ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 26
Author: 여님 (ยอนิม)
“ทำตัวเหมือนกับเป็นเจ้าของบ้านเลยนะ” ดานิลพูดเหน็บขึ้นมา คิมยิ้มรับนิดๆ
“ก็คิมเป็นเมียชั้น บ้านชั้นก็เหมือนกับบ้านของคิม” กมลพูดบอกออกมาบ้าง ดานิลมองกมลอย่างไม่พอใจ
“ผมว่าทานอาหารเช้าก่อนดีมั้ยครับ เดี๋ยวค่อยคุยกันก็ได้” คิมพูดแทรกขึ้น กมลจึงนั่งทานข้าวต่อ ดานิลมองกมลกับคิมสลับไปมาด้วยความหงุดหงิด แต่ก็ยอมนั่งทานอาหารเช้าก่อนเช่นกัน
..
..
“กมล” ดานิลเรียกกมลเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว
“นายขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป แล้วค่อยเข้าไปคุยกับชั้นในห้องทำงาน” กมลพูดดักขึ้น
“แต่ชั้นอยากคุยตอนนี้ เดี๋ยวนี้” ดานิลพูดว่าออกมา
“ตามใจ งั้นไปที่ห้องทำงานชั้นได้เลย” พูดจบ กมลก็จับมือคิมให้ลุกเดินไปห้องทำงานด้วยกัน
“ให้ผมอยู่ด้วยเหรอครับ” คิมถามขึ้น
“ใช่ เราไม่มีอะไรต้องปิดบังกันนี่นา จริงมั้ย” กมลบอกกลับ คิมยิ้มรับ แต่ก็รู้สึกไม่สบายใจนัก กับคำที่กมลบอกว่า ไม่มีอะไรต้องปิดบัง เพราะคิมเองยังไม่ได้บอกกมลเลยว่าคนในอดีตของตนเองคือใคร
“ชั้นอยากคุยกับนายแค่สองคนนะกมล คนอื่นไม่เกี่ยว” ดานิลพูดขึ้นมาทันทีเมื่อเดินเข้ามาในห้องทำงานของกมล บอดี้การ์ดของทั้งกมลและดานิลถูกให้รอนอกห้อง
“คิมไม่ใช่คนอื่น ชั้นบอกนายแล้วนี่ดานิล ว่าชั้นกับคิมเป็นอะไรกัน” กมลพูดย้ำออกมาอีกครั้ง
“นายจะให้ชั้นเชื่อเหรอว่า นายเอาหมอนี่มาเป็นเมียของนายน่ะห้ะ!” ดานิลถามขึ้นเสียงเข้ม คิมหน้าตึงนิดๆ แต่ก็ยังไม่พูดอะไรออกมา
“นายจะเชื่อหรือไม่เชื่อมันก็เรื่องของนาย แล้วสิ่งที่ชั้นอยากจะรู้คือ นายมาที่นี่ทำไม” กมลถามกลับไปบ้าง
“ที่ชั้นมา ก็เพราะนายส่งเมลล์ไปบอกอีวาน ว่านายอยากจะคุยเรื่องที่จะถอนตัวออกจากวงการนี้ยังไงล่ะ” ดานิลพูดเข้าเรื่อง
“ชั้นส่งเมลล์ไปหาอีวาน เพราะชั้นต้องการอธิบายเรื่องนี้กับอีวาน ไม่ใช่กับนาย” กมลบอกกลับไปอีก
“แล้วชั้นเป็นใครห้ะกมล ชั้นเองก็มีสิทธิ์ที่จะรับรู้ ว่าทำไมนายถึงจะทิ้งพวกชั้น ชั้นก็อยากรู้เหตุว่าทำไมนายต้องทรยศพวกเรา!” ดานิลว่าเสียงลั่น
“ชั้นไม่ได้ทรยศพวกนาย ชั้นแค่จะถอยออกมาเท่านั้นเอง นายใช้ภาษาไทยผิดไปหน่อยนะดานิล” กมลพูดว่าออกมาเสียงเรียบนิ่ง ดานิลหันไปมองคิมทันที
“เพราะหมอนี่ใช่มั้ย นายถึงจะถอนตัว” ดานิลถามขึ้นพร้อมกับชี้มาที่คิม กมลไม่อยากตอบ แต่ดานิลก็สัณนิษฐานได้
“นายคิดว่านายเป็นใคร ถึงจะมาทำให้กมลถอนตัวออกจากวงการนี้ห้ะ!” ดานิลเดินมาผลักไหล่คิมที่นั่งอยู่ที่โซฟาทันที
พรึ่บ!
ดานิลถูกผลักออกห่างจากคิมทันทีเช่นกัน ด้วยมือของกมลเอง ดานิลมองกมลอย่างอึ้งๆ
“อย่าคิดแตะต้องตัวคิมเด็ดขาด ดานิล” กมลพูดออกมาพร้อมกับจ้องดานิลด้วยสายตาวาวโรจน์ ร่างแกร่งยืนบังคิมเอาไว้
“หมอนี่สำคัญกับนายมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ดานิลถามออกมาอย่างอึ้งๆ
“ใช่ สำคัญมาก” กมลพูดย้ำ
“สำคัญกว่าชั้น สำคัญกว่าอีวานงั้นเหรอ” ดานิลถามอีก
“ดานิล นายกับอีวาน ชั้นให้ความสำคัญในลักษณะของครอบครัว เหมือนพี่เหมือนน้อง แต่กับคิมมันต่างออกไป คิมเป็นทุกอย่างของชั้น” กมลบอกออกมาเสียงจริงจัง ทำให้คิมรู้สึกปลาบปลื้มในอกเป็นอย่างมาก แต่ก็รู้สึกเห็นใจดานิลเหมือนกัน
“ชั้นไม่ยอม!! นายจะเห็นคนอื่นสำคัญไปกว่าชั้นกับอีวานไม่ได้!” ดานิลบอกออกมาอย่างเอาแต่ใจ
“ก็บอกแล้วไงดานิล ว่ามันสำคัญต่างสถานะกัน” กมลพูดย้ำให้ดานิลเข้าใจ ชายหนุ่มหันมายกยิ้มให้กับคิมอย่างเยาะๆ
“มันจะต่างกันตรงไหน นายลืมไปแล้วรึไงกมล ว่าเราเป็นมากกว่าพี่น้อง” ดานิลพูดขึ้น ทำให้กมลรู้ว่าดานิลกำลังจะเอาความสัมพันธ์ของดานิลกับกมลมาพูด กมลมองหน้าคิมทันที
“คิม นายรู้รึเปล่า ว่าชั้นกับกมลมีความสัมพันธ์กันยังไง” ดานิลพูดถามเพราะคิดว่าคิมคงยังไม่รู้ คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ นึกดีใจที่กมลเล่าเรื่องนี้ให้ฟังแล้ว ถ้ากมลไม่เล่า แล้วคิมมาได้ยินจากปากของดานิลเอง คิมก็คงเสียความรู้สึกไม่น้อยเหมือนกัน เพราะมันเหมือนกับว่า คิมเข้ามาแทรกกลางระหว่างคนทั้งสอง
“รู้ครับ” คิมตอบกลับ ทำให้ดานิลชะงักกึก
“รู้ว่าอะไร” ดานิลถามอีก
“รู้ว่าคุณกับคุณกมลเคยมีอะไรกัน” คิมตอบออกมา ความจริงร่างบางก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้ขึ้นมาสักเท่าไร
“นี่นายเล่าเรื่องระหว่างเราให้หมอนี่ฟังด้วยเหรอกมล” ดานิลถามกมลด้วยน้ำเสียงหยันๆ
“ชั้นสองคนไม่มีอะไรปิดบังกัน” กมลตอบกลับ ทำให้ดานิลรู้สึกไม่พอใจคิมมากขึ้น
“หึ แล้วบอกรึเปล่าล่ะ ว่าเซ็กส์ของเราสองคนร้อนแรงแค่ไหน ว่าแต่ หมอนี่ทนรับอารมณ์รุนแรงของนายไหวเหรอกมล” ดานิลพูดขึ้นมาอีก พร้อมกับยกมือขึ้นโอบรอบคอกมลอย่างยั่วยวน คิมมองหน้ากมลทันที กมลจึงดึงแขนของดานิลออกอย่างช้าๆ
“ชั้นกับคิม เราเข้ากันได้ดีในทุกๆเรื่อง นายไม่ต้องห่วงหรอกดานิล” กมลบอกกลับไป ทำให้ดานิลชะงักกึก เมื่อรู้ว่าคิมก็มีรสนิยมคล้ายกับตนเอง
“อ่อ แล้วไม่ต้องคิดว่าชั้นเอาคิมมาเป็นตัวแทนของนายนะดานิล คิมเป็นตัวจริงสำหรับชั้น ไม่ใช่ตัวแทนใครแน่นอน” กมลบอกย้ำเพื่อให้ดานิลเข้าใจเรื่องทุกอย่าง ดานิลหายใจแรงๆด้วยความฉุนเฉียว
“ไม่มีทาง ชั้นไม่ยอมรับเด็ดขาด นายกับชั้นเราเข้ากันได้ดีกว่าใคร ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์แย่งนายไปจากชั้น” ดานิลพูดใส่กมล ก่อนจะหันไปหาคิมอีกครั้ง
“ คิม นายจำเอาไว้เลยนะ ว่าชั้นไม่ยอมยกกมลให้นายเด็ดขาด แล้วชั้นจะเอาของๆชั้นคืน!” พูดจบดานิลก็เดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องทำงานของกมลทันที
“คิม นายไม่เป็นอะไรนะ” กมลหันมาถามร่างบาง ไม่ได้ถามเรื่องของร่างกาย แต่ถามเรื่องของจิตใจ กมลไม่อยากให้คิมรู้สึกไม่ดีกับคำพูดของดานิลเมื่อสักครู่
“คุณแน่ใจเหรอคุณกมล ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับคุณจริงๆ” คิมถามเสียงเรียบ ร่างบางอดคิดไม่ได้ว่า ที่ดานิลแสดงอาการออกมาขนาดนี้ เป็นเพราะความหึงหวงในตัวของกมลรึเปล่า
“คิม ดานิลมันก็แค่เอาแต่ใจ หวงของ นายอย่าไปคิดมากตามคำพูดของดานิลสิ เราคุยกันแล้วไง” กมลพูดเสียงเครียดเมื่อได้ยินคำถามจากร่างบาง
“ผมก็ไม่อยากคิดอะไรหรอกครับ เพราะผมเองก็มาทีหลัง มันไม่แปลกถ้าเค้าจะรู้สึกหวงคุณ” คิมบอกออกมาอีก กมลถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ก่อนจะนั่งลงข้างๆคิม พร้อมกับกอดไหล่บางเอาไว้ คิมเอนหัวไปซุกไหล่แกร่งของกมลทันที
“คิม ชั้นอยากให้นายเชื่อมั่นในตัวชั้นให้มากกว่านี้นะ” กมลพูดขึ้นเสียงจริงจัง
“บางทีผมก็คิดนะครับ ว่าผมหลงตัวเองมากไปรึเปล่า” คิมพูดขึ้น เพราะคิมพยายามคิดว่ายังไงกมลก็เลือกตัวเองและให้ความสำคัญกับคิมมากกว่าใครทั้งหมด
“ชั้นให้นายหลงตัวเองได้ตามสบายเลยคิม” กมลพูดสนับสนุนความคิดของคิม
“ชั้นต้องการให้นายมั่นใจว่านายคือคนสำคัญของชั้นจริงๆ เพราะหลังจากวันนี้ ชั้นบอกเลยว่า ชั้นอาจจะมีเวลาให้นายไม่มากนัก ชั้นต้องเคลียงานทุกอย่าง พยายามทำทุกอย่างให้มันเข้าที่ให้มากที่สุด และชั้นก็ไม่รู้ว่าดานิลจะก่อกวนอะไรนายอีก” กมลพูดขึ้น
“คุณอย่ากังวลไปเลยครับ เค้าคงไม่ทำอะไรผมหรอก” คิมตอบกลับเพื่อให้กมลสบายใจ แต่คิมเองก็ไม่รู้ว่าดานิลจะก่อกวนอะไรตนเองบ้าง
“ถ้าดานิลมันทำอะไรนาย นายต้องบอกชั้นนะ ทางที่ดีอยู่ห่างๆมันไว้ก่อนจะดีกว่า” กมลบอกออกมาอย่างเป็นห่วง คิมยิ้มขำนิดๆ
“ครับๆ” คิมตอบรับ ก่อนที่คิมจะขอไปเอางานของตนเองลงมาทำที่ห้องนั่งเล่น ส่วนกมลก็เรียกลูกน้องเข้ามาคุยเรื่องงานที่จะต้องทำและเคลียคืนอีวานให้ได้มากที่สุด ตอนแรกกมลจะให้คิมเข้าไปนั่งทำงานในห้องทำงานด้วยกัน แต่คิมปฏิเสธเพราะไม่อยากเกะกะการคุยงานของกมล
..
..
..
“นายคิดว่ากมลจะจริงจังกับนายรึไง” เสียงของดานิลดังขึัน ขณะที่คิมนั่งเช็คเมลล์งานในห้องนั่งเล่น ร่างบางเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบเห็นดานิลที่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วยืนกอดอกมองตนอยู่
“ทำไมคุณไม่ไปถามคุณกมลล่ะครับว่าจริงจังกับผมจริงรึเปล่า” คิมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“หึ ดูนายจะมั่นใจมากเลยนะ” ดานิลพูดออกมาอย่างเยาะๆ ในใจก็รู้สึกหมั่นไส้คิมไม่น้อย
“คุณอยากคุยกับผมแค่เรื่องนี้เหรอครับ”คิมถามกลับด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ดานิลนั่งลงบนโซฟาข้างๆคิม ร่างบางขยับถอยห่างนิดๆ ทำให้ดานิลยกยิ้มมุมปากขึ้นมา
“กลัวชั้นรึไง” ดานิลถามกลับ
“กลัวเรื่องอะไรล่ะครับ” คิมย้อนกลับไปอีก ทำให้ดานิลหงุดหงิดกับท่าทีนิ่งเฉยของคิมเป็นอย่างมาก
“นายรู้ใช่มั้ยว่าพวกชั้นทำงานแบบไหน” ดานิลถามเสียงเข้ม
“รู้ครับ” คิมตอบกลับ
“รู้แล้วก็ดี เพราะนายก็คงจะรู้ว่าพวกชั้นกำจัดคนที่ขวางทางพวกชั้นยังไง” ดานิลพูดเป็นเชิงข่มขู่ คิมนิ่งไปนิด ดานิลใช้นิ้วเรียวมาเกลี่ยที่พวงแก้มใสของคิมเบาๆ คิมเบี่ยงหน้าหนีเล็กน้อย
“นายน่ะ รีบเดินออกไปจากชีวิตของกมลเสียตอนนี้ก็ยังไม่สายนะ เพราะกมลน่ะ เดินออกจากวงการนี้ไม่ได้หรอก คนธรรมดาอย่างนาย ไม่เหมาะที่จะเข้ามาอยู่ในโลกของพวกชั้น” ดานิลพูดเสียงจริงจัง คิมบีบมือทั้งสองข้างไม่แรงมากนัก ก่อนจะหายใจเข้าลึกๆ
“คุณไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ ผมจะออกไปจากชีวิตของคุณกมล ก็ต่อเมื่อคุณกมลไม่ต้องการผมแล้ว” คิมพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังกลับไปเช่นกัน ทำให้ดานิลยกยิ้มอย่างเยาะๆ
“มั่นคงจังนะ นายคงไม่กลัวอะไรเพราะคิดว่ามีกมลคอยเป็นแบ็คให้ แต่สำหรับคนใกล้ชิดของนายล่ะ ถ้าเค้าต้องมาเดือดร้อนเพราะนาย นายจะยอมนิ่งเฉยแบบนี้ได้มั้ย” ดานิลบอกออกมาอีก คิมหันไปมองหน้าดานิลด้วยแววตาไม่พอใจ
“คุณอย่ามายุ่งกับคนใกล้ตัวผมเด็ดขาด ถึงผมจะไม่ได้อยู่ในวงการเดียวกับพวกคุณ แต่ผมก็เป็นคนเหมือนกับพวกคุณ ผมไม่ยอมให้พวกคุณวุ่นวายกับคนใกล้ตัวผมแน่นอน” คิมบอกออกมาเสียงเข้ม
หมั่บ
“อ๊ะ!” คิมร้องออกมา เพราะดานิลกำเส้นผมทางด้านหลังของคิมแล้วออกแรงดึงให้คิมหน้าหงายขึ้นนิดๆ
“นายกล้าต่อกรกับพวกชั้นงั้นเหรอห้ะ” ดานิลถามเสียงเข้ม ดวงตาสีอ่อนมองคิมอย่างฉุนเฉียว
“ปล่อยคุณคิมเดี๋ยวนี้นะครับคุณดานิล” เสียงกิจดังขึ้น พร้อมกับจะเดินตรงเข้ามาหาดานิล บอดี้การ์ดของดานิลก็ไปยืนขวางเอาไว้ คิมจับมือของดานิลที่จิกเส้นผมตนเองอยู่ทางด้านหลังเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายดึงแรงไปมากกว่านี้
“นายกล้าสั่งชั้นเหรอหะ” ดานิลว่ากิจเสียงเข้ม
“ถ้านายรู้ว่าคุณดานิลทำอะไรคุณคิมล่ะก็ ผมคงไม่ต้องบอกใช่มั้ยครับ ว่าคุณดานิลจะเจอกับอะไร” กิจพูดขู่กลับไป เขาเองไม่อยากลงมือกับบอดี้การ์ดของดานิล เพราะเป็นพวกเดียวกัน
พรึ่บ!
ดานิลสะบัดมือออกจากเส้นผมของคิมทันที พร้อมกับจ้องหน้าคิมอย่างแค้นใจ
“ชั้นไม่มีวันวางมือเรื่องนี้แน่ นายเตรียมใจเอาไว้ได้เลยคิม กมลจะต้องกลับมาซบอกชั้น นายก็จะเป็นฝ่ายถูกเขี่ยทิ้ง” ดานิลลุกขึ้นด้วยท่าทีกระฟัดกระเฟียด ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นอย่างรวดเร็ว กิจรีบเดินเข้ามาหาคิมทันที
“เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณคิม” กิจถามเสียงเครียด คิมส่ายหน้าไปมา ในใจก็รู้สึกหวั่นใจกับท่าทีของดานิลนิดหน่อย
“ชั้นไม่เป็นอะไรมากหรอก อ่อ กิจ ไม่ต้องบอกคุณกมลเรื่องนี้นะ” คิมกำชับกิจเอาไว้
“แต่คุณคิมถูกคุณดานิลทำร้ายนี่ครับ” กิจบอกกลับเสียงเครียด
“ชั้นไม่ได้เป็นอะไรจริงๆ เมื่อกี้ คุณดานิลเค้าก็ไม่ได้ทำร้ายอะไรชั้นรุนแรงสักหน่อย นายอย่าตื่นตูมไปเลย ช่วงนี้เจ้านายของนาย เค้าพยายามเร่งเรื่องงาน ชั้นไม่อยากให้เค้ามากังวลเรื่องนี้ด้วย” คิมบอกเสียงจริงจัง กิจนิ่งคิด
“รับปากชั้นสิกิจ ว่านายจะไม่บอกคุณกมล” คิมย้ำเอาคำตอบ
“ครับ” กิจตอบรับ
“เค้าไม่กล้าทำร้ายชั้นรุนแรงหรอก ไม่ต้องห่วง” คิมบอกอีกครั้ง กิจถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องนั่งเล่น เพื่อให้คิมได้นั่งทำงานต่อ คิมนั่งหน้าเครียดนิดๆ ลำพังตัวเอง คิมไม่ค่อยห่วงเท่าไรนัก คิมห่วงคนใกล้ตัวที่ดานิลพูดถึงมากกว่า คิมไม่รู้ว่าดานิลจะหมายถึงใครบ้าง และคิมก็หวังว่าดานิลจะไม่ทำอะไรแบบนั้นจริงๆ
..
..
..
พรึ่บ
เสียงเปิดประตูห้องทำงานของกมลดังขึ้น ทำให้กมลละสายตาจากลูกน้องที่ยืนรับงานอยู่หันมามอง ก็พบว่าเป็นดานิลที่เดินเข้ามา
“ไม่มีใครสอนใช่มั้ย ว่าก่อนเข้าห้องคนอื่นให้เคาะประตูน่ะ” กมลพูดว่าออกมาเสียงเข้ม พร้อมกับมองดานิลด้วยสายตาดุๆ
“ไม่ต้องมามองชั้นด้วยสายตาแบบนั้นเลยนะ ชั้นอยากเข้ามาดูการทำงานของนายบ้าง ไม่ได้รึไง” ดานิลพูดว่ากลับไป
“ได้ แต่หัดมีมารยาทซะบ้าง” กมลตอบกลับ ก่อนจะหันมาสั่งงานลูกน้องต่อ อย่างไม่สนใจดานิลมากนัก ดานิลก็เดินหยิบจับโน่นนี่นั่นในห้องทำงานของกมลไปเรื่อย
“ยิว แกติดต่อคนของเราที่บ่อนอรัญฯ ให้สรุปรายได้ของเดือนที่แล้วมาให้ชั้น พร้อมกับบัญชีลูกหนี้ทั้งหมด ชั้นจะได้ให้คนทำบัญชีส่งต่อคืนให้กับอีวาน” กมลพูดขึ้น ทำให้ดานิลหันมามองอย่างรวดเร็ว
“นายว่าอะไรนะ! นายจะทิ้งรายได้ตรงนี้ไปงั้นเหรอ อีวานไม่ยอมแน่ อีวานไว้ใจให้นายเป็นคนคุมการฟอกเงินทั้งหมด นายจะทิ้งมันไปได้ไง และที่บ่อน เราก็ต่อยอดลูกค้าอาวุธได้อีกตั้งมากมาย” ดานิลโวยขึ้นมาทันที เมื่อได้ยินกมลพูดสั่งลูกน้อง
“นายอย่ามายุ่งกับเรื่องของชั้น และอย่ามาคิดแทนอีวาน ว่าอีวานจะยอมหรือไม่ยอม ชั้นไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ชั้นแค่ส่งคืนทุกอย่างให้กับพวกนายเท่านั้น” กมลพูดเสียงเรียบเย็น
“แล้วไหนนายบอกว่าจะคุยกับอีวานก่อน แต่นี่อะไร นายเตรียมการทุกอย่างหมดแล้ว หึ นายตั้งใจสินะว่าถ้าอีวานเสร็จธุระเมื่อไร นายก็จะส่งคืนทุกอย่างให้อีวานโดยไม่รอฟังคำอนุญาตจากอีวานเลยสักนิด” ดานิลพูดดักขึ้นมา กมลยกยิ้มนิดๆ
“ฉลาดเหมือนกันนี่” กมลพูดเยาะกลับไป
“นายอยากให้อีวานโกรธนายรึไงกมล นายไม่คิดบ้างว่า ถ้าอีวานไม่อนุญาต นั่นหมายถึงว่านายอาจจะต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง ไม่สิ บางที นายอาจจะต้องแลกด้วยชีวิตของนายก็ได้ มันคุ้มกันแล้วเหรอ กับแค่ผู้ชายคนเดียว” ดานิลถามกลับมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่ผู้ชายคนเดียวที่นายพูดถึง คือทุกสิ่งทุกอย่างของชั้น อะไรที่ทำให้เค้าสบายใจ พอใจ ชั้นก็จะทำ ต่อให้ชั้นต้องแลกด้วยชีวิตชั้นก็ยอม” กมลบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังกลับไปเช่นเดียวกัน
“นายมันบ้าไปแล้วกมล แล้วชั้นล่ะ ชั้นไม่สำคัญกับนายเลยรึไง ชั้นมาก่อนหมอนั่นด้วยซ้ำ แถมเราสองคนก็เข้ากันได้ดีทุกๆเรื่องด้วย” ดานิลบอกออกมาอีก ซึ่งกมลรู้ดีว่า ทุกๆเรื่องที่ดานิลพูดถึงรวมไปถึงเรื่องอะไรบ้าง
“มันใช่เรื่องที่เราจะมาคุยกันต่อหน้าลูกน้องของชั้นมั้ย ดานิล” กมลถามออกมาเสียงเข้ม
“งั้นพวกแกออกไปให้หมด ชั้นจะคุยกับเจ้านายของแก” ดานิลหันไปไล่ลูกน้องของกมลทันที ลูกน้องของกมลต่างหันมามองหน้าเจ้านายอย่างขอคำตอบ
“ดานิลอย่ามาออกคำสั่งกับคนของชั้น” กมลพูดพร้อมกับจ้องหน้าดานิลเขม็ง
ก๊อกๆ
ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดภายในห้องทำงานของกมลถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเคาะประตู ทำให้ทุกคนหยุดนิ่ง หันไปมองที่ประตูห้องทำงานทันที ประตูถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างบางของคิม คิมชะงักไปนิด เมื่อรับรู้ถึงบรรยากาศภายในห้องนี้
“เอ่อ…ผมเข้ามาขัดจังหวะอะไรรึเปล่าครับ” คิมถามขึ้นอย่างเกรงใจ
“ใช่!”
“ไม่”
ดานิลกับกมลพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“มาหาชั้น คิม” กมลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แตกต่างกับตอนที่คุยกับดานิลลิบลับ ให้ลูกน้องของกมลต่างลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่คิมเข้ามาคลี่คลายบรรยากาศได้บ้าง คิมเดินเข้าไปหากมล ในขณะที่ดานิลมองคิมอย่างเคืองๆ
“มีอะไรรึเปล่า” กมลถามเสียงอ่อนลง
“คือ..ผมจะเข้ามาถามว่าคุณกมลจะกินข้าวเที่ยงตอนไหน หรือจะเลทไปก่อน ผมจะได้บอกป้านี” คิมพูดขึ้น พร้อมกับมองหน้าดานิลนิดๆ
“นายจะกินตอนไหนล่ะ” กมลถามกลับ
“ก็กินพร้อมคุณนั่นแหละครับ” คิมตอบกลับไป
“งั้นสักเที่ยงครึ่งล่ะกัน นายเองจะได้ไม่ต้องหิ้วท้องรอชั้นนาน” กมลตอบยิ้มๆ
“แล้วคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ” คิมถามอีก กมลเลิกคิ้วขึ้นนิดๆอย่างแปลกใจ ที่วันนี้คิมดูจะเอาใจเขาเป็นพิเศษ
“ทำไม..” กมลกำลังจะพูดถาม
“อยากกินอะไรครับ” คิมถามย้ำพร้อมกับจ้องหน้ากมลนิ่งๆ ทำให้กมลยิ้มออกมานิดๆ เมื่อพอจะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมคิมถึงเอาใจตนเองแบบนี้
“อะไรก็ได้ ชั้นกินได้ทั้งนั้นแหละ” กมลตอบกลับเสียงนุ่ม ทำให้ดานิลที่ยืนอยู่เหมือนไร้ตัวตนออกอาการหงุดหงิดทันที
“นี่!! ชั้นยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน ช่วยเห็นหัวกันบ้าง” ดานิลโวยขึ้น คิมจึงหันไปมองดานิล
“แล้วคุณอยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ยครับ คุณดานิล” คิมถามกลับไปด้วยท่าทีปกติ แต่มันดูกวนประสาทในสายตาของดานิล
“ไม่กิน! ชั้นจะออกไปข้างนอก กมล ชั้นบอกไว้เลยนะ ชั้นไม่ยอมให้นายทิ้งทุกอย่างไปเด็ดขาด ชั้นจะขัดขวางเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด” พูดจบดานิลก็เดินกระแทกเท้าออกไปจากห้องทำงานของกมลทันที
“บทจะไปก็ไป บทจะมาก็มา อารมณ์แม่งไม่แน่นอนจริงๆ” กมลพูดบ่น
“ผมว่าเค้าคงไม่อยากเห็นคุณกับผมอยู่ด้วยกันมากกว่านะครับ” คิมพูดขึ้นลอยๆ
“เอาอีกแล้วคิม คิดเรื่องนี้อีกแล้ว” กมลว่าออกมา
“ผมพูดเรื่องจริงนะครับ เค้าคงอยากอ้อนคุณมากกว่านี้ แต่คงไม่กล้า เค้าดูเหมือนคนที่ต้องการความรัก ต้องการคนเอาใจใส่เค้าเท่านั้นเอง” คิมพูดบอกออกมา กมลนิ่งไปนิด
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น” กมลถามกลับมา
“ก็ผมเคยเป็นแบบเค้า แต่ไม่ได้แสดงออกแบบเค้าน่ะสิครับ” คิมพูดขึ้นมาเสียงแผ่ว ทำให้ทั้งห้องเงียบกริบ
“เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ เดี๋ยวชั้นขอทำงานต่ออีกหน่อย ถ้าตั้งโต๊ะอาหารเสร็จ นายเข้ามาเรียกชั้นล่ะกันนะคิม” กมลพูดบอก
“ครับ งั้นผมไปหาป้านีก่อนนะครับ” คิมตอบกลับก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานของกมล เพื่อไปหาป้านีในครัว
..
..
“//อเล็กซ์ นายไปสืบประวัติของนายคิมมาให้ชั้นด่วนที่สุด//”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“วันนี้ดานิลมาวุ่นวายอะไรกับนายรึเปล่า” เสียงของกมลดังขึ้นในช่วงหัวค่ำ หลังจากที่ทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ขึ้นมาบนห้องนอน คิมชะงักไปนิด
“เปล่านี่ครับ ก็แค่เดินมาพูดนั่นพูดนี่นิดหน่อยเท่านั้นเอง” คิมตอบกลับท่าทีปกติ ดานิลออกไปข้างนอกกับบอดี้การ์ดตั้งแต่ก่อนเที่ยง และยังไม่ได้กลับเข้ามา
“พูดอะไร” กมลถามซ้ำด้วยความอยากรู้ คิมหันไปยิ้มให้อย่างเอาใจ
“ไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ แล้วนี่คุณจะอาบน้ำเลยรึเปล่า ผมจะได้เตรียมชุดให้” คิมถามขึ้น กมลเดินเข้ามาหอมแก้มใสเบาๆ
“ยังหรอก เดี๋ยวชั้นจะลงไปทำงานต่อ คืนนี้นายนอนก่อนได้เลยนะ ไม่ต้องรอชั้น” กมลบอกเสียงจริงจัง
“ทำงานที่ห้องทำงานหรือว่าออกไปข้างนอกครับ” คิมถามทันที กมลยิ้มอ่อนๆ
“ทำในห้องทำงานเนี่ยแหละ พรุ่งนี้ถึงจะออกไปที่สำนักงานและดูผับที่ไฟไหม้หน่อย” กมลตอบกลับ
“งั้นก็อย่าดึกมากนะครับ อย่าให้ผมลงไปตามนะ” คิมพูดขู่ขึ้น ทำให้กมลหัวเราะขำในลำคอเบาๆ
“มีกำหนดเวลามั้ย” กมลแกล้งถาม คิมทำท่านึก
“อืมมม ให้เวลาถึง ตี 3 ล่ะกัน ตกลงมั้ยครับ” คิมบอกกลับ กมลยิ้มรับ ก่อนจะจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากบางของคิม
“ตกลงครับ งั้นชั้นลงไปทำงานต่อก่อนนะ” กมลบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะเดินออกไปจากห้องนอน โดยมีคิมเดินไปส่งที่หน้าประตูห้อง
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ใครที่อยากกินมาม่า แล้วยอนิมไม่มีให้กิน
ก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ