ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนพิเศษ 2

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่2  (คม x ใบบุญ)

Author: 여님  (ยอนิม)

 

“อะไรนะฮะ” ใบบุญถามกลับเพราะได้ยินไม่ชัดเนื่องจากตื่นเต้นกับไอศครีมตรงหน้าอยู่

“ไม่มีอะไร กินสิ” คมเลี่ยงที่จะพูดย้ำ พลางยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องพูดแบบนั้นออกไป ใบบุญใช้ช้อนตักไอศกรีมขึ้นมากิน พร้อมกับดวงตาที่สว่างไสว

“เป็นไงบ้าง” คมถามขึ้น

“อร่อยจังเลยฮะ ใบบุญไม่เคยกินของอร่อยๆแบบนี้มาก่อนเลย” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมาก่อนจะตักสตอเบอรี่มาชิม

“อ่ะ..อ่าว ร้องไห้ทำไม” คมถามขึ้นมาอย่างตกใจ เมื่ออยู่ๆ ใบบุญก็น้ำตาไหลลงมาอาบแก้ม แต่ไม่มีอาการสะอึกสะอื้นแต่อย่างไร

“สตอเบอรี่อร่อยมาก จนใบบุญอดร้องไห้ไม่ได้” เด็กหนุ่มตอบด้วยท่าทีซื่อๆ ทำเอาคมยิ้มขำ

“ตกลงว่าชอบสตอเบอรี่ใช่มั้ย” คมถามขึ้นอีก

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบก่อนจะยกหลังมือเช็ดน้ำตาตนเองออกลวกๆ แล้วนั่งกินไอศกรีมต่อ คมนั่งมองท่าทางของเด็กน้อยที่ค่อยๆกินไอศกรีม แต่ไม่ยอมแตะต้องสตอเบอรี่ที่เหลือเลยสักนิด

“บอกว่าชอบสตอเบอรี่ แล้วทำไมไม่กินล่ะ” คมถามด้วยความอยากรู้

“ใบบุญอยากกินตอนท้ายนี่ฮะ อีกอย่าง ใบบุญไม่อยากให้มันหมดเร็ว” ใบบุญบอกเสียงอ่อยๆ ทำให้คมมองใบบุญด้วยสายตาอ่อนโยน

“กินไปเถอะ ถ้าวันไหนอยากกิน เดี๋ยวพี่พามากินอีก” คมบอกกลับ ใบบุญเงยหน้ามามองคมตาวาว ก่อนจะสลดลง

“ไม่ดีกว่าฮะ ใบบุญไม่อยากทำให้พี่คมลำบาก” ใบบุญพูดบอกออกมาจากความรู้สึกจริงๆ

“คิดมากอีกแล้วนะเรา” คมพูดว่าออกมาไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะปล่อยให้ใบบุญกินไอศกรีมไปจนหมด คมจึงเดินไปจ่ายเงินแล้วพาใบบุญไปซื้อของใช้และชุดนักเรียนต่อ ตลอดเวลาที่เลือกของใช้สำหรับการเรียน ใบบุญจะเลือกแต่ของราคาถูกๆ อย่างปากกาแท่งละ 10 บาท แต่คมก็หยิบแบบของที่มีคุณภาพแต่ราคาสูงมาแทนทุกครั้ง ถึงแม้ว่าใบบุญจะโอดครวญยังไง คมก็ไม่ยอมอยู่ดี เมื่อเลือกซื้อครบทุกอย่าง คมก็พาใบบุญกลับมายังบ้านของกมล ซึ่งตอนนี้ของใช้ที่ขนมาจากบ้านเช่า ถูกขนเข้าไปจัดเก็บในบ้านพักของป้านีเรียบร้อยแล้ว

“ยายฮะ” ใบบุญถือของที่ซื้อมาในมือบางส่วน วิ่งเข้าไปกอดยายตัวเองเอาไว้

“ไปไหนกันมาใบบุญ” ป้านีถามหลานตนเองขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“พี่คมพาไปซื้อของแล้วพาไปสมัครเรียนฮะ” ใบบุญตอบกลับยายตนเอง

“พาไปสมัครเรียนเลยเหรอคม” ป้านีหันไปถามร่างสูงที่เดินถือของของใบบุญที่ถือมาไม่หมดมาส่งให้

“ครับป้า นายเค้าบอกให้จัดการให้เรียบร้อย อีกอย่าง พรุ่งนี้ผมต้องไปเกาหลีกับนายด้วย ก็เลยพาไปสมัครให้เรียบร้อยทีเดียวเลย ใบบุญจะได้ไปเข้าเรียนทันเพื่อน” คมตอบกลับไป

“ขอบใจคมมากนะ ที่เป็นธุระให้ทุกอย่างเลย ขอบใจจริงๆ” ป้านีบอกออกมาด้วยความตื้นตัน

“ใบบุญขอบคุณพี่เค้ารึยัง พี่เค้าอุตส่าห์พาไปซื้อของมาเยอะแยะไปหมด แถมพาไปสมัครเรียนด้วย” ป้านีพูดบอกกับหลานชายตนเอง

“ขอบคุณฮะพี่คม” ใบบุญยกมือไหว้คม ซึ่งคมเองก็รับไหว้กลับไป

“ยายฮะ พี่คมพาใบบุญไปกินไอศกรีมด้วย อร่อยมากเลยฮะ สตอเบอรี่เยอะแยะเลย” เด็กหนุ่มหันไปพูดกับยายตนเองด้วยท่าทีตื่นเต้น ป้านีหันมายิ้มขอบคุณให้กับคม

“ไปจัดของให้เข้าที่เข้าทางก่อนไปใบบุญ บ้านหลังนี้เราอยู่กับยายสองคนนะ มีสองห้องนอน ความจริงเป็นห้องเก่าของแม่เรานั่นแหละ เราก็ไปนอนห้องนั้นล่ะกัน” ป้านีพูดบอกหลานชาย ทำให้ใบบุญชะงักไปนิดเมื่อนึกถึงแม่ตนเอง

“ไปจัดห้องก่อน เสร็จแล้วเดินไปหาพี่ที่บ้านหลังคาสีฟ้า พี่จะบอกเรื่องกฎของที่นี่นิดหน่อย” คมพูดบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“ฮะ” ใบบุญตอบรับ ก่อนที่คมจะเดินแยกไปยังบ้านของตนเอง ป้านีก็พาใบบุญเข้าไปจัดของในห้องให้เรียบร้อย ใบบุญมีท่าทีตื่นเต้นไม่น้อย ที่มีห้องส่วนตัว ปกตินอนรวมกับแม่ตนเองที่ห้องเช่า พอนึกถึงแม่ตนเองทีไรก็มีอาการสลดลงไปเป็นพักๆ ใบบุญเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ จัดเรียงอะไรๆให้เข้าที่เข้าทาง ส่วนยายของใบบุญมาบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าจะต้องเข้าไปดูความเรียบร้อยภายในบ้านใหญ่ของกมลเสียก่อน ให้ใบบุญไปหาคมคนเดียว ใบบุญเดินออกมาจากบ้านพัก พร้อมกับมองไปรอบๆ เด็กหนุ่มไม่คิดว่า ตนเองจะได้เข้ามาอยู่ที่นี่ ใบบุญชอบบ้านที่มีต้นไม้เยอะๆ มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น แต่อาจจะรู้สึกเกร็งๆกับชายชุดดำที่เดินไปเดินมาเป็นระยะ ภายในบริเวณบ้านบ้าง แต่เมื่อนึกถึงคม ก็คลายอาการตื่นกลัวลงได้นิดหน่อย ใบบุญเดินไปหาบ้านหลังคาสีฟ้าตามที่คมบอก ซึ่งค่อนข้างอยู่เข้าไปด้านในสวน จนใบบุญมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านขนาดย่อมไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปแต่ประตูปิดสนิท เด็กหนุ่มยืนลังเลไม่กล้าเรียกไม่กล้าเคาะ

พรึ่บ!

เฮือก! ใบบุญสะดุ้งเล็กน้อยเมื่ออยู่ๆ ประตูบ้านของคมก็เปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของเจ้าของบ้าน

“อ่าว มาตั้งแต่เมื่อไร” คมถามขึ้นเมื่อเห็นใบบุญยืนหน้าเจื่อนอยู่

“เอ่อ…เมื่อกี้ฮะ” ใบบุญตอบกลับ

“แล้วทำไมไม่เรียกพี่ล่ะ” คมถามอีก

“ใบบุญกลัวว่าพี่คมจะพักผ่อนอยู่น่ะฮะ เลยไม่กล้าเรียก”  เด็กหนุ่มบอกออกมาตรงๆ

“คราวหลังก็เรียกได้เลย ไม่ต้องเกรงใจหรอก” คมบอกอีก ก่อนจะเดินนำใบบุญมาที่โต๊ะข้างบ้าน

“นั่งลงสิ เดี๋ยวจะบอกว่ามีอะไรต้องทำบ้าง” คมพูดเสียงจริงจัง ใบบุญก็นั่งลงทันที

“บ้านใหญ่เป็นบ้านของนาย ถ้าไม่มีเหตุจำเป็นจริงๆ ไม่ต้องเข้าไปรู้มั้ย นอกจากนายจะเรียก” คมพูดบอกขึ้นมา

“แล้วใบบุญไม่ต้องไปช่วยยายทำงานเหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น เพราะไม่ต้องการเข้ามาอยู่ที่นี่เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ทำอะไร

“แล้วเราจะไปทำอะไร ทำอะไรเป็นบ้างล่ะ” คมถามกลับไป

“ใบบุญทำได้ทุกอย่างฮะ งานบ้าน ทำกับข้าว ใบบุญทำได้หมดเลย” เด็กหนุ่มรีบพูดบอก

“งั้นเดี๋ยวพี่จะไปคุยกับนายก่อนล่ะกัน ช่วงที่ยังไม่ได้ให้ทำอะไรก็อยู่เฉยๆที่บ้านพักไปก่อน ส่วนพื้นที่รอบๆของบ้าน ที่นี่จะมีกล้องวงจรปิดติดไว้ทั่วบริเวณ บ้านที่เห็นเป็นหลังๆ อยู่ห่างกันเป็นระยะนั่นเป็นบ้านของลูกน้องคนสนิทของนายทั้งนั้น ยังไงก็อย่าไปวุ่นวายบ้านพวกเค้าก็แล้วกัน” คมพูดเตือนขึ้นมา เพราะลูกน้องของกมลทุกคน ทำงานหนักทั้งนั้น และเมื่อถึงคราวพักผ่อนก็ต้องการความเป็นส่วนตัว

“แล้วบ้านพี่คมล่ะฮะ ใบบุญก็มาไม่ได้ใช่มั้ย” เด็กหนุ่มถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้ เพราะอย่างน้อย ตนเองก็คุยกับคมได้คนเดียว กับคนอื่นใบบุญยังไม่กล้าเข้าไปพูดคุยสักเท่าไร คมมองหน้าใบบุญนิ่งๆ

“มาได้ ไม่ว่าอะไร” คมพูดบอก พร้อมกับนึกในใจว่าทำไมถึงยอมให้ใบบุญมาบ้านตนเองได้ เพราะปกติแล้ว คมเองนั่นแหละที่ค่อนข้างมีโลกส่วนตัวไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายในพื้นที่ของตนเองสักเท่าไร

“จริงเหรอฮะ” ใบบุญถามย้ำด้วยความดีใจ

“อืม” คมตอบกลับสั้นๆ ทำให้ใบบุญยิ้มกว้างออกมา

“อ่อ เห็นทางเดินแยกเล็กๆนั่นมั้ย” คมชี้ให้ใบบุญเห็นทางเดินที่อยู่ห่างจากบ้านของคมไป บ้านทุกหลังจะมีต้นไม้ล้อมรอบให้ความร่มรื่น

“ฮะ” ใบบุญมองตามแล้วตอบรับ

“ถ้าไม่ได้รับอนุญาต ห้ามเดินไปเด็ดขาด” คมพูดบอกออกมา ใบบุญมองหน้าคมด้วยความอยากรู้

“ทำไมฮะ” ใบบุญถามอีก เพราะอย่างน้อยจะได้รู้เรื่องราวภายในบ้านบ้าง

“เป็นที่อยู่ของเจ้าคลีโมกับเจ้าวิปครีม สัตว์เลี้ยงของนายน่ะ” คมบอกอีก ใบบุญเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

“ชื่อน่ารักจังเลยฮะ ตัวอะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามพลางนึกในใจว่า น่าจะเป็นสุนัข ไม่ก็กระต่ายตัวเล็กๆขนปุยๆ ใบบุญลืมคิดไปว่า มาเฟียอย่างกมลคงไม่เลี้ยงสัตว์น่ารักๆแบบนั้นแน่ๆ

“อยากเห็นมั้ยล่ะ” คมแกล้งถาม เมื่อเห็นท่าทีสนใจของเด็กหนุ่ม ใบบุญพยักหน้ารับก่อนจะชะงัก

“แต่ไปดูไม่ได้นี่ฮะ เพราะยังไม่ได้รับอนุญาตเลย” ใบบุญบอกกลับไป คมยกยิ้มนิดๆ

“พี่พาไปดูได้ เพราะพี่เป็นคนดูแลเจ้าสองตัวนั้น” คมบอกกลับ ใบบุญเม้มปากนิดๆอย่างลังเล

“แต่ถ้าคุณกมลรู้ล่ะฮะ พี่คมจะโดนว่ารึเปล่า” ใบบุญไม่อยากให้คมโดนว่าเพราะพาตนเองไปดูสัตว์เลี้ยงของกมล

“หึหึ นายไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเป็นพี่อ่ะนะ” คมบอกกลับเพราะเป็นอย่างนั้นจริงๆ

“งั้นไปฮะ” ใบบุญพูดบอก พลางรู้สึกตื่นเต้น ใบบุญชอบสัตว์ด้วย แต่ไม่เคยได้เลี้ยงอะไรสักอย่าง

“ไปสิ พี่จะพาไปดู จะได้รู้ว่า ทำไมถึงห้ามไม่ให้เดินเข้าไปแถวนั้น” คมพูดบอก ปกติแล้วคมก็ไม่คิดจะพาใครเข้าไปดูสักเท่าไร แต่กับใบบุญ คมอยากให้เด็กหนุ่มได้เห็น เพราะรู้ดีว่า ใบบุญคงไม่เคยมีโอกาสได้เห็นแน่ๆ ใบบุญเดินตามร่างสูงของคมไปเรื่อยๆ สังเกตไปรอบๆว่ามีอะไรอยู่ตรงไหน จนคมไปหยุดเดินอยู่ที่กรงขนาดใหญ่มากๆ

“ทำไมกรงใหญ่จังเลยฮะ” ใบบุญถามอย่างสงสัย ทำท่าจะขยับเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ถูกคมดึงคอเสื้อเอาไว้

“ถอยมายืนข้างๆพี่นี่ อยู่ห่างจากกรงไม่ต่ำกว่าสองเมตรเข้าใจมั้ย” คมบอกอีก ยิ่งทำให้ใบบุญงงเข้าไปใหญ่ว่าในกรงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้มีสัตว์อะไรอยู่  คมหันไปที่กรง ก่อนจะผิวปากเรียกสัตว์เลี้ยงของกมลทั้งสองตัว

“คลีโม วิปครีม” คมตะโกนเรียก ใบบุญก็ชะเง้อมองด้วยอยากรู้ สักพักใบบุญก็ได้ยินเสียงคำรามเสียงต่ำๆ ไม่ดังมากนัก พร้อมกับเสียงเดินสวบสาบเหมือนลุยต้นหญ้า เข้ามาใกล้ๆ

“ว๊ากกกก เสือ” ใบบุญร้องลั่นด้วยความตกใจ เมื่อเห็นเสือตัวสีขาวหมอกสองตัวเดินมาที่ขอบกรงตรงบริเวณที่ใบบุญกับคมยืนอยู่ ทำให้ใบบุญ รีบกระโดดไปกอดเอวแกร่งของคมทางด้านหลัง แล้วเอาหน้าซุกกับหลังของคมเอาไว้ ตัวเด็กหนุ่มสั่นระริก

“หึหึ” คมหัวเราะให้กับอาการของเด็กหนุ่ม

“อ่าว มาหลบหลังพี่ทำไม ออกมาดูเจ้าคลีโมกับวิปครีมสิ” คมเรียกเด็กหนุ่ม ใบบุญส่ายหน้าไปมากับแผ่นหลังของคม

“บะ..ใบบุญกลัว..พะ.พี่คม ใบบุญกลัว” เด็กหนุ่มบอกออกมาเสียงสั่นและอู้อี้

“ชู่วว ใจเย็นๆ สองตัวนี้อยู่ในกรง เราจะกลัวทำไม กรงที่นี่แข็งแรงนะ” คมพูดบอกพร้อมกับรู้สึกแปลกๆในใจที่เด็กหนุ่มซุกอยู่ที่หลังของตนเองแบบนี้ แถมยังกอดคมแน่นอีกตะหาก คมเอื้อมมือไปด้านหลังของตนเองแล้วรั้งไหล่บางของเด็กหนุ่มให้ขยับออกมา

(ทำไมถึงได้ตัวเล็กขนาดนี้นะ) คมแอบคิดในใจเมื่อจับไปที่ไหล่ของใบบุญ ใบบุญยังคงกล้าๆกลัวๆ

“อยู่กับพี่ยังจะกลัวอีกเหรอ หืม” คมถามอีก พร้อมกับนึกตกใจตัวเองไม่คิดว่าตัวเองจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนแบบนี้ได้ เมื่อได้ยินที่คมพูด ใบบุญก็ค่อยๆเอียงหน้าออกมาจากหลังของคม แต่แขนเล็กก็ยังกอดเอวคมเอาไว้อยู่ คมก้มมองเด็กน้อยที่สูงแค่อกของตนเอง ใบหน้าใสที่ขึ้นสีระเรื่อเพราะอากาศที่ร้อน ช้อนสายตาขึ้นมาสบตากับคมเข้าพอดี

ตึก ตึก

จู่ๆ หัวใจของคมก็เต้นแรงขึ้นเมื่อเห็นดวงตาเว้าวอนของใบบุญที่มองมา

“มันไม่ออกมาจากกรงจริงๆใช่มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มถามออกมาเพราะยังกลัวอยู่

“ไม่หรอก” คมตอบกลับไปเมื่อได้สติ คมรู้สึกว่าตนเองจ้องใบหน้าเนียนของใบบุญนานเกินไปแล้ว ใบบุญขยับออกมาจากด้านหลังของคมพร้อมกับเลื่อนมือมาจับเสื้อด้านหน้าของคมเอาไว้ โดยที่แขนแกร่งของคมก็โอบไหล่บางของบุญเอาไว้เช่นเดียวกัน แขนแกร่งที่โอบกอดทำให้ใบบุญรับรู้ถึงความปลอดภัยและอบอุ่น เสือสองตัวเดินวนเวียนไปมา มองคนแปลกหน้าอย่างใบบุญ ไม่ได้มีท่าทีก้าวร้าวแต่อย่างไร ใบบุญมองอย่างทึ่งๆ เพราะพึ่งเคยเห็นเสือตัวเป็นๆใกล้ๆก็ครั้งนี้ครั้งแรก

“มันดุรึเปล่าฮะ” ใบบุญที่ยังคงกล้ากลัวๆ ไม่กล้าขยับขาไปทางไหนพูดถามขึ้นมา

“ถามว่าดุมั้ย มันก็ดุตามสัญชาตญานสัตว์ป่า แต่ถ้ากับคนคุ้นเคยอย่างพี่หรือเจ้านาย  มันก็จะเชื่อฟังน่ะ ไม่ค่อยก้าวร้าวสักเท่าไร แต่มันค่อนข้างหวงพื้นที่ของมัน ถ้าใครที่มันไม่คุ้นเคยเดินเข้ามาใกล้ก็มีสิทธิ์ถูกตะปบได้เหมือนกัน พี่ถึงให้อยู่ห่างจากกรงไง” คมพูดอธิบาย ใบบุญพยักหน้ารับ ใจยังเต้นโครมครามด้วยความตกใจเมื่อสักครู่

“หึหึ เมื่อกี้ร้องเสียงหลงเลยนะ” คมแกล้งแซวกลับไป คมเองก็อยากให้ใบบุญรู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่และตัวของเขา เพราะเข้าใจในความรู้สึกของใบบุญดี

“ก็ใบบุญตกใจนี่ฮะ กลัวด้วย” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ้อมแอ้ม ก่อนจะนึกอะไรได้ เมื่อมองไปที่เสือทั้งสองตัว

“ทำไมถึงชื่อว่าคลีโมกับวิปครีมล่ะฮะ ใบบุญได้ยินตอนแรกนึกว่ากระต่าย” ใบบุญถามออกมา ทำเอาคมขำในลำคอ

“พี่กับเจ้าเดย์เป็นคนตั้งให้เองแหละ” คมพูดบอกออกมา

“เดย์? ใครเหรอฮะ” ใบบุญถามอย่างสงสัย

“อ่อ เราไม่รู้จักหรอก เดย์มันเป็นลูกน้องคนสนิทของนายเหมือนพี่นี่แหละ เป็นรุ่นน้องของพี่ด้วย แต่ตอนนี้ลาออกไปทำธุรกิจส่วนตัวแล้ว เอาไว้สักวันเราก็คงได้เจอเจ้าเดย์มันแหละ” คมพูดอธิบาย พร้อมกับมองไปที่เสือทั้งสองตัว

“เจ้าสองตัวนี้ อยู่ที่นี่มานานแล้ว เป็นเสือเบงกอลขาว ตอนแรกมันมาก็ดุไม่ใช่น้อยทั้งๆที่ยังเล็ก ๆ แต่ก็ถูกเจ้าเดย์มันกำราบเอาจนได้แหละ หึหึ” คมพูดเล่าไปพร้อมกับนึกถึงเรื่องของเดย์ไปด้วย ตอนที่เอามาตอนนั้นเสือสองตัวไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ทำท่าจะขย้ำอีกตะหากทั้งๆที่ตัวยังเล็ก จนเดย์เดินเข้ามานั่งยองๆมอง พร้อมกับจ้องตาเสือทั้งสองตัวนิ่งๆ ก่อนจะคว้าหมับไปที่หลังคอของลูกเสือตัวน้อยแล้วลากมาใกล้ๆ คมยังจำดวงตานิ่งๆของเดย์ที่จ้องมองเข้าไปในตาของเสือ จนเสือทั้งสองตัวยอมหมอบสยบแต่โดยดี

“เจ้าเดย์มันบอกว่า ให้จ้องตาเสือแล้วทำยังไงก็ได้ให้เสือมันรู้สึกว่าเรามีอำนาจมากกว่ามัน มันถึงจะยอมเราแต่โดยดี” คมพูดบอกออกมาอีก ความจริงเรื่องที่จ้องตาเสือ กมลเป็นคนบอกเดย์เอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าให้ทำยังไงกับเสือ แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะจ้องตาเสือจนเสือยอมสยบได้ หนึ่งในนั้นก็มีคมอยู่อีกคนนั่นแหละ

คลีโม วิปครีม ตอนเล็กๆ

“เก่งจัง” ใบบุญพูดขึ้นมาลอยๆ

“หึหึ แต่อย่างเราคงไม่ไหวหรอกมั้ง เจอครั้งแรกก็กระโดดหนีแล้ว” คมพูดบอกกลับไป

“พี่คมยังไม่บอกใบบุญเลยว่าทำไมถึงตั้งชื่อว่าคลีโมกับวิปครีม” ใบบุญถามย้ำอีก

“คลีโมน่ะ เจ้าเดย์มันเป็นคนตั้ง มันบอกว่าขนขาวๆซีดๆ เหมือนกับคนที่เป็นมะเร็งแล้วไปทำคีโมฯมา แต่คนอื่นๆก็มาออกเสียงให้เพราะหน่อยโดยใส่คำควบกล้ำเข้าไปให้เป็นคำว่าคลีโม” คมอธิบายออกมาอย่างขำๆ ตอนนั้นทุกคนที่ได้ยินเดย์ตั้งชื่อถึงกับหน้าเหวอ ก็เดย์เล่นพูดด้วยสีหน้านิ่งๆ ทำให้ทุกคนไม่รู้ว่าจะฮาหรือจะจริงจังดี

“คึคึ” ใบบุญหัวเราะออกมาเบาๆ

“แล้ววิปครีมใครเป็นคนตั้งล่ะฮะ” ใบบุญถามอีก

“พี่เอง” คมตอบกลับ ทำให้ใบบุญเขย่าเสื้อของคมอย่างลืมตัว

“ทำไมถึงตั้งชื่อว่าวิปครีมล่ะฮะ” ใบบุญถามขึ้นมาเสียงใส พอได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับประวัติการตั้งชื่อของเสือทั้งสองตัวทำให้ใบบุญคลายอาการหวาดกลัวลงไปได้บ้าง

“อยากรู้เหรอ งั้นรออยู่นี่แป๊บหนึ่ง” คมบอกกลับแต่ใบบุญส่ายหน้าไปมาทันที

“ไม่เอา ใบบุญไปด้วย”  เด็กหนุ่มร้องตามทันที

“พี่จะเดินไปเอาของตรงห้องเก็บของตรงนั้นแป๊บเดียวเอง เห็นมั้ย” คมชี้ไปที่ห้องหลังเล็กๆที่อยู่ไม่ไกลนักคล้ายๆกับห้องเก็บของ

“ใบบุญไปด้วย” เด็กหนุ่มยังคงยืนยันคำเดิม เพราะไม่กล้ายืนคนเดียว

“พี่ไปแป๊บเดียว ยืนอยู่ตรงนี้นะ” คมพูดบอกเสียงเรียบ พร้อมกับจ้องหน้าใบบุญอย่างจริงจัง คมยังไม่อยากจะตามใจใบบุญมากเกินไป เมื่อเห็นสายตาจริงจังของคมก็ทำให้ใบบุญหน้าหม่นลงนิดพร้อมกับพยักหน้าช้าๆ แล้วปล่อยมือออกจากเสื้อของคมทันที

“ก็ได้ฮะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อย ทำเอาคมใจกระตุกวูบเมื่อเห็นท่าทีหงอยๆหวั่นๆของใบบุญ

“เฮ้อ โอเคๆ ไปด้วยกันก็ได้” อยู่ๆคมก็ยอมซะงั้น แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยอม ทั้งๆที่คิดเอาไว้ว่าไม่อยากตามใจใบบุญมากเกินไป เมื่อได้ยินคำพูดบอกคม ใบบุญก็ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ

“ใบบุญขอเกาะแขนพี่คมไปนะฮะ ใบบุญยังกลัวๆอยู่เลย” เด็กหนุ่มบอกออกมาตามความรู้สึกจริงๆ ไม่ได้เสแสร้งแต่อย่างไร ซึ่งคมก็พอจะมองออกถึงความซื่อของใบบุญ

“อืม” คมตอบกลับก่อนจะพาใบบุญไปยังห้องเก็บของ ใบบุญก็เดินกอดแขนของคมไปตลอดทาง พร้อมกับมองไปที่กรงเสืออย่างหวั่นๆ เพราะเจ้าเสือสองตัวเดินตามขอบกรงไปด้วย เนื่องจากห้องเก็บของอยู่ติดกับกรง เมื่อไปถึงคมให้ใบบุญยืนห่างออกไปอีกหน่อย แล้วเปิดประตูเข้าไปด้านใน ซึ่งมีตู้เย็นขนาดใหญ่อยู่ด้านในเอาไว้แช่เนื้อสดอาหารของเจ้าเสือสองตัว กมลหยิบกระป๋องยาวออกมาสองกระป๋อง

“ยืนดูอยู่ตรงนั้นนะ เพราะพี่ต้องเข้าไปใกล้ๆมันสองตัว” คมพูดบอก ใบบุญก็พยักหน้ารับ ไม่ตามติดคมเพราะคมเดินไปติดกับกรงเสือ

“วิปครีม” คมเรียกเสือตัวน้อง ซึ่งพอเห็นกระป๋องในมือของคมก็รีบเดินเข้ามาหา ส่วนเจ้าคลีโมล้มตัวลงนอนเลียขนตัวเองนิ่งๆไม่เข้าไปหาคมแต่อย่างไร

“เจ้าคลีโมน่ะ เจ้าเดย์เป็นคนเลี้ยง ส่วนเจ้าวิปครีมพี่เลี้ยงมันเอง แล้วที่ตั้งชื่อมันว่าวิปครีมเพราะเหตุผลนี้” คมพูดบอกก่อนจะเขย่ากระป๋องแล้วกดบางอย่างใส่มือซึ่งเป็นเนื้อครีมสีขาวละเอียด คมยื่นมือเข้าไปในกรงเจ้าวิปครีมก็ขยับมาเลียครีมบนมือของคมทันที คมป้อนไปเรื่อยๆจนหมดทั้งสองกระป๋อง

“เจ้าวิปครีม มันชอบกินวิปครีมตั้งแต่เล็กๆ พี่เลยตั้งชื่อว่าวิปครีมไงล่ะ” คมเดินมาหาใบบุญแล้วพูดบอก

“เสือกินวิปครีมด้วยเหรอฮะ แปลกจัง” ใบบุญพูดยิ้มๆ

“เอาล่ะ ทีนี้ก็รู้จักเจ้าสองตัวนี้แล้วนะ และห้ามเข้ามาที่นี่คนเดียวโดยไม่ได้รับอนุญาตเข้าใจมั้ย” คมพูดสั่งออกมาอีก ใบบุญพยักหน้ารับทันที ก่อนที่ทั้งสองจะพากันเดินกลับมาที่บ้านของคมเหมือนเดิม คมเดินไปล้างมือในห้องน้ำแล้วออกมาหาใบบุญที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ข้างบ้านตัวเดิม

“พี่คมฮะ” ใบบุญเรียกคมขึ้น

“ว่าไง” คมถามกลับ

“พรุ่งนี้พี่คมไม่อยู่เหรอฮะ” ใบบุญถามเพราะได้ยินที่คมพูดกับยายตนเอง

“อืม พี่ต้องตามนายไปคุยเรื่องงานที่เกาหลีน่ะ มีอะไรรึเปล่า” คมถามกลับ

“แล้วกลับเมื่อไรเหรอฮะ” ใบบุญถามอีก

“ก็คงประมาณ 3 วันล่ะมั้ง” คมนั่งคำนวณ ใบบุญเม้มปากนิดๆ

“ถามทำไมล่ะ” คมถามกลับไป

“พี่คมไม่อยู่ ใบบุญไม่รู้จะคุยกับใครที่นี่น่ะฮะ มีแค่ยายคนเดียวเอง ใบบุญยังไม่รู้จักใครเลย” เด็กหนุ่มพูดบอก

“อยู่ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้จักเองแหละ” คมตอบกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ก่อนจะนั่งคุยกับใบบุญเรื่องการใช้ชีวิตที่นี่อีกนิดหน่อย แล้วปล่อยให้เด็กหนุ่มกลับไปพักผ่อนที่บ้านพัก เพราะคมเองก็ต้องเก็บของใช้ส่วนตัวเพื่อเดินทางเช่นเดียวกัน

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูบ้านพักของคมดังขึ้น

“พี่คม ผมเอง” เสียงของลพดังขึ้น ซึ่งคมก็จำได้ดี

“เออ เข้ามา” คมตะโกนกลับไป ลพเปิดประตูบ้านเข้าไปก็เห็นคมนอนอยู่บนโซฟาตัวยาว

“มีอะไร” คมถามกลับไป ลพมองคมอย่างล้อๆ

“เปล่า ไม่มีอะไร แค่เข้ามาคุยด้วยเฉยๆ” ลพบอกกลับ คมมองหน้าลพอย่างรู้ทันว่าต้องมีเรื่องอะไรมาพูดแน่นอน

“ผมแค่มาคุยเรื่องของใบบุญ” ลพพูดขึ้นเมื่อเห็นสายตารู้ทันของคม ทำให้คมขมวดคิ้วมุ่น

“ทำไม” คมถามกลับ

“ก็ผมแปลกใจอ่ะพี่ วันนี้ผมเห็นพี่ทำอะไรประหลาดๆตั้งหลายครั้ง” ลพพูดบอกออกมา

“กูทำอะไร พูดออกมาให้เคลียดิ๊” คมคาดคั้นอย่างสงสัย

“ก็วันนี้ผมเห็นมุมอ่อนโยนของพี่ด้วยน่ะสิ ทำงานกับนายมาก็นาน ผมไม่เคยเห็นพี่คอยดูแลใคร พูดคุยกับใครมากเป็นพิเศษเหมือนกับที่ทำกับใบบุญเลยอ่ะ ทั้งๆที่ปกติแล้ว พี่เก็บตัวจะตาย” ลพพูดในสิ่งที่สังเกตเห็น

“ก็นายสั่งให้กูจัดการดูแลเรื่องของใบบุญกูก็ทำตามหน้าที่ มึงจะมาสงสัยอะไรของมึง” คมถามกลับเสียงเรียบ แต่ก็ตั้งคำถามในใจว่าตนเองทำอย่างที่ลพบอกจริงๆน่ะเหรอ

“ผมรู้ว่าเป็นคำสั่งนาย แต่แบบ…จะพูดยังไงดีอ่ะ อย่างตอนที่อยู่กรงเสือ พี่ก็ดูจะเป็นห่วงเป็นใยใบบุญมากเป็นพิเศษด้วยไง” ลพบอกออกมาอีก

“นี่มึงแอบดูกูเหรอไอ้ลพ” คมถามเสียงนิ่ง ลพยิ้มแหย

“ผมเปล่านะ ผมแค่ไปให้อาหารไอ้เจ๋งไอ้จ๊าบ แล้วกำลังจะเดินกลับผ่านกรงเสือพอดี ก็เลยไม่กล้าเข้าไปขัดจังหวะ” ลพพูดถึงสุนัขพันธุ์พิตบลูที่กมลเลี้ยงไว้เช่นเดียวกัน

“มารยาทดีเหลือเกินนะมึง ไม่กล้าเดินผ่าน แต่กล้าแอบดู พอๆ ไปไกลๆตีน พูดจาเลอะเทอะนะมึง ใบบุญมันมาอยู่ที่นี่ก็เหมือนน้องชายของพวกเราคนหนึ่ง ยังไงก็ต้องช่วยกันดูแล อ่อ พรุ่งนี้กูจะไปเกาหลีกับนาย มึงก็ดูแลใบบุญด้วยล่ะกัน อย่าให้ไปเล่นแถวกรงเสือล่ะ” คมพูดบอกออกมาเสียงจริงจัง

“ครับๆ ผมจะดูแลน้องชายของพวกเราอย่างดีเลย พี่ไม่ต้องห่วง” ลพบอกกลับขำๆ

(นี่แหละอีกเรื่องที่แปลก ปกติพี่เป็นห่วงใครถึงขั้นฝากฝังแบบนี้ซะที่ไหนกัน) ลพแอบคิดในใจแต่ไม่กล้าพูดออกมา เพราะกลัวโดนคมเตะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลังจากที่คุยกับใบบุญเรื่องกฎและข้อห้าม คมกับใบบุญก็ยังไม่ได้เจอกันอีก เพราะคมต้องเข้าไปพูดคุยเรื่องงานกับกมลที่บ้านใหญ่และกลับมาเตรียมตัวเดินทาง พอเช้ามืดก็เดินทางไปยังเกาหลีทันที คมตามติดกมลไปคุยเรื่องงานเรื่องปัญหาที่เกิดทำให้ลืมๆเรื่องของใบบุญไปบ้าง เพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องงานของกมล แถมพอใกล้วันจะกลับ ลูกน้องของกมลที่ตามติดดูแลคิม โทรเข้ามาบอกว่าคิมได้หนีรอดจากการติดตามไปได้ ทำให้คมต้องประสานงานให้ตามหากันอีกยกใหญ่ คมโทรไปหาเดย์เพื่อบอกว่ากมลจะเข้าไปหาในวันรุ่งขึ้นเนื่องจากจะเดินทางกลับไทยภายในคืนนั้นเลย

“แกไปพักบ้างเถอะคม หรือจะออกไปเดินเล่นแถวๆนี้บ้างก็ได้ แกทำงานให้ชั้นไม่ได้พักเลยนะ เดี๋ยวเที่ยงคืนพวกเราก็ต้องกลับกันแล้ว” กมลพูดกับลูกน้องคนสนิท

“ไม่เป็นไรหรอกครับนาย” คมตอบกลับ

“ชั้นบอกให้พักก็พักสิวะ ยังจะขัดอีก” กมลว่าเสียงดุ คมจึงก้มหัวรับก่อนจะเดินออกไปจากห้องพัก คมยังไม่อยากนอนพักตอนนี้ เขาจึงไปเดินเล่นใกล้ๆกับโรงแรมที่พัก ซึ่งมีร้านค้าขายของมากมาย คมไม่ได้อยากจะซื้ออะไรเป็นพิเศษ แต่อยู่ๆ เท้าก็ชะงักหยุดอยู่หน้าร้านร้านหนึ่ง

..

..

..

..

..

//สตอเบอรี่งั้นเหรอ//

2  Be  Con

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนะคะ

แค่เวิ่นเรื่องอื่นนิดหน่อย ไม่มีอะไรฟินๆน๊า

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset