงตาคมลุกโชน เขาไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่งแบบนี้กับเขา
(“แต่อีวานมีบุญคุณกับนาย นายต้องฟังคำสั่งจากอีวานเท่านั้น!!”) ดานิลยังคงโวยวายออกมาอีก
“แล้วไง บุญคุณมันก็ส่วนบุญคุณนะดานิล นี่มันชีวิตชั้น ชั้นจะทำอะไรก็ได้ นายช่วยอยู่นิ่งๆเฉยๆในที่ของนายเหอะ อย่ามาวุ่นวายกับชั้นให้มากนัก รอชั้นบินไปคุยกับอีวานทีเดียวเลยล่ะกัน” กมลบอกกลับอีกฝ่ายอย่างไม่ใส่ใจ
(“เพราะอะไรกมล เพราะใคร นายถึงอยากจะวางมือ บอกชั้นมา ใครหน้าไหนมันกล้าสั่งให้นายวางมือห้ะ!”) เสียงตะคอกถามจากดานิลดังขึ้นอีก
“ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาสั่งชั้นหรอกดานิล คนอย่างชั้น ถ้าอยากจะทำอะไรก็ทำ เพราะชีวิตเป็นของชั้น” กมลบอกกลับไปอีก เพราะความที่กำลังฉุนและหงุดหงิดกับดานิลที่โทรเข้ามาโวยวาย ทำให้กมลไม่ทันเห็นว่าคิมกำลังเดินเข้ามา ซึ่งคิมเองก็ไม่ได้ยินที่กมลคุยเช่นกัน
“คุณกมล ผมซื้อหอยหวานมาด้วยนะ ผมอยากกินหอยหวานย่าง” คิมพูดขึ้น เพราะไม่รู้ว่ากมลคุยโทรศัพท์อยู่ กมลหันมามองคิมหน้าเครียดนิดๆ
“แค่นี้นะ เอาไว้ชั้นบินไปแล้วค่อยคุยกัน” กมลตัดบทอีกฝ่ายและตัดสายทิ้งทันที กมลส่งโทรศัพท์ของตนเองให้กิจไป
“ปิดเครื่องซะ ชั้นไม่อยากคุยเรื่องงานตอนมาเที่ยว” กมลบอกกับกิจเสียงเรียบ แล้วหันมาหาคิมอีกครั้ง
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ” กมลถามคิมขึ้นอีกครั้ง คิมนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆกมล
“มีงานอะไรด่วนเข้ามารึเปล่าครับ” คิมถามขึ้นอย่างสงสัย
“อ่อ เปล่าหรอก ลูกค้าโทรมาคุยนิดหน่อย ชั้นก็บอกไปแล้วล่ะ ว่าช่วงนี้ไม่สะดวกคุย” กมลตอบด้วยน้ำเสียงปกติ คิมก็พยักหน้ารับช้าๆ
++++++++++++++++++ 100% ++++++++++++++++++++
2 Be Con
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัพครบ 100% แล้วนะคะ
อีวานคือใคร ดานิลคือใคร รอติดตามล่ะกันนะคะ