ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่1 (คม x ใบบุญ)
Author: 여님 (ยอนิม)
ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากเจ้านายตัวเองว่าให้จัดการเรื่องของเด็กน้อยที่ชื่อว่าใบบุญ คมก็เดินเข้าไปหาป้านีและใบบุญหลังจากที่กมลขึ้นไปบนห้องนอนแล้ว ใบบุญรีบหลบหลังยายตัวเองด้วยความกลัวเนื่องจากคมรูปร่างสูงใหญ่กว่าใบบุญมากนัก
“พรุ่งนี้ 8 โมง ป้าพาหลานป้าไปรอผมที่โรงรถล่ะกัน เดี๋ยวผมพาไปจัดการตามที่นายเค้าบอก” คมพูดบอกเสียงเรียบ พร้อมกับมองเด็กน้อยที่แอบอยู่ด้านหลังป้านีด้วยสีหน้านิ่งๆ ความจริงคมไม่ค่อยชินกับเด็กๆเท่าไรนัก แต่ก็ขัดเจ้านายไม่ได้
“เอ่อ…คม พรุ่งนี้ป้าคงไปด้วยไม่ได้ ยังไงป้าฝากใบบุญไปกับคมก่อนนะ พรุ่งนี้ป้ามีเรื่องต้องจัดการภายในบ้านหลายอย่าง คุณกมลเค้าช่วยเหลือป้าถึงขนาดนี้แล้ว ป้าไม่อยากทิ้งงานไปด้วยน่ะ” ป้านีพูดบอกออกมา
“ยาย ยายไปกับใบบุญนะ ใบบุญไม่อยากไปคนเดียว” เด็กน้อยรีบเขย่าเสื้อทางด้านหลังยายตนเองทันที พร้อมกับพูดบอกเสียงสั่นๆ
“อย่างอแงน่าใบบุญ ไปกับลุงคมเค้านั่นแหละ” ป้านีพูดบอก
“เอ่อ ป้านี ให้หลานป้าเรียกผมว่าพี่ดีกว่ามั้ง เรียกลุงมันแก่ไป” คมรีบพูดทักท้วงทำให้ใบบุญชะงักไปนิดแล้วโน้มใบหน้าออกจากหลังของป้านีเพื่อมองหน้าคมก่อนจะผลุบไปหลบหลังยายตัวเองอีกเมื่อเห็นว่าคมกำลังจ้องมองมาด้วยสายตานิ่งๆ
“อ่อ แล้วแต่คมเลยล่ะกัน ยังไง พรุ่งนี้ป้าฝากหลานชายด้วยนะ” ป้านีบอกอีกครั้ง
“ครับ” คมตอบรับ ก่อนที่ป้านีจะพาใบบุญเดินกลับไปยังบ้านพักของตนเอง ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของคมไม่มากนัก คมเดินเข้ามาในบ้านพักของตนเองก่อนจะปลดกระดุมเสื้อเพื่อคลายความอึดอัด แล้วเดินไปหยิบเบียร์ในตู้เย็นมาเปิดดื่ม ภายในบ้านถึงจะเงียบกริบ เพราะว่าคมอยู่คนเดียวแต่คมก็ชินแล้วกับบรรยากาศแบบนี้ คมไม่เคยคิดเรื่องจะมีคู่ครอง เพราะตั้งใจเอาไว้ว่าจะอยู่ติดตามกมลไปจนกว่ากมลจะไม่อยากมีลูกน้องอย่างตนเองแล้ว คมนั่งคิดเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ ก็พลันนึกถึงดวงตากลมที่สั่นระริกของใบบุญ เด็กน้อยที่ตนเองพึ่งได้เจอวันนี้ครั้งแรก และเป็นครั้งแรกที่คมได้เห็นดวงตาของคนที่มีจิตใจและความคิดบริสุทธิ์ ไม่ใช่ดวงตาของคนที่มีแต่เล่ห์เหลี่ยมกลโกง มารยา เหมือนที่เคยพบเจออยู่ทุกวัน เมื่อนั่งดื่มเบียร์หมดกระป๋อง คมจึงลุกไปอาบน้ำและเข้านอนเพื่อเตรียมตัวพาเด็กน้อยใบบุญ ไปจัดการเรื่องบ้านเช่า
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ใบบุญ กินข้าวเสร็จแล้วก็ไปรอพี่คมที่โรงรถนะ” เสียงของป้านีพูดบอกกับหลานชายที่ตื่นมาอาบน้ำแต่เช้า และกินข้าว แต่ก็ยังใส่ชุดเดิมอยู่เพราะไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย
“ยายไม่ไปกับใบบุญจริงๆเหรอฮะ” เด็กน้อยถามยายตัวเองอีกครั้ง สีหน้าของเด็กน้อยฉายแววหม่นหมองและสั่นกลัวนิดๆ
“ไปไม่ได้หรอก เราไปกับพี่คมเค้านั่นแหละ” ป้านีพูดบอกออกมาอีก
“ยาย พี่คมเค้าดุรึเปล่าฮะ” ใบบุญถามขึ้น
“ไม่ดุหรอก เราก็ทำตัวดีๆล่ะกัน พี่เค้าจะได้ไม่ดุ” ป้านีบอกหลานชายกลับไป ใบบุญเม้มปากนิดๆ
“ฮะ” ใบบุญตอบรับก่อนจะหยิบจานข้าวไปล้างแล้วเดินออกไปรอคมที่โรงรถตามที่คมบอกเอาไว้เมื่อคืน ใบบุญพยายามเดินเลี่ยงการ์ดของกมลเพราะไม่เคยชิน ใบบุญเดินไปรอแค่แป๊บเดียว คมก็เดินเข้ามาด้วยสีหน้านิ่งๆ ใบบุญที่เห็นร่างสูงเดินเข้ามาก็รีบก้มหน้างุด
“กินข้าวเช้ารึยัง” คมถามขึ้น
“กะ..กินแล้วฮะ” ใบบุญตอบเสียงตะกุกตะกัก
“อืม ดี งั้นไปกันเลยล่ะกัน ลพ ไอ้ลพ” เมื่อพูดกับใบบุญแล้ว คมก็หันไปเรียกลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกล ลพวิ่งเข้ามาหา คมพูดสั่งงานเรื่องรถนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถอีกคัน
“ขึ้นรถสิ” คมพูดบอก ใบบุญรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งทันทีเพราะกลัวว่าคมจะไม่พอใจถ้าตนเองช้า คมเลิกคิ้วนิดๆ เมื่อเห็นท่าทีของเด็กน้อย แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไร คมขึ้นรถพร้อมกับปิดประตู ใบบุญสะดุ้งเล็กน้อย ขยับไปนั่งติดประตูรถทันที
“ห้องเช่าอยู่แถวไหน” คมถามขึ้นอีกขณะคาดเข็มขัดนิรภัย
“อยู่แถว XXX ฮะ” ใบบุญบอกตำแหน่งห้องเช่าของตนเอง คมขมวดคิ้วเข้าหากัน เพราะรู้ดีว่าย่านที่ใบบุญบอกเป็นย่านของชุมชนแออัด
“คาดเข็มขัดด้วยสิ” คมพูดบอกออกมา ใบบุญมีท่าทีเงอะงะเล็กน้อย เพราะไม่เคยนั่งรถยนต์มาก่อน แค่เปิดประตูขึ้นรถได้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว
“คาดแบบนี้” คมพูดก่อนจะโน้มตัวมาดึงเข็มขัดนิรภัยทางฝั่งของใบบุญ เพื่อมาคาดให้ ใบบุญนั่งตัวเกร็ง เมื่อร่างแกร่งของคมอยู่ใกล้ในระยะประชิด ส่วนคมเองก็ชะงักไปนิด เมื่อได้กลิ่นหอมของแป้งเด็กอ่อนๆ มาจากตัวของใบบุญ ซึ่งทำให้คมรู้สึกแปลกๆในใจ
“ขะ..ขอบคุณฮะ” ใบบุญพูดบอกออกมาพร้อมกับยกมือไหว้คม เมื่อคมคาดเข็มขัดให้ใบบุญเรียบร้อยแล้ว คมพยักหน้ารับ ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะขับรถออกไปทันที พร้อมกับรถกระบะโฟร์วีลอีกคันตามหลังไปติดๆ เพื่อไปช่วยขนของที่บ้านของใบบุญ
“ไม่ต้องเกร็ง ชั้นไม่กัดหรอก” คมพูดบอกออกมาเมื่อสังเกตเห็นว่าใบบุญนั่งเกร็งมาตลอดทาง
“เอ่อ..ฮะ” ใบบุญตอบรับเสียงแผ่ว แต่ก็ยังเกร็งอยู่ เพราะเด็กหนุ่มยังไม่ชินกับคม คมส่ายหน้าไปมานิดๆ เมื่อเห็นว่าใบบุญยังคงเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้ชวนคุยอะไรจนเริ่มจะใกล้ถึงบ้านเช่าของใบบุญ คมต้องจอดรถเอาไว้หน้าปากซอย เพราะเอารถเข้าไปไม่ได้ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินตามใบบุญเข้าไปในซอย คมมองดูแผ่นหลังเด็กน้อยที่พยายามเดินตัวลีบๆไปในซอย ถ้าใครมาบอกว่าใบบุญเป็นลูกผู้ดีตกยากคมก็เชื่อ เพราะหน้าตาและผิวพรรณของใบบุญขาวเนียนผ่องไม่น้อย
“หายไปไหนมาทั้งคืนยะ!! ชั้นนึกว่าแกจะหอบของหนีไปแล้วซะอีก แล้วตกลงว่าไง แม่แกกลับมารึยัง ค่าเช่าชั้นเมื่อไรจะให้ห้ะ!!” เสียงแว้ดๆ ดังขึ้น เมื่อใบบุญเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องเช่าหลังหนึ่ง
“เอ่อ..คือว่า” ใบบุญที่ยืนตัวสั่นกำลังจะพูดบอก คมจึงก้าวเท้ายาวๆเดินเข้าไปหาทันที ตอนที่คมและลูกน้องเดินเข้ามาในซอย ชาวบ้านต่างพากันมองอย่างตกใจและสงสัย
“แม่ของเด็กติดค่าเช่าเอาไว้เท่าไร” คมถามขึ้นเสียงเรียบ ป้าเจ้าของบ้านเช่ามองคมอย่างแปลกใจ
“แล้วแกเป็นใคร มายุ่งอะไรด้วยเนี่ย” ป้าเจ้าของบ้านถามขึ้นด้วยความไม่รู้ ก่อนจะชะงักเมื่อเห็นว่าคมมีลูกน้องยืนอยู่ด้านหลังด้วย ใบบุญยืนห่างออกมานิดๆ ดวงตาร้อนผ่าว ก้มหน้างุด
“อยากได้มั้ยล่ะ เงินค่าเช่าน่ะ ถ้าอยากได้ก็บอกมา ไม่ต้องถามมาก” คมบอกกลับไป พร้อมกับจ้องหน้าป้าเจ้าของบ้านนิ่งๆ จนอีกฝ่ายเริ่มใจไม่ดี
“กะ….ก็ 6000 บาท ยังไม่รวมค่าน้ำค่าไฟอีกนะ” ป้าเจ้าของบ้านบอกเสียงอึกอัก คมหยิบเงินที่เตรียมมา เพราะกมลให้ไว้เรียบร้อยแล้ว ส่งไปให้เจ้าของบ้าน 1 หมื่นบาท
“เอาไปหมดนี่แหละ แล้วก็จะย้ายออกจากที่นี่ด้วย” คมบอกกลับ เจ้าของบ้านตาวาวเมื่อเห็นเงินก้อน ก่อนจะรีบรับมาทันที
“ตามสบายเลยจ๊ะ พ่อหนุ่ม ต้องการคนช่วยขนมั้ย เดี๋ยวป้าเรียกมาให้” เจ้าของบ้านรีบพูดบอกเสียงอ่อนเสียงหวานเมื่อได้รับเงินแล้ว
“ไม่ต้อง” คมบอกเสียงเรียบ ก่อนจะหันมามองใบบุญที่ยืนเงียบมานานแล้ว
“ใบบุญ เข้าไปเก็บของ อันไหนที่จะเอาไปก็บอกพวกเจ้าลพ อันไหนที่ไม่เอาไปก็ทิ้งไว้ที่นี่” คมพูดบอกกับใบบุญ
“ฮะ” เด็กน้อยตอบรับก่อนจะรีบไขประตูบ้านเข้าไปทันที โดยมีสายตาของชาวบ้านชะเง้อมองอย่างสงสัย
“มีอะไรอีก” คมหันไปถามเจ้าของบ้านที่มองอย่างสงสัยเช่นเดียวกัน
“พ่อหนุ่มเป็นอะไรกับเจ้าใบบุญมันน่ะ ถึงมาจ่ายเงินค่าเช่าบ้านให้แบบนี้ แถมยังพาย้ายออกไปอีก” น้ำเสียงและสีหน้าของเจ้าของบ้าน ทำให้คมเดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายคิดอะไร คงหนีไม่พ้นเรื่องที่คิดว่าใบบุญขายตัวให้กับเขาแน่นอน
“ถ้าว่างนักก็ไปนอนนับเงินจริงๆที่ให้ไปดีกว่านะ ไม่งั้นอาจจะได้ไปนอนนับใบกงเต๊กในหลุมแทน” คมพูดบอกออกมาเสียงเข้ม หน้าตาทมึงถึง ถึงแม้ว่าคมจะอยู่ในโลกมืดมานานแต่เขาก็ไม่ชอบใจเลยถ้าเจอคนที่ชอบดูถูกคนอื่นแบบเจ้าของบ้านคนนี้ ที่กำลังดูถูกใบบุญอยู่ เมื่อได้ยินที่คมพูด เจ้าของบ้านก็หน้าซีด รีบถอยห่างจากคมทันที ลูกน้องของคมเดินเข้าไปช่วยกันขนของ บางส่วนที่ใบบุญบอก ออกไปที่รถซึ่งจอดอยู่หน้าปากซอย
..
..
ใบบุญเก็บเสื้อผ้าของตนเองลงกระเป๋าด้วยท่าทีหม่นๆ พลางคิดถึงแม่ตนเองขึ้นมา ทั้งห่วงทั้งน้อยใจผสมปนเปไปหมด
“มีอะไรรึเปล่า” เสียงของคมดังขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องเล็กๆ แล้วพบว่าใบบุญนั่งนิ่งอยู่ ใบบุญสะดุ้งเฮือกหันมามองคมนิดๆ
“ป่ะ..เปล่าฮะ” ใบบุญรีบพูดบอกแล้วเก็บผ้าใส่กระเป๋าเก่าๆ ของตนเองต่อ
“มีอะไรก็พูดมา” คมบอกกลับเพราะรู้ว่า ใบบุญมีบางอย่างอยากจะพูด ใบบุญเม้มปากนิดๆ
“คะ…คือ…ถะ..ถ้าแม่กลับมาล่ะฮะ ถ้าแม่กลับมาแม่จะอยู่ที่ไหน” เด็กน้อยพูดบอกออกมาตามใจคิด คมนิ่งไปนิดก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ยังจะไปห่วงแม่พรรค์นั้นอีกนะ ทิ้งลูกไปได้แบบนี้ ก็คงไม่ต้องไปห่วงอะไรแล้ว คงเอาตัวรอดได้อยู่หรอก เราน่ะ ห่วงตัวเองก่อนดีกว่ามั้ง” คมพูดบอกออกมา ทำให้ใบบุญขอบตารื้นขึ้นมาอีกครั้ง ถึงแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าตนเองถูกแม่ทิ้ง พอมาถูกพูดย้ำแบบนี้ก็รู้สึกน้อยใจเสียใจขึ้นมาอีก
“ฮึกกก….ทำไมแม่ต้องทิ้งใบบุญไปล่ะฮะ…ฮืออ ใบบุญเป็นเด็กไม่ดีเหรอ” เด็กหนุ่มพูดถามออกมาด้วยความน้อยใจ ทำให้คมทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นเด็กน้อยร้องไห้ต่อหน้า
“อ่าว เฮ้ยๆ ร้องไห้ซะงั้น ชั้นปลอบไม่เป็นนะเว้ย” คมพูดบอกออกมา แต่ใบบุญยังนั่งสะอื้นอยู่ ลพลูกน้องของคมชะโงกหน้าเข้ามามองนิดๆ
“ทำเด็กร้องไห้ได้ไงอ่ะพี่คม ปลอบเลย ปลอบเลย” ลพพูดแซวขึ้นมาเล่นๆ ก่อนจะหายไปขนของต่อ คมขมวดคิ้วคิดลังเล ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้ามานั่งยองๆใกล้ๆกับใบบุญที่นั่งร้องไห้สะอื้นอยู่แล้วรั้งหัวของเด็กหนุ่มมากอดเอาไว้
“เป็นผู้ชายร้องไห้ได้ไงหะ เงียบๆ ชู่ววว” คมพูดกล่อมแบบแข็งๆ แต่หารู้ไม่ว่าทำให้หัวใจของเด็กผู้ชายคนหนึ่งรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา มีบางอย่างดลใจให้ใบบุญไขว่คว้าหาความอบอุ่นนี้ วงแขนเรียวเล็กยกขึ้นกอดคมเอาไว้แล้วร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ทำให้คมต้องยกมือขึ้นมากอดใบบุญเอาไว้ด้วย มือแกร่งลูบหัวของใบบุญเบาๆ พร้อมกับถอนหายใจออกมา คมเข้าใจความรู้สึกของใบบุญดี เพราะคมเองก็ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่แบเบาะจนสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ามารับไปเลี้ยง แต่คมไม่รู้สึกถึงความเสียใจเพราะไม่ได้ผูกพันหรือรู้จักหน้าตาแม่ตนเองมาก่อน ซึ่งต่างจากใบบุญ
“ฮืออออ ใบบุญไม่มีใครแล้ว”เด็กน้อยสะอื้นไห้ออกมาอย่างหนัก ลืมไปว่าตนเองกลัวคมอยู่
“ใครบอกว่าไม่มีใคร เรายังมียายอีกคนลืมไปแล้วรึไง” คมพูดเตือนออกมา ทำให้ใบบุญชะงักไปนิด ก่อนจะส่ายหน้าไปมาช้าๆ
“ไม่ลืมฮะ…ฮึกก” ใบบุญสะอื้นตอบ ก่อนที่คมจะดันร่างของเด็กน้อยออกช้าๆ หัวใจของคมกระตุกวูบนิดๆ เมื่อเห็นดวงตาแดงก่ำและใบหน้าเปื้อนน้ำตาของใบบุญ ทำให้คมยกมือขึ้นไปปาดน้ำตาออกให้ช้าๆ
“หยุดร้องไห้ได้แล้ว ต่อไปนี้ต้องเป็นเด็กที่เข้มแข็ง ต้องเป็นเด็กดีของยายนีรู้มั้ยใบบุญ” คมพูดสอนออกมาเหมือนกับที่ตนเองเคยถูกสอนเมื่อตอนเป็นเด็ก
“ฮึก..ฮะ” ใบบุญพยักหน้าพร้อมกับตอบรับ ใบบุญรู้สึกแปลกใจตัวเองไม่น้อย จากตอนแรกที่หวั่นๆ รู้สึกกลัวคม แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ร่างสูงตรงหน้านี้
“ล้างหน้าล้างตาแล้วเก็บของต่อไป ชั้น…เอ่อ..พี่จะไปสูบบุหรี่ข้างนอกสักหน่อย” คมพยายามพูดแบบเป็นกันเองเพื่อเด็กน้อยจะได้ไม่รู้สึกกลัว แต่ก็รู้สึกกระดากปากตัวเองไม่น้อย ใบบุญพยักหน้ารับ ก่อนที่คมจะลุกแล้วเดินออกมาจากห้องเล็กเพื่อไปสูบบุหรี่และดูลูกน้องขนของ ใบบุญลุกไปล้างหน้าล้างตาในห้องน้ำ และนึกได้ว่าตนเองตากผ้าไว้ตั้งแต่เมื่อวานยังไม่ได้เก็บ จึงเปิดประตูหลังบ้านเพื่อไปเก็บเสื้อผ้า
“มึงจะย้ายไปไหนห้ะไอ้ตุ๊ด” เสียงแหบๆของชายคนหนึ่งดังขึ้น ทำให้ใบบุญหันไปมองก่อนจะรู้สึกหวั่นกลัว เพราะชายคนดังกล่าวถือว่าเป็นขาโจกของย่านนี้และติดยาอีกตะหาก ชายหนุ่มชอบมาก่อกวนใบบุญอยู่บ่อยๆ แต่อีกฝ่ายก็โดนแม่ของใบบุญด่ากลับไปหลายครั้ง
“…” ใบบุญไม่ตอบแต่รีบเก็บผ้าที่ตากเอาไว้ บ้านเช่าหลังนี้ไม่ได้มีรั้วเพราะอยู่ติดๆกับบ้านเช่าหลังอื่นๆด้วย เนื่องจากมีพื้นที่คับแคบ
พรึ่บ!
“กูถามไม่ได้ยินรึไงไอ้ตุ๊ด” ชายร่างสูงผอมแห้งกระชากแขนของใบบุญและตะคอกถามอีกครั้ง
“โอ๊ยย เจ็บ” ใบบุญร้องบอกออกมา ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะผอมแห้งขี้ยา แต่แรงก็มีมากกว่าใบบุญเยอะ
“กูถามก็ตอบดิวะ!!” อีกฝ่ายพูดขึ้นมาอีก
“ปะ..ไปอยู่กับยาย” ใบบุญบอกกลับไปเสียงสั่น อีกฝ่ายถ่มน้ำลายลงพื้น
“มึงไป แล้วกูจะแซวใครวะ ไอ้ตุ๊ด” ชายหนุ่มขี้ยาถามขึ้น พร้อมกับมองใบบุญด้วยสายตาโลมเลีย ใบบุญรู้สึกรังเกียจสายตาของอีกฝ่ายมาก พยายามดึงแขนของตนเองออกจากมืออีกฝ่ายแต่ก็ไม่หลุด
“พี่ชาติปล่อยบบุญเหอะนะ ใบบุญต้องรีบเก็บของ” เด็กหนุ่มพูดขอร้องอีกฝ่ายให้เห็นใจ
“จะรีบเก็บไปไหนล่ะ ไหนๆมึงจะไปแล้ว กูขออะไรสักอย่างสิวะ” ชายหนุ่มขี้ยาพูดพร้อมกับหายใจฟืดฟาดในลำคอ
“อ่ะ…อะไร” ใบบุญถามด้วยน้ำเสียงสั่นๆ
“กูอยากลองเอาเด็กผู้ชายมานานแล้ว ให้กูลองกับมึงหน่อยล่ะกัน” ชาติพูดบอกพร้อมกับทำท่าจะดึงใบบุญไปทางพงหญ้าด้านหลัง
“ไม่!! ช่วยด้วยฮะ ช่วยด้วย…อื๊อออ” ใบบุญร้องตะโกนออกมาก่อนจะถูกอีกฝ่ายเอามือปิกปากล็อคตัวจะลากไปให้ได้
กึก..
“โอ๊ยยยย ใครวะ!!” เสียงของขี้ยาร้องลั่นเมื่อเส้นผมถูกใครบางคนจิกทางด้านหลังเอาไว้ แถมยังกำแน่นไม่ปล่อย จนหนุ่มขี้ยารู้สึกเหมือนหนังหัวจะหลุดออกมาเสียให้ได้ ด้วยความเจ็บจึงทำให้ปล่อยมือออกจากใบบุญ เด็กน้อยรีบถอยห่างออกมา
“พะ..พี่คมช่วยใบบุญด้วย” ใบบุญพูดขึ้นเสียงสั่น ทำให้คมที่เดินออกมาตามหาใบบุญแล้วเห็นว่ามีคนกำลังลากใบบุญไปยังพงหญ้าถึงกับควันออกหู เสียงร้องขอให้ช่วยของใบบุญดังช่วงสั้นๆก็จริง แต่ก็ดังพอให้ได้ยินไปทั่ว แต่กลับไม่มีใครสงสัยหรือสนใจมาดูแต่อย่างไร คมกระชากผมของอีกฝ่ายให้หันมามองหน้าตนเอง
“รังแกเด็กได้คิดว่าเก่งมากใช่มั้ยมึง” คมถามเสียงเ**้ยม ทำให้อีกฝ่ายเมื่อเห็นหน้าและรูปร่างของคมถึงกับตัวสั่นหน้าซีดเผือดขึ้นมาทันที
“เปล่านะ กูไม่ได้รังแกใคร” หนุ่มขี้ยาปฏิเสธพัลวัน คมยิ้มมุมปากอย่างเยาะๆ
“มึงรู้มั้ย ว่าไม่มีใครกล้าโกหกกู” คมว่าออกมาอีก พอดีกับที่ลูกน้องของคมเดินตามออกมา
“พี่คม มีเรื่องอะไรกัน” ลูกน้องของคมถามเสียงเครียด ยิ่งทำให้หนุ่มขี้ยาตัวสั่นมากกว่าเดิมเสียอีก คมหันมามองลพลูกน้องตนเองก่อนจะกระชากหนุ่มขี้ยาเหวี่ยงไปทางลพ
“กูฝากด้วย” คมพูดบอกเมื่อเห็นว่าลูกน้องตนเองจับตัวของหนุ่มขี้ยาเอาไว้แล้ว คมจับตัวใบบุญให้หันหลังเพื่อเดินเข้าบ้าน แต่คมก็หันมามองหน้าลพ
“เอาให้หนัก” คมพูดบอกแค่นั้น ก่อนจะดันหลังใบบุญให้เดินเข้าบ้าน เสียงโครมครามและเสียงร้องจากหลังบ้านทำให้ใบบุญสะดุ้งจะหันไปมองแต่คมล็อคตัวใบบุญไม่ให้หันไป
“เข้าบ้านเก็บของต่อได้แล้ว” คมพูดบอกออกมาเสียงเรียบ ก่อนจะสบถในลำคอเมื่อเห็นแขนขาวของใบบุญมีรอยแดงจากฝ่ามือเพราะถูกกระชากจากหนุ่มขี้ยาก่อนหน้านี้ คมรู้สึกว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าไม่เหมาะกับร่องรอยแบบนี้
“ตะ.แต่เสื้อนักเรียนของใบบุญยังอยู่หลังบ้าน” เด็กน้อยบอกเสียงอ่อย
“ทิ้งไว้ที่นี่แหละ เดี๋ยวพาไปซื้อใหม่” คมบอกกลับ เพราะโรงเรียนที่กมลสั่งให้พาใบบุญไปเข้าเรียนมีแบบฟอร์มต่างจากชุดเก่าของใบบุญ กมลจึงสั่งให้ซื้อใหม่ทั้งหมด
“แต่ว่า” ใบบุญรู้สึกเกรงใจไม่น้อย และรู้สึกตื้นตันในใจที่ตนเองได้มาเจอคนดีๆ ถึงแม้ว่าจะน่ากลัวไปหน่อยก็ตาม
“ไม่มีแต่ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และเก็บของให้เวลาอีก 20 นาทีเท่านั้น” คมสั่งเสียงเข้ม ทำให้ใบบุญรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของใช้ส่วนตัวทันที พอเก็บเสร็จออกมาก็พบว่าลูกน้องของคมกลับเข้ามาจากทางหลังบ้านแล้ว
“ขนของเรียบร้อยแล้วพี่คม ส่วนไอ้หมอนั่น พวกผมก็จัดการไปแล้ว” ลพพูดบอกออกมา
“อืม ขอบใจมาก พวกแกก็เอาของกลับไปหาป้านีได้เลย เดี๋ยวชั้นจะพาใบบุญไปจัดการเรื่องโรงเรียนหน่อย” คมพูดบอกกับลูกน้องตนเอง
“ได้ครับ” ลพตอบรับ คมหันมาจับไหล่ใบบุญให้เดินนำหน้าตนเองไป ใบบุญสะพายกระเป๋าเสื้อผ้าตนเองออกมา ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้าน แต่คมก็ไม่ได้คิดสนใจอะไร พาใบบุญเดินกลับมาที่รถ
..
..
“พี่คมจะพาใบบุญไปเข้าเรียนที่ใหม่เลยเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้น หลังจากที่คมวางสายจากกมล ที่โทรมาถามความคืบหน้าเรื่องของใบบุญ เพราะว่าคมพาใบบุญไปลาออกจากโรงเรียนเดิมแล้วและกำลังจะพาไปสมัครเข้าเรียนที่ใหม่
“จะพาไปคุยก่อน แล้วจะพาไปซื้อของใช้อีกที” คมพูดบอกเพราะวางแผนงานเอาไว้หมดแล้วว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง
“ความจริง ใบบุญเรียนที่เดิมก็ได้ฮะ ตอนนี้มันกลางเทอม โรงเรียนที่พี่คมจะพาไป เค้าจะรับใบบุญเข้าเรียนเหรอฮะ” เด็กน้อยถามเสียงอ่อย หลังจากที่เจอเหตุการณ์มาเมื่อสักครู่ ทำให้ใบบุญรู้สึกวางใจและหายกลัวคมไปได้บ้างแล้ว
“รับสิ” คมตอบสั้นๆ ก่อนที่ใบบุญจะเงียบไป ไม่นานนักก็มาถึงหน้าโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ใบบุญตาเบิกกว้าง คว้าแขนของคมเอาไว้อย่างลืมตัวหลังจากที่ลงมาจากรถแล้ว คมหันมามองพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ
“มีอะไร” คมถามขึ้น
“เราไปโรงเรียนอื่นได้มั้ยพี่คม ใบบุญไม่กล้าเรียนที่นี่ ค่าเทอมคงแพงน่าดู” เด็กน้อยบอกออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆ
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า นายเค้าสั่งมาให้เข้าที่นี่ก็ต้องเข้า อยากขัดใจนายเหรอ” คมแกล้งขู่ เด็กหนุ่มหน้าเสียไปนิด เพราะว่ากมลเป็นผู้มีพระคุณกับตนเอง
“แต่มันมากไปนี่ฮะ” ใบบุญตอบกลับอย่างน่าสงสาร ทำให้คมอดที่จะยกมือขึ้นมาขยี้หัวของใบบุญไม่ได้
“เป็นเด็กเป็นเล็กคิดอะไรมากมาย คิดแค่เรื่องตั้งใจเรียนและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก็พอ” คมพูดบอกเสียงจริงจัง ใบบุญเงยหน้ามองคมนิดๆ
“แล้วเค้าจะรับใบบุญเหรอฮะ ใบบุญแต่งตัวแบบนี้มาด้วย” เด็กหนุ่มบอกพร้อมกับก้มมองตนเองที่ใส่เสื้อยืดตัวเก่งแต่สีซีดลงบ้างแล้วกับกางเกงยีนส์ขาเสมอเข่าพร้อมกับรองเท้าแตะ
“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่ต้องคิดมาก” คมแกล้งพูดเสียงดุๆ
“ฮะ” ใบบุญตอบรับอย่างโดยดี ก่อนจะเดินตามแรงดึงของคมที่พาเดินไปยังห้องของผู้อำนวยการโรงเรียน วันนี้เป็นวันเปิดเรียนปกติ มีเด็กนักเรียนหลายคนมองมาที่ใบบุญอย่างสงสัย ทำให้ใบบุญเดินก้มหน้างุดไปกับคมติดๆ เมื่อไปถึงห้องผู้อำนวยการ คมก็พาใบบุญเข้าไปได้อย่างง่ายดายเพราะโทรมานัดเอาไว้แล้ว ใช้เวลาพูดคุยไม่นาน ผู้อำนวยการโรงเรียนก็รีบรับใบบุญเข้าเรียนแต่โดยดี โดยให้มาเรียนในวันจันทร์หน้า คมยื่นเอกสารของใบบุญทั้งหมดให้กับผู้อำนวยการไปจัดการเดินเรื่อง แล้วพาใบบุญกลับออกมาที่รถอีกครั้ง
“ทำไมเค้ารับใบบุญง่ายจังเลยล่ะฮะ” ใบบุญถามด้วยความสงสัย
“เจ้าของโรงเรียนติดหนี้นายอยู่น่ะ” คมตอบด้วยท่าทีปกติ ทำให้ใบบุญยิ้มแหยๆออกมาเมื่อรู้ความจริง และอดกังวลไม่ได้ที่ตนเองกลายมาเป็นเด็กเส้นแบบนี้
โครกกกก
เสียงท้องของใบบุญร้องประท้วงขึ้นมา ทำให้คมหันมามอง ในขณะที่ใบบุญหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
“เที่ยงแล้ว ไปหาข้าวกินกันก่อนล่ะกัน” คมพูดบอกออกมา
“ฮะ” เด็กน้อยตอบรับเสียงเบาๆ พร้อมกับหลบสายตาของคมเนื่องจากอายที่ท้องตนเองร้องออกมาเสียงดัง คมลอบมองเสี้ยวหน้าของใบบุญนิดๆ ก่อนจะนึกขำในใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา คมพาใบบุญมานั่งกินข้าวร้านอาหารตามสั่งธรรมดา เพราะใบบุญไม่ยอมไปกินในห้างเนื่องจากไม่เคยไปกินในห้างมาก่อน เมื่อกินเสร็จ คมก็พาใบบุญไปซื้อของใช้เกี่ยวกับการเรียน พร้อมกับเสื้อผ้านักเรียน รองเท้า ถุงเท้า กระเป๋าต่างๆ คมต้องพาใบบุญจัดการเรื่องทั้งหมดภายในวันนี้ เพราะพรุ่งนี้เขาต้องไปบินไปเกาหลีกับกมล คมพาใบบุญเดินเลือกซื้อของด้วยท่าทีนิ่งๆ มีหลายครั้งที่คมแอบได้ยินคนพูดคุยกัน คิดว่าพ่อพาลูกมาหาซื้อของ ทำให้คมหันไปมองด้วยสายตาดุๆอย่างขัดใจ คมที่เดินดูของในห้างชะงักเท้าไปนิดเมื่อรู้สึกได้ว่า เด็กน้อยใบบุญไม่ได้เดินตามตนเองมา คมหันไปมองก็พบว่าใบบุญหยุดมองเข้าไปในร้านไอศกรีมด้วยสีหน้าหม่นๆ คมจึงเดินกลับมาหาพร้อมกับมองตามสายตาของใบบุญไปที่โปสเตอร์แนะนำโปรโมชั่นใหม่ๆของทางร้าน ซึ่งเป็นของที่เกี่ยวกับสตอเบอรี่
“ชอบกินสตอเบอรี่เหรอ” คมถามขึ้น ใบบุญหันมามองพร้อมกับส่ายหน้า
“ใบบุญไม่เคยกินฮะ เลยไม่รู้ว่าชอบรึเปล่า” เด็กน้อยพูดตอบออกมา ทำให้คมนิ่งอึ้งไปนิด แล้วคิดว่า ใบบุญอยู่มายังไง แล้วแม่ของใบบุญเลี้ยงดูลูกตัวเองแบบไหนกันแน่
“งั้นก็ต้องลอง” คมพูดบอกก่อนจะดึงแขนใบบุญเข้าไปในร้าน ใบบุญตกใจพยายามขืนตัวเองไว้
“ไม่ต้องหรอกฮะพี่คม ใบบุญไม่..” ใบบุญจะปฏิเสธแต่ถูกคมดันให้นั่งลงที่เก้าอี้โซฟา แล้วหันไปหาพนักงานที่รีบเดินเข้ามาต้อนรับ
“เมนูค่ะ ตอนนี้ทางร้านเรามีโปร..” พนักงานสาวกำลังจะพูดอธิบาย
“เอาชุดนี้มา แล้วก็กาแฟร้อนที่หนึ่ง” คมชี้ไปที่เมนูที่มีสตอเบอรี่ ท็อปปิ้งและไอศครีมหลายลูก และสั่งกาแฟสำหรับตนเอง ทำให้พนักงานชะงักไปนิดก่อนจะรีบกดเมนูทันที
“รอสักครู่นะคะ” หญิงสาวพูดบอกก่อนจะรีบเดินไปเอาน้ำมาเสริฟทันที
“พี่คม” ใบบุญเรียกคมเสียงอ่อยๆ
“พาเข้ามากินก็กินเถอะน่า ถ้าไม่ชอบก็ไม่เป็นไร” คมบอกกลับตัดบท ทำให้ใบบุญเงียบลงไป แต่ในใจก็ตื่นเต้นไม่น้อย ที่จะได้ชิมสตอเบอรี่ที่ตนเองอยากจะกินมานานสักที ใบบุญเคยขอให้แม่ซื้อให้กินบ้างตามตลาดนัดที่เอามาใส่แก้วขาย แก้วละ 20 บาท แต่แม่ก็ไม่ยอมซื้อให้ พอจะเก็บเงินไปซื้อกินเองก็รู้สึกเสียดายเงินเพราะต้องเอาไปใช้เกี่ยวกับการเรียน จึงยอมอดทนไม่ยอมซื้อกิน นั่งรอไม่นานนักไอศกรีมก็มาเสริฟ พร้อมกับกาแฟของคม ใบบุญมองถ้วยไอศกรีมของตนเองตาวาว ริมฝีปากแย้มยิ้มออกมา ถึงแม้ว่าดวงตาจะบวมแดงจากการร้องไห้ที่บ้านมาก่อนหน้านี้ แต่คมก็มองเห็นถึงความดีใจของเด็กน้อยใบบุญตรงหน้า แต่ที่ทำให้คมนิ่งไปนิดคือรอยยิ้มของใบบุญ
(ทำไมถึงยิ้มได้อย่างสดใสจังนะ) คมแอบคิดในใจ
“ยิ้มบ่อยๆนะ ใบบุญ” ด้วยความลืมตัว ทำให้คมพูดบอกออกมาตามที่ตนเองรู้สึกและต้องการ
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
มาอัพแว้ววววววว
ทุกคนลืมยอนิมแล้วแน่เลย เหอเหอ
ตอนนี้ยอนิมกำลังวุ่นกับการแพ็คหนังสือส่งอยู่นะคร่า
ตอนนี้ส่งถึงลำดับที่ RS1 – RS 300 แล้ว
คนที่สั่งหนังสือกับยอนิมเข้าไปดูรายชื่อตามลิ้งค์ที่ยอนิมเคยให้ไว้นะคะ
ส่วนที่เหลือ ยอนิมกำลังแพ็คและทยอยส่งให้นะคร่า
ทำให้ช่วงนี้ต้องห่างหายจากการอัพนิยายนิดหน่อย
ถ้าส่งหนังสือเสร็จเมื่อไรจะกลับมาอัพตามปกตินะคร่า