ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 21
Author: 여님 (ยอนิม)
“อ่อ ผมบอกว่า ผมซื้อหอยหวานมาด้วยครับ คุณกินได้มั้ย” คิมพูดถามกมลอีกครั้ง กมลพยักหน้ารับ
“แล้วเจ้าคมกับใบบุญล่ะ” กมลถามหาลูกน้องตนเอง
“พาใบบุญไปซื้อขนมน่ะครับ เดี๋ยวก็มา” คิมตอบกลับ กมลมองหน้าคิมนิ่งๆ ตอนนี้เขายังไม่อยากคิดอะไรมากเพราะพาคิมมาเที่ยวพักผ่อน
“ร้อนรึเปล่า ดื่มอะไรก่อนมั้ย” กมลถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง คิมนั่งมองเมนูเครื่องดื่ม ก่อนจะสั่งชาเขียวเย็นมานั่งดื่มรอคมกับใบบุญและคนอื่นๆที่ไปช่วยป้านีซื้อของกลับมา เมื่อทุกคนกลับมาครบแล้ว ทั้งหมดก็พากันกลับมายังบ้านพัก คิมขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องพักเป็นชุดลำลอง แล้วลงมานั่งเล่นกับทุกคนที่ระเบียงหน้าบ้าน กมลให้ลูกน้องพักกันตามสบาย ใครอยากทำอะไรก็ทำ ไม่ต้องมาคอยดูแลเขามากนัก แต่ลูกน้องของกมลแต่ละคนก็ไม่ได้ไปไหนกันไกล อยู่ในละแวกบ้านเพราะยังห่วงเจ้านายตนเองอยู่ดี
“นั่นใครไปเล่นบานาน่าโบ๊ทอ่ะครับ” คิมชี้ไปที่ทะเลเห็นกลุ่มชายหนุ่มประมาณ 4-5 คน กำลังจะเล่นเรือบานาน่า
“พวกเจ้าลพน่ะ” กมลตอบกลับ ขณะนอนอยู่ที่เก้าอี้นอนตรงระเบียงแต่มีร่มไม้ให้ความร่มรื่นอยู่บ้าง คิมจึงนั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ
“ใครให้ไปนั่งตรงนั้น มานั่งนี่สิ” กมลพูดพร้อมกับตบตรงที่ว่างบนเก้าอี้นอน คิมมองกมลอย่างหมั่นไส้ ตอนนี้กมลเปลี่ยนเป็นใส่ชุดลำลองธรรมดา เสื้อโปโลสีขาว กางเกงผ้าเนื้อดีขาสั้นประมาณเข่าสีน้ำเงินเข้ม และใส่แว่นกันแดดสีชาเอาไว้
“เดี๋ยวก็อึดอัด” คิมพูดขึ้น กมลยิ้มรับ
“ไม่อึดอัดหรอกน่า เก้าอี้ออกจะกว้าง” กมลบอกยิ้มๆ คิมลังเลนิดๆ แต่ก็ยอมลุกไปนั่งตรงที่ว่างบนเก้าอี้นอนของกมลแต่โดยดี กมลยิ้มออกมาอย่างพอใจ ก่อนที่คิมจะล้มตัวลงนอนข้างๆกมล ร่างแกร่งขยับให้คิมนอนสบายๆ และจับให้คิมหนุนไหล่แกร่งของเขาเอาไว้ คิมหยิบแว่นตามาใส่บ้าง
“ดีจัง ที่ไม่ค่อยร้อนมาก” คิมพูดขึ้นอย่างสบายใจ
“ชอบมั้ย” กมลถามขึ้น คิมที่นอนมองไปที่ทะเลก็พยักหน้ารับ
“คุณกมล ผมอยากไปเล่นกับพวกนั้น” คิมชี้ไปที่กลุ่มของพวกลพที่เล่นเรือบานาน่าอยู่
“เอาไว้เย็นๆกว่านี้ค่อยเล่น เดี๋ยวชั้นไปเล่นด้วย” กมลบอกกลับ คิมเงยหน้าขึ้นมองกมลทันที
“คุณเนี่ยนะจะไปเล่นบานาน่าโบ๊ท” คิมถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง กมลพยักหน้า
“ทำไม แปลกเหรอ” กมลถามกลับ
“แปลกสิครับ ทำไมจะไม่แปลก ใครจะไปนึกภาพออกว่ามาเฟียใส่สูทผูกไทค์อย่างคุณจะมาเล่นอะไรแบบนี้ได้” คิมพูดขึ้นแล้วนึกขำ
“ชั้นไม่ได้ใส่สูทเล่นสักหน่อย” กมลบอกกลับไปอย่างขำๆเช่นเดียวกัน
“ตกลงว่าคุณจะเล่นกับผมจริงๆน่ะเหรอ” คิมถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ กมลพยักหน้ารับ คิมก็หันหน้าไปมองทางกลุ่มของลพอีกครั้ง
“ก็ได้ ผมเล่นพร้อมคุณก็ได้” คิมตอบกลับพร้อมกับอมยิ้มไม่ให้กมลเห็น เพราะคิมกำลังนึกภาพเวลาที่กมลเล่นบานาน่าโบ๊ทแล้วคนอื่นๆจะมีอาการยังไง สักพักใบบุญก็เดินเข้ามาหาคิม
“พี่คิมกับคุณกมลจะรับน้ำอะไรดีฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น แต่สีหน้าหม่นๆ
“ชั้นขอเบียร์เย็นๆสักแก้วก็แล้วกัน” กมลตอบกลับ จนคิมหันไปมองตาเขียว
“ยังไม่มืดเลยนะคุณกมล เอาไว้ค่อยดื่มตอนมืดล่ะกัน เอาน้ำผลไม้มาสองแก้วนะใบบุญ แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนี้ล่ะ ใครแกล้งอะไรรึเปล่า” คิมพูดดุกมลก่อนจะหันมาถามใบบุญ
“งอนผมน่ะครับ พอดีผมยังไม่อยากให้ลงเล่นน้ำตอนนี้” คมที่เดินเข้ามาพูดขึ้น ทำให้ใบบุญหน้างอมากกว่าเดิมเสียอีก แต่คิมกลับรู้สึกว่าน่ารัก มากกว่าน่ารำคาญ
“ก็ทีทำไมพวกพี่ลพถึงไปเล่นได้ล่ะฮะ” ใบบุญถามขึ้นอย่างข้องใจ
“ก็ไอ้พวกนั้นมันถึก ทนแดดทนฝน มันไม่เป็นอะไรง่ายๆน่ะสิ แต่เราน่ะ ไปเล่นตอนนี้มีหวังไม่สบายแน่ๆ หรือว่าอยากไม่สบาย ได้เล่นน้ำวันเดียว วันที่เหลืออดเล่นล่ะ” คมพูดขึ้น ทำให้ใบบุญยืนลังเล
“ไม่เอาฮะ ใบบุญอยากเล่นน้ำทะเลอีกหลายๆวัน” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมา
“งั้นก็ต้องทำตามที่พี่คมเค้าบอกนะรู้มั้ย” คิมพูดบอกออกมาบ้าง ใบบุญพยักหน้ารับ
“ฮะ งั้นเดี๋ยวใบบุญไปเอาน้ำมาให้พี่คิมกับคุณกมลนะฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกก่อนจะวิ่งเข้าไปในบ้านพัก
“เออ คม เดี๋ยวแกให้ใครไปยกเตาที่อยู่ในห้องเก็บของมาเตรียมไว้ที่หาดหน้าบ้านนะ ตอนเย็นจะได้ย่างอาหารทะเลกัน” กมลพูดสั่งขึ้นมา คมก้มหัวรับนิดๆ ก่อนจะเดินแยกออกไป กมลมองตามหลังลูกน้อง แล้วหันมามองคิมที่นอนหนุนแขนตนเองอยู่
“คิม ชั้นถามอะไรหน่อยสิ” กมลพูดเกริ่นขึ้น
“อะไรครับ” คิมถามกลับ
“ถ้าสมมุติว่าใบบุญเป็นลูกของนาย แล้วนายอยากได้ลูกเขยแบบไหน” กมลถามขึ้น คิมหัวเราะขำในลำคอเบาๆ
“ทำไมคุณถามแบบนี้ล่ะ ไม่คิดว่าใบบุญจะมีเมียบ้างเหรอครับ” คิมถามกลับยิ้มๆ
“แล้วนายคิดว่าอย่างใบบุญจะหาเมียได้มั้ยล่ะ” กมลถามกลับไปอีก
“คึคึ ไม่แน่นะครับ พอใบบุญโตขึ้นกว่านี้ อาจจะเป็นหนุ่มหล่อ รูปร่างสูงใหญ่ก็ได้” คิมสันนิษฐานเล่นๆ
“แต่ชั้นคิดว่า ไม่น่าจะโตไปมากกว่านี้แล้วล่ะ” กมลตอบกลับอย่างคาดเดา คิมก็นอนขำอยู่อย่างนั้น
“แต่ถ้าถามผมว่าอยากให้ได้ลูกเขยแบบไหน ผมคงอยากได้แบบคมมั้งครับ” คิมพูดขึ้นมาเสียงจริงจัง ทำให้กมลเลิกคิ้วนิดๆ
“ทำไมล่ะ” กมลถามด้วยความอยากรู้
“ผมคิดว่า คมคงดูแลใบบุญได้ดี ถ้าใบบุญเป็นลูกผม ผมก็คงมั่นใจว่าคนๆนี้จะดูแลลูกผมได้ ถึงแม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกันก็ตาม แต่ก็อีกแหละครับ ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า ถ้าคมยังทำงานอยู่ในวงการนี้แบบคุณ แล้ววันใดวันหนึ่งมีอะไรพลาดพลั้งขึ้นมา ใบบุญจะทำยังไง” คิมพูดช่วงท้ายด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ ทำให้กมลจับน้ำเสียงของคิมได้ว่า คิมเองก็กังวลเรื่องนี้เหมือนกัน
“แล้วถ้าเป็นชั้นล่ะ ถ้าชั้นพลาดขึ้นมา นายจะ..” กมลพูดถามบ้าง
ปึ่ก!
“อ๊ะ” กมลสะดุ้งนิดๆโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อคิมศอกเข้าที่หน้าท้องแกร่ง
“หยุดพูดแบบนี้นะครับ ถ้าไม่อยากให้ผมโกรธ” คิมพูดว่าออกมาเสียงเข้ม
“ชั้นก็อยากรู้เหมือนกันนี่ ว่านายจะรู้สึกยังไง จะดีใจหรือเสียใจ” กมลถามต่อ คิมเม้มปากเข้าหากัน ดวงตาที่จ้องกมลบ่งบอกถึงความโกรธและสั่นไหวปะปนกันไป
“อยากให้ผมโกรธมากสินะครับ” คิมพูดขึ้นออกมาอย่างตัดพ้อ คิมรู้สึกเจ็บแปลบๆในหัวใจ เมื่อนึกภาพตามว่าถ้าวันใดที่กมลเป็นอะไรไป คิมเองจะเป็นยังไงกันแน่ แต่ที่รู้ๆ คือ คิมไม่อยากให้กมลเป็นอะไรแม้แต่นิดเดียว
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ชั้นก็แค่พูดเผื่อเอาไว้ ชีวิตคนเราไม่แน่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้” กมลพูดบอกออกมาเสียงจริงจัง คิมหันหน้าหนีมองออกไปที่ระเบียงไม่พูดอะไรต่อ ทำให้กมลรับรู้ได้ว่า ร่างบางกำลังงอนตนเองเข้าให้แล้ว
“น้ำมาแล้วฮะ” ใบบุญเดินเข้ามาหา พร้อมกับน้ำผลไม้ทั้งสองแก้ว คิมขยับลุกขึ้นนั่ง แล้วไปนั่งที่เก้าอี้นอนอีกตัว ทำให้กมลเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ ใบบุญเองก็มองอย่างแปลกใจ
“ขอบใจมากนะใบบุญ” คิมพูดแล้วหยิบแก้วน้ำไปดื่ม ใบบุญรู้สึกถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัด ก็เลยรีบเดินแยกออกไปทันที กมลดื่มน้ำผลไม้ที่ใบบุญวางเอาไว้ แล้วขยับลุกขึ้นเดินมานั่งที่เก้าอี้นอนของคิม ทำให้คิมมองกมลด้วยสายตาดุๆ กมลท้าวแขนคร่อมร่างบางเอาไว้
“คิม อย่ามาโกรธชั้นเรื่องนี้สิ เรื่องที่ชั้นพูด มันเป็นสิ่งที่คนทุกคนต้องเจออยู่แล้ว” กมลพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่มันใช่เรื่องที่จะมาพูดอะไรกันตอนนี้มั้ยล่ะ คุณบอกว่าพามาเที่ยว มาพักผ่อน มันก็ต้องการความสบายใจ ไม่ใช่มาพูดเรื่องอะไรแบบนี้” คิมโวยใส่กมลเสียงแข็ง พร้อมกับทุบไปที่อกแกร่งของกมลอย่างหงุดหงิด จนกมลต้องจับมือของคิมเอาไว้
“โอเคๆ ไม่พูดแล้ว คุยเรื่องของใบบุญอยู่ดีๆ ทำไมถึงวนมาทำให้เราทะเลาะกันได้ล่ะ หืม” กมลพยายามพูดเอาใจคิม
“แล้วใครเริ่มก่อนล่ะ” คิมว่ากลับไปอีก
“ชั้นยอมรับผิดทุกอย่าง หายโกรธได้แล้ว อย่าทำหน้าแบบนี้สิ ไม่น่ารักเลยนะ” กมลพูดพร้อมกับใช้นิ้วยาวเกลี่ยไปที่ริมฝีปากบางของคิม คิมเม้าปากเข้าหากันนิดๆ ดวงตาก็จ้องหน้ากมลเขม็ง
“ถ้าพูดจาไม่เข้าหูอีกนะ คืนนี้จะไล่ให้ไปนอนกับคม แล้วผมจะเอาใบบุญมานอนด้วย” คิมพูดขู่ขึ้น ทำให้กมลยิ้มขำออกมานิดๆ ก่อนจะก้มหน้าเข้าไปหาร่างบางเพื่อจะจูบ แต่คิมก็ยกมือขึ้นมาดันหน้าอกของกมลเอาไว้ก่อน
“ทำอะไรน่ะคุณ นี่มันหน้าบ้านนะ” คิมพูดว่าออกมา ใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ถึงแม้จะขัดเคืองเรื่องที่กมลพูดก่อนหน้านี้ แต่คิมก็หายเคืองได้โดยง่ายเมื่ออีกฝ่ายง้อ
“ชั้นอยากจูบนายตอนนี้” กมลพูดพร้อมกับจับมือของคิมที่ดันหน้าอกของตนเองข้างหนึ่ง ขึ้นมาจูบที่หลังมือเบาๆ
“บ้าแล้วคุณกมล เดี๋ยวใบบุญออกมาเห็นก็ใจแตกกันพอดี” คิมพูดว่าออกมาเพราะกลัวว่าคนอื่นจะมาเห็น
//ใจแตกไปแล้วล่ะมั้ง// กมลพูดพึมพำ คิมขมวดคิ้วเข้าหากัน
“คุณว่าอะไรนะ ผมได้ยินไม่ชัด” คิมถามกลับเพราะได้ยินไม่ชัดจริงๆ
“เปล่า ก็แค่พูดว่านายใจร้ายจัง ขอจูบนิดหนึ่งก็ไม่ได้” กมลแถไปเรื่อย
“ไม่ต้องมานิดหนึ่งอะไรแถวนี้เลยนะครับ ไปนั่งเก้าอี้ตัวโน้นเลย ไม่ต้องมานั่งกับผม อึดอัด” คิมพูดว่าออกมาเพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
“อะไร เมื่อกี้นายนอนเก้าอี้ตัวเดียวกับชั้น นายยังไม่บ่นอึดอัดเลย มา..ชั้นนอนด้วย” พูดจบกมลก็นอนแทรกคิมลงบนเก้าอี้นอนทันที พร้อมกับกอดรัดร่างบางให้นอนเกยทับขึ้นมาบนร่างแกร่งของเขาด้วย
“เอ๊ะ คุณกมล อื๊อออ ปล่อย ไม่ต้องกอดได้มั้ยเล่า มันอึดอัด” คิมดิ้นไปมา แต่กมลก็กอดรัดร่างบางเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย จนคิมเริ่มเหนื่อย จึงยอมนอนซบหน้าไปกับอกของกมลแต่โดยดี
“คนบ้า บ้าอำนาจ ชอบใช้กำลัง” คิมพูดว่ากมลไปเรื่อย
“แต่นายก็ชอบไม่ใช่รึไง เวลาที่ชั้นใช้กำลังกับนายน่ะ” กมลพูดหยอดกลับไป ทำให้คิมร้อนหน้าก่อนจะทุบอกแกร่งของกมลอย่างหมั่นไส้ และแก้เขินไปด้วย โดยมีกมลหัวเราะขำในลำคออยู่ข้างๆ ทั้งสองคนนอนเล่นอยู่ที่เก้าอี้นอนตรงระเบียงบ้านกันอย่างเงียบๆ มีเพียงเสียงลมเอื่อยๆ และเสียงคลื่นซัดสาดเท่านั้น
..
..
..
..
“คิม…คิม ตื่นได้แล้ว จะไปเล่นน้ำรึเปล่า” เสียงปลุกของกมลดังขึ้น ทำให้คิมที่เผลอหลับไปค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา กมลดึงแว่นที่คิมใส่ออกเพื่อให้ดวงตาปรับแสงปกติเสียก่อน คิมงัวเงียเงยมองกมล
“กี่โมงแล้วครับ” คิมถามขึ้นเสียงแผ่ว
“สี่โมงนิดๆแล้วล่ะ ใบบุญมาเดินด้อมๆมองๆหลายรอบแล้ว” กมลบอกยิ้มๆ คิมค่อยๆยันตัวขึ้นมานั่ง
“นี่ผมนอนทับตัวคุณตลอดเลยเหรอ เมื่อยรึเปล่า” คิมถามขึ้นเมื่อรู้ว่าตนเองนอนหนุนอกแกร่งของกมลตลอดเวลา
“ไม่เมื่อยหรอก แล้วนี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่หรือจะลงเล่นชุดนี้เลย” กมลถามขึ้น พร้อมกับลุกนั่งบ้าง คิมขยับลงไปยืนบิดตัวไปมาไล่ความเมื่อยขบ
“ลงเล่นชุดนี้เลยดีกว่าครับ แล้วคุณล่ะจะลงไปเล่นกับพวกผมจริงๆอ่ะ” คิมถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ กมลพยักหน้ารับ ก่อนจะยื่นมือให้คิมดึง
“ชิส์ แก่แล้วล่ะสิ ลุกเองไม่ได้น่ะ” คิมแกล้งพูดแซว แต่ก็ยอมดึงกมลให้ลุกขึ้นยืน กมลหัวเราะขำในลำคอ ก่อนจะกอดไหล่คิมพาเดินไปยังกลุ่มของลูกน้องตนเองที่นั่งรวมกันอยู่ที่ลานระหว่างบ้านสองหลัง ซึ่งใบบุญก็นั่งอยู่กับคมที่นั่นด้วย ลูกน้องของกมลบางคนก็ยังเปียกมะล่อกมะแล่กกันอยู่
“เลิกเล่นกันแล้วรึไง” กมลถามขึ้น
“ยังครับนาย แค่ขึ้นมาพักน่ะครับ” ลูกน้องคนหนึ่งของกมลพูดตอบออกมา คิมกวักมือเรียกใบบุญให้ลุกมาหาตนเอง ใบบุญเดินไปหาคิม คิมก็กอดไหล่เล็กของเด็กหนุ่มเอาไว้
“รอพี่อยู่ใช่มั้ย” คิมถามขึ้น ใบบุญพยักหน้ารับยิ้มๆ
“พี่คมบอกว่าให้รอเล่นพร้อมพี่คิมฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับ คิมยิ้มรับ ก่อนจะมองไปที่คม
“คมไปเล่นบานาน่าด้วยกันมั้ย เจ้านายของพวกนายเค้าจะเล่นด้วย” คิมพูดชวน ทำเอาทุกคนเงียบกริบ พร้อมกับมองหน้ากมลอย่างประหลาดใจ
“ทำไมต้องทำหน้ากันแบบนั้นด้วย ชั้นเล่นบานาน่าโบ๊ทมันแปลกตรงไหน” กมลหรี่ตามองหน้าลูกน้องทุกคน
“ไม่ครับ ไม่แปลกเลยครับ เดี๋ยวผมขับเจ๊ทสกีให้ครับนาย” ลูกน้องของกมลคนหนึ่งพูดขึ้น ก่อนจะรีบลุกไปเตรียมเจ๊ทสกี
“ใครจะเล่นกับชั้นด้วยมั้ย ตามสบายชั้นไม่ว่า” กมลอนุญาตขึ้นมา ก่อนที่จะสรุปได้ว่าคนที่จะไปเล่นพร้อมกับกมล มี คิม ใบบุญ คม ลพ ไหม ดา เพราะเป็นบานาน่าโบ๊ทแบบขนาดใหญ่จึงนั่งได้หลายคน ส่วนลูกน้องของกมลคนอื่นๆ ก็จะรวมตัวกันไปเล่นบอลที่ชายหาด ส่วนป้านี ขอนั่งดูเฉยๆ และเตรียมอาหารสำหรับช่วงเย็น ปล่อยให้ไหมกับดาได้พักเล่นน้ำกับคนอื่นเค้าบ้าง กมลจับมือพาคิมเดินลงไปที่เรือบานาน่า พร้อมกับใส่ชูชีพให้
“ผมใส่เองได้น่า” คิมบอกเสียงอุบอิบ
“ชั้นอยาก…ใส่ให้” กมลพูด พร้อมกับทำหน้ากรุ้มกริ่มใส่คิม โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น เนื่องจากกำลังสาละวนกับการใส่ชูชีพให้กันและกันอยู่ คิมเอียงคอนิดๆ พร้อมกับทำหน้างงนิดหน่อย เพราะยังไม่เข้าใจ คิมสงสัยสีหน้าของกมล แต่ยังไม่เข้าใจคำพูดก่อนที่กมลจะแกล้งเอื้อมมือไปบีบก้นกลมกลึงของคิมเบาๆ ทำให้คิมเข้าใจขึ้นมาทันที กับคำว่า..ใส่ ของกมล
เพียะ..
คิมตีมือกมลไม่แรงมากนัก ด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ
//คนทุเรศ อายคนอื่นเค้าบ้างสิครับ// คิมว่าออกมาเสียงเบาๆ กมลก็ยิ้มขำอย่างเดียว เมื่อทุกคนใส่ชูชีพเสร็จหมดแล้วก็มาจัดแจงเรื่องตำแหน่งที่นั่ง และคนที่จัดแจงก็คือคิม คนที่นั่งคนแรกคือลพ ไหม ดา คม ใบบุญ คิม กมล เรียงกันมา เมื่อได้ที่นั่งของตัวเองทุกคนก็นั่งประจำที่
“พร้อมมั้ยครับ” เสียงลูกน้องของกมลที่มาขับเจ๊ทสกีให้ตะโกนถามขึ้น
“พร้อม!” ทุกคนบนเรือตะโกนกลับไป คิมหันมามองหน้ากมลนิดๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง
“คุมท้ายเรือดีๆนะครับ ไม่ใช่หล่นไปก่อนล่ะ” คิมพูดแซวอย่างอารมณ์ดี
“ไม่เป็นไร ถ้าชั้นหล่น ชั้นจะดึงนายลงไปด้วย” กมลบอกพร้อมกับยกยิ้ม คิมย่นจมูกใส่กมล ก่อนจะหันไปมองด้านหน้าอีกครั้ง เรือบานาน่าเริ่มขยับเคลื่อนไปข้างหน้าช้าๆ ก่อนจะเร็วขึ้นตามลำดับ เสียงเฮฮาจากลพดังขึ้นให้ได้ยินทำให้ทุกคนเริ่มส่งเสียงกันบ้างอย่างสนุกสนาน คิมแอบเห็นว่าคมเองก็เอื้อมมือข้างหนึ่งมาด้านหลังเพื่อล็อคใบบุญเอาไว้ด้วย แต่คิมก็ไม่คิดอะไรเพราะกำลังสนุก จนใบบุญตกเรือไปคนแรกเพราะแรงกระแทกของเรือกับคลื่นทะเล ทำให้คมทิ้งตัวลงไปบ้าง คิมหัวเราะขำพร้อมกับหันไปมอง พอเห็นว่าคมว่ายน้ำเข้าหาใบบุญแล้วคิมก็วางใจหันมาสนุกต่อ
หมั่บ!
แรงกอดรัดที่เอวบางทำให้คิมหันไปมองทางด้านหลัง พบกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของกมล
“ไม่เอานะคุณกมล อ๊ากกกก” คิมโวยลั่น พร้อมกับร้องออกมาเมื่อกมลดึงคิมให้ตกจากเรือ เมื่อเรือตีโค้ง
“แค่กๆๆ…คุณกมล ดึงผมลงมาทำไมเนี่ย” คิมโวยขึ้นทันทีพร้อมกับสำลักน้ำทะเลนิดหน่อย กมลที่ลอยตัวอยู่ข้างๆกอดเอวบางของคิมเอาไว้พร้อมกับยิ้มขำ
“ความมันส์หลักๆของบานาน่าโบ๊ท คือการตกจากบานาน่าเนี่ยแหละ” กมลพูดบอก
“จะบ้าเหรอ มันต้องนั่งเล่นอยู่บนเรือนานๆหรอกมันถึงจะสนุก” คิมเถียง พร้อมกับลูบหน้าตัวเองที่เปียกน้ำไปด้วย กมลดึงคิมเข้ามาแนบอก โดยทีทั้งสองลอยตัวด้วยชูชีพอยู่ในทะเล กมลเห็นว่าทุกคนตกเรือไปหมดแล้ว และคนขี่เจ๊ทสกี กำลังขี่ตามหาทุกคนเพื่อพากลับเข้าฝั่ง ก่อนจะเริ่มรอบใหม่
“อื๊ออ” คิมสะดุ้งเมื่ออยู่ๆกมลก็ประทับริมฝีปากเข้าหาคิมในทันที ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากนุ่มอย่างรวดเร็ว และเกี่ยวพันลิ้นเล็กไปมา ส่วนคิมตอนแรกที่ตกใจเล็กน้อยก็เริ่มจูบตอบกลับไป ลิ้นของทั้งคู่เกี่ยวพันกัน ริมฝีปากชื้นก็บดเบียดกันไปมาอย่างเร่าร้อน สักพักกมลก็ถอนออกมาช้าๆ พร้อมกับมองคิมด้วยสายตาหวานฉ่ำ
“เค็มนิดหน่อยแหะ” กมลพูดบอกออกมาก่อนจะถูกคิมทุบอกทุบไหล่ระรัว
“คนบ้า ก็เปียกน้ำทะเลอยู่ด้วยนี่” คิมโวยเล็กๆ ก่อนที่เรือจะวนมารับพากลับเข้าฝั่งกันครบทุกคน คิมก็ชวนเล่นอีกหลายรอบ และรอบต่อๆมา คิมก็ไม่ได้จัดแจงเรื่องที่นั่งเพราะกำลังสนุก เลยทำให้คิมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง จนเล่นไปได้ 3 รอบ คมก็พาใบบุญขึ้นไม่ให้เล่นต่อ
“คมเป็นอะไรอ่ะ คุณกมล เหมือนโกรธอะไรไม่รู้” คิมถามอย่างสงสัย และไหมเองเลิกเล่นเช่นเดียวกัน ทำให้ลูกน้องของกมลมาเพิ่มอีก 3 คน จนเล่นต่ออีก 2 รอบ กมลก็พาคิมขึ้นหาดปล่อยให้ลูกน้องคนอื่นๆของตนเองเล่นกันต่อไป
“จะเล่นน้ำต่อมั้ย” กมลถามขึ้นเพราะเห็นว่ายังไม่มืดเท่าไรนัก คิมมองหาใบบุญก่อนจะพยักหน้ารับคำถามของกมล เมื่อเห็นใบบุญนั่งเล่นกองทรายอยู่ไม่ไกล
“ผมไปเล่นกับใบบุญนะครับ” คิมพูดขึ้น กมลพยักหน้ารับ
“งั้นชั้นขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วจะเอาผ้าขนหนูมาให้” กมลบอกกลับ
“ครับ” คิมตอบรับก่อนจะเดินไปหาใบบุญ ส่วนกมลก็เดินอ้อมไปเข้าหลังบ้านเพื่อไม่ให้บ้านเปียกมากนัก แต่ยังไม่ทันจะเดินเข้าบ้านก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเถียงอะไรกันทางข้างบ้านฝั่งติดกับบ้านอีกหลัง กมลจึงเดินไปดู
..
..
“โกหกตอนนี้ได้โกหกไปนะไหม อย่าให้พี่จับได้ล่ะกัน” เสียงของคมดังขึ้น
“ไหมบอกพี่คมแล้วไง ว่าไหมไม่รู้เรื่อง ทำไมพี่คมต้องมาโทษไหมด้วย” เสียงหญิงสาวพูดออกมาสั่นๆ
“มีอะไรกัน” กมลเดินเข้าไปถาม ทำให้ทั้งสองคนชะงักกึก หญิงสาวก้มหน้างุด
“ชั้นถามว่ามีอะไรกัน” กมลถามเสียงเข้มอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรหรอกครับนาย เรื่องเล็กน้อย” คมพูดขึ้นเสียงเรียบ ซึ่งกมลเองก็พอรุ้ว่า คมไม่อยากพูดเรื่องนี้ตอนนี้
“ไม่มีอะไรก็ดี แต่อย่ามาทะเลาะอะไรกันแบบนี้อีก ชั้นไม่ชอบ คนที่เข้ามาอยู่ในความดูแลของชั้น ชั้นก็อยากให้รักกัน ดูแลกัน ไม่ใช่ทะเลาะกัน เข้าใจใช่มั้ย” กมลพูดสั่งขึ้นมา คมก้มหน้ารับ
“ครับ….ค่ะ” คมกับไหมตอบรับพร้อมกัน
“ชั้นไม่อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของใคร แต่อย่าทำให้คนอื่นเค้าเดือดร้อนด้วย ตกลงมั้ย” กมลสั่งอีกครั้ง
“ครับ” คมตอบรับสั้นๆ
“ไปได้แล้ว แยกย้ายกันไป” กมลบอกอีก หญิงสาวรีบเดินแยกไปอย่างรวดเร็ว กมลมองหน้าคมนิ่งๆ
“ถ้าแกไม่อยากเล่า ชั้นก็จะไม่ถาม ถ้ามันไม่เกี่ยวข้องกับชั้นหรือคิมโดยตรง แต่ถ้ามันมีอะไรที่ต้องเดือดร้อนมาถึงชั้นหรือคิม แกต้องปริปากเล่าออกมาทุกอย่าง เข้าใจใช่มั้ย คม” กมลบอกเสียงเรียบนิ่ง ดวงตาจ้องหน้าลูกน้องตนเองอย่างกดดัน
“ครับ ขอโทษครับนาย” คมพูดบอกออกมาอีกครั้ง
“ไปดูแลใบบุญของนายได้แล้วไป นั่งเล่นอยู่กับคิมที่หาด” กมลพูดขึ้น แต่ไม่ทันที่คมจะตอบรับอะไร เสียงเรียกคมก็ดังขึ้นลั่นบ้าน
“คม!! อยู่ไหนเนี่ย…คม” เสียงเรียกของคิมดังขึ้น ทำให้คมกับกมลต้องรีบเดินเข้าไปทางหลังบ้าน
“ครับคุณคิม” คมรีบเข้าไปหาคิมแต่โดยดีทั้งๆที่ตัวยังเปียกอยู่
“ใบบุญปากแตก นายเห็นแล้วใช่มั้ย” คิมพูดถามขึ้น ส่วนใบบุญที่เดินตามแรงดึงของคิมมาก็ยิ้มแหยๆ
“เห็นแล้วครับ” คมตอบรับ พร้อมกับมองหน้าใบบุญไปด้วย
“อ่อ งั้นแล้วไป นึกว่ายังไม่เห็น ชั้นก็ไม่ได้ทันสังเกตว่าตอนที่เล่นบานาน่าจะหล่นไปกระแทกอะไรใครบ้างรึเปล่า เฮ้อ นายพาใบบุญไปอาบน้ำเถอะ อ่ะ..อ่าว คุณกมล ไหนว่าจะไปอาบน้ำทำไมยังยืนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ” คิมพูดบ่นไปเรื่อยก่อนจะทักขึ้นเมื่อเห็นกมลยืนอยู่ไม่ไกล
“กำลังจะขึ้นไปอาบแล้วล่ะ แต่ได้ยินเสียงนายก่อน” กมลตอบกลับ
“งั้นผมอาบน้ำเลยดีกว่า เอาไว้ค่อยเล่นน้ำทะเลพรุ่งนี้” คิมพูดบอกออกมา กมลจึงเดินไปรั้งเอวบางของคิมเพื่อพาขึ้นไปอาบน้ำด้วยกัน
“แกก็พาใบบุญไปอาบน้ำจะได้ลงมากินอาหารเย็นด้วยกัน อ่อ เดี๋ยวอีกสักพักก็ไปเรียกเจ้าพวกนั้นให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันได้แล้วนะ” กมลพูดสั่งอีกครั้ง ก่อนจะพาคิมขึ้นไปบนห้อง
“ดีนะ ที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” คิมก็เดินบ่นเรื่องที่ใบบุญปากแตกไปเรื่อยๆ กมลเองก็พอจะคาดเดาสถานการณ์ได้บ้างนิดหน่อยแต่ยังไม่มั่นใจนัก แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้ให้คมจัดการเอาเอง เขาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ถ้ามีอะไรที่ร้ายแรงกว่านี้ เขาถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วย และ…เรื่องนี้ไม่ควรให้คิมรู้จะดีที่สุด
“อาบน้ำพร้อมกันไปเลยนะ จะได้ไม่เสียเวลา” กมลพูดบอกเมื่อเข้ามาในห้องของทั้งสองแล้ว
“ไม่เอา คุณอาบก่อนสิ” คิมรีบพูดปฏิเสธทันที
“ได้ไงล่ะ นายจะรอชั้นอาบน้ำแบบตัวเปียกๆแบบนี้น่ะเหรอ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ไปอาบด้วยกันนั่นแหละ ไม่ต้องกลัวว่าชั้นจะทำอะไรนายหรอกน่า ชั้นรอทำคืนนี้” กมลพูดขึ้นมายิ้มๆ ทำให้คิมมองค้อนร่างแกร่งทันที
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตกลงตอนนี้ของกมลคิม หรือ คมใบบุญกันแน่ เหอเหอ
เนื้อเรื่องช่วงนี้เป็นแบบสบายๆไปก่อนนะคะ