ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 30

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 30  END

 

Author: 여님  (ยอนิม)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ตอนนี้กมลขับรถมาถึงที่ท่าเรือของเฉินคนเดียวตามที่เฉินได้บอกเอาไว้  มีลูกน้องของเฉินเปิดประตูรั้วทางเข้าให้กมลขับรถเข้าไปด้านใน กมลเปิดประตูรถลงมายืนด้วยท่าทีนิ่งๆ

 

 

 

“มาคนเดียวรึเปล่า” ลูกน้องของเฉินถามขึ้นก่อนจะค้นตัวของกมลเพื่อหาอาวุธ ซึ่งกมลก็ยอมให้ค้นแต่โดยดี แต่ก็ค้นไม่เจออะไร คนอื่นก็สำรวจรถไปด้วย

 

 

 

“แล้วพวกแกเห็นชั้นมากับใครล่ะ” กมลถามกลับด้วยท่าทีปกติ ในมือถือซองเอกสารสีน้ำตาลเอาไว้ด้วย

 

 

 

“ปากดีไปเหอะ มาคนเดียวก็ดี ไปขึ้นรถได้แล้ว” ลูกน้องของเฉินพูดพร้อมกับพยักหน้าไปทางรถตู้สีดำที่จอดห่างออกไป

 

 

 

“แล้วใครจะเฝ้ารถให้ชั้น คันนี้ลูกรักของชั้นเลยนะ” กมลพูดเสียงเย็นๆ พร้อมกับมองหน้าลูกน้องเฉินนิ่งๆ

 

 

 

“ไม่มีใครเอาหรอก ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลไม่มีใครเข้ามาได้” ลูกน้องของเฉินพูดขึ้น กมลยักไหล่นิดๆ ก่อนจะเดินไปที่รถตู้ด้วยท่าทีปกติ กมลขึ้นไปนั่งบนรถ และทันทีที่ลูกน้องของเฉินขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว คนขับก็พาขับออกจากท่าเรือทันที

 

 

 

“เจ้านายของพวกนาย ดูแลคนของชั้นดีรึเปล่า” กมลถามเหมือนเป็นเรื่องคุยเล่นทั่วไป

 

 

 

“ไม่ต้องห่วง คนของแกทั้งสองคน จะไม่เป็นอะไร ถ้ามันสองคนไม่ออกฤทธิ์ให้เฮียเฉินต้องหงุดหงิดใจ” ลูกน้องของเฉินพูดบอก กมลนั่งนิ่งไม่ได้ถามอะไรต่อ แต่ในใจก็ครุ่นคิดเป็นห่วงคิมอยู่ไม่น้อย รถตู้ของเฉินที่ถูกนำมารับกมล ขับออกนอกชานกรุงเทพเรื่อยๆ เข้าสู่จังหวัดแถบตะวันตกเฉียงเหนือ กมลนั่งมองข้างทางไปเรื่อยก็พอจะเดาได้ว่ารถคันนี้กำลังมุ่งเข้าสู่จังหวัดอะไร รถวิ่งมาได้ 3 ชั่วโมง สองข้างทางเป็นป่าทึบ

 

 

 

“เจ้านายของพวกแกเนี่ย ลึกลับจังเลยนะ พามาคุยกันไกลดี” กมลพูดขึ้นลอยๆ ลูกน้องของเฉินก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา รถตู้เริ่มขับเข้าไปในป่าซึ่งเป็นทางที่ค่อนข้างขรุขระและเปลี่ยว แต่กมลก็ไม่ได้มีท่าทีอะไร นอกจากนั่งนิ่งๆสบายๆ มีแต่ใจที่ห่วงคิมเท่านั้น ไม่นานรถก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีคนของเฉินยืนอยู่รอบบ้าน กมลลงจากรถพร้อมกับมองไปรอบๆ เสียงแมลงเล็กๆร้องระงมป่ามองไปทางไหนก็มีแต่ต้นไม้

 

 

 

“เข้าไปข้างใน” ลูกน้องของเฉินพูดพร้อมกับเดินนำไป กมลก็เดินตาม บ้านหลังค่อนข้างใหญ่ ถูกตบแต่งตามสไตส์จีน พอเดินเข้าไปในห้องโถงกมลก็พบว่าเฉินนั่งรออยู่ท่ามกลางกลุ่มลูกน้อง แต่ยังไม่เห็นคิมกับดานิล

 

 

 

“ไง นั่งรถนานมั้ย” เฉินทักทายอย่างเยาะๆ

 

 

 

“จะถามทำไม มีอะไรก็พูดเลยดีกว่าคุณเฉิน ไม่ต้องเกริ่นนำหรือทักทายอะไรกันหรอก มันเสียเวลาทำมาหากิน” กมลบอกกลับ

 

 

 

“หึ ปากดีไม่เปลี่ยน ตกลงลื้อได้เอาเอกสารที่อั๊วะบอกมารึเปล่า” เฉินถามถึงเอกสารสินค้าทันที กมลชูซองสีน้ำตาลขึ้นมาเล็กน้อยให้เฉินดู

 

 

 

“คุณอยากจะเอาไปทำอะไร” กมลถามเสียงเรียบ

 

 

 

“ลื้อต้องเซ็นรับรองมอบสินค้าล็อตล่าสุดมาให้อั๊วะ แล้วเซ็นโอนรายการขายล่าสุดมาให้อั๊วะด้วย เพื่อแลกกับสองคนนั่น” เฉินบอกออกมาอย่างหมายมั่น

 

 

 

“แบบนี้ก็เหมือนกับคุณมาขโมยสินค้า ขโมยลูกค้าของผมไปอย่างหน้าด้านๆเลยน่ะสิ” กมลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

 

 

 

“ทีลื้อยังแย่งลูกค้าอั๊วได้ ทำไมอั๊วะจะทำแบบนี้บ้างไม่ได้ ตกลงเอาไง จะยอมรึไม่ยอม” เฉินถามเสียงเข้ม

 

 

 

“ผมขอเจอหน้าคนสองคนที่คุณจับตัวมาก่อน” กมลต่อรอง เฉินยิ้มเยาะ ก่อนจะหันไปมองลูกน้องตนเองพร้อมกับพยักหน้า ลูกน้องของเฉินสองคน เดินออกไปจากห้องโถง กมลมองตรงทางเดินที่ลูกน้องของเฉินเดินเข้าไปเขม็ง

 

//คิม// กมลเรียกชื่อคิมเสียงแผ่วเมื่อเห็นคิมกับดานิลถูกพาตัวออกมาจากด้านใน สภาพของทั้งสองค่อนข้างอิดโรย คิมเห็นกมลก็ชะงักนิ่งดวงตาร้อนผ่าว กมลทำท่าจะเดินเข้าไปหาคิม แต่ถูกลูกน้องของเฉินมายืนขวางเอาไว้

 

 

 

“อ๊ะๆ ใจเย็นๆ คิดถึงกันมากรึไง ไม่ได้เจอกันแค่วันเดียว” เฉินพูดเย้ยขึ้นอย่างเป็นต่อ กมลต้องคุมอารมณ์ตัวเองเอาไว้

 

 

 

“ตกลงจะเอาอะไร ยังไง ว่ามา” กมลถามเสียงเข้ม เฉินลุกเดินเอาเอกสารที่อยู่บนโต๊ะอีกด้านมายื่นให้กมล

 

 

 

“นี่คือสัญญามอบฉันทะการรับสินค้าทั้งหมดของลื้อให้เป็นชื่ออั๊วะ พร้อมกับใบโอนการจัดส่งสินค้าให้เป็นของอั๊วะด้วย ลื้อก็แค่เซ็นมันเท่านั้นเอง” เฉินพูดบอกออกมา กมลรับเอกสารแล้วเอามาอ่าน

 

 

 

“//ไม่ต้องไปให้มัน//” เสียงดานิลพูดออกมาเป็นภาษารัสเซีย ซึ่งในที่นี้มีเพียงกมลคนเดียวที่ฟังรู้เรื่อง

 

 

 

“//หุบปากของนายซะดานิล นายเจอดีแน่//” กมลว่ากลับเสียงเข้ม

 

 

 

“เฮ้ย คุยอะไรกัน ไอ้ดอนเอาผ้ามัดปากไอ้ฝรั่งเอาไว้” เฉินสั่งออกมา เพราะกลัวว่ากมลกับดานิลจะวางแผนอะไรกันต่อหน้าเขา ดานิลถูกเอาผ้ามัดปากไว้ทันที กมลมองดานิลนิดๆ ก่อนจะมองคิมด้วยสายตาเป็นห่วง คิมหลบสายตานั้น ด้วยความรู้สึกผิด

 

 

 

“คุณเฉิน ถามจริง ถ้าผมไม่ยอมเซ็น คุณจะคิดจะทำยังไงต่อ” กมลแกล้งถาม เฉินยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินไปยืนระหว่างคิมกับดานิล ก่อนจะชักปืนออกมา

 

 

 

“อั๊วะก็จะเป่าสมองคนที่ลื้อรักยังไงล่ะ ว่าแต่ คนที่ลื้อรักเป็นคนไหนกันแน่วะ ไอ้ฝรั่งคนนี้ก็บอกว่ามันเป็นคนที่ลื้อรัก” เฉินพูดขึ้นอย่างเยาะ พร้อมกับเอาปืนจ่อไปที่ขมับของดานิล ก่อนจะหันปืนมาหาคิมอีกคน

 

“ส่วนคนนี้ก็บอกว่า มันไม่ใช่คนที่ลื้อรักอีกแล้ว ตกลงลื้อเอาคนไหนกันแน่ หรือว่าเป็นรักสามเศร้าวะ ฮ่าๆ” เฉินถามออกมาอย่างขำๆ กมลมองหน้าคิมทันทีเมื่อได้ยิน ก่อนจะมองคิมอย่างตำหนิแล้วส่ายหน้าไปมาเป็นเชิงบอกว่าคิมคิดผิด

 

“แต่ช่างเถอะ ลื้อจะเลือกใครก็ช่าง แต่ตอนนี้ลื้อต้องเซ็นเอกสารทั้งสองชุดนี้ก่อน 1 ชุด ต่อ 1 คน” เฉินพูดบอก กมลจึงหยิบเอกสารมอบฉันทะขึ้นมาก่อน แล้วหยิบปากกาที่วางเอาไว้ ขึ้นมาเซ็น แล้วส่งให้เฉิน เฉินรับมายิ้มๆ

 

 

 

“ปล่อยไอ้ฝรั่งนั่นไปก่อน” เฉินพูดบอกเพราะมั่นใจว่าคิมคือไพ่ใบสุดท้ายของเขา

 

 

 

“ชั้นขออีกคนก่อน” กมลพูดขึ้น ดานิลมองกมลหน้าเครียด แต่คิมส่ายหน้าไปมา

 

 

 

“ไม่ครับ ปล่อยคุณดานิลไปก่อนเถอะครับ” คิมพูดบอกออกมา กมลมองหน้าคิมอย่างไม่เข้าใจ ดานิลเองก็หันมามองคิมอย่างไม่เข้าใจเช่นเดียวกัน

 

 

 

“แต่ว่า..” กมลจะค้าน เพราะเขาเองก็มีแผนอยู่ แต่ต้องเอาคิมมาอยู่ในความดูแลของตัวเองก่อนให้ได้ ส่วนดานิล กมลไม่ห่วงมากนัก เพราะรู้ฝีมือกันอยู่บ้าง

 

 

 

“ไม่ได้ อั๊วะจะปล่อยไอ้ฝรั่งก่อน ปล่อยมันไป” เฉินพูดก่อนจะส่งลูกน้องให้ปล่อยดานิล ดานิลเดินสะบัดมือที่ถูกมัดไปหากมล กมลจ้องหน้าดานิลเขม็ง

 

 

 

“//ล้ำเส้นมากไปแล้วนะ//” กมลพูดเป็นภาษารัสเซียออกมา

 

 

 

“//เออ ชั้นทำอะไรก็ผิดหมดแหละ ก่อนจะมาว่าชั้น หาทางช่วยคิมก่อนดีกว่ามั้ย//” ดานิลพูดประชดกลับไป

 

 

 

“//ชั้นช่วยแน่ นายเองเตรียมตัวให้พร้อมล่ะกัน//” กมลบอกกลับ ดานิลขมวดคิ้วนิดๆ

 

 

 

“//ทำไม นายมีแผนใช่มั้ย//” ดานิลถามกลับ

 

 

 

“เลิกคุยเป็นภาษต่างดาวอะไรนั่นได้แล้ว อั๊วะฟังไม่รู้เรื่อง เซ็นเอกสารอีกชุดซะกมล” เฉินพูดขัดออกมา กมลหันมาหยิบเอกสารอีกชุด แล้วเซ็นลงไปทันที  เฉินรับเอกสารที่เซ็นแล้วมาดูอย่างพอใจ

 

“ดีมาก” เฉินพูดขึ้น

 

 

 

“ปล่อยคิมมาให้ชั้นได้แล้ว” กมลทวงตัวคิม เฉินยกยิ้มมุมปาก

 

 

 

“กมล ลื้อเข้าใจวงการของพวกเราดีไม่ใช่เหรอ” เฉินพูดขึ้นอย่างเป็นต่อ กมลมองหน้าเฉินนิ่งๆ

 

“วงการของพวกเรา มันมักจะวนเวียนไม่จบไม่สิ้น มีเรื่องกันมันก็จะวนเวียนอยู่อย่างนั้นไปตลอด เพราะลื้อแย่งลูกค้าอั๊วะ อั๊วะถึงต้องมาเอาคืน แล้วตอนนี้อั๊วะจับคนของลื้อมา อั๊วะมั่นใจว่าถ้าอั๊วะปล่อยให้ลื้อกลับไป ลื้อก็ต้องกลับมาเล่นงานอั๊วะอีกแน่นอน” เฉินพูดขึ้น ก่อนจะยกปืนขึ้นมาจ่อที่หัวของคิม คิมตัวสั่นนิดๆ

 

 

 

“นี่แกจะผิดคำพูดรึไงห้ะ” ดานิลทักท้วงทันที

 

 

 

“เปล่า อั๊วะจะปล่อยพวกลื้อจริงๆ แต่ปล่อยให้ตายอยู่ที่นี่นะ ฮ่าๆๆ” เฉินพูดพร้อมกับหัวเราะเหมือนกับเป็นเรื่องขำมากๆ ลูกน้องของเฉินยกปืนขึ้นมาเล็งที่กมลกับดานิล

 

“มีอะไรจะสั่งเสียผัวลื้อก่อนมั้ย”  เฉินถามคิมอย่างเยาะๆ คิมเม้มปากเข้าหากันแน่น

 

 

 

“คิม ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เราจะกลับไปคุยกันที่บ้าน” กมลพูดบอก คิมมองกมลด้วยสายตาสั่นระริก

 

 

 

“เราคงไม่มีโอกาสได้คุยกันแล้วล่ะครับ” คิมบอกออกมาเสียงสั่นเครือ กมลส่ายหน้าไปมา พร้อมกับมองคิมด้วยสายตาดุๆ

 

 

 

“ทำไมเป็นคนที่ดื้อแบบนี้นะ” กมลว่าออกมา

 

 

 

“จะไม่มีใครได้กลับไปคุยอะไรกันที่บ้านเด็ดขาด เพราะพวกลื้อจะต้องตายเป็นผีเฝ้าป่าที่นี่” เฉินบอกเสียงจริงจัง

 

 

 

โฮกกกกกกกกกก

 

 

“เสือ!! อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงคำรามของเสือดังก้องป่า พร้อมกับเสียงโวยวายร้องดังของลูกน้องของเฉินที่เฝ้ายามอยู่ด้านนอก

 

 

ปัง ปัง ปัง

 

เสียงปืนดังสลับกับเสียงร้องเสียงคำรามของสัตว์ใหญ่

 

 

“เกิดอะไรขึ้นวะ” เฉินถามออกมาอย่างตกใจ คิมกับดานิลเองก็ตกใจเช่นเดียวกัน ลูกน้องของเฉินที่อยู่ในบ้าน ต่างเกิดอาการล่อกแล่กด้วยความอยากรู้และหวาดหวั่น

 

 

 

“เราอยู่ในป่าไม่ใช่รึไงล่ะคุณเฉิน ไม่แปลกหรอกที่จะมีสัตว์มาเดินเพ่นพ่าน” กมลพูดพร้อมกับยกยิ้ม

 

“//ดานิล จัดการซ้ายมือของนายให้หมด//” กมลพูดบอกเป็นภาษารัสเซีย ทำให้ดานิลรับรู้ว่าตนเองต้องออกแรงอีกแล้ว

 

 

พลั่ก!

 

“อ๊ากก” เพียงชั่วพริบตากมลขยับเข้าหาลูกน้องของเฉินที่อยู่ใกล้พร้อมกับหักข้อมือแย่งปืนมา และทุกอย่างก็โกลาหล ดานิลจัดการซัดคนที่อยู่ข้างๆ

 

 

 

“เฮ้ย!!” เฉินร้องออกมาอย่างตกใจ ก่อนจะล็อคคอของคิมเอาไว้

 

“จัดการไอ้กมลซะ” เฉินพูดบอกก่อนจะลากคิมไปด้านใน

 

 

 

“คุณกมล!!”คิมตะโกนเรียกกมล พร้อมกับคนของกมลที่บุกเข้ามาเพื่อช่วยกมลกับดานิล

 

 

 

“คิม!!… ไอ้กิจ ฝากจัดการทางนี้ด้วย” กมลบอกเสียงเข้ม ก่อนจะรีบตามเฉินที่ลากคิมไป

 

 

 

ปัง!

 

กมลรีบหลบลูกกระสุนอย่างรวดเร็ว เมื่อลูกน้องของเฉินที่คุ้มกันเฉินอยู่ยิงสวนออกมา กมลไม่กล้ายิงไปเพราะกลัวว่าจะไปถูกคิม จึงจำต้องตามไปก่อน

 

 

ผลั่ก!

 

ชายร่างใหญ่โผล่ออกมาจากห้องมืดๆห้องหนึ่ง เตะเข้าที่กลางท้องของกมล เพื่อถ่วงเวลา กมลผงะถอยนิดๆ ก่อนจะสู้กลับอีกฝ่ายบ้าง กมลใช้ศอกกันหมัดที่เหวี่ยงเข้ามา ก่อนจะหลบมุดไปใต้แขนของอีกฝ่ายเพื่อไปยืนทางด้านหลัง มือทั้งสองข้างของกมล คว้าหมับไปที่คางและใบหน้าของอีกฝ่าย

 

 

กร๊อบ!

 

ชายร่างใหญ่ร่วงลงกับพื้นทันที เมื่อถูกกมลหักคอ กมลไม่คิดจะอยู่ดูฝีมือตัวเอง รีบตามเฉินต่ออย่างรวดเร็ว

 

..

 

..

 

“ปล่อยนะ!” คิมดิ้นไปมาพร้อมกับขืนตัวเองเอาไว้

 

 

พลั่ก!

 

“โอ๊ยย” คิมร้องออกมาเมื่อถูกสันปืนตบเข้าที่หัว จนรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่ไหลลงมาจากหัวทันที

 

 

 

“คิม!!” กมลที่วิ่งตามมาทันเรียกอย่างตกใจ เมื่อเห็นว่าคิมหัวแตก ตอนนี้เฉินกับลูกน้อง ยืนอยู่ตรงประตูทางออกด้านหลังของบ้าน

 

 

 

“อย่าเข้ามานะไอ้กมล!! ไม่งั้นเมียลื้อตายแน่” เฉินพูดขู่พร้อมกับเอาปืนจ่อหัวคิมเอาไว้

 

 

 

“ปล่อยตัวคิมซะคุณเฉิน” กมลพูดบอกเสียงเครียด ในความเป็นจริงแล้ว แผนของกมลคือการให้กมลมาเจอกับเฉินก่อน ส่วนลูกน้องของกมลจะตามรอย GPS ที่อีวานเอามาติดกับกระดุมเสื้อของกมล เพื่อให้เฉินตายใจว่ากมลมาคนเดียว ส่วนกมลเมื่อมาเจอเฉินแล้ว ต้องทำยังไงก็ได้ ให้คิมมาอยู่ในความดูแลของตัวเองก่อน เพื่อที่เวลาคนของกมลบุกเข้ามากมลจะได้ปกป้องคิมได้  แต่เฉินกลับไม่ยอมปล่อยคิม เลยทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้น

 

 

 

“ปล่อยให้โง่ ลื้อนั่นแหละ ถอยไปเลย” เฉินตะคอกบอกอกมา

 

 

 

“อ๊ากกก” เสียงร้องจากด้านนอกยังคงดังขึ้น ทำให้เฉินเองหวาดหวั่นไม่น้อยเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าเสียงคำรามลั่นป่านั่นคือเสียงของอะไรกันแน่

 

 

 

“เกิดอะไรขึ้นข้างนอกวะ!” เฉินสบถออกมาอย่างหัวเสีย เลือดของคิมก็ไหลลงมาเปื้อนเสื้อ กมลกัดฟันกรอด แต่หาจังหวะเข้าชาร์ตคิมไม่ได้

 

 

 

“คุณหนีไปไหนไม่รอดหรอกคุณเฉิน” กมลพูดขึ้นอีก

 

 

 

“ทำไมจะไม่รอด” เฉินพูดบอกก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องอีกคนเปิดประตูหลังบ้าน รถของเฉินถูกจอดเอาไว้รออยู่ก่อนแล้ว

 

“ตามไปเก็บศพเมียลื้อที่หลังล่ะกัน” เฉินพูดเยาะ ก่อนจะพาคิมออกไปที่รถ พร้อมกับลูกน้องของตนเอง ตอนนี้ลูกน้องของกมลจัดการลูกน้องของเฉินที่อยู่ในบ้านได้เรียบร้อยแล้ว กมลรีบตามออกมาหลังบ้านทันที

 

“เปิดประตูรถ” เฉินสั่งลูกน้อง ลูกน้องของเฉินกำลังจะเปิดประตูรถให้เจ้านาย

 

 

 

ควั่บ!

 

 

“อ๊ากกกกกก” เสียงร้องของคนที่กำลังจะเปิดประตูรถดังขึ้น เมื่อถูกบางอย่างกระโจนเข้าใส่พร้อมกับกัดลงไปจมเขี้ยว ตอนนี้หลังบ้านมีเพียงไฟสาดส่องแค่เพียงดวงเดียว

 

 

 

“เฮ้ย เสือ!” เฉินร้องออกมาอย่างตกใจ ลูกน้องของกมลอีกคนกำลังจะเล็งปืนไปที่เสือตัวใหญ่

 

 

 

“วิปครีม ตรง!” เสียงสั่งการดังขึ้น ซึ่งคิมขำได้ดีว่าเป็นเสียงของคม เสืออีกตัวกระโจนเข้าใส่ลูกน้องของกมลก่อนที่จะลั่นไก

 

 

 

//คลีโม วิปครีม// คิมพึมพำออกมา ด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ เมื่อจำได้ว่าเสือทั้งสองคือคลีโมกับวิปครีม เสียงกรีดร้องของลูกน้องของเฉินดังขึ้นเมื่อถูกเสือทั้งสองขย้ำ  เฉินตาเหลือกโตด้วยความตกใจ แต่ก็ล็อคคิมเอาไว้แน่น

 

 

 

“ผมบอกแล้วไง ว่าคุณหนีไปไหนไม่ได้ ปล่อยคิมซะ” กมลพูดขึ้นมาอีก เฉินส่ายหน้าไปมา

 

 

 

พลั่ก! ผั่วะ!

 

คมจัดการลูกน้องของเฉินที่วิ่งมาจากข้างบ้าน ยิ่งทำให้เฉินร้อนรน ส่วนอีกด้านเมื่อรู้ว่าเหยื่อของตัวเองนิ่งไปแล้ว คลีโมก็หันมาคำรามใส่เฉินต่อทันที กมลเป่าปากเรียกคลีโม เสือตัวใหญ่เดินเข้ามาหากมล โดยที่ร่างกายและปากเต็มไปด้วยเลือดคน

 

 

 

“คุณเฉิน คุณยอมซะเถอะนะ” คิมพูดบอกออกมาเสียงเบา

 

 

 

“ไม่ต้องมาบอกอั๊วะ ยังไงอั๊วะก็ไม่ยอมตายหรอก” พูดจบ เฉินก็เล็งปืนไปทางกมลกับคลีโม ทำให้คิมตัดสินใจรวบรวมแรงที่มีกระแทกปลายคางของเฉิน

 

 

 

“คิม มานี่!” กมลเรียกคิมทันทีเมื่อเห็นคิมเป็นอิสระ เฉินล้มหงายหลังเพราะไม่ทันระวังตัว

 

 

 

“ตายซะเถอะ” เฉินก็ตั้งตัวยกปืนขึ้นมาเล็งที่คิม

 

 

 

“อย่า!!” กมลตะโกนเสียงดัง พร้อมกับร่างของคิมที่โผเข้าไปที่อ้อมกอดของกมล

 

 

 

ปัง..

 

เสียงปืนหนึ่งนัดดังขึ้น

 

..

 

..

 

“โฮกกกกกกกกกก”

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงคำรามและเสียงร้องของเฉินดังขึ้นมาพร้อมกัน เมื่อเฉินถูกวิปครีมกระโจนเข้าขย้ำเสียก่อน ทำให้ปืนหันพลาดไปทางอื่น

 

 

 

“คลีโม จัดการ!” กมลสั่งออกมาทันทีเมื่อรู้ว่าคิมและตนเองปลอดภัย คลีโมกระโจนเข้าไปช่วยวิปครีมขย้ำเฉินทันที ร่างของเฉินดิ้นไปมาเมื่อถูกกัด กมลกอดคิมเอาไว้ พร้อมกับจับให้คิมซบไหล่ตนเอง ไม่ให้หันไปมองภาพที่เฉินกำลังถูกเสือขย้ำ จนในที่สุดเฉินก็ขาดใจตาย

 

 

 

“คมจัดการคลีโมกับวิปครีมด้วย” กมลพูดสั่ง คมจึงตรงเข้าไปเรียกเสือทั้งสองพร้อมกับเอาโซ่ไปคล้องที่คอของเสือทั้งสองเอาไว้

 

“คิม กลับบ้านเรากันนะ” กมลพูดบอกออกมาเสียงอ่อนโยน ก่อนจะถอดเสื้อคลุมมาเช็ดเลือดและห้ามเลือดที่หัวของคิม คิมมองหน้ากมลพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม เมื่อได้ยินคำว่าบ้านของเรา

 

 

 

“ฮึกก..ผม” คิมอยากจะพูดบางอย่าง แต่กมลส่ายหน้าไปมา

 

 

 

“ไปคุยที่บ้าน” กมลยืนยันคำเดิม ก่อนจะพยุงคิมเดินอ้อมไปทางหน้าบ้าน เมื่อเดินมาถึงหน้าบ้าน ลูกน้องของกมลก็จัดการทุกอย่างแล้วเรียบร้อย คิมเห็นรถหกล้อคันใหญ่ที่มีกรงและผ้าใบปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่ง ทำให้รู้ว่าคลีโมกับวิปครีมต้องมากับรถคันนี้แน่นอน

 

 

 

“นายเป็นอะไรน่ะคิม” ดานิลวิ่งเข้ามาถาม

 

 

 

“หัวแตกนิดหน่อยครับ” คิมตอบเสียงแผ่ว ตอนนี้คิมเริ่มตั้งสติตัวเองได้บ้างแล้ว

 

 

 

“ถอยไปห่างๆเลยดานิล” กมลว่าเสียงเข้ม ดานิลเม้มปากนิดๆ ก่อนจะยอมถอยห่างออกมาโดยดี

 

 

 

“คุณดานิลเป็นอะไรมั้ยครับ” คิมถามดานิลขึ้นอย่างเป็นห่วง ดานิลยิ้มฝืนๆ

 

 

 

“ไม่เป็นอะไร” ดานิลตอบกลับ

 

 

 

“พวกเรากลับกันได้แล้ว ฝ่ายเก็บกวาด เอาศพทุกคนไปไว้ในบ้าน แล้วเผาทิ้งให้หมด” กมลพูดสั่งเสียงเรียบ ก่อนจะพาคิมไปที่รถ พร้อมกับดานิลที่เดินตามหลัง

 

“อ่อ..ดานิล อีวานรอนายอยู่ที่บ้านชั้น เตรียมคำแก้ตัวเอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน” กมลพูดบอกเสียงเรียบ งานนี้ กมลไม่ให้อีวานมา เพราะอยากจัดการด้วยตัวเองเป็นการทิ้งท้าย เมื่อได้ยินที่กมลพูดบอก ดานิลหน้าซีดทันที แต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 

 

เช้า..

 

 

คิมค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา พร้อมกับอาการปวดหัวนิดๆ ร่างบางพยายามปรือตามองไปรอบๆ อย่างสำรวจ ก่อนจะรับรู้ว่าตนเองนอนอยู่ในห้องนอนของกมลที่บ้าน แต่มองไปรอบๆก็ไม่มีใครอยู่สักคน คิมจึงยันกายขึ้นมานั่งพร้อมกับเอามือมาจับตรงแผลก็พบว่าถูกเย็บเป็นหมอนติดเอาไว้

 

 

แกร๊ก…

 

เสียงเปิดประตูดังขึ้น พร้อมกับป้านีที่เดินเข้ามา

 

“อ่า ตื่นแล้วเหรอคะ เป็นไงบ้างคะ เจ็บตรงไหนปวดตรงไหนรึเปล่า” ป้านีตรงเข้ามาถามด้วยเป็นห่วง

 

 

 

“ผม…มานอนอยู่ที่นี่ได้ไงครับป้านี” คิมถามขึ้นอย่างงุนงง

 

 

 

“เมื่อคืน คุณกมลพาคุณคิมกลับมาบ้าน คุณคิมสลบไปน่ะค่ะ ป้าล่ะใจหายใจคว่ำ แล้วคุณกมลก็พาคุณคิมขึ้นมาบนห้องแล้วตามหมอมาทำแผลให้น่ะค่ะ” ป้านีพูดบอก

 

 

 

“ละ..แล้ว” คิมอยากรู้ว่าตอนนี้กมลอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่กล้าถามออกมา

 

 

 

“คุณกมลอยู่ที่ห้องทำงานกับคุณอีวานค่ะ” ป้านีตอบออกมาอย่างรู้ใจ คิมนิ่งไปนิด

 

“มีอะไรก็คุยกันนะคะ อย่าคิดอะไรไปเองคนเดียว เพราะบางทีสิ่งที่คิดมันอาจจะไม่จริงก็ได้” ป้านีพูดสอนออกมา คิมนั่งหน้าหม่น

 

“ไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะคะ แต่ระวังอย่าให้แผลเปียกน้ำเข้าล่ะ เดี๋ยวป้าจะยกอาหารเช้าขึ้นมาให้” ป้านีบอกอย่างใจดี

 

 

 

“เดี๋ยวผมลงไปกินเองดีกว่าครับ ป้านีไม่ต้องยกขึ้นมาหรอก” คิมบอกกลับอย่างเกรงใจ ป้านีก็พยักหน้ารับรู้ ก่อนจะออกจากห้องเพื่อให้คิมทำธุระส่วนตัว คิมลุกลงจากเตียง มองหากระเป๋าเสื้อผ้าของตนเองที่จัดทิ้งเอาไว้เมื่อวานซืน แต่หาไม่เจอ ก่อนจะนิ่งอึ้งเมื่อเปิดตู้เสื้อผ้า แล้วพบว่าเสื้อผ้าทุกชิ้น ของใช้ทุกอย่างของคิม ถูกนำออกมาจัดวางเหมือนเดิม คิมดวงตาร้อนผ่าว ก่อนจะคว้าผ้าขนหนูไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

 

..

 

..

 

..

 

เมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้ว คิมจึงลงมากินข้าวเช้าที่ห้องอาหาร คิมยังไม่เจอหน้ากมล ดานิล หรืออีวานเลยสักคน

 

“คุณดานิลล่ะครับป้านี” คิมถามถึงดานิล

 

 

 

“ยังไม่ตื่นน่ะค่ะ แต่คุณกมลสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณดานิลตื่นแล้วให้เข้าไปหาคุณอีวานที่ห้องทำงาน ไม่รู้ว่าจะเจออะไรรึเปล่า” ป้านีตอบกลับ

 

 

 

“แล้วเมื่อคืนเค้าได้เจอกันมั้ยครับ คุณดานิลกับคุณอีวาน” คิมถามอีก

 

 

 

“เจอค่ะ แต่คุณอีวานไม่พูดอะไรเลย ส่วนคุณดานิลก็น่าสงสาร แค่เจอพี่ชายตัวเองมองดุๆก็แทบจะร้องไห้แล้วล่ะค่ะ” ป้านีบอกออกมาอีก คิมพยักหน้ารับรู้

 

 

 

“ผมอิ่มแล้วล่ะครับ ผมอยากไปดูคลีโมกับวิปครีม คงไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ” คิมถามขึ้น เพราะคิมยังไม่รู้ว่าสถานะตอนนี้ของตนเองจะทำอะไรได้บ้าง

 

 

 

“ไปได้ค่ะ  คมพึ่งอาบน้ำให้พวกมันเสร็จเมื่อสักพักนี้เอง แต่อย่าหนีออกไปข้างนอกนะคะ” ป้านีบอกยิ้มๆ คิมยิ้มเจื่อนๆ ก่อนจะลุกเดินออกไปทางหลังบ้าน คิมเดินไปยังกรงของเสือทั้งสองตัว

 

 

 

“มาทำอะไรครับคุณคิม”  คมถามขึ้นเมื่อเห็นคิมเดินตรงเข้ามา

 

 

 

“ชั้นอยากมาดูคลีโมกับวิปครีมหน่อย ได้มั้ย” คิมถามเสียงแผ่ว คมหันไปมองเสือทั้งสองก่อนจะพยักหน้ารับ

 

 

 

“เห็นไอ้ทอมบอกว่าคลีโมมันยอมเข้าหาคุณคิมแล้ว” คมพูดถามขึ้น คิมพยักหน้ารับ

 

“งั้นผมก็วางใจแล้วล่ะครับ” คมตอบกลับ คิมเดินเข้าไปที่กรง

 

 

 

“ชั้นขอเข้าไปข้างในนะ” คิมพูดบอก

 

 

 

“ได้ครับ” คมตอบกลับ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้คิม คิมเข้าไปในกรงเสือทั้งสอง วิปครีมวิ่งเข้ามาหาคิมทันที คิมยิ้มรับอ่อนๆ ส่วนคลีโมก็เดินมานอนข้างๆ ไม่ได้คลอเคลียเหมือนที่วิปครีมทำ ถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะเห็นภาพตอนที่เสือทั้งสองขย้ำลูกน้องของเฉิน แต่คิมก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร คิมนั่งลูบตัววิปครีมเบาๆ

 

 

 

//นึกว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้วนะ// คิมพูดลอยๆกับวิปครีม ก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆ คลีโมก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาจ้องเขม็งไปที่ประตูทางเข้าซึ่งคิมนั่งหันหลังให้อยู่

 

 

 

“ไง” เสียงทุ้มดังขึ้นทางด้านหลัง ทำให้คลีโมรีบวิ่งตรงเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว คิมหันไปมองตามเสียงก็ต้องอึ้ง เมื่อเห็นเดย์กำลังยืนรับแรงถาโถมของคลีโม คลีโมไม่ได้ตะปบหรือทำร้ายอะไร แต่คลีโมกำลังกระโจนใส่ทำท่าเหมือนจะกอดเดย์ให้ได้ เดย์ก็ผลักออกเป็นเชิงหยอก ซึ่งคิมไม่เคยเห็นคลีโมเล่นแบบนี้กับใครมาก่อน

 

“ตัวใหญ่ขึ้นเยอะเลยนะ” เดย์พูดบอกพร้อมกับลูบหัวลูบหัวคลีโมไปด้วย คลีโมก็เอามือปัดป่ายไปทั่วตัวของเดย์

 

“หยุดก่อน” เดย์พูดเสียงเรียบ คลีโมก็นิ่งทันที ก่อนที่เดย์จะเดินมาหาคิม โดยมีคลีโมเดินตามติดๆ

 

 

 

“มึงมาทำอะไรที่นี่ แล้วคุณกมลรู้รึเปล่า แล้ว..” คิมถามออกมาอย่างร้อนรน

 

 

 

“กูผ่านมา ก็เลยแวะ” เดย์บอกสั้นๆ แต่คิมรู้ว่าไม่ใช่อย่างที่เดย์บอก

 

 

 

“แล้วอิฐล่ะ” คิมถามต่อ เดย์ลูบหัวคลีโมที่นอนเอาหัวมาเกยตักของเดย์เอาไว้ ซึ่งเดย์นั่งอยู่ที่พื้นหญ้าข้างคิม

 

 

 

“กำลังบ้าเห่อเลี้ยงหลานให้คนข้างบ้าน” เดย์พูดพร้อมกับยิ้มนิดๆ คิมหน้าหม่นลง

 

 

 

“ถามจริง มึงมาทำอะไร” คิมถามอีกครั้ง เดย์ถอนหายใจเบาๆ

 

 

 

“กูอยากมาคุยกับมึง ให้มึงเข้าใจ” เดย์บอกกลับ

 

 

 

“เข้าใจอะไร” คิมถามต่อ เดย์หันมามองหน้าคิมด้วยสายตาจริงจัง

 

 

 

“ให้มึงเข้าใจในสิ่งที่นายทำ และมาคุยเพื่อให้มึงหยุดคิดมากสักที” เดย์บอกกลับ ทำให้คิมนิ่งไปนิด

 

“ความจริงกูก็ไม่อยากยุ่งอะไร แต่กูเองเคยทำผิดกับมึงไว้เยอะ อิฐมันเลยไล่ให้กูมาไถ่โทษบ้าง” เดย์บอกออกมาอีก ทำให้คิมยิ้มขำนิดๆ เมื่อได้ยิน

 

 

 

“มาเพราะเมียไล่ให้มา ว่างั้นเหอะ” คิมถามกลับ

 

 

 

“ก็ประมาณนั้น” เดย์ตอบกลับเสียงนิ่ง

 

“คิม…นายเค้ารักมึงมากนะ มึงรู้รึเปล่า” เดย์พูดขึ้นเสียงจริงจัง คิมนิ่งเงียบไปทันที ไม่ตอบรับอะไร

 

“มึงคิดว่าเค้า รับเรื่องที่มึงกับกูเคยมีอะไรกันไม่ได้เหรอวะ” เดย์ถามต่อ คิมหน้าหม่นลง

 

 

 

“ก็ท่าทีเค้าไม่เหมือนเดิม เค้าเย็นชาใส่กูนะเดย์ มึงจะให้กูคิดยังไงล่ะ” คิมพูดเสียงแผ่ว

 

 

 

“มึงไม่รู้ว่าจะคิดยังไง ก็เลยคิดไปเองว่าเค้าไม่เอามึงแล้ว คิดว่าเค้ารับไม่ได้งั้นสิ” เดย์พูดเหน็บกลับไป คิมไม่ตอบอะไรออกมา

 

“กูจะบอกมึงให้นะ วันที่มึงไปหานายที่ผับ วันนั้นนายเค้าโทรตามกูให้เข้าไปหาเค้าเพื่อคุยเรื่องมึง” เดย์พูดบอก ทำให้คิมหันมามองหน้าเดย์ทันที

 

 

 

“คะ..คุยเรื่องอะไร” คิมถามกลับ

 

 

 

“นายเค้าอยากรู้ว่ากูกับมึง มีอะไรกันตั้งแต่เมื่อไร จนถึงเมื่อไร ถ้ามึงได้ยินนายถามกู มึงคงขำมากกว่าจะเสียใจล่ะมั้ง” เดย์พูดบอกก่อนจะเล่าเรื่องราวตอนที่คุยกับกมลให้คิมฟัง

 

..

 

..

 

..

 

“ตกลงแกมีอะไรกับคิมช่วงที่เรียนมัธยมใช่มั้ย” กมลถามขึ้นเสียงเครียด

 

 

 

 

 

“ครับ” เดย์ตอบกลับ

 

 

 

 

 

“แล้วตอนนั้นแกมาทำงานกับชั้นรึยัง” กมลถามต่อ

 

 

 

 

 

“ทำแล้วครับ” เดย์ตอบกลับไปสั้นๆเช่นเคย

 

 

 

 

 

“แล้วทำไมแกไม่คิดจะเอาคิมมาเจอชั้นตั้งแต่ตอนนั้นวะ แกทำให้ชั้นเสียดายเวลาที่ผ่านมาตั้งหลายปี ถ้าชั้นได้รู้จักกับคิมตั้งแต่ตอนนั้น ชั้นคงมีความสุขไปนานแล้ว” กมลโวยวายขึ้นมา

 

 

 

 

 

“แต่ตอนนั้นคิมก็ยังเด็กอยู่นะนาย” คมพูดขึ้น

 

 

 

 

 

“แล้วใบบุญไม่เด็กรึไง” กมลเถียงลูกน้องตนเองกลับไป ทำให้คมนิ่งเงียบ ก่อนที่กมลจะหันมาหาเดย์อีกครั้ง

 

“แกเองก็เหมือนกัน ถ้าชั้นรู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าแกทำให้คิมเสียใจ ชั้นจะหักคอแกให้ตายคามือชั้นเลย” กมลว่าออกมาเสียงขุ่นเพราะเดย์เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟังหมดแล้ว

 

 

 

 

 

“มันก็เป็นอดีตไปแล้วไงนาย ผมกับคิมก็เคลียกันรู้เรื่องหมดแล้ว” เดย์บอกอีก

 

“ตกลงว่านายรับได้หรือไม่ได้ ที่ผมกับคิมเคยมีอะไรกันมาก่อน” เดย์ถามตรงๆ

 

 

 

 

 

“รับได้ ชั้นบอกแล้วไงว่าชั้นไม่สนใจอดีต ที่ชั้นโทรตามแกมา ก็เพราะชั้นจะสั่งให้แกลืมอดีตเหล่านั้นที่เคยทำกับคิม ลืมทุกอย่าง ลืมให้หมด อย่าให้เหลือไว้ในความทรงจำแม้แต่นิดเดียว” กมลสั่งเสียงเข้ม เดย์เลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

 

 

 

 

 

“แล้วนายคิดว่าถ้าผมยังจำเอาไว้ตลอด อิฐมันจะเป็นยังไง นายก็น่าจะรู้นิสัยอิฐมันนะ” เดย์พูดเป็นนัยให้กมลมั่นใจว่าทุกวันนี้เดย์ไม่คิดจะจำเรื่องในอดีตอีกแล้ว

 

 

 

 

 

“ชั้นรู้ แต่ชั้นก็อยากได้ยินจากปากแก ว่าต่อจากนี้ไป แกจะลืมเรื่องทุกอย่างจริงๆ เหมือนที่คิมอยากจะลืมเรื่องของแก” กมลบอกกลับเสียงจริงจัง

 

 

 

 

 

“ผมลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้วนาย ทุกวันนี้ผมกับมันเป็นแค่เพื่อนกัน และผมก็มั่นใจ ว่าตอนนี้ คิมเองมันก็ลืมอดีตระหว่างมันกับผมไปแล้วเหมือนกัน” เดย์บอกออกมาอย่างมั่นใจ กมลถอนหายใจออกมาเบา

 

 

 

“เออ ชั้นก็อยากได้ยินแค่นี้แหละ อยากจะเคลียกับแกให้หายคาใจด้วยถึงได้ตามมาคุย” กมลตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายขึ้น

 

..

 

..

 

..

 

“คะ..เค้าเรียกมึงไปเพื่อเอาคำตอบแค่นั้นอ่ะนะ” คิมถามกลับอย่างอึ้งๆ เมื่อได้ยินที่เดย์เล่าให้ฟัง

 

 

 

“เออ ไม่รู้ว่าจะเอาคำตอบ หรือว่าแค่อยากจะสั่ง ให้กูลืมเรื่องทั้งหมดกันแน่” เดย์ตอบออกมาแล้วนึกขำ คิมนั่งเงียบไปทันที

 

“นายน่ะ เค้าแค่อยากจะเคลียอะไรให้เรียบร้อย ให้หายคาใจทั้งกูและเค้าก่อน เค้าถึงจะกลับมาคุยกับมึง แต่มึงก็ดันหายตัวไปซะนี่”  เดย์บอกกลับ

 

 

 

“เรื่องทั้งหมด กูคิดไปเองคนเดียวงั้นเหรอ” คิมถามเสียงแผ่ว

 

 

 

“เออน่ะสิ เลิกคิดมากโน่น นี่ นั่นได้แล้ว กูเองก็จะได้สบายใจด้วย ที่มึงเจอคนที่เค้าดูแลมึงได้สักที” เดย์บอกกลับมา คิมยิ้มรับอ่อนๆ

 

“เออ กูถามจริงๆ มึงลืมเรื่องของกูได้แล้วใช่มั้ย” เดย์ถามออกมาตรงๆ คิมยิ้มรับ พร้อมกับพยักหน้า

 

 

 

“แล้วมึงจะรออะไรล่ะ ไปปรับความเข้าใจกับนายได้แล้วไป” เดย์พูดไล่ คิมยิ้มกว้างก่อนจะรีบลุกแล้ววิ่งออกไปนอกกรงของเสือทั้งทันที ทิ้งให้เดย์นั่งเล่นกับเสือทั้งสองไปก่อน คิมเดินตรงเข้าไปในบ้าน และเดินตรงไปยังห้องทำงานของกมล แต่ยังไม่ทันเคาะประตูห้อง กมล อีวาน และดานิลก็เดินออกมาจากห้องทำงานเสียก่อน ดวงตาของดานิลแดงก่ำ

 

 

 

“คุณดานิล เป็นอะไรครับ” คิมรีบเดินเข้าไปถามดานิลทันที คิมพึ่งเห็นอีวานครั้งแรก ก็รู้สึกเกร็งนิดหน่อย เพราะอีกฝ่ายรูปร่างสูงใหญ่และดูดุดันไม่น้อย ถึงแม้ว่าใบหน้าคมจะดูหล่อมากๆก็ตามที

 

 

 

“เปล่า” ดานิลตอบเสียงแผ่ว

 

 

 

“นายชื่อคิมใช่มั้ย” เสียงอีวานถามขึ้น

 

 

 

“ครับ” คิมขานรับ

 

 

 

“ชั้นอีวาน ยินดีที่ได้รู้จัก” อีวานยื่นมือมาหา คิมรีบยื่นมือไปจับทันที ก่อนจะปล่อยออกมา

 

 

 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” คิมตอบกลับไป

 

 

 

“ชั้นต้องขอโทษแทนน้องชายชั้นด้วย ที่มันมาสร้างปัญหาให้กับนาย” อีวานพูดบอกออกมา

 

 

 

“ไม่เป็นไรครับ” คิมตอบกลับ พร้อมกับมองหน้าดานิล ก่อนจะเห็นรอยฝ่ามือแดงบนใบหน้าเนียน

 

“นี่ใครตบคุณดานิลครับ” คิมถามอย่างตกใจ

 

 

 

“ชั้นเอง” อีวานตอบกลับ ส่วนดานิลยืนก้มหน้านิ่ง

 

 

 

“ทำไมต้องตบกันด้วยล่ะครับ” คิมถามทันที

 

 

 

“ก็ที่มันมาทำความวุ่นวายที่นี่ไงล่ะ” อีวานตอบกลับมา

 

 

 

“แล้วทำไมต้องตบเค้าด้วยล่ะครับ คุณอีวานครับ คุณดานิลเค้าไม่ได้สร้างความวุ่นวาย เค้าแค่ต้องการใครสักคนที่เข้าใจเค้า สนใจเค้า ให้ความรักกับเค้าเท่านั้นเอง” คิมพูดในสิ่งที่ตนเองคิด ดานิลเงยหน้ามองคิมด้วยสายตาสั่นๆ อีวานขมวดคิ้วเข้าหากัน

 

 

 

“นายพูดอะไรของนาย” อีวานถามขึ้น

 

 

 

“คุณเป็นพี่ชายของเค้า ทำไมถึงดูไม่ออกล่ะครับ ว่าคุณดานิล เค้าต้องการอะไรกันแน่ ผมรู้มาว่าคุณต้องเดินทางไปโน่นไปนี่ตลอดเพราะเรื่องงาน ผมไม่รู้ว่าคุณต้องเดินทางแบบนี้บ่อยตั้งแต่เมื่อไร และผมไม่รู้ว่าคุณดานิลกับคุณใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พูดคุยกันเหมือนพี่เหมือนน้องแบบคนธรรมดาทั่วไปกันบ้างมั้ย อาจจะเป็นเพราะสิ่งเหล่านี้ ทำให้คุณดานิลอยากเป็นที่สนใจ เป็นจุดสนใจของใครสักคน โดยเฉพาะกับพี่ชายตัวเอง” คิมพูดบอกออกมา อีวานกับกมลยืนนิ่งอึ้ง

 

 

 

“คิม..ฮึกก” ดานิลเรียกคิมเสียงสะอื้น เพราะทุกอย่างที่คิมพูดมันแทงใจดำเขาทุกอย่าง

 

 

 

“ตอนที่ผมกับคุณดานิลถูกจับตัวไป คุณดานิลพยายามทำตัวปกป้องผมตลอด พยายามที่จะเป็นที่พึ่งให้ผม ถึงแม้ว่าปากเค้าจะร้ายไปหน่อยก็เถอะ แต่ในช่วงเวลาที่เค้าปกป้องผม ผมกลับรู้สึกว่าเค้าอยากให้คนอื่นปกป้องเค้า แบบที่เค้าปกป้องผมบ้าง คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ยครับ คนเรา มันไม่ได้แข็งแกร่งไปได้ตลอด มันมีจุดมีมุมที่อ่อนแอกันได้ แล้วเวลาที่คนเราอ่อนแอ เราก็อยากจะมีใครสักคนคอยอยู่ข้างๆเรา ซึ่งคุณดานิลไม่มีใครเลย และผมรู้ว่าที่คุณดานิลไม่ยอมรับเรื่องของผมกับคุณกมล ก็เพราะเค้ากลัวว่าผมจะแย่งความสนใจจากคุณกมลไปจากเค้า แย่งความสุขชั่วครั้งชั่วคราวของเค้าไปจนหมด ผมพูดถูกใช่มั้ยครับ คุณดานิล” ช่วงสุดท้าย คิมหันไปถามดานิล

 

 

 

“ฮือออออ….ชั้นเสียใจคิม…ชั้นขอโทษ” ดานิลโผเข้ากอดคิมพร้อมกับสะอื้นพูดออกมา อีวานนิ่งเงียบไปนิด

 

 

 

“กมล เรื่องที่ชั้นบอกว่าจะขอตัดสินใจก่อนน่ะ ชั้นให้คำตอบนายตอนนี้เลยล่ะกัน” อีวานพูดขึ้น ทำให้คิมงงนิดหน่อย

 

 

 

“ตัดสินใจได้แล้วเหรอครับ” กมลถามกลับทันที

 

 

 

“ใช่…ชั้นจะไม่รั้งนายเอาไว้ นายอยากเดินออกจากวงการนี้ ชั้นจะไม่ห้ามอะไรนายแล้วล่ะ ชั้นเข้าใจแล้วว่า ทำไมนายถึงยอมถอนตัวเพื่อคนๆนี้” อีวานบอกกลับ ทำให้กมลยิ้มออกมา ก่อนจะเข้าไปสวมกอดอีวานอย่างขอบคุณ เพราะก่อนหน้านี้ อีวานยังมีท่าทีลังเล ไม่อยากให้กมลถอนตัวออกจากวงการ บอกแค่ว่าขอคิดดูก่อนเท่านั้น

 

 

 

“ขอบคุณ” กมลพูดบอกออกไป ก่อนจะผละออกมายืนข้างๆคิมที่กำลังกอดปลอบดานิลอยู่ อีวานหันมามองคิมอีกครั้ง

 

 

 

“ขอบคุณ สำหรับคำแนะนำตักเตือน” อีวานบอกกับคิมพร้อมกับยิ้มอ่อนๆ

 

 

 

“เอ่อ…ผมไม่กล้าตักเตือนอะไรหรอกครับ แค่พูดในสิ่งที่คิดเท่านั้นเอง” คิมบอกเสียงอ่อยๆ ดานิลผละออกมาจากอกของคิมนิดๆ

 

 

 

“คิม ชั้นขอโทษสำหรับทุกอย่าง นายยกโทษให้ชั้นได้มั้ย” ดานิลถามเสียงสั่น

 

 

 

“ผมไม่โกรธอะไรคุณเลยครับ” คิมตอบยิ้มๆ

 

 

 

“งั้นถ้าชั้นจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีก ชั้นมาได้ใช่มั้ย” ดานิลถามต่อ

 

 

 

“ครับ” คิมตอบรับ ทำให้ดานิลยิ้มออกมาทั้งน้ำตา ก่อนจะยื่นหน้าไปหอมแก้มใสของคิมเบาๆ

 

 

 

“ขอบคุณ” ดานิลบอกเสียงแผ่วพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ

 

 

 

พรึ่บ!

 

“ไม่ต้องมาหอมแก้มเมียชั้นเลย จะกลับแล้วไม่ใช่รึไง ชั้นคงไม่ไปส่งนะ” กมลดึงคิมเข้ามากอดเอาไว้ ดานิลมองค้อนกมลนิดๆ

 

 

 

“คนขี้หวง คอยดูนะ ถ้าชั้นกลับมาที่นี่เมื่อไร ชั้นจะแย่งคิมไปจากนาย” ดานิลพูดหยอกกลับ กมลชี้หน้าอย่างคาดโทษ ก่อนที่ดานิลจะหันมาหาพี่ชายตนเอง

 

 

 

“กลับกันเถอะ ชั้นกลับก่อนนะ คิม กมล โอกาสหน้าเจอกันใหม่” อีวานพูดบอก ก่อนจะแตะเอวบางของน้องชายให้เดินไปที่รถ กมลพาคิมเดินออกมาส่งอีวานกับดานิลขึ้นรถ โดยให้ลูกน้องของกมลไปส่งอีวานกับดานิลและบอดี้การ์ดที่สนามบิน ส่วนกมลก็พาคิมกลับขึ้นมาบนห้องนอน

 

 

 

“ชั้นเห็นเจ้าเดย์มันมา กลับไปรึยัง” กมลถามขึ้น คิมเดินเข้าไปสวมกอดกมลจากทางด้านหลังทันที ทำให้กมลที่กำลังจะถอดเสื้อตัวนอกออกชะงักไปนิด ก่อนจะหันมาหาคิมแล้วดึงคิมมากอดแนบอก

 

 

 

“บอกผมหน่อยสิครับ ว่าคุณยอมรับอดีตของผมได้” คิมถามขึ้นเสียงแผ่ว

 

 

 

“อดีตอะไร?” กมลถามกลับ ทำให้คิมผละออกมานิดๆ

 

 

 

“ก็อดีต..” คิมกำลังจะพูดต่อ แต่ก็รู้สึกงงกับท่าทีแบบนี้ของกมลไม่น้อย

 

 

 

“นายไม่มีอดีตอะไรนี่ เพราะตอนนี้นายมีแต่ปัจจุบันและอนาคตที่ต้องทำร่วมกับชั้นเท่านั้น” กมลพูดต่อออกมา ทำให้คิมนิ่งอึ้ง ก่อนจะเข้าใจทุกอย่าง ว่าการที่กมลทำเป็นไม่รู้เรื่อง และไม่อยากพูดถึงเรื่องอดีตของคิมก่อนหน้านั้น มันเพราะอะไร

 

 

….

 

เพราะกมลไม่อยากรื้อฟื้นอดีตขึ้นมาอีก ไม่อยากให้คิมเก็บเอาเรื่องในอดีตมาคิดในสถานการณ์ปัจจุบันแบบนี้  กมลทำเหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในอดีตของคิม ทั้งๆที่กมลรู้เรื่องทุกอย่าง แต่ก็ยอมทำเป็นไม่รู้เพราะอยากให้คิมสบายใจ ถ้าวันนั้นคิมยอมอยู่คุยกับกมลก่อนสักนิด ก็คงเข้าใจอะไรๆมากกว่านี้

 

 

 

“ผมขอโทษ ที่ไม่เชื่อใจคุณ ขอโทษที่ไม่มั่นใจในความรู้สึกของคุณ” คิมพูดบอกออกมาเสียงสั่น กมลยิ้มรับนิดๆ

 

 

 

“ไม่เป็นไร ชั้นเองก็ไม่คุยกับนายให้เร็วๆ นายจะได้ไม่เสียใจและคิดมากอยู่คนเดียวแบบนี้” กมลบอกออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน อ้อมแขนแกร่งกอดคิมเอาไว้แน่น

 

 

 

“ขอบคุณที่ทำทุกอย่างเพื่อผม” คิมบอกออกมาเสียงสั่นๆ

 

 

 

“เพื่อนายชั้นทำได้ทุกอย่าง ชั้นเคยบอกไปแล้วไง” กมลบอกกลับมาอีก คิมกอดกมลแน่นขึ้นอีกนิด

 

 

 

“คุณกมล คำที่ผมยังไม่พร้อมจะฟังในตอนที่เราอยู่ปราณบุรี ถ้าผมจะขอฟังตอนนี้จะได้มั้ยครับ” คิมถามขึ้นเสียงแผ่ว กมลยิ้มกว้างออกมา

 

 

 

“นายพร้อมที่จะฟังจริงๆน่ะเหรอ” กมลถามกลับ คิมพยักหน้ารับ กมลจูบที่ขมับของคิมเบาๆ เขารู้สึกดีใจไม่น้อย ที่จะได้พูดคำๆนี้สักที

 

..

 

..

 

“ชั้นรักนายนะคิม รักนายคนเดียว และจะรักตลอดไป” กมลพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้คิมรู้สึกอุ่นวาบไปทั่วหัวใจดวงน้อย ดวงตาคู่สวยร้อนผ่าวด้วยความตื้นตัน ใบหน้าเนียนเงยขึ้นมามองกมล

 

 

 

“คุณรู้มั้ยครับ ว่าผมลืมอดีตทุกอย่าง ลืมตั้งแต่วันแรกที่ได้อยู่ในอ้อมกอดของคุณ”

 

..

 

..

 

..

 

“ผมรักคุณครับ คุณกมล” คิมพูดบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปจูบกมล ซึ่งร่างแกร่งก็ตอบรับจูบของคิมทันที ความสุขจากบทจูบและความซาบซ่านในใจ ทำให้คิมแอบคิดในใจ

 

 

..

 

..

 

(ร้ายนักนะรักของมาเฟียคนนี้ คนที่ทำให้คิมลืมอ้อมกอดของคนในอดีตได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน)

 

 

 

 

 

+++++++++++++++++++ END ++++++++++++++++++

 

 

จบแล้ว กับตอนของกมลคิม

 

อาจจะห้วนๆ เว่อร์ๆหน่อยนะคร่า

 

ขอบคุณทุกๆคนที่ตามอ่านกันนะคะ

 

ต่อไปก็เป็นตอนของคมใบบุญแล้วล่ะ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset