ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 28

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 28

 

Author: 여님  (ยอนิม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ไปตอนนี้เลยเหรอครับ” ลพถามกลับมา

 

 

 

“ใช่ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ถ้านายไม่พาชั้นไป ชั้นจะนั่งแท็กซี่ไปเอง” คิมบอกเสียงเข้ม

 

 

 

“ครับๆ พาไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” ลพบอกกลับอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบตรงไปที่รถ พร้อมกับคิม

 

“คุณคิมจะให้ผมพาไปที่ไหนเหรอครับ” ลพถามขึ้นขณะขับรถ

 

 

 

“แล้วเจ้านายของนายอยู่ที่ไหนล่ะ ชั้นรู้นะว่านายรู้” คิมพูดดักทางขึ้น ลพอึกอักนิดๆ

 

 

 

“ก็รู้แหละครับ แต่ถ้าเราไปถึงแล้วนายออกไปที่อื่นหรือว่ากำลังจะกลับบ้านล่ะครับ” ลพถามกลับ

 

 

 

“ก็ตามหาเค้าต่อสิ” คิมตอบออกมาอย่างเอาแต่ใจ ตอนนี้ร่างบางว้าวุ่นใจเป็นอย่างมาก เพราะคิมไม่รู้ว่ากมลกำลังคิดและรู้สึกยังไง ร่างนั่งบีบมือตัวเองไปตลอดทาง ถึงแม้ว่าสายตาจะมองออกไปนอกรถ แต่สติกับเหม่อลอย คิดวกวนเรื่องของตนเองกับกมลให้วุ่นไปหมด ใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ลพก็พาคิมมาถึงผับของกมล ลพลอบถอนหายใจเบาๆ เมื่อเห็นรถของกมลจอดอยู่ ซึ่งแปลว่ากมลยังอยู่ในร้าน ไม่ได้ไปไหน เมื่อรถจอดสนิท คิมก็ลงจากรถอย่างรวดเร็ว ร่างบางเดินตรงไปที่ประตูทางเข้าหลังร้านทันที

 

 

 

“คุณคิม มาได้ไงครับ” กิจถามขึ้นเสียงเครียดเมื่อเห็นคิมเดินเข้ามา ก่อนจะมองเลยไปที่ลพที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับทำหน้าแหยๆ

 

 

 

“คุณกมลอยู่ที่ไหน” คิมถามขึ้นเสียงเครียด

 

 

 

“คุณคิมครับ ผมว่าคุณกลับก่อนดีกว่านะครับ ช่วงนี้นายวุ่นมากอยากจะเร่งงานให้เสร็จเร็วๆ ผมว่าอย่าพึ่งกวนนายเลยนะครับ” กิจพูดขึ้นเสียงเรียบเพื่อกล่อมคิมให้กลับบ้าน

 

 

 

“มันวุ่นมาก เร่งมากจนคุยกับชั้นสักนาทีสองนาทีไม่ได้เลยเหรอหะ หลบไปกิจ ชั้นจะขึ้นไปหาคุณกมล” คิมว่าออกมาเสียงเข้ม กิจมีสีหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

 

 

 

พรึ่บ!

 

 

คิมผลักกิจให้พ้นทางแล้วเดินตรงไปยังบันไดที่ขึ้นชั้นสองทันที กิจเองก็ไม่กล้ารั้งตัวของคิมเอาไว้ ร่างบางเดินขึ้นบันไดไปยังห้องรับรองที่ตนเองเคยมาก่อนหน้านี้

 

 

 

พลั่ก!

 

 

ประตูห้องรับรองถูกเปิดออกทันที เพราะคิมไม่คิดจะเคาะเพื่อมารยาทอะไรแล้ว ทำให้กมลที่นั่งคุยอยู่กับลูกน้องเงยหน้าขึ้นมามองทันที

 

“คิม” กมลเรียกคิมอย่างอึ้งๆ ไม่คิดว่าร่างบางจะมาหาตนเองถึงที่

 

 

 

“ผมมีเรื่องต้องคุยกับคุณ” คิมพูดเสียงสั่น เมื่อเห็นหน้ากมล ความรู้สึกบางอย่างก็ตีตื้นขึ้นมาจุกอก กมลหันไปมองหน้าลูกน้องที่อยู่ในห้อง พร้อมกับพยักหน้าส่งสัญญานให้ทุกคนออกไปจากห้องก่อน ทุกคนก็เดินออกไปแต่โดยดี กมลยกมือขึ้นมากุมขมับ เขาไม่คิดว่าคิมจะมาหาตนเองถึงที่

 

 

 

“มีอะไร แล้วนี่นายมาได้ยังไง” กมลถามเสียงเครียด คิมจ้องหน้ากมลอย่างสังเกต กมลนั่งลงที่โซฟาด้วยท่าทีเหนื่อยๆ คิมดวงตาร้อนผ่าวเมื่อเห็นท่าทีเฉยเมยของกมล ท่าทีที่ไม่เหมือนกับทุกครั้งที่เจอกันหรืออยู่ด้วยกัน

 

 

 

“ผมมาไม่ได้เหรอครับ” คิมถามกลับไป

 

 

 

“มาได้ แต่ชั้นไม่เข้าใจว่านายมาทำไม ชั้นงานยุ่งมากนายก็รู้” กมลบอกออกมาอีก คิมเม้มริมฝีปากเข้าหากัน

 

 

 

“เมื่อคืนคุณไม่กลับบ้าน ทั้งๆที่คุณบอกผมว่าจะกลับ” คิมพูดถามขึ้นมาก่อนที่จะถามเรื่องที่คาใจ

 

 

 

“โทษที ชั้นดื่มมากไปหน่อย” กมลบอกเสียงอ่อนลง

 

 

 

“คุณโกหก” คิมพูดเสียงสั่น ทำให้กมลที่นั่งก้มหน้า เงยหน้าขึ้นมามองคิมที่ยืนอยู่ทันที

 

 

 

“โกหกอะไร” กมลถามกลับอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

“เมื่อคืนคุณไม่ได้เมา แต่คุณไม่อยากกลับไปบ้าน ไม่อยากกลับไปหาผมใช่มั้ย” คิมถามออกมาอีก พยายามกลืนก้อนสะอื้นไม่ให้ออกมาให้กมลรับรู้

 

 

 

“คิม ไปกันใหญ่แล้ว” กมลพูดเสียงเครียด

 

“กลับบ้านก่อน ตกลงมั้ย มีอะไรไปคุยกันที่บ้าน” กมลบอกกลับ

 

 

 

“แล้วจะคุยกันได้ยังไง ในเมื่อคุณไม่กลับบ้าน” คิมพูดถามขึ้นมา ทำให้กมลนิ่งไปนิด

 

“คุณรู้เรื่องหมดแล้วใช่มั้ย” คิมถามเสียงสั่นเครือ ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำใสๆ คิมรู้สึกแย่มากๆ ที่ตนเองไม่ได้บอกเรื่องทุกอย่างกับกมลด้วยตัวเอง

 

“คุณอย่าเงียบสิคุณกมล! บอกผมมาสิ ว่าคุณรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้วใช่มั้ย” คิมถามย้ำอีก

 

 

 

“นายพูดเรื่องอะไร ชั้นไม่เห็นจะเข้าใจ” กมลถามกลับเสียงเรียบ แต่คิมก็รู้ดีว่ากมลรู้และเข้าใจว่าคิมหมายถึงอะไร เพียงแต่กมลทำเป็นไม่รู้เท่านั้น ซึ่งคิมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมกมลถึงต้องทำเป็นไม่รู้เรื่อง

 

 

 

“ผมรู้เรื่องจากคุณดานิลหมดแล้ว คุณรู้เรื่องทุกอย่าง รู้เรื่องที่ผมกับดะ..” คิมกำลังจะพูดต่อ

 

 

 

“หยุดพูดได้แล้วคิม! กลับบ้านไปซะ ชั้นบอกแล้วไงว่าไปคุยกันที่บ้าน” กมลพูดขัดขึ้นมาก่อน ก่อนที่คิมจะพูดจบ ทำให้ร่างบางดวงตาร้อนผ่าว

 

 

 

“แต่ผมอยากคุยตอนนี้ ที่นี่ ผมไม่ได้อยากจะปิดคุณนะคุณกมล ผมอยากบอกคุณมาตลอด แต่ผมไม่มีโอกาสจะบอก ผมเองก็ไม่คิดว่าโลกมันจะแคบแบบนี้ด้วย” คิมพูดเสียงสั่นเครือ

 

 

 

“หยุดพูดเรื่องนี้ ตอนนี้ คิมพูดง่ายๆหน่อย ฟังชั้น กลับไปบ้านก่อน เย็นนี้เราค่อยคุยกันตกลงมั้ย” กมลพยายามกล่อมให้คิมกลับบ้านก่อน เพราะเขามีเรื่องต้องจัดการก่อนเรื่องของคิมเช่นกัน ร่างบางที่ได้ยินก็เกิดอาการน้อยใจ น้ำตาใสไหลลงมาอาบแก้ม โดยที่กมลไม่เห็น เพราะร่างแกร่งหันหน้าไปอีกทางเพื่อสะกดอารมณ์ตนเอง

 

 

 

“ฮึกก…คุณ..โกรธผม หรือคุณรับไม่ได้ คุณบอกมาเลยคุณกมล ฮึกก ผมจะได้รู้ตัว..ฮึกก  แต่ถ้าให้ผมเดา..คุณคงรับไม่ได้สินะ” คิมพูดเสียงสะอื้น ทำให้กมลหันมามองคิมทันที

 

 

 

“คิม นายจะร้องไห้ทำไม อย่าเป็นแบบนี้สิ” กมลเอื้อมมือจะมาจับแขนของคิม แต่คิมเบี่ยงหนี พร้อมกับพยักหน้าช้าๆ ทั้งน้ำตา

 

 

 

“ฮึกก..ผมเข้าใจแล้ว..เข้าใจสถานะของตัวเองตอนนี้แล้ว” คิมพูดพร้อมกับขยับตัวจะเดินออกจากห้องรับรอง แต่กมลคว้าแขนของร่างบางเอาไว้ได้ก่อน

 

 

 

“คิม นายกำลังเข้าใจผิดนะ” กมลพูดเสียงเครียด พยายามยื้อร่างบางเอาไว้ แต่คิมก็ปัดป้องกมลไม่ให้โดนตัวตนเอง

 

 

 

“ฮึกก..ปล่อยผม” คิมร้องสะอื้น ทำให้กมลรู้สึกจุกในอกไม่น้อย

 

 

 

Tru…Tru…Tru

 

 

เสียงโทรศัพท์ของกมลดังขึ้น ทำให้กมลชะงักไปนิดพร้อมกับหันไปมอง

 

 

 

…อีวาน….

 

 

 

กมลเผลอปล่อยมือที่จับคิมเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา เพราะเป็นเบอร์ที่เขารอมาหลายวัน

 

 

 

พรึ่บ!

 

 

“คิม!!” กมลเรียกคิมเสียงดังลั่น เมื่อคิมสะบัดตัวจากแขนของกมลได้และเดินตรงออกไปนอกห้องอย่างรวดเร็ว เสียงโทรศัพท์ของกมลดังขึ้นต่อเนื่อง และกมลต้องรับสายนี้ให้ได้ ร่างแกร่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพร้อมกับวิ่งมาที่ประตูห้องรับรอง ส่วนคิมก็เดินลงบันไดไปแล้ว ลูกน้องของกมลยืนงงกันอยู่ เพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องพักรับรอง

 

“ไอ้ลพ!! พาคิมกลับบ้าน เฝ้าไว้อย่าให้คิมออกไปไหนเด็ดขาด” กมลตะโกนสั่งเสียงดังลั่น

 

 

 

“ครับ!!” เสียงลพดังขึ้นตอบรับทันที

 

 

 

“ไอ้กิจโทรเร่งไอ้เดย์ให้มาหาชั้นเร็วๆด้วย!! เอากับเมียอยู่รึไงวะ แม่งช้าฉิบ” กมลโวยขึ้นอีก ก่อนจะปิดประตูห้อง เพื่อรับสายจากอีวาน ถึงแม้ว่าอยากจะตามคิมไปก็ตามที แต่กมลก็ต้องจัดการเรื่องที่ตนเองเริ่มไว้ให้เสร็จ

 

..

 

..

 

“คุณคิมครับ จะไปไหนครับ” ลพรีบวิ่งตามคิมมาถึงถนน

 

 

 

“ไม่ต้องมายุ่ง!” คิมโวยใส่ลพทั้งๆที่ยังสะอื้นอยู่ ฝ่ามือเรียวยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวกๆ

 

 

 

“กลับบ้านกับผมนะครับ ผมขอล่ะ ถ้าคุณคิมไม่กลับ ผมโดนเล่นงานแน่ๆ” ลพพูดขึ้นมาเพื่อให้คิมรู้สึกใจอ่อนและเห็นใจ คิมมองหน้าลพ ในใจก็ไม่อยากให้ลพต้องพลอยลำบากเพราะตนเองด้วย

 

 

 

“ฮึกก..ก็ได้ นายพาชั้นกลับบ้านที” คิมพูดเสียงสะอื้น จนลพอดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้ เพราะไม่เคยเห็นคิมร้องไห้แบบนี้มาก่อน คิมเดินกลับมาที่รถแล้วขึ้นไปนั่ง ลพก็รีบขับพาคิมกลับบ้านทันที เมื่อไปถึงบ้าน คิมก็ตรงขึ้นไปบนห้องนอน ท่ามกลางความตกใจของป้านีและคนอื่นๆไม่น้อย เมื่อเห็นคิมเดินร้องไห้ตาบวมแดงเข้ามา

 

 

 

“ลพ คุณคิมเป็นอะไร” ป้านีเดินมาถามลพทันที

 

 

 

“ไม่รู้เหมือนกันป้า แต่น่าจะทะเลาะกับนาย” ลพบอกเสียงเครียด

 

 

 

“ทะเลาะอะไรกันนะ ถึงกับร้องห่มร้องไห้แบบนี้” ป้านีบ่นออกมาอย่างกังวล ส่วนคิมเมื่อเดินขึ้นไปบนห้องนอนก็เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบกระเป๋าตนเองออกมาทันที คิมเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋าพร้อมกับของใช้อื่นๆที่จำเป็น คิมรู้สึกน้อยใจ เสียใจ ที่กมลมีท่าทีแบบนั้นกับตนเอง แต่คิมก็ยอมรับสภาพว่าตนเองผิดจริงๆ ที่ไม่ได้บอกเรื่องทั้งหมดให้กมลรับรู้ ไม่แปลกที่กมลจะรู้สึกไม่ดีหรือรับไม่ได้ คิมมองห้องนอนรอบๆเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหิ้วกระเป๋าตนเองลงมา

 

 

 

“คะ..คุณคิมจะไปไหนครับ” ลพรีบเข้ามาดักคิมเอาไว้ทันที เมื่อเห็นคิมหิ้วกระเป๋าลงมา

 

 

 

“ชั้นจะกลับคอนโดของชั้น” คิมพูดบอกเสียงแผ่ว และทำท่าจะเดินเลี่ยงลพ แต่ลพก็ขวางเอาไว้

 

 

 

“ไม่ได้ครับ นายสั่งไว้ว่าไม่ให้คุณคิมไปไหน คุณคิมอยู่คุยกับนายก่อนเถอะนะครับ” ลพรีบพูดบอก

 

 

 

“ชั้นจะอยู่ทำไม ชั้นทำให้เจ้านายของนายรู้สึกไม่ดี รู้สึกแย่  แล้วเค้าก็คงไม่ต้องการชั้นแล้วล่ะ” คิมพูดขึ้น ลพส่ายหน้าไปมา

 

 

 

“คุณคิมคงเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ ไม่มีทางที่นายจะไม่ต้องการคุณคิมหรอกครับ” ลพพยายามกล่อมอีก แต่คิมก็เหมือนจะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ร่างบางจะเดินหนี ลพเลยตัดสินใจแย่งกระเป๋าของคิมมาถือไว้

 

“ขอโทษครับคุณคิม แต่ผมปล่อยให้คุณคิมออกไปจากที่นี่ไม่ได้ …มีใครอยู่แถวนี้บ้าง!” ลพตะโกนเรียกคนอื่นๆ ลูกน้องของกมลหลายคนเดินเข้ามา

 

“ทุกคนคอยดูคุณคิมเอาไว้ อย่าให้คุณคิมออกไปจากที่นี่เด็ดขาด เจ้านายสั่งเอาไว้” ลพบอกกับทุกคน ทุกคนพยักหน้ารับรู้ทันที คิมหันมามองหน้าลพอย่างขอร้อง แต่ลพก็ส่ายหน้าไปมา

 

“ขอโทษครับ ผมทำตามหน้าที่” ลพพูดขึ้น คิมเม้มปากเข้าหากันนิดๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง ทำให้ลพถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ

 

 

 

“ฮึกก…ฮืออ” เสียงสะอื้นของคิมดังขึ้น ภายในห้องนอนอยู่สักพักใหญ่ๆ ก่อนจะเงียบเสียงไป

 

..

 

..

 

..

 

“คุณคิมจะไปไหนครับ” ลพถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นคิมเดินลงมาจากห้องนอนอีกครั้ง

 

 

 

“ชั้นจะไปเดินเล่น นายไม่ต้องกลัวหรอก ชั้นคงหนีไปไหนไม่ได้” คิมพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะเดินออกไปทางหลังบ้าน คิมไม่อยากนอนอยู่บนห้องนอนที่มีแต่ความทรงจำระหว่างตนเองกับกมล เพราะยิ่งอยู่ ก็ยิ่งเจ็บ คิมจึงลงมาเดินเล่น ร่างบางเดินตรงไปที่กรงเสือเบงกอล

 

 

 

“คุณคิมครับ จะเข้าไปที่กรงเสือเหรอครับ” ลูกน้องของกมลคนหนึ่งถามขึ้นเมื่อเห็นคิมเดินไปทางกรงเสือ

 

 

 

“อืม นายไม่ต้องห่วงหรอก ชั้นคุ้นเคยกับพวกมันแล้ว” คิมตอบเสียงแผ่ว ดวงตาคู่สวยยังคงบวมแดงอยู่

 

 

 

“ให้ผมไปเป็นเพื่อนเถอะครับ” ลูกน้องของกมลบอกออกมาด้วยความเป็นห่วง คิมยืนนิ่ง ก่อนจะยอมพยักหน้ารับ ร่างบางเดินตรงไปที่กรงเสือ ก็เห็นวิปครีมนอนเลียขนอยู่ในกรงไม่ไกลจากกรงเหล็กมากนัก พอเห็นคิม วิปครีมก็รีบลุกเดินตรงเข้ามาหา คิมขยับเข้าไปใกล้ๆกรงเสือ พร้อมกับยื่นมือเข้าไป ดวงตาคู่สวยมองวิปครีมด้วยความรู้สึกที่เศร้าหมอง วิปครีมเอาใบหน้าใหญ่มาถูที่มือของคิม พร้อมกับขยับเข้ามาใกล้เหมือนกับอยากจะปลอบ คิมยิ้มออกมาอ่อนๆ แล้วย่อตัวนั่งลงช้าๆ วิปครีมเอาหัวมาถูกับกรงเหล็ก คิมจึงลูบหัวลูบหลังเกาคอเท่าที่มือจะเอื้อมถึงได้ ส่วนคลีโม ยังคงนอนอยู่บนขอนไม้ใหญ่มองมานิ่งๆ

 

 

 

//ชั้นอยากกอดพวกนายสองตัวแบบไม่มีเหล็กกั้นบ้างจัง// คิมพูดพึมพำเบาๆ ดวงตาก็ร้อนผ่าวอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจหันมาหาลูกน้องของกมล

 

“เปิดกรงให้ชั้นหน่อย ชั้นจะเข้าไปข้างใน” คิมพูดขึ้น จะว่าคิดสั้นก็ได้ คิมอยากเข้าไปข้างใน อยากเข้าไปกอดวิปครีมให้เต็มรัก เพราะไม่รู้ว่าตนเองจะได้กอดพวกมันอีกมั้ย ถ้าเกิดกมลยอมรับเรื่องของคิมไม่ได้ คิมก็คงต้องกลับไปอยู่ที่เดิม ที่ของตนเอง แต่มันก็เสี่ยงไม่น้อย เพราะคลีโม ยังไม่เข้าหาคิมเหมือนกับวิปครีม

 

 

 

“จะดีเหรอครับ พี่คมไม่อยู่ด้วย” ลูกน้องของกมลลังเล

 

 

 

“เปิดสิ ชั้นบอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไร” คิมต้องพูดสั่งไปเสียงเข้ม ทำให้ลูกน้องของกมลรีบเดินไปยังทางเข้ากรงเสือ คิมลุกขึ้นเดินตามไปทันที

 

“ปิดกรงด้วย ชั้นขออยู่ข้างในกับสองตัวนี่ นายไม่ต้องห่วง ชั้นไม่เป็นอะไร” คิมพูดบอกกับลูกน้องของกมลอีกครั้ง

 

(อย่างมากก็แค่ถูกเสือตะปบตายเท่านั้น) คิมคิดต่อในใจ ลูกน้องของกมลหน้าเครียด แต่ก็ไม่อยากขัดคำสั่งของคิม จึงยอมถอยออกไปยืนนอกกรงพร้อมกับปิดประตูให้คิมอยู่ข้างในกรงเสือ คิมเดินเข้าไปหาวิปครีม พร้อมกับนั่งลงที่ขอนไม้

 

 

 

“จะฆ่าตัวตายรึไงห้ะ” เสียงเข้มของดานิลดังขึ้น ทำให้คิมหันไปมองพบว่าดานิลยืนอยู่นอกกรงห่างออกไปไม่มากนัก

 

 

 

“ผมก็แค่เข้ามาเล่นกับวิปครีม” คิมตอบกลับไป รู้สึกโกรธดานิลอยู่เหมือนกัน แต่อีกใจก็คิดว่าโกรธไปก็เท่านั้น เพราะมันเป็นเรื่องจริง

 

 

 

“เจ้าสองตัวนี่มันเล่นด้วยง่ายที่ไหนล่ะ ทำไม พอรู้ว่ากมลรู้เรื่องทุกอย่างก็อยากจะตายเลยรึไง” ดานิลถามขึ้นมาอีก คิมเม้มปากเข้าหากัน ส่วนดานิลก็ยืนมองด้วยสีหน้าเครียดๆ เมื่อเห็นวิปครีมเดินตรงเข้าไปหาคิม

 

“ชั้นว่านายออกมาเถอะ” ดานิลพูดบอกอีก แต่คิมก็ไม่สน วิปครีมเดินตรงมาพร้อมกับเอาหัวมาถูไถลำตัวของคิม ก่อนจะดันหัวเข้าไปที่อกของคิมเหมือนกับการคลอเคลีย ทำให้ดานิลนิ่งอึ้งไปนิด คิมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้รับสัมผัสจากวิปครีม ทำให้ดวงตามีหยาดน้ำตาเอ่อคลออีกครั้ง

 

 

 

“คุณคงพอใจแล้วสินะครับ ที่บอกความจริงเรื่องของผมให้คุณกมลรู้หมดทุกอย่างแล้ว” คิมพูดขึ้นเสียงสั่น ดานิลยืนกอดอกมองนิ่งๆ ก่อนจะหันไปมองลูกน้องของกมล

 

 

 

“แกน่ะ ออกไป ชั้นขออยู่กับหมอนี่ตามลำพัง” ดานิลพูดกับลูกน้องของกมล

 

 

 

“แต่..” ลูกน้องของกมลทำท่าจะค้าน

 

 

 

“ไปสิ!! หรือแกกล้าขัดคำสั่งของชั้นห้ะ” ดานิลบอกเสียงลั่น ทำให้ลูกน้องของกมลจำต้องถอยออกมาแล้วเดินเลี่ยงออกไป แต่ก็ไม่ไกลมากนัก ดานิลเดินเข้าใกล้กรงเสืออีกนิด

 

“ที่นายถามเมื่อกี้ ชั้นตอบเลยว่าใช่ ชั้นพอใจมาก แต่นายเองก็น่าจะขอบคุณชั้นนะ ที่ทำให้นายรู้และเข้าใจว่า กมลรับเรื่องนี้ไม่ได้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่าง นายเองก็จะได้ไม่ถลำลึกไปมากกว่านี้ด้วย ชั้นทำให้นายตาสว่างขึ้นนะ” ดานิลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะๆนิดๆ

 

 

 

“ครับ ผมตาสว่างแล้ว” คิมบอกเสียงสั่นเครือ มือก็ทั้งลูบและเกาให้วิปครีมอยู่เรื่อยๆ ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้ จึงหันมาหาดานิล

 

“คุณคงอยากให้ผมออกไปจากชีวิตของคุณกมลมากสินะครับ” คิมถามกลับไป

 

 

 

“ใช่” ดานิลตอบกลับทันที

 

 

 

“ผมเคยบอกคุณไว้ว่า ผมจะไปก็ต่อเมื่อคุณกมลไม่ต้องการผมแล้ว และตอนนี้ผมคิดว่าเค้าเองก็คงไม่ต้องการผมแล้วล่ะครับ” คิมบอกออกมา

 

 

 

“แปลว่านายจะยอมไปจากกมลแต่โดยดี” ดานิลถามกลับทันที

 

 

 

“ครับ ผมจะไปจากเค้า…ถ้าผมออกไปได้” คิมพูดขึ้นเสียงแผ่ว

 

 

 

“ชั้นจะพานายออกไปเอง เอามั้ย” ดานิลเสนอขึ้น เพราะได้ยินมาว่ากมลสั่งให้คนเฝ้าคิมเอาไว้ ซึ่งดานิลเองเข้าใจได้ในทันทีว่า กมลไม่คิดจะปล่อยคิมไป เพียงแต่คิมเองที่คิดว่ากมลไม่ต้องการตนเอง ซึ่งดานิลจะใช้สิ่งที่คิมคิด พาคิมออกไปจากชีวิตของกมล

 

 

 

“คุณจะพาผมออกไปได้ยังไง ในเมื่อมีคนเฝ้าผมตั้งมากมาย ผมไม่เข้าใจ ทั้งๆที่เค้าแสดงออกชัดเจนว่ารับเรื่องของผมไม่ได้ แต่เค้าก็ยังให้คนเฝ้าผมไว้” คิมพูดขึ้นเสียงสั่น

 

 

 

“กมลคงต้องการมาพูดกับนายให้ชัดเจนน่ะสิ กมลไม่ชอบทำอะไรให้ค้างๆคาๆ ต้องเคลียให้จบทีเดียว ถ้านายไม่อยากเจ็บกับคำพูดของกมล ชั้นว่านายควรรีบออกไปจากที่นี่จะดีกว่านะ” ดานิลพูดเป็นเชิงเร่งปฏิกิริยาของคิม เพราะไม่อยากให้คิมฉุกคิดว่าจริงๆแล้วกมลไม่ปล่อยให้คิมไปจากชีวิตของกมล

 

“แล้วอีกอย่างชั้นพานายออกไปได้แน่นอน นายไม่ต้องห่วง” ดานิลพูดเสียงมั่นใจ คิมหน้าเศร้าลงนิดๆ

 

 

 

“ครับ ผมจะไปจากที่นี่ แต่ผมขอลาเจ้าพวกนี้ก่อนได้มั้ย” คิมพูดขอขึ้นมา ดานิลพยักหน้ารับ คิมหันมาหาวิปครีมที่คลอเคลียตนเองอีกครั้งน้ำตาใสไหลลงมาอาบแก้มนวล เมื่อรู้ว่าตนเองต้องจากที่นี่ไปจริงๆ

 

“ชั้นไปก่อนนะ..ฮึกก..วิปครีม น่าเสียดายที่ชั้นไม่ได้เล่นกับนายให้มากกว่านี้” คิมพูดเสียงสะอื้น ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นคลีโมขยับลุกลงจากขอนไม้ คิมนั่งตัวแข็ง ทั้งๆที่น้ำตาก็ไหล ไม่กล้าขยับตัวมากนักเมื่อเห็นคลีโมเดินเข้ามาใกล้ ดานิลเองก็มองหน้าเครียด

 

 

 

“ชั้นว่านายออกมาก่อนดีกว่า เจ้าคลีโมมันยิ่งไม่เอาใครอยู่ด้วย” ดานิลบอกกลับไป เพราะว่าดานิลไม่สามารถเล่นกับเสือทั้งสองตัวนี้ได้เลย แม้แต่วิปครีมก็ไม่เข้าหาดานิลเหมือนที่เข้าหาคิม  คิมนั่งนิ่ง เพราะรู้ตัวว่าถ้าวิ่งออกไปตอนนี้ก็คงไม่ทัน เพราะคลีโมกระโจนทีเดียวถึงตัวแน่ๆ สู้นั่งเฉยๆ คลีโมอาจจะไม่ทำอะไรตนเองก็ได้

 

 

 

“ครึ่กกกกกก” เสียงคำรามเบาๆในลำคอของคลีโม ทำให้คิมแทบหยุดหายใจ เสือเบงกอลขาวตัวใหญ่เดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ วิปครีมเองก็หันไปส่งสัญญานสื่อสารอะไรบางอย่างกับคลีโม คิมนั่งหลับตาลงเพราะคิดว่าตนเองต้องโดนคลีโมตะปบเข้าแน่นอน น้ำตาใสไหลลงมาเรื่อยๆ

 

 

 

“คลีโม!!” ดานิลเรียกคลีโมเสียงเข้ม แต่คลีโมก็ยังเดินเข้าหาคิมอยู่

 

..

 

..

 

 

แผล่บๆ

 

 

ความเย็นชื้นจากลิ้นสากเลียเข้าที่แก้มใสของคิมตรงรอยคราบน้ำตา ทำให้คิมนิ่งอึ้ง ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ หัวใหญ่โตของคลีโม ถูกับใบหน้าของคิม ทำให้คิมยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

 

 

 

“ฮึกก..คลีโม วิปครีม” คิมร้องไห้โฮพร้อมกับกอดคลีโมเอาไว้ เสือตัวใหญ่ที่หวงตัวทุกครั้งเวลาที่คิมมาหา กลับเข้ามาคลอเคลียเหมือนกับต้องการปลอบใจในวันนี้ วิปครีมกับคลีโม ต่างคลอเคลียคิมไปมา ดานิลยืนมองด้วยความอึ้งและประหลาดใจ

 

 

 

“พอได้แล้ว ออกมาสักทีจะได้รีบไป” ดานิลขยับเข้ามาเรียกคิมใกล้ๆอีกครั้ง เพราะกลัวว่ากมลจะกลับมาก่อน

 

 

 

“โฮกกก” เสียงคำรามของคลีโมดังขึ้นพร้อมกับหันตัวเดินไปหาดานิลเหมือนกับต้องการปกป้องคิม ทำให้ดานิลต้องรีบถอยออกห่างกรงอย่างรวดเร็ว ดานิลกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเมื่อเห็นสายตาของคลีโมที่จ้องมองมาเหมือนกับแค้นเคือง

 

 

 

“อย่านะคลีโม” คิมห้ามเสียงสะอื้น ทำให้คลีโมถอยกลับมาหาคิมอีกครั้ง คิมทั้งกอดและลูบไปทั่วทั้งตัวของเสือทั้งสอง

 

“ฮึกก…ชั้นจะไม่ได้อยู่กับพวกนายแล้วนะ…ฮึกก…ชั้นคงคิดถึงพวกนายมากแน่ๆ” คิมพูดขึ้น

 

“ลาก่อนนะ ฮึกก คลีโม วิปครีม” คิมพูดเสียงสะอื้นไห้ พร้อมกับลุกยืน คิมคิดว่าตนเองคงตาฝาด เมื่อเห็นเหมือนน้ำตาของวิปครีมไหลลงมาเปียกขนที่ใบหน้าด้วย คิมเดินถอยออกมาที่ประตูกรง วิปครีมก็เดินตาม จนคิมออกจากกรงพร้อมกับปิดประตู ดวงตาคู่สวยมองเสือทั้งสองด้วยสายตาหม่นๆ คิมเดินมาหาดานิลอีกครั้ง เสือทั้งสองก็เดินเลาะข้างกรงตามคิมเช่นเดียวกัน

 

“ผมพร้อมแล้วครับ ฮึกก..พาผมไปจากที่นี่ที” คิมพูดขึ้น ดานิลพยักหน้ารับ ก่อนจะพูดถึงแผนที่จะพาคิมออกไปจากบ้านของกมล ซึ่งดานิลบอกไม่ให้คิมเอาของออกไป เพราะเดี๋ยวดานิลจะเป็นคนเอาของตามออกไปทีหลัง ตอนนี้ให้คิมออกไปแต่ตัวก่อน แผนของดานิลไม่ยาก เพียงแค่ดานิลใช้ให้ลูกน้องของกมลไปทำโน่นทำนี่ ให้พ้นทางที่จะเดินไปยังโรงรถ พร้อมกับให้บอดี้การ์ดของตนเองคอยดักพวกลพเอาไว้ ให้แกล้งชวนคุยหรือสอบถามอะไรไปเรื่อย พอทางสะดวกดานิลให้คิมหลบในกระโปรงหลังรถเสียก่อน แล้วดานิลจะเป็นคนพาคิมออกไปเอง ซึ่งทุกอย่างก็สำเร็จตามแผน ตอนนี้คิมอยู่ในกระโปรงหลังรถที่มีดานิลขับออกมาจากบ้านของกมลเรียบร้อยแล้ว

 

 

แกร๊ก..

 

 

ดานิลเปิดกระโปรงหลัง เมื่อขับออกมาไกลจากบ้านของกมลพอสมควร

 

“ออกมาแล้วไปนั่งในรถได้แล้ว” ดานิลพูดเสียงนิ่ง คิมขยับลงจากกระโปรงรถแล้วขึ้นไปนั่งคู่กับดานิล

 

 

“คุณออกมาคนเดียวเหรอครับ” คิมถามขึ้นเมื่อเห็นว่าดานิลเป็นคนขับรถอยู่คนเดียว

 

 

 

“ใช่ ชั้นให้บอดี้การ์ดของชั้น ถ่วงเวลาลูกน้องของกมลเอาไว้ก่อนไงล่ะ” ดานิลบอกเสียงเรียบ คิมนั่งมองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างรถ

 

“นี่ ถามจริง นายรักกมลงั้นเหรอ” ดานิลถามขึ้นเมื่อคิมนั่งเงียบไปสักพัก

 

 

 

“ผมไม่ขอตอบได้มั้ยครับ” คิมตอบกลับมา ทำให้ดานิลขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ

 

 

 

“ทำไม” ดานิลถามกลับอย่างสงสัย

 

 

 

“เพราะคำนี้ ผมไม่อยากพูดให้คนอื่นฟัง และถ้าคนที่ผมอยากจะพูดคำนี้ด้วยเค้าไม่อยากรับฟัง ผมก็จะเก็บมันเอาไว้คนเดียวดีกว่าครับ” คิมพูดขึ้นเสียงแผ่ว

 

“แล้วคุณล่ะครับ คุณดานิล คุณรักคุณกมลรึเปล่า” คิมถามกลับไปบ้าง ทำให้ดานิลนิ่งเงียบ

 

 

 

“แล้วเรื่องอะไรชั้นต้องบอกให้นายรู้ด้วยล่ะ ทีนายยังไม่บอกชั้นเลย แล้วนี่จะให้ชั้นไปส่งที่ไหน” ดานิลถามขึ้น เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย

 

 

 

“ไปส่งผมที่คอนโดก็แล้วกันครับ ผมจะไปเก็บเสื้อผ้า หาที่พักผ่อนไกลๆสักระยะ” คิมพูดลอยๆ ตอนนี้สติของคิมมึนงงและเบลอไปหมดแล้วจากการร้องไห้

 

 

 

“อืม” ดานิลตอบรับในลำคอ แล้วก็ทำหน้าเครียด ดานิลเองก็รู้สึกติดค้างอะไรบางอย่างในใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่ไม่คิดจะพูดออกมา คิมบอกทางดานิล จนมาถึงคอนโด ดานิลมาจอดรถที่ลานจอดรถใต้คอนโด ซึ่งติดกับทางขึ้นลิฟท์  ร่างบางลงจากรถ แล้วเดินอ้อมมาทางฝั่งคนขับ

 

 

 

“ขอบคุณที่มาส่งนะครับ” คิมบอกเสียงแผ่ว

 

 

 

“นายตัดสินใจถูกแล้ว ที่ออกจากชีวิตของกมล เพราะว่านายขาวสะอาดเกินไป สำหรับวงการของพวกชั้น” ดานิลพูดเสียงเรียบ คิมยิ้มออกมาฝืนๆ ก่อนจะหันหลังเพื่อเดินจะไปที่ลิฟท์ ดานิลก็จะขับรถออก แต่สายตาของดานิลก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง ของรถยนต์คันหนึ่งที่จอดอยู่แต่ติดเครื่องเอาไว้

 

 

 

เอี๊ยดดด…

 

เสียงล้อรถเคลื่อนออกจากที่จอดเสียงดังลั่น แล้วพุ่งไปจอดใกล้ๆกับคิม ชายชุดดำสองคนลงมาจากรถแล้วตรงเข้าล็อคคิมเอาไว้

 

 

 

“พวกนายเป็นใคร!! ปล่อยนะ” คิมโวยวายขึ้นมาเมื่อถูกล็อคตัว ดานิลจอดรถทันทีพร้อมกับวิ่งตรงเข้ามาหา

 

 

 

“ปล่อยหมอนี่นะ” ดานิลพูดเสียงดังลั่น พร้อมกับตรงเข้ามาช่วยคิม ทันที

 

 

 

 

 

 

2   Be   Con

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

ตอนนี้มันดูมั่วๆเนอะ = =

 

ถ้ามันป่วงๆไปก็ขอโทษด้วยคร่า

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset