ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 29

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 29

 

Author: 여님  (ยอนิม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ผั่วะ! พลั่ก!!

 

 

ดานิลกระชากคอเสื้อชายที่กำลังจับแขนของคิมแล้วต่อยเข้าที่ใบหน้าอย่างจัง ก่อนจะถีบชายอีกคนให้ถอยห่าง แล้วจับคิมมายืนหลบด้านหลังตัวเองทันที

 

 

 

“คะ..คุณดานิล” คิมเรียกดานิลอย่างตกใจ ชายร่างใหญ่ทั้งสองถลาเข้ามาอีกครั้ง

 

 

 

“จับผู้ชายคนข้างหลังให้ได้” เสียงชายคนหนึ่งพูดเสียงดังลั่น พร้อมกับตรงเข้าจัดการกับดานิล แต่ด้วยความที่ดานิลมีศิลปะป้องกันตัวอยู่แล้ว จึงพยายามซัดอีกฝ่าย กันไม่ให้เข้ามาหาคิม แต่ด้วยความที่มือเจ็บจากเมื่อคืน ทำให้ดานิลป้องกันได้ไม่มากนัก

 

 

 

“คนพวกนี้มันเป็นใครหะคิม” ดานิลหลบหมัดอีกฝ่ายพร้อมกับถามคิมไปด้วย ดานิลพยายามกันคิมเอาไว้ไม่ให้ถูกจับตัวได้

 

 

 

“ผะ..ผมไม่รู้ คุณดานิล ระวังครับ” คิมบอกออกมาเสียงสั่น พร้อมกับร้องบอกดานิลเมื่ออีกฝ่ายเข้ามาด้านข้าง ดานิลหันไปเตะอัดท้องได้ทันเวลา

 

 

 

หมั่บ!

 

 

 คิมถูกชายอีกคนล็อคคอทางด้านหลังโดยไม่ทันตั้งตัว

 

 

 

พลั่ก!

 

 

คิมใช้ศอก ศอกเข้าไปที่ท้องของอีกฝ่ายแล้วหันไปต่อยเข้าที่สันจมูกจนอีกฝ่ายผงะถอย

 

 

 

“ใช้ได้นี่… อึ่ก” ดานิลที่หันมาเห็นและพูดชมคิม ถูกเตะเข้ากลางหลังจนถลามาด้านหน้า ตอนนี้คิมเองก็ต้องช่วยดานิลและระวังตัวเองด้วยเช่นกัน ดานิลนึกด่าตัวเองในใจที่ลืมหยิบปืนลงมาจากรถด้วย

 

 

 

เอี๊ยดดด

 

 

เสียงรถอีกคันตรงเข้ามาจอด ก่อนที่จะมีชายฉกรรจ์ลงมาจากรถอีกหลายคน

 

 

 

“เฮ้ย ทำอะไรอยู่วะ เดี๋ยวตำรวจก็แห่มาหรอก” ชายคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงเข้ม

 

 

 

“มีคนมาช่วยมันครับพี่” ชายคนที่เข้ามาจับคิมตอนแรกพูดขึ้น ตอนนี้ดานิลกับคิมอยู่ในวงล้อมของอีกฝ่าย

 

 

 

//ชิส์ หมาหมู่แบบนี้ ชั้นจะกันได้นานแค่ไหนวะ// ดานิลสบถออกมาเบาๆ

 

 

 

“คุณดานิลไม่เป็นอะไรใช่มั้ย” คิมถามดานิลด้วยความเป็นห่วง

 

 

 

“ห่วงตัวเองก่อนเหอะ ไอ้พวกนี้มันพวกใครกันแน่” ดานิลว่ากลับ แต่ก็คอยกันคิมเอาไว้ อีกฝ่ายเริ่มตรงเข้ามาจัดการกับดานิลและจะจับตัวคิมให้ได้อีกครั้ง ดานิลก็สู้เท่าที่จะสู้ได้ ลำพังแค่สองสามคน ดานิลคิดว่าตนเองรับมือไหว แต่นี่มากันเป็นสิบๆคน มือของดานิลก็เจ็บ แถมดานิลต้องคอยระวังคิมเอาไว้ด้วย ความจริง ดานิลไม่ต้องช่วยคิมก็ได้ แต่อะไรบางอย่างในใจ ทำให้ดานิลทิ้งคิมให้ถูกจับไม่ได้เช่นกัน กลุ่มชายฉกรรจ์ทั้งหมดต่างกรูเข้ามาหาดานิลและคิม ทั้งสองป้องกันตัวเองเต็มที่ แต่คิมก็พลาดถูกจับลากไปที่รถ

 

“คิม!!” ดานิลเรียกพร้อมกับวิ่งเข้าไปเพื่อจะช่วยคิม

 

 

 

“เสือกจังโว้ย” ชายคนหนึ่งโวยออกมาอย่างโมโห เมื่อเห็นว่าดานิลไม่ยอมให้จับคิมไปง่ายๆ

 

“ห่วงกันนักเอามันไปด้วยเลย” ชายคนเดิมพูด ก่อนที่ดานิลจะถูกจับขึ้นรถไปด้วยกันกับคิม

 

 

 

“ไอ้!!” ดานิลกำลังจะด่า แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายชักปืนขึ้นมาจ่อหัวของดานิลเอาไว้

 

 

 

“ไอ้ฝรั่ง ถ้ามึงไม่หุบปาก กูจะเป่าหัวมึง” ชายร่างใหญ่พูดเสียงเ**้ยม ก่อนจะให้ลูกน้องมัดมือและมัดปากของคนทั้งสองเอาไว้ คิมมองดานิลอย่างเป็นห่วงเพราะดานิลเจ็บตัวมากกว่าคิม เนื่องจากดานิลคอยกันไม่ให้คิมถูกจับเอาไว้ได้ คิมเริ่มคิดถึงกมลขึ้นมา ในขณะที่ดานิลเองก็หน้าเครียดไม่น้อย

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

“ชั้นสั่งไว้ว่ายังไงห้ะ!!!” เสียงกมลดังขึ้นลั่นบ้าน ทำให้ลูกน้องที่ยืนอยุ่ ต่างหลบสายตาก้มหน้ากันเป็นแถว

 

“ไอ้ลพ ชั้นบอกแกแล้วใช่มั้ย ว่าให้เฝ้าคิมไว้ดีๆน่ะหะ” กมลหันมาถามลพเสียงเข้ม ดวงตาแข็งกร้าว เพราะลพโทรไปบอกกับเขาในช่วงบ่าย 3 โมง ว่าคิมหายตัวไป ดานิลก็ไม่อยู่ ทิ้งบอดี้การ์ดเอาไว้ที่บ้าน

 

 

 

“นาย ใจเย็นก่อนเถอะครับ” คมพูดขึ้น เพราะเห็นใจลูกน้องคนอื่นๆ

 

 

 

“แกจะให้ชั้นใจเย็นได้ไง เมียชั้นหายไปทั้งคนนะเว้ย!!” กมลหันมาตะคอกใส่คมเสียงแข็ง

 

“//อเล็กซ์แกบอกชั้นมาสิว่าเจ้านายแกหายไปไหน!!//” กมลหันไปถามลูกน้องของดานิลบ้าง

 

 

 

“//ผมไม่ทราบครับ ผมเองก็ติดต่อคุณดานิลไม่ได้เหมือนกัน//” อเล็กซ์ตอบกลับตามตรง เพราะเขาเองก็เป็นห่วงเจ้านายที่ขาดการติดต่อไปเช่นกัน

 

 

 

“//เจ้านายแกเป็นคนพาคิมออกไปใช่มั้ย//” กมลถามอีก บอดี้การ์ดของดานิลสองคนหันมามองหน้ากันนิดๆ

 

“//บอกมาเดี๋ยวนี้!! ถ้าแกสองคนไม่บอก อย่าหาว่าชั้นใจร้ายก็แล้วกัน!!!ที่นี่มันบ้านชั้น ชั้นจะทำอะไรกับพวกแกก็ได้ อยากลองมั้ยล่ะห้ะ!!//” กมลพูดขู่ออกมา

 

 

 

“//ผมว่าคุณกมลรอคุยกับคุณดานิลดีกว่าครับ พวกผมไม่รู้เรื่องอะไรจริงๆ//” ลูกน้องของดานิลรอให้ดานิลอธิบายเอง เพราะทั้งสองก็ทำตามที่ดานิลสั่งอย่างเคร่งครัด

 

 

 

“ผมว่าเรารอคุณดานิลก่อนดีกว่าครับนาย ผมเชื่อว่าคุณคิมคงไปไหนได้ไม่ไกลหรอกครับ เราต้องหาตัวคุณคิมเจอแน่นอน” คมบอกกลับ กมลตัวสั่นทั้งตัวด้วยความโกรธ

 

 

 

“ไอ้กิจ! ไอ้ลพ ไปดูที่คอนโดของคิมเดี๋ยวนี้ ว่ากลับไปที่นั่นรึเปล่า ไอ้รุธแกไปดูที่สำนักงาน ไอ้ยิวแกพาคนไปสอดส่องดูแถวบ้านพ่อแม่ของคิม  คมแกโทรบอกไอ้เดย์ด้วยว่าถ้าคิมไปหาให้ติดต่อชั้นทันที” กมลสั่งงานลูกน้องเท่าที่พอจะจำได้ว่าคิมไปที่ไหนบ้าง

 

 

 

“ครับ!!”ลูกน้องของกมลตอบรับอย่างรวดเร็วและแยกย้ายกันไปทำงานตามที่เจ้านายสั่ง กมลกดโทรศัพท์โทรหาคิม ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีคนรับสาย

 

 

 

//รับสายชั้นสิคิม รับสายชั้น นายกำลังเข้าใจชั้นผิดนะ// กมลพึมพำด้วยความเป็นห่วง ส่วนลูกน้องของดานิลก็แยกตัวออกมาเพื่อติดต่อเจ้านายตนเองเหมือนกัน

 

..

 

..

 

..

 

..

 

พรึ่บ!!

 

 

คิมกับดานิลถูกเหวี่ยงเข้าไปในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ก่อนจะมีคนมาแกะผ้ามัดปากของทั้งสองคนออก

 

“พวกแกเป็นใคร” คิมถามขึ้นทันทีที่ปากเป็นอิสระ

 

 

 

“เดี๋ยวก็รู้เอง” ชายร่างใหญ่พูด ก่อนจะแก้มัดมือให้ทั้งสองคนด้วย

 

“อยู่กันเงียบๆ นิ่งๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” อีกฝ่ายพูดจบก็เดินออกไปจากห้องเล็กๆทันที ดานิลกับคิมได้ยินเสียงล็อคประตูจากด้านนอก

 

 

 

“อะไรกันวะ!” ดานิลโวยขึ้น ทำให้คิมหันไปมองดานิลทันที

 

 

 

“คุณเจ็บตรงไหนรึเปล่าคุณดานิล” คิมถามขึ้น ดานิลตวัดสายตามามองคิม

 

 

 

“ก็บอกแล้วไงว่าให้ห่วงตัวเองก่อนเหอะ” ดานิลบอกเสียงขุ่นๆ ตอนนี้ดานิลอยากรู้ว่าใครเป็นคนจับตัวคิมและเขามา

 

 

 

“ก็คุณถูกรุมมากกว่าผม ผมก็ต้องห่วงคุณมากกว่าตัวผมเองสิครับ” คิมพูดขึ้นเสียงเครียด

 

 “ความจริง คุณไม่น่ามาเดือดร้อนเพราะผมเลย พวกนี้มันต้องการตัวผมคนเดียวชัดๆ” คิมพูดบ่นพึมพำ

 

 

 

“ตกลงชั้นผิดรึไงห้ะ ที่กลับมาช่วยนายน่ะ” ดานิลว่าเสียงเข้ม

 

 

 

“………” คิมนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพราะคิมเองก็มึนงงกับสถานการณ์ตอนนี้มาก

 

 

 

“โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาลงมา ทำไมเราสะเพร่าแบบนี้วะ” ดานิลบ่นตัวเองเมื่อคลำหาโทรศัพท์ในกางเกงไม่เจอ ส่วนคิมก็ขยับไปนั่งหน้าเครียดนิ่งๆ อยู่ที่มุมห้อง ตอนนี้ใบหน้าคนที่ผุดขึ้นมาในสมองของคิมคนแรกก็คือกมล คิมไม่รู้ว่าป่านนี้กมลจะรู้เรื่องที่ตนเองหายออกจากบ้านของกมลรึยัง ไม่รู้ว่ากมลจะรู้รึเปล่าว่าคิมถูกจับตัวมา แล้วไม่รู้ว่ากมลจะมีปฏิกิริยายังไง

 

 

 

(อย่าคิดเข้าข้างตัวเองเลยคิม เค้าคงไม่ตามหาเราหรอก เราทำให้เค้าเสียความรู้สึกมากขนาดนั้นนี่) คิมคิดในใจ พร้อมกับรู้สึกเศร้าใจด้วยเช่นกัน ส่วนดานิลก็เดินสำรวจห้องเล็กๆอย่างหงุดหงิด เพราะไม่มีทางหนีออกได้เลย

 

 

 

“นี่! นั่งหงอยอยู่ทำไม มาช่วยกันหาทางออกไปจากที่นี่สิ” ดานิลบ่นขึ้นมา แต่คิมส่ายหน้า

 

 

 

“หาไปก็เท่านั้นครับ คุณก็เห็นว่ามันไม่มีทางออก ผมว่ารอให้พวกมันมาบอกเราก่อนดีกว่าว่าจับพวกเรามาทำไม” คิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ดานิลหันมามองคิม ก่อนจะนั่งลงข้างๆ

 

 

 

“มีสติเหมือนกันนี่” ดานิลพูดบอก เขาเองก็รู้สึกขัดยอกจากการสู้กับอีกฝ่ายเหมือนกัน

 

 

 

“ผมไม่ได้มีสติอะไรหรอกครับ ก็แค่ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรต่อเท่านั้นเอง” คิมบอกออกมาเสียงเลื่อนลอย  ดานิลนั่งเงียบไปนิด ตอนนี้ทั้งสองไม่มีใครพูดอะไรออกมา ต่างนั่งเงียบจมไปกับความคิดของตัวเอง

 

..

 

..

 

..

 

..

 

..

 

“แกว่าอะไรนะ! คิมถูกจับตัวไปอย่างนั้นเหรอ” กมลถามขึ้นเสียงดังลั่นห้องทำงาน เมื่อกิจกับลพมารายงานความคืบหน้า หลังจากที่ไปตามหาคิมที่คอนโดแล้วพบว่า รปภ.ของคอนโดถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อเดินสำรวจรอบๆก็พบโทรศัพท์มือถือของคิม รวมไปถึงรถคันที่ดานิลขับออกมาด้วย  ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับแจ้งเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งรู้จักกับกิจและลพเป็นอย่างดี จึงได้พูดคุย แล้วขอดูกล้องวงจรปิดจนพบว่าคิมกับดานิลถูกจับขึ้นรถคันหนึ่งไป กิจกับลพจึงรีบมารายงานกมลอย่างรวดเร็ว

 

 

 

“ครับ คุณดานิลก็ถูกจับไปด้วยกัน รู้สึกว่าคุณดานิลพยายามช่วยคุณคิมแต่สู้อีกฝ่ายไม่ไหวครับ” กิจตอบกลับตามจริง

 

 

 

“เพราะดานิลมันพาคิมออกไปน่ะสิ! ถึงได้โดนจับตัวไปแบบนี้” กมลโวยขึ้นมาอีก ก่อนจะหันไปมองหน้าลูกน้องของดานิลที่ยืนอยู่ในห้องทำงานของเขาด้วย

 

“//ตอนนี้เกิดเรื่องแล้ว แกสองคนจะว่ายังไง จะบอกความจริงทุกอย่างได้รึยัง!//” กมลถามเสียงเข้ม

 

 

 

“//ผมต้องขอโทษจริงๆ คุณดานิลเองก็คงไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณคิมต้องการออกไปจากที่นี่ คุณดานิลถึงได้แอบพาออกไป//” ลูกน้องของดานิลพูดบอกออกมา

 

 

 

“//ทั้งๆที่ชั้นสั่งคนของชั้นเอาไว้แล้วว่าไม่ให้เมียชั้นออกไปไหน เจ้านายแกนึกอยากจะเป็นคนดีขึ้นมารึไง ถึงได้พาเมียชั้นออกไปน่ะห้ะ!!//” กมลว่าออกมาเสียงดังลั่น ตอนนี้เขาโกรธจนควันแทบออกจากหู

 

“//ทำไมชั้นจะอ่านทางเจ้านายแกสองคนไม่ออก พูดใส่เมียชั้น จนเมียชั้นเข้าใจผิด จนทำให้เมียชั้นไม่อยากอยู่ที่นี่ จนต้องหาทางออกไปยังไงล่ะ//” กมลพูดขึ้น เขาตั้งใจจะกลับมาเคลียกับคิมทุกเรื่อง คิมเข้าใจ หลังจากที่เขาเคลียทุกอย่างตามที่ต้องการ แต่คิมกลับไม่อยู่รอเขา ทำให้กมลแทบจะคลั่ง

 

 

 

“นายครับ อย่าพึ่งไปโวยวายใส่สองคนนี้เลยครับ เรามาสืบกันก่อนดีกว่า ว่าใครเป็นคนจับตัวคุณดานิลกับคุณคิมไป” คมรีบแทรกขึ้นมาก่อน เพราะตอนนี้อารมณ์ของกมลเหวี่ยงพาลไปทั่วแล้ว ทั้งๆที่ปกติกมลมักจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ แต่ตอนนี้กมลแทบจะคุมตัวเองไม่อยู่เพราะเป็นเรื่องของคิม

 

 

 

“แต่ถ้าให้ชั้นเดา ก็มีอยู่คนเดียวแหละ ที่จ้องเล่นงานชั้นอยู่” กมลพูดขึ้นอย่างมั่นใจ

 

..

 

..

 

..

 

..

 

แกร๊ก.

 

 

เสียงไขประตูห้องดังขึ้น ทำให้ดานิลกับคิมหันไปมองทันที ประตูถูกเปิดออก พร้อมกับชายร่างใหญ่ 3 คน

 

“ลุกขึ้นมา อยากรู้ไม่ใช่รึไง ว่าพวกเราเป็นใคร” ชายคนหนึ่งพูดก่อนจะดึงแขนคิมให้ลุกขึ้น ส่วนชายอีกสองคนก็ล็อคตัวดานิลเดินตามไปเช่นกัน คิมกับดานิลถูกพาเดินผ่านห้องโถงขนาดใหญ่ตกแต่งในสไตล์จีน ก่อนจะเดินเข้ามาในห้องใหญ่อีกห้อง ซึ่งมีโต๊ะทำงานตั้งอยู่ และหลังโต๊ะทำงานก็มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ คิมกับดานิลถูกผลักให้มายืนตรงด้านหน้าของโต๊ะ โดยมีชายร่างใหญ่ยืนล้อมเอาไว้

 

 

 

“อั๊วะบอกให้จับเมียไอ้กมลมาคนเดียว พวกลื้อไปจับใครมาด้วยวะ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น ทำให้คิมกับดานิลรับรู้ได้ทันที ว่าคนๆนี้ เป็นศัตรูกับกมลแน่นอน

 

 

 

“ไอ้ฝรั่งนี่มันเข้ามาช่วยเมียไอ้กมลครับเฮียเฉิน มันกัดไม่ปล่อย พวกผมเลยต้องเอามาด้วย” ชายที่ยืนหลังคิมพูดขึ้น ทำให้คิมตาโต

 

 

 

“คุณชื่อเฉินงั้นเหรอ” คิมถามขึ้นทันที

 

 

 

“ใช่ ลื้อรู้จักอั๊วะรึไง” เฉินถามกลับ

 

 

 

“คุณนี่เอง ที่ให้คนไปซุ่มยิงคุณกมล” คิมบอกออกมาเมื่อจำคืนวันที่กมลถูกลอบยิงได้ เพราะคิมก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

 

 

 

“อะไรนะ ไอ้แก่นี่เคยลอบยิงกมลงั้นเหรอ” ดานิลหันมาถามคิมเสียงเครียด คิมก็พยักหน้ารับ

 

 

 

“ลื้อเป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับไอ้กมล” เฉินถามดานิลทันทีเมื่อเห็นว่าดานิลพูดไทยได้

 

 

 

“แล้วทำไมชั้นต้องบอกแกด้วยหะไอ้แก่” ดานิลว่ากลับไปอย่างฉุนๆ

 

 

 

ผั่วะ!

 

 

“คุณดานิล” คิมรีบประคองดานิลทันที เมื่อลูกน้องของเฉินใช้หลังมือตบเข้าที่ใบหน้าของดานิลอย่างแรง ดานิลมองหน้าอีกฝ่ายอย่างแค้นเคือง

 

 

 

“คุณต้องการอะไรคุณเฉิน” คิมหันไปถามเฉินทันที พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น

 

 

 

“อั๊วะก็แค่อยากได้บางอย่างจากกมลก็เท่านั้น” เฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งๆ

 

 

 

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับผมด้วย” คิมถามกลับไป

 

 

 

“เกี่ยวสิ ก็ลื้อเป็นเมียมัน เป็นของรักของมัน มันต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อลื้อแน่ๆ” เฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะๆ ทำให้คิมรู้สึกเจ็บในใจ

 

 

 

“ผมว่าคุณคิดผิดแล้วล่ะคุณเฉิน” คิมพูดเสียงแผ่ว

 

 

 

“คิดผิดอะไร” เฉินถามกลับทันที

 

 

 

“ผมไม่ใช่คนที่เค้ารัก ไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว” คิมพูดขึ้นมาเองก็เจ็บเอง ดานิลมองหน้าคิมพร้อมกับเม้มปากเข้าหากันนิดๆอย่างครุ่นคิด

 

 

 

“ใช่ หมอนี่ไม่ใช่คนที่กมลรักแล้ว นายจับผิดตัวแล้วล่ะ ชั้นว่าปล่อยหมอนี่ไปดีกว่านะ อย่าเสียเวลาเลย เพราะคนที่กมลรักคือชั้น” ดานิลพูดขึ้น คิมหันไปมองดานิลด้วยความไม่เข้าใจ

 

 

 

“นี่มันอะไรกันวะ” เฉินถามเสียงเข้ม

 

“ลื้อสองคนไม่ต้องมาหลอกอั๊วะ! ไอ้กมลมันรักใคร เดี๋ยวได้รู้กันแน่ ไอ้นัยไปเอากล้องมา!” เฉินหันไปสั่งลูกน้องเสียงดัง

 

..

 

..

 

..

 

..

 

..

 

“อืม โอเค ใกล้ถึงแล้วใช่มั้ย อืม” กมลวางสายโทรศัพท์หน้าเครียด เพราะยังคงกังวลเรื่องของคิมกับดานิลอยู่ ตอนนี้กมลให้คนไปตามสืบดูความเคลื่อนไหวทางฝั่งของเฉินแล้ว เพราะกมลมั่นใจ ว่าต้องเป็นเฉินแน่ๆที่จับตัวคิมกับดานิลไป

 

 

 

“นายครับ” เสียงเรียกกมลดังขึ้นพร้อมกับลูกน้องของกมลที่เดินตรงเข้ามาในห้องทำงาน

 

 

 

“มีอะไร” คมถามขึ้นแทนกมลเสียงเครียด ลูกน้องของกมลส่งซองสีน้ำตาลขนาดเล็กให้กมล

 

 

 

“เมื่อกี้ วินมอเตอร์ไซค์เอาซองมาส่ง บอกว่ามีคนจ้างให้เอามาให้นาย ผมเลยรีบเอามาให้ครับ” ลูกน้องของกมลพูดขึ้น กมลขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนจะหยิบมาเปิดดู กล่องใส่เมมโมรี่การ์ดหล่นลงมาอยู่ในมือของกมล

 

 

 

“SD Card??” กมลมองของในมืออย่างงงๆ ก่อนจะตาเบิกกว้าง รีบหันกลับไปที่คอมพิวเตอร์ของตนเองทันที คมเองก็รีบเดินไปยืนด้านหลังกมล เพราะพอจะเดาอะไรได้บ้างแล้ว กมลใส่เมมโมรี่การ์ดเข้าไปในช่องของคิมพิวเตอร์โน้ตบุค แล้วกดเปิดอย่างรวดเร็ว

 

 

 

“ไฟล์คลิปวิดิโอนี่ครับนาย” คมพูดขึ้น กมลพยักหน้ารับ ก่อนจะกดเปิดไฟล์นั่น ภาพในคลิปปรากฏขึ้น เป็นภาพห้องเล็กๆ มีเก้าอี้สองตัวตั้งอยู่ในนั้น แต่ยังไม่เห็นใคร จนเวลาผ่านไปไม่นาน กมลก็ต้องกัดฟันกรอด เมื่อเห็นศัตรูของตนเอง เดินเข้ามาในจอภาพ

 

 

 

(“ไง กมล ลื้อคงจะไม่แปลกใจหรอกมั้งเมื่อเห็นหน้าอั๊วะในคลิปนี้”) เสียงของเฉินพร้อมกับท่าทางยียวน ทำให้กมลกำหมัดแน่น

 

(“ลื้อคงกำลังตามหาใครสักคนอยู่ใช่มั้ย หึหึ”) เฉินถามขึ้น พร้อมกับเดินวนไปวนมาผ่านกล้อง

 

(“จะใช่คนนี้รึเปล่านะ”) เฉินพูดพร้อมกับพยักหน้าไปอีกทาง

 

 

 

“คิม!!” กมลเรียกชื่อคิมออกมาเมื่อเห็นคิมกับดานิลถูกจับมานั่งที่เก้าอี้และถูกมัดกับเก้าอี้เอาไว้ กมลกัดฟันกรอดดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ

 

 

 

(“นี่ ทักทายกล้องหน่อยสิ อั๊วะจะส่งคลิปนี้ไปให้ไอ้กมล”) เฉินพูดกับคิมและดานิล ก่อนจะเดินไปยืนด้านหลังของคิม พร้อมกับจับคางของคิมให้เงยขึ้นเล็กน้อย

 

(“ลื้อคงแทบเต้นเลยสินะ ที่เห็นเมียลื้อในสภาพแบบนี้ นี่ ลื้อน่ะ ทักทายไอ้กมลมันหน่อย”) เฉินพูดกับกล้องเสร็จก็มาพูดกับคิม คิมหันหน้าหนีกล้องด้วยสายตาเจ็บปวด

 

(“อั๊วะบอกให้ทักทายไง!”) เฉินตวาดเสียงดังลั่น พร้อมกับบีบคางของคิมอย่างแรง

 

 

 

“โอ๊ยย” คิมร้องออกมาเพราะเจ็บร้าวที่คาง การเจ็บปวดครั้งนี้ มันไม่ได้น่าตื่นเต้นเหมือนทุกที มันเป็นความเจ็บที่เจ็บจริงๆ ถ้าคนที่ทำให้กับคิมแบบนี้คือกมล มันก็คงจะเป็นความเจ็บในอีกรูปแบบหนึ่ง

 

 

 

“เตรียมคนของเราเอาไว้ งานนี้ชั้นจะฆ่าคนส่งท้ายวงการ” กมลกัดฟันพูดออกมา

 

 

 

“ฆ่าใคร? ส่งท้ายใคร” เสียงห้าวทุ้มดังขึ้นทางประตูห้องทำงาน ทำให้กมลหันไปมอง ก่อนจะหยุดวิดิโอเอาไว้ก่อน เมื่อเห็นชายวัย 40 รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมเข้มแต่ผิวขาวผมสีเดียวกับดานิล ยืนเอาเสื้อสูทพาดแขนอยู่ที่ประตูห้องทำงาน

 

 

 

“อีวาน ขอโทษทีที่ไม่ได้ไปรับ” กมลทักทายอีวาน ก่อนจะเดินเข้าไปหาพร้อมกับกอดกับอีวานเพื่อทักทาย  อีวานตบไหล่กมลเบาๆ แล้วผละออกมา เนื่องจากอีวานจะมาคุยกับกมลเรื่องที่กมลเมลล์ไปบอกว่าจะออกจากวงการ พอเสร็จธุระ อีวานก็นั่งเครื่องบินตรงมาไทยทันที โดยกมลให้ลูกน้องออกไปรับที่สนามบิน

 

 

 

“ไม่เป็นไร ชั้นรู้มาว่า ดานิลมันมาป่วนที่นี่ใช่มั้ย” อีวานถามออกมาเป็นภาษาไทยเสียงเรียบ

 

 

 

“นิดหน่อย” กมลตอบกลับเสียงเครียด เพราะอีวานยังไม่รู้เรื่องที่ดานิลถูกจับตัวไป

 

 

 

“แล้วที่นายบอกว่าอยากจะทิ้งวงการนี้ มันเป็นเรื่องจริงใช่มั้ย” อีวานถามกลับ ดวงตาคมกริบเหมือนเหยี่ยวจ้องหน้ากมลนิ่งๆ ถ้าเป็นคนอื่น คงกลัวและหวั่นเกรงกับสายตานี้ แต่สำหรับกมล ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก เพราะคุ้นเคยกับสายตาแบบนี้ดี

 

 

 

“ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องนี้ ผมมีเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกคุณ” กมลบอกกลับเสียงเครียด ทำให้อีวานขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนที่กมลจะให้อีวานมานั่งดูคลิปตรงโต๊ะทำงานของกมลด้วยกัน

 

..

 

..

 

..

 

(“//ไอ้บ้า ไอ้นรก อย่าให้ชั้นหลุดไปได้นะเว้ย!//”) เสียงดานิลโวยเป็นภาษารัสเซียดังขึ้นจากคลิปในเวลาต่อมา หลังจากที่กมลเปิดให้อีวานดูสักพัก ก่อนที่ดานิลจะถูกลูกน้องของเฉินชกเข้าที่ท้อง ทำให้ดานิลตัวงอ คิมก็เข้าไปดูไม่ได้เพราะถูกมัดเอาไว้

 

 

 

(“ถ้าลื้ออยากช่วยพวกมันล่ะก็ คืนพรุ่งนี้ 3 ทุ่ม ลื้อมาเจอกับลูกน้องของอั๊วะที่ท่าเรือของอั๊วะ อั๊วะจะให้พวกมันพาลื้อมาหาอั๊วะเอง มาคนเดียว แล้วเอาเอกสารรายการสินค้าของลื้อล็อตล่าสุดที่กำลังจะเข้ามา มาด้วย ห้ามตุกติกไม่งั้นอั๊วะจะจับเมียลื้อกับไอ้ฝรั่งนี่ไปหมกป่าแน่นอน”) เฉินพูดออกมาเสียงเข้ม ก่อนที่สัญญานภาพจะตัดไป ทั้งกมลและอีวานนั่งนิ่งเงียบ

 

 

 

“ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมสองคนนั่นถึงถูกจับได้ง่ายๆ” อีวานพูดเสียงนิ่ง พร้อมกับชายตาไปมองลูกน้องของดานิลสองคน ที่ยืนก้มหน้างุด

 

“ผู้ชายคนนั้น เป็นเมียนายงั้นเหรอ” อีวานหันมาถามกมลต่อ

 

 

 

“ใช่ครับ เมียผมเอง และเค้าคือเหตุผลที่ทำให้ผมอยากจะคุยกับคุณเรื่องที่จะออกจากวงการนี้” กมลบอกกลับ อีวานเอนตัวพิงพนักเก้าอี้

 

 

 

“ก่อนที่เราจะคุยเรื่องนี้ เราพาตัวสองคนนั้นกลับมาก่อนดีมั้ย” อีวานถามขึ้นเสียงเรียบนิ่ง ท่าทางของอีวานยังคงนิ่งสุขุมได้ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่กมลยอมรับ ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์คับขัน รุนแรงแค่ไหน อีวานก็ยังนิ่งได้ เหมือนคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย

 

 

 

“ครับ ผมเองก็ตั้งใจไว้เหมือนกัน ….คม แกไปเรียกคนของเราทั้งหมด ไปเจอกันที่สำนักงาน” กมลพูดตอบอีวานก่อนจะหันไปสั่งคม คมก้มหัวรับก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงานทันที

 

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

หัวค่ำของวันถัดมา

 

 

กมลขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวด้วยท่าทีนิ่งสงบ ร่างแกร่งแต่งตัวพร้อมกับมองกระเป๋าเสื้อผ้าของคิม ที่ทิ้งเอาไว้ด้วยสายตาเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินมาเปิดกระเป๋า พร้อมกับหยิบเสื้อผ้าของคิมของใช้ของคิมออกมาไว้ที่เดิมทุกชิ้น ทุกอย่าง แล้วเอากระเป๋าเก็บไว้หลังตู้เช่นเดิม ก่อนจะเดินออกมาจากห้องนอน ลงมาที่ชั้นล่าง

 

 

 

“คุณกมลคะ” เสียงของป้านีดังขึ้นก่อนจะเดินเข้ามาหาพร้อมกับใบบุญที่ดวงตาแดงก่ำ

 

 

 

“มีอะไรเหรอป้านี” กมลถามกลับเสียงเรียบ

 

 

 

“พาคุณคิมกลับมาให้ได้นะคะ” ป้านีบอกเสียงสั่นๆ เพราะรู้เรื่องทุกอย่างหมดแล้ว

 

 

 

“ผมต้องพาคิมกลับมาได้แน่นอนครับ ป้าไม่ต้องห่วง” กมลตอบเสียงจริงจัง ก่อนจะมองไปที่ใบบุญ

 

“มานี่สิใบบุญ” กมลพยักหน้าเรียกเด็กหนุ่ม ใบบุญเดินตรงเข้าไปหา กมลยกมือขึ้นลูบหัวของใบบุญเบาๆ

 

“อย่าร้องไห้มากนัก เดี๋ยวคิมกลับมาเห็นตาเราบวม ชั้นจะโดนเล่นงานเอา” กมลพูดติดตลกเพื่อให้ใบบุญผ่อนคลาย แต่กลับทำให้เด็กหนุ่มสะอื้นออกมา

 

 

 

“ฮึกก..พี่คิมจะไม่เป็นอะไรใช่มั้ยฮะ…คุณกมลจะพาพี่คิมกลับมาใช่มั้ย” เด็กหนุ่มสะอื้นถามเสียงสั่น จนกมลอดไม่ได้ที่จะดึงเด็กหนุ่มเข้ามากอดปลอบ พร้อมกับลูบหัวเบาๆ

 

 

 

“ชั้นสัญญาว่าจะพาคิมกลับมาหานายอย่างปลอดภัย” กมลพูดขึ้น ก่อนจะมองเห็นอีวานยืนเอามือล้วงกระเป๋ามองมาด้วยสายตาเรียบนิ่ง กมลจึงผละออกจากใบบุญ

 

“ป้านีพาใบบุญไปพักผ่อนเถอะครับ ผมรับประกันว่าพรุ่งนี้เช้า ทุกคนต้องได้เจอคิมแน่นอน” กมลพูดบอกอีกครั้ง ก่อนจะเดินเลี่ยงไปหาอีวานที่ยืนห่างออกไป

 

 

 

“นายพร้อมแล้วใช่มั้ย เราต้องไปเตรียมความพร้อมกันก่อน ก่อนที่จะออกไปที่นั่น” อีวานถามออกมา

 

 

 

“ครับ พร้อมแล้ว” กมลตอบเสียงนิ่ง ก่อนจะเดินออกไปที่หน้าบ้านพร้อมกับอีวาน

 

 

 

 

 

 

2   Be   Con

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

ตอนหน้าก็จบแว้วววว

 

ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของ คมใบบุญต่อ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset