ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่4 (คม x ใบบุญ)
Author: 여님 (ยอนิม)
“ทำไมถามออกมาแบบนั้นล่ะ” คมถามกลับทันที
“ก็ใบบุญอยากรู้นี่ฮะ ว่ามีเมียเป็นผู้ชายเหมือนกับมีเมียเป็นผู้หญิงหรือเปล่า” ใบบุญบอกออกมาหน้าซื่อ คมถอนหายใจออกมาเบาๆ
“พี่ไม่เคยมีเมียเป็นผู้ชายหรอกนะ คงบอกไม่ได้ว่าเหมือนกันมั้ย” คมตอบออกไปอย่างนั้นเอง
“งั้นแปลว่าพี่คมก็เคยมีเมียเป็นผู้หญิงใช่มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นมาอีก คมยกมือขึ้นมาลูบหน้าตนเองเบาๆ เพราะไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี
“พี่ไม่เคยมีเมียเป็นตัวเป็นตนหรอก คนแบบพี่ใครเค้าจะมาสนใจล่ะหืม” คมบอกกลับ
“ทำไมถึงไม่มีใครสนใจล่ะฮะ ใบบุญว่าพี่คมเป็นคนที่ใจดีที่สุด แถมยังแข็งแรงตัวใหญ่ด้วย” เด็กหนุ่มบอกยิ้มๆ ไม่ได้ต้องการพูดเอาใจ แต่พูดออกมาจากใจจริง คมมองเด็กหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนๆ ทุกคำพูดของใบบุญ ถึงแม้จะเป็นคำพูดตรงๆตามประสาเด็กๆ แต่มันก็ทำให้คมรู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน
“เราชอบคนตัวใหญ่ๆรึไง” คมแกล้งถามกลับไป
“ฮะ” ใบบุญตอบพร้อมกับยิ้มกว้าง ทำให้คมรู้สึกว่าหัวใจของตนเองเต้นแรงขึ้นมาซะงั้น
“ใบบุญชอบคนตัวใหญ่ๆ เพราะดูแข็งแรง ปกป้องตัวเองได้ แต่ใบบุญตัวเล็กนิดเดียว สู้ใครเค้าก็ไม่ได้” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆในตอนท้าย ทำให้คมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ คล้ายๆจะโล่งใจแต่ก็รู้สึกเสียดายแปลกๆ
“เราอยากจะไปสู้อะไรกับใครเค้าล่ะ ชอบมีเรื่องมีราวรึไง” คมถามกลับไปอีก ใบบุญส่ายหน้าไปมา
“ใบบุญไม่ชอบมีเรื่อง แต่ตอนอยู่โรงเรียนเก่า ใบบุญโดนแกล้งบ่อยๆ ก็เลยอยากจะตัวใหญ่ๆ คนอื่นจะได้ไม่กล้าแกล้งไงฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมา คมมองหน้าใบบุญนิ่งๆอย่างใช้ความคิด รูปร่างอย่างใบบุญ ไม่แปลกถ้าจะโดนแกล้งจากพวกที่ตัวใหญ่กว่า เพราะขนาดคมเองยังรู้สึกอยากจะแกล้งใบบุญบ้างเลยด้วยซ้ำ
กึก…
คมอยากจะชกหน้าตัวเองที่อยู่ๆก็คิดว่าอยากจะแกล้งใบบุญให้ร้องไห้ดูบ้าง
(ไอ้คมเอ๊ย มึงจะแกล้งใบบุญได้ไงวะ น่าสงสารซะขนาดนี้) คมพูดด่าตัวเองในใจ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหัวใบบุญเบาๆ
“ใบบุญ ถ้าไปโรงเรียนใหม่ แล้วมีใครแกล้งเรา ให้มาบอกพี่เลยนะ รู้มั้ย ห้ามปิดเด็ดขาด เดี๋ยวพี่จะไปจัดการเอง ตกลงมั้ย” คมพูดบอกออกมา
“แล้วพี่คมจะจัดการยังไงล่ะฮะ” เด็กหนุ่มถามด้วยความอยากรู้
“เอาน่า เอาไว้ให้มีคนแกล้งก่อนล่ะกัน” คมตอบกลับ
“อ๊ะ ใบบุญลืมไปเลย ใบบุญต้องไปช่วยยายตั้งโต๊ะอาหารให้คุณกมลกับพี่คิม” ใบบุญบอกออกมาอย่างนึกได้
“งั้นเดินเข้าไปด้วยกันเลยก็ได้” คมตอบกลับ ก่อนจะพากันเดินไปที่บ้านใหญ่ของกมลอีกครั้ง พอเดินเข้าไปในครัว ใบบุญก็ต้องหลบสายตาของไหมที่มองจ้องมาอย่างไม่ชอบใจ โดยมีคมมองตามอย่างสังเกตแต่ก็ไม่พูดอะไร
“ใบบุญ ยกอาหารไปไว้ที่โต๊ะ จัดให้เรียบร้อยนะ” ยายของเด็กหนุ่มพูดบอก ใบบุญก็ยกไปจัดตามที่ยายสั่งทันที
“อ่าว ใบบุญ มาช่วยยายจัดโต๊ะงั้นเหรอ” กมลถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องอาหาร พบว่าใบบุญกำลังจัดโต๊ะอาหารอยู่
“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับ
“ใบบุญ เดี๋ยวนั่งกินข้าวกับพี่นะ” คิมพูดชวน
“เอ่อ ไม่ดีกว่าฮะ ใบบุญไปทานกับยายในครัวดีกว่า” เด็กหนุ่มตอบออกมาอย่างเกรงใจ
“นั่งกินด้วยกันนี่แหละ อ่อ เจ้าคมด้วย ชั้นจะถามเรื่องไปเรียนของใบบุญสักหน่อย” กมลพูดบอกออกมา ทำให้คมที่ยืนอยู่ก้มหัวรับ แล้วหันไปพยักหน้ากับใบบุญ
“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ ก่อนที่คนทั้งสี่จะนั่งทานอาหารเย็นด้วยกัน โดยที่กมลนั่งอยู่หัวโต๊ะ มีคิมนั่งอยู่ทางด้านขวา ถัดจากคิมก็เป็นใบบุญ ที่คิมลากให้นั่งข้างกัน ส่วนคมก็นั่งอยู่ทางฝั่งซ้ายของกมล
“พรุ่งนี้จะไปโรงเรียนแล้วใช่มั้ยใบบุญ” กมลถามขึ้นเสียงเรียบ
“ฮะ” ใบบุญตอบกลับเสียงแผ่ว เพราะรู้สึกเกร็งๆนิดหน่อยที่ต้องมานั่งทานอาหารร่วมกับกมลและคิม
“งั้นพรุ่งนี้ ชั้นจะให้เจ้าคมไปส่งล่ะกัน” กมลตอบกลับ
“บะ..ใบบุญไปเองก็ได้ฮะ ใบบุญถามยายแล้วว่าจากบ้านนี้ไปโรงเรียนต้องขึ้นรถอะไรไป” เด็กหนุ่มรีบพูดบอกเพราะไม่อยากรบกวนใครไปมากกว่านี้
“ให้คมไปส่ง” กมลย้ำอีกครั้ง ทำให้ใบบุญเงียบทันทีพร้อมกับก้มหน้ารับ
“นี่ คุณกมล พูดดีๆหน่อยสิ ใบบุญยังเด็กนะ ไม่ใช่ลูกน้องคุณด้วย ใช้น้ำเสียงให้มันดีหน่อย” คิมพูดว่าออกมา
“ชั้นก็ใช้น้ำเสียงปกตินี่” กมลบอกกลับ
“ปกติมากเลยล่ะครับ” คิมว่าประชดใส่ ก่อนจะตักอาหารใส่จานให้ใบบุญบ้าง ส่วนคมได้แต่มองใบบุญ คิม และกมล สลับไปมา พลางคิดว่ากมล คิม ใบบุญ เหมือนพ่อแม่ลูกกำลังนั่งกินข้าวด้วยกันอยู่
“แกไม่มีปัญหาอะไรใช่มั้ยคม ที่ชั้นให้แกมาเป็นคนคอยดูแลใบบุญในช่วงนี้” กมลถามขึ้นเพราะไม่อยากให้ลูกน้องคนสนิทของตนเองคิดมากเรื่องที่ให้ดูแลเด็กแทนที่จะตามติดกมลเหมือนทุกที อีกนัยหนึ่งคือกมลอยากให้คมได้มีเวลาพักบ้าง เพราะตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกัน คมจะตามติดดูแลกมลแทบจะไม่ได้พักเลยก็ว่าได้
“ไม่มีปัญหาอะไรครับ” คมตอบกลับแล้วหันไปมองใบบุญที่กำลังมองมาพร้อมกับยิ้มอ่อนๆส่งมาให้ คมรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้ของตนเองเป็นมื้อที่อร่อยกว่าทุกมื้อ พอกินอาหารด้วยกันเสร็จ ใบบุญก็ช่วยยายตนเองเก็บโต๊ะ และทำท่าจะกลับไปยังบ้านพัก แต่คิมก็มาเรียกเอาไว้ก่อน เพราะจะชวนดูหนังด้วยกัน ตอนแรกเด็กหนุ่มปฏิเสธ แต่ก็ถูกคิมลากไปดูด้วยกันจนได้ ส่วนคมก็เข้าไปคุยเรื่องงานกับกมลในห้องทำงาน ใบบุญนั่งดูหนังกับคิมไปเรื่อยๆ หนังที่ดูก็สนุกจนใบบุญเองก็ลืมดูเวลา เด็กหนุ่มเอนหัวไปพิงพนักโซฟา หนังตาที่ฝืนดูหนังก็ค่อยๆหรี่ลงช้าๆ จนหลับสนิท คิมเองหันมามองเห็นว่าใบบุญหลับอยู่ก็ยิ้มอ่อนๆ ไม่คิดจะปลุกแต่อย่างไร ตั้งใจว่าถ้าหนังเรื่องที่สองที่กำลังดูอยู่จบ ถึงจะปลุกให้ใบบุญกลับไปนอนที่บ้านพัก
“ดูอะไรกันอยู่ หืม” กมลถามขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องดูหนัง
“ดูหนังสิ ถามได้” คิมตอบกลับไปโดยไม่มอง
“คม พาใบบุญกลับไปนอนก่อนไป พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วยนี่” กมลพูดบอก เมื่อเห็นว่าใบบุญหลับอยู่ คมเดินมาที่ใบบุญพร้อมกับสะกิดเรียก
“ใบบุญ ตื่นเร็ว ใบบุญ” คมเรียกใบบุญด้วยน้ำเสียงปกติ ใบบุญงัวเงียตื่นขึ้นมา
“กลับไปนอนที่บ้านพักนะ” คมบอกอีก ใบบุญที่ได้ยินก็พยักหน้ารับ แต่ดวงตาก็ปรืออยากจะหลับลงอีก คมจับมือใบบุญให้ลุกตามตนเองไป ด้วยความง่วงมากทำให้ใบบุญลืมบอกลาคิมกับกมลไป ซึ่งทั้งสองก็ไม่ได้คิดมากอะไร คมพาใบบุญเดินออกมาทางหลังบ้านใหญ่ ความรู้สึกว่าคนที่ตนเองกำลังเดินจูงมีท่าทีเหมือนเดินไม่ค่อยตรงทาง ทำให้คมหยุดเดินแล้วหันไปมอง ก่อนจะยิ้มขำออกมานิดๆ เมื่อเห็นใบบุญยืนหลับได้
“เดินไหวมั้ย” คมถามขึ้น ใบบุญได้ยินที่คมพูดทุกอย่าง แต่ตาลืมไม่ขึ้น
“ไม่ไหวฮะ ใบบุญง่วง” เด็กหนุ่มบอกเสียงแผ่วๆ สีหน้าเหมือนอยากจะงอแงเต็มที่
“งั้นขี่หลังพี่ล่ะกันเอามั้ย” คมแกล้งถาม แต่ใบบุญพยักหน้ารับ พร้อมกับยกแขนขึ้นพร้อมจะขี่หลังคม คมนิ่งอึ้งไปนิด ก่อนจะหันซ้ายหันขวา ว่ามีใครอยู่แถวๆนั้นบ้าง แต่เมื่อไม่เห็นใคร คมก็ย่อตัวลงนั่ง
“เอา งั้นขึ้นมา” คมบอกออกมาอย่างจำยอม ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ยอมทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าถึงขนาดนี้ แต่คมก็คิดว่า ตนเองอาจจะแค่สงสารใบบุญเท่านั้น ใบบุญโน้มตัวไปเกาะหลังของคมเอาไว้ แขนเรียวทั้งสองข้างโอบรอบคอของคม คมเองก็สอดมือเข้าไปที่ใต้ข้อพับขาของใบบุญ เพื่ออุ้มใบบุญขึ้นบนหลังของตนเอง เด็กหนุ่มซุกหน้าหลับตาอยู่ตรงบริเวณซอกคอด้านหลังของคม
อึ่ก…
ลมหายใจอุ่นๆของใบบุญเป่ารดอยู่ที่ซอกคอของคม ทำให้คมรู้สึกร้อนรุ่มที่ท้องน้อยขึ้นมา คมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพาใบบุญที่อยู่ด้านหลังของตนเองเดินตรงยังบ้านพักของป้านี ไออุ่นจากเด็กหนุ่มด้านหลังแผ่ไปทั่วร่างกายของคม แผ่ไปถึงหัวใจของคมโดยที่คมเองก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กแบบใบบุญ จะทำให้คมรู้สึกอบอุ่นได้ถึงขนาดนี้ ลมเย็นๆที่พัดมากระทบใบหน้ายังสู้ความอบอุ่นจากเด็กหนุ่มที่อยู่บนหลังของคมไม่ได้เลยสักนิด คมระบายยิ้มออกมาอ่อนๆ เสียงลมหายใจเบาๆของใบบุญดังอยู่ข้างหูให้ได้ยิน คมคิดว่ามันไม่ใช่เสียงน่ารำคาญเลยสักนิด คมพาใบบุญมาหยุดยืนที่หน้าบ้านพักของป้านี ก่อนจะปล่อยมือข้างหนึ่งมาเคาะประตู
ก๊อกๆ
“ป้านีครับ ป้านี” คมเรียกป้านีไม่ดังมากนัก เพราะคิดว่าเสียงเคาะประตูก็ทำให้ป้านีได้ยินแล้วเหมือนกัน
แกร๊ก..
เสียงปลดกลอนจากด้านในดังขึ้นก่อนที่ประตูบ้านจะเปิดออก
“มีอะไรเหรอคม อ่าว นั่นเจ้าใบบุญนี่ เป็นอะไรรึเปล่า” ป้านีถามขึ้นอย่างตกใจ
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกครับ นั่งดูหนังกับคุณคิมแล้วหลับน่ะ ผมก็เลยพามาส่ง” คมตอบกลับ ป้านีหลีกทางให้คมพาใบบุญเข้ามาในบ้าน
“แล้วทำไมไม่ปลุกน้องล่ะ แบกกลับมาทำไม ลำบากแย่เลย ใบบุญ ใบบุญเอ๊ย” ป้านีพูดบอกคมอย่างเกรงใจ ก่อนจะเรียกหลานชาย
“ไม่ต้องเรียกก็ได้ครับป้า เดี๋ยวพาใบบุญเข้าไปนอนเลยก็ได้ ไหนๆก็แบกมาถึงบ้านแล้ว” คมบอกกลับ ป้านีจึงเดินนำไปยังห้องนอนของใบบุญพร้อมกับเปิดประตูให้ คมมองสำรวจห้องของใบบุญก็ต้องถอนหายใจเบาๆ เพราะมีแค่ฟูกนอนปูกับพื้น กับตู้เสื้อผ้าเก่าหลังหนึ่งที่เป็นของแม่ใบบุญสมัยตอนที่อยู่ที่นี่ ของใช้อื่นๆเด็กหนุ่มจัดวางเอาไว้ที่พื้นมุมห้อง คมพาใบบุญไปที่เตียงแล้วค่อยๆปล่อยใบบุญนอนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา ทันทีที่หลังแตะฟูกนุ่มๆ เด็กหนุ่มก็พลิกตัวคว้าหมอนข้างใกล้มือมากอดแล้วนอนก่ายเอาไว้ จนคมแอบยิ้มขำไม่ได้
“ดูสิ โตป่านนี้แล้วยังติดหมอนข้างเหมือนเด็กๆอยู่เลย น่าอายจริง” ป้านีพูดบอกออกมาอย่างขำๆเช่นกัน
“พรุ่งนี้ให้ใบบุญรอผมนะป้า เพราะนายสั่งให้ผมไปส่ง” คมบอกกลับ ป้านียิ้มรับอย่างปลื้มใจ
“ฝากขอบคุณคุณกมลด้วยนะคม คุณกมลช่วยเหลือครอบครัวป้ามากจริงๆ” ป้านีพูดบอกออกมา
“ครับ ผมไปก่อนนะป้า เดี๋ยวต้องพานายไปคุยเรื่องงานอีก” คมพูดบอกพร้อมกับเดินออกมาจากห้องของใบบุญ
“ยังไงก็ขอบคุณคมมากนะที่เป็นธุระให้ทุกอย่าง” ป้านีพูดบอกออกมาด้วยความรู้สึกจากใจจริง
“ไม่เป็นไรครับป้า ใบบุญก็เหมือนน้องชายของผมคนหนึ่งเหมือนกัน” คมตอบกลับ ก่อนจะเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่ที่บ้านใหญ่ เพื่อรอกมลออกไปคุยเรื่องงานพร้อมกัน
+++++++++++++++++++ 50% +++++++++++++++++++
“ขอบใจพวกนายทุกคนมาก ไปพักผ่อนกันได้แล้วล่ะ คม อย่าลืมที่สั่งไว้นะ ไปส่งใบบุญที่โรงเรียนก่อน แล้วก็กลับมาพักต่อได้” กมลพูดบอกออกมาหลังจากที่กลับจากคุยเรื่องงานมาถึงบ้านตอนตี 2
“แล้วที่นายจะไปตกลงเรื่องซื้อขายตอน 10 โมงล่ะครับ” คมถามกลับ
“เดี๋ยวชั้นไปกับคนอื่นได้ นายพักไปเถอะ” กมลบอกกลับ
“แต่ว่า..” คมจะค้าน
“ไม่ต้องแต่ บอกให้พักก็พักสิวะ” กมลว่าออกมาเสียงเข้ม คมจึงนิ่งไปนิด
“ครับ” ร่างสูงตอบรับออกมาอย่างจำยอม แล้วลงไปเปิดประตูรถให้กับกมล ก่อนจะเดินอ้อมข้างบ้านเพื่อกลับไปยังบ้านพักของตนเอง ลูกน้องของกมลที่อยู่เวรยามส่งเสียงทักทายเป็นระยะ ก่อนจะถึงบ้านพักของตนเอง คมหยุดยืนอยู่กับที่แล้วหันไปมอง ทางบ้านพักของใบบุญ พอแค่เห็นหลังคาบ้านพักและรับรู้ว่าเด็กหนุ่มคงกำลังนอนหลับสบาย ทำให้ความเหน็ดเหนื่อยของคมหายไปในทันที รอยยิ้มเล็กๆผุดขึ้นที่มุมปาก
“พึ่งกลับเหรอคะพี่คม” เสียงของหญิงสาวดังขึ้น ทำให้คมหันไปมอง พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นไหม ในชุดนอนบางเบาเดินตรงเข้ามาหา
“ทำไมยังไม่หลับไม่นอนอีกไหม ดึกแล้วนะ” คมถามเสียงเรียบ
“พอดีไหมรอพี่คมน่ะค่ะ กลัวว่ากลับมาจะหิว ก็เลยจะมาถามว่าพี่คมหิวข้าวรึเปล่า ไหมจะได้ไปทำให้” หญิงสาวพูดบอกออกมาเสียงแผ่ว
“พี่กินจากข้างนอกมาแล้ว คราวหน้าไม่ต้องรอหรอกนะ ไปนอนได้แล้วไป” คมบอกกลับ และพยายามไม่มองไปที่หญิงสาวมากนัก เพราะคมรู้ดีว่าหญิงสาวรู้สึกยังไงกับตนเอง และคมเองก็ไม่ใช่พระอิฐพระปูนมาจากไหน แต่คมไม่คิดที่จะมีความสัมพันธ์กับคนในความดูแลของกมล ถ้าไหมเป็นหญิงสาวที่เจอกันข้างนอก คมอาจจะเล่นด้วยชั่วครั้งชั่วคราวไปแล้ว
“แล้วพี่คมเมื่อยรึเปล่าคะ เดี๋ยวไหมไปนวดให้ก็ได้” หญิงสาวยังคงตื๊ออยู่ คมถอนหายใจออกมาเบาๆ
“ไหม คืนนี้พี่เหนื่อยมาก พี่ขอตัวไปนอนก่อนนะ เราเองก็กลับเข้าบ้านพักไปได้แล้ว มาเดินค่ำๆมืดๆแบบนี้ มันไม่ดี อีกอย่างก่อนจะออกจากบ้านหัดหาเสื้อคลุมมาใส่บ้างนะ” คมพูดบอกแค่นั้น ก่อนจะเดินตรงไปที่บ้านพักของตนเองทันที ทิ้งให้หญิงสาวยืนฮึดฮัดด้วยความหงุดหงิดอยู่คนเดียว คมเดินกลับเข้ามาในบ้าน พร้อมกับถอนหายใจหนักๆออกมา พลางคิดว่าตนเองไม่ได้ปลดปล่อยมานานแค่ไหนแล้ว ปกติแล้วกมลไม่เคยห้าม ถ้าลูกน้องตนเองจะออกไปหาความสำราญให้กับตัวเอง เพราะทุกคนมีวันหยุดของตัวเองอยู่แล้ว มีเพียงคมที่ไม่ค่อยได้หยุดพักนัก เพราะคอยตามคุ้มกันกมลอยู่ตลอด ถึงแม้ว่ากมลจะสั่งให้หยุดบ้างแล้วก็ตาม แต่กมลก็คอยหาหญิงสาวมาให้คมได้ปลดปล่อยอยู่เป็นประจำ พอหันไปมองนาฬิกาก็ต้องตัดสินใจเดินเข้าไปอาบน้ำแล้วนอนพักเพื่อจะได้ตื่นพาใบบุญไปส่งที่โรงเรียนในตอนเช้า
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“ยาย ใบบุญมานอนบ้านได้ไงอ่ะฮะ ใบบุญจำได้ว่าเมื่อวานใบบุญนั่งดูหนังกับพี่คิมแล้วก็ง่วงมาก” ใบบุญที่ตื่นขึ้นมาแต่เช้ามืดออกมาถามยายตนเองที่กำลังจะเตรียมตัวไปทำอาหารเช้าที่บ้านใหญ่
“อะไรกัน นี่ง่วงจัดจนจำไม่ได้เลยเหรอว่าพี่คมเค้าแบกเราขึ้นหลังกลับมาส่งบ้านน่ะ” ยายถามออกมาอย่างขำๆ
“พี่คมแบกใบบุญขึ้นหลังกลับมาบ้านเหรอยาย จริงเหรอฮะ” ใบบุญถามยายตัวเองด้วยน้ำเสียงตื่นๆ
“ใช่น่ะสิ ไม่เชื่อไปถามพี่เค้าดู” ยายบอกกลับ ใบบุญหน้าขึ้นสีนิดๆ เพราะรู้สึกอายที่ถูกแบกขึ้นหลังกลับมานอนโดยไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“แล้วพี่คมเค้าโกรธรึเปล่าฮะยาย ใบบุญจะได้ไปขอโทษ” เด็กหนุ่มพูดถามออกมาด้วยความรู้สึกหวั่นๆ กลัวว่าคมจะไม่พอใจตนเอง
“ไม่ได้โกรธอะไรหรอก แต่เราก็ต้องไปขอบคุณพี่เค้ารู้มั้ย แล้วนี่จะเข้าไปช่วยยายในครัวก่อนรึเปล่า” ยายของเด็กหนุ่มพูดถามขึ้น
“ไปฮะ เดี๋ยวสัก 6 โมงนิดๆ ใบบุญค่อยกลับมาอาบน้ำแต่งตัวก็ได้” เด็กหนุ่มบอกกลับก่อนจะออกไปช่วยยายตัวเองเตรียมอาหารเช้าและช่วยเหลืองานอื่นๆเท่าที่จะทำได้ พอได้เวลาจะอาบน้ำแต่งตัว ใบบุญก็กลับมายังบ้านพัก พร้อมกับอาบน้ำแต่งตัว เตรียมของทุกอย่างไว้ให้ครบ เด็กหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นพอสมควรเมื่อจะได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนใหม่ที่ดูดีกว่าโรงเรียนเดิมเป็นอย่างมาก ใบบุญสำรวจตัวเองในกระจกก่อนจะสำรวจของใช้ที่ต้องเอาไปโรงเรียน แล้วเดินออกไปหาคมที่บ้านพัก เมื่อไปถึง ใบบุญไม่กล้าเรียกคมแต่อย่างไร ได้แต่นั่งรอที่เก้าอี้หน้าบ้าน แต่พอถึงเวลา 7 โมงเช้า ประตูบ้านของคมก็ถูกเปิดออก
“อ่าว ใบบุญ มารอตั้งแต่เมื่อไร ทำไมไม่เรียกพี่” คมถามขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนนั่งรออยู่ที่หน้าบ้าน พอได้เห็นใบบุญในชุดนักเรียนขาสั้นสีน้ำเงิน คมก็รู้สึกว่ามันดูเหมาะกับเด็กหนุ่มเป็นอย่างมาก ถ้าไม่มีใครบอกว่าฐานะของใบบุญเป็นใคร ก็คงมีคนเข้าใจว่าเป็นลูกคุณหนูแน่นอน
“ใบบุญแต่งตัวแปลกเหรอฮะ ใบบุญใส่ชุดถูกใช่มั้ยพี่คม” เด็กหนุ่มรีบถามทันที เมื่อเห็นว่าคมมองตนเองไม่วางตา
“เอ่อ ถูกแล้ว พี่แค่คิดว่าชุดนี้เหมาะกับเราดีเท่านั้นเอง” คมบอกกลับ
“เหมาะยังไงฮะ ก็แค่ชุดนักเรียน” ใบบุญถามกลับอย่างงงๆ คมยิ้มนิดๆกับความซื่อของเด็กหนุ่ม
“เรายังไม่ตอบพี่เลย ว่าทำไมไม่เรียกพี่ ถ้าพี่ตื่นสายจะว่ายังไง” คมแกล้งถามกลับไป ใบบุญยิ้มกว้าง
“ไม่มีทางหรอกฮะ ใบบุญรู้ว่าพี่คมรักษาคำพูดเสมอ” เด็กหนุ่มบอกกลับอย่างมั่นใจ คมมองหน้าใบบุญแล้วยกยิ้มมุมปาก ก่อนที่ใบบุญจะร้อนหน้าขึ้นมาเมื่อนึกบางอย่างได้ เด็กหนุ่มรีบยกมือขึ้นมาไหว้คมอย่างรวดเร็ว
“พี่คม ใบบุญขอโทษนะฮะ ที่เมื่อคืนทำตัวเป็นภาระให้พี่คมต้องแบกกลับมาบ้านพัก ใบบุญไม่รู้ตัวจริงๆ ถ้ายายไม่บอก ใบบุญคงงงแน่ๆว่าใบบุญกลับมานอนที่บ้านได้ยังไง” ใบบุญพูดขึ้น
“จำไม่ได้เหรอ ว่าเราเองเป็นคนตอบรับให้พี่แบกขึ้นหลังกลับน่ะ” คมแกล้งถามกลับไป เด็กหนุ่มหน้าแดงก่ำ
“จะ…จริงเหรอฮะ น่าอายจัง ใบบุญขอโทษฮะพี่คม” เด็กหนุ่มบอกออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วๆด้วยความรู้สึกผิด คมส่ายหน้าไปมายิ้มๆ
“จะขอโทษทำไม พี่ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย อีกอย่างพี่เต็มใจแบกเรากลับ เพราะฉะนั้นไม่ต้องขอโทษ” คมพูดบอกออกมา ทำให้ใบบุญยิ้มออกมาได้
“แล้วเตรียมของครบรึยัง” คมถามย้ำ
“ครบแล้วฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ
“งั้นไปที่รถกันเลย อ่อ แล้วเรากินข้าวเช้ารึยังเนี่ย” คมถามขึ้นมาอย่างนึกได้
“ใบบุญกินขนมปังกับนมไปแล้วฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับ เพราะยายของตนเองเตรียมเอาไว้ให้แล้วที่บ้านพัก
“กินแค่นั้นมันจะไปพออะไร มือเช้ามันสำคัญสำหรับเรานะ เดี๋ยวไปกินโจ๊กแถวๆทางเข้าหมู่บ้านล่ะกัน” คมพูดบอก ก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายที่ใบบุญวางเอาไว้ที่โต๊ะมาถือให้
“พี่คม เดี๋ยวใบบุญถือเองฮะ” เด็กหนุ่มรีบพูดบอกด้วยความตกใจเมื่อเห็นคมถือกระเป๋าให้ตนเอง
“พี่ถือให้น่า ไปได้แล้ว” คมพูดจบก่อนจะดันหลังใบบุญให้เดินไปพร้อมกับตนเอง เด็กหนุ่มจึงได้แต่เดินตาม แต่ก็พูดขอถือกระเป๋าเองจนมาถึงรถแต่คมก็ไม่ยอมให้อยู่ดี กมลให้คมเอารถอีกคันของตนเองไปส่งใบบุญที่โรงเรียน ใบบุญขึ้นนั่งบนรถด้วยความตื่นเต้น
“เป็นครั้งแรกเลยฮะ ที่มีคนไปส่งใบบุญที่โรงเรียนแบบนี้” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมาเมื่อขึ้นมานั่งบนรถแล้ว คมหันมามองหน้าใบบุญนิดๆ
“แล้วทุกทีเวลาอยู่กับแม่ เราไปเรียนยังไง” คมถามกลับ
“ขึ้นรถเมล์ฮะ” ใบบุญพูดบอกออกมา
“วันไหนเจอรถเมล์ฟรีก็โชคดีหน่อย ประหยัดเงินด้วย” เด็กหนุ่มตอบกลับยิ้มๆ ทำให้คมนึกบางอย่างขึ้นได้
“เกือบลืมไปเลย นี่ค่าขนมไปโรงเรียนของอาทิตย์นี้ นายเค้าฝากไว้ให้ แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากค่าขนมให้มาบอกพี่” คมพูดบอกพร้อมกับหยิบเงินที่กมลฝากไว้เมื่อคืนส่งให้เด็กหนุ่ม ใบบุญมองเงินในมือของคมอย่างอึ้งๆ
“ตั้ง สองพันแน่ะพี่คม ใบบุญไม่เอาได้มั้ย ทำไมมันเยอะแบบนี้ล่ะฮะ ยายให้ใบบุญมาแล้ว 50 บาท อีกอย่างใบบุญไม่ต้องจ่ายค่ารถเมล์ด้วย แค่นี้ก็พอแล้วฮะ” เด็กหนุ่มบอกออกมาด้วยความตกใจ
“นายเค้าสั่งไว้ เราอยากขัดคำสั่งนายเหรอ ถ้าใช้ไม่หมดก็เก็บใส่กระปุกไว้สิ ไม่เห็นจะยากเลย” คมแกล้งพูดขู่ออกมา เพราะรู้ว่าเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ใบบุญยอมรับเงินนี้ ความจริงกมลให้คมมา พันห้า แต่คมแอบเอาเงินของตนเองใส่เพิ่มให้เด็กหนุ่มอีก 500 เพราะคิดว่าใบบุญอาจจะต้องจำเป็นใช้เงินมากกว่าวันละ 300
“อีกอย่างนะใบบุญ โรงเรียนที่เราไปเรียน เป็นโรงเรียนเอกชน อาหารการกินในโรงเรียนราคามันจะแพงกว่าโรงเรียนเดิมของเรา เพราะฉะนั้นรับซะ” คมพูดบอกย้ำอีกครั้ง ใบบุญมองหน้าคมอย่างอ้อนวอน แต่เมื่อเห็นสายตาดุแกมบังคับของคม ทำให้ใบบุญจำต้องรับเงินที่คมมาแต่โดยดี
“ขอบคุณฮะ เดี๋ยวใบบุญกลับมาจากโรงเรียน ใบบุญจะเข้าไปขอบคุณคุณกมลด้วย” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมาเสียงสั่นๆ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้จับเงินมากขนาดนี้มาก่อน
“เก็บไว้ดีๆล่ะ และบริหารเงินเองด้วย” คมบอกกลับยิ้มๆ แต่ก็มั่นใจว่าใบบุญต้องบริหารจัดการเงินค่าขนมได้เป็นอย่างดี ก่อนจะขับรถออกจากบ้านของกมล เพื่อพาใบบุญไปกินโจ๊กก่อนไปส่งที่โรงเรียน คมพาใบบุญมาที่ร้านโจ๊กหน้าหมู่บ้าน ที่ตอนนี้มีทั้งนักเรียนและคนวัยทำงานมานั่งกินอาหารเช้าแบบง่ายๆที่ตั้งอยู่ข้างทางแบบนี้
“เอาใส่ไข่มั้ย” คมหันมาถามเมื่อพาใบบุญลงจากรถมานั่งที่โต๊ะ หลายคนหันมามองคมอย่างหวั่นๆ และแปลกใจ เพราะรูปร่างที่สูงใหญ่หนวดเคราขึ้นเต็มและท่าทางดุดัน ทำให้หลายคนไม่กล้ามองคนทั้งคู่ตรงๆสักเท่าไรนัก
“ไม่เอาฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกเพราะถ้าใส่ไข่ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นอีก เด็กหนุ่มไม่อยากให้เสียเงินเพิ่ม คมมองหน้าใบบุญก็พอจะเข้าใจ
“ป้าครับเอาโจ๊กใส่ใข่ชามหนึ่ง” คมพูดสั่งออกไป
“ของพี่คมเหรอฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น
“เปล่า ของเรานั่นแหละ” คมพูดบอก ใบบุญตาโตขึ้นเล็กน้อย
“แต่ใบบุญไม่ใส่ไข่นะฮะ ป้าฮะ” ใบบุญทำท่าจะหันไปเปลี่ยน
“หยุด ห้ามเปลี่ยน ถ้าเราไม่ใช่คนแพ้พวกโปรตีนจากไข่ก็กินเข้าไปซะ พี่รู้หรอกนะว่าทำไมไม่ให้ใส่ไข่ กินเข้าไปเยอะๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก จะได้ตัวโตๆใหญ่ๆแบบพี่ไง” คมบอกกลับ ใบบุญทำแก้มพองลม
//พี่คมชอบบังคับ// เด็กหนุ่มพูดบอกเสียงอ้อมแอ้ม แต่คมก็ได้ยินชัด
“ที่บังคับก็เพราะห่วง เข้าใจไว้ด้วย” คมพูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ด้วยคำพูดตรงๆ แต่ก็ทำให้ใบบุญเงยหน้ามามองคมด้วยความรู้สึกตื้นตันในใจ
“อย่าร้องไห้ วันนี้ไปโรงเรียนวันแรก จะตาบวมไปโรงเรียนรึไงกัน” คมพูดว่าออกมายิ้มๆ ทำให้ใบบุญต้องฝืนตัวเองไม่ให้ร้องไห้เพราะความตื้นตัน
“แล้วพี่คมไม่กินเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้นเมื่อนึกได้ว่าคมสั่งให้ตนเองแค่ชามเดียว
“เรากินเถอะ พี่ไม่ค่อยกินข้าวเช้าสักเท่าไร” คมบอกกลับ ใบบุญนิ่งไปนิดพร้อมกับกัดริมฝีปากตนเองอย่างลังเล ว่าจะพูดดีหรือไม่
“มีอะไรก็พูดมาเถอะ” คมที่สังเกตอาการของใบบุญก็พูดถามขึ้นมา
“ก็ใบบุญไม่อยากนั่งกินคนเดียว อีกอย่างพี่คมเป็นคนบอกเองนี่ฮะ ว่ามื้อเช้าสำคัญ แล้วทำไมพี่คมไม่กินด้วยกันล่ะฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกเสียงอ่อยๆ เพราะอีกใจก็กลัวว่าคมจะไม่พอใจที่ตนเองพูดแบบนี้รึเปล่า แต่อีกใจก็ห่วงอยากให้คมนั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน คมมองหน้าใบบุญที่ส่งสายตาอ้อนวอนมาให้โดยที่ใบบุญเองก็คงไม่รู้ตัว ว่าสายตาตนเองมันอ้อนแค่ไหน คมถอนหายใจออกมาเบาๆ พอดีกับที่โจ๊กของใบบุญมาเสริฟที่โต๊ะ
“ป้าครับ เอาแบบนี้อีกชามละกัน” คมพูดบอกกับเจ้าของร้าน ทำให้ใบบุญยิ้มกว้างออกมาได้
+++++++++++++++++++ 100% ++++++++++++++++
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อร๊ายยยย อยากแยกคู่นี้ออกมาจัง
แต่คงไม่ทันแล้วล่ะมั้ง เหอเหอ
ช่วงนี้ทนอ่านทีละ 50% ก่อนนะคะ
ยอนิมไม่อยากให้คนอ่านของทั้งสองเรื่องต้องรอนาน
เพราะช่วงนี้ยอนิมยุ่งๆ ยาวถึงสิ้นเดือน
ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ ถ้าทำให้อึดอัดหรือหงุดหงิดบ้าง