ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนพิเศษ 9

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่9  (คม x ใบบุญ)

Author: 여님  (ยอนิม)

 

“ใบบุญญญญญ” เสียงเรียกใบบุญแบบลากยาวดังขึ้น ทำให้ใบบุญกับไผ่หันไปมอง ก็พบว่าเป็นสันที่วิ่งเข้ามาหา

“สวัสดีครับพี่สัน มีอะไรเหรอครับ” ใบบุญทักทายสัน และถามกลับไป

“เมื่อเช้า พี่ว่าจะทักไลน์ใบบุญ แต่เห็นใบบุญเปลี่ยนรูปโปร์ไฟล์เป็นรูปคู่กับพี่คม ทำเอาพี่ไม่กล้าทักเลย ใบบุญเปลี่ยนเป็นรูปใบบุญคนเดียวไม่ได้เหรอ”สันพูดโอดครวญขึ้นมา ทำให้ไผ่นิ่งไปนิด เพราะเขาเองก็เห็นรูปตั้งแต่เมื่อคืนเหมือนกัน แต่ไม่กล้าถามเรื่องนี้ ยังดีที่มีสันที่กล้าถามออกมา

“ไม่เปลี่ยนหรอกครับ ใบบุญอยากใช้รูปคู่กับพี่คม หน้าจอโทรศัพท์ใบบุญก็เปลี่ยนนะ ดูสิครับ” ใบบุญบอกยิ้ม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตนเองออกมาแล้วโชว์รูปหน้าจอให้ไผ่กับสันดู สันหันไปมองหน้าไผ่นิดๆ ก็เห็นไผ่มีสีหน้าหม่นลงเล็กน้อย

“ตอบออกมาโคตรทำร้ายจิตใจพี่เลย เอาเถอะ อย่างน้อยพี่คมก็เป็นแค่พี่ชายใบบุญนี่เนอะ ไม่ได้เป็นแฟนสักหน่อย” สันพูดขึ้นมา ทำให้ใบบุญชะงักไปนิด เมื่อนึกถึงความแตกต่างระหว่างคำว่าแฟนกับพี่ชาย

“พี่สัน พี่ก็พูดอะไรไปเรื่อย เอากระเป๋าไปไว้บนห้องกันเถอะใบบุญ” ไผ่พูดชวน ใบบุญพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินขึ้นอาคารเรียนพร้อมกับไผ่

..

..

..

..

..

“คิดอะไรอยู่พี่คม” กิจที่เดินออกมาสูบบุหรี่ข้างๆคมที่หน้าสำนักงานของกมลถามขึ้น เมื่อเห็นคมยืนสูบบุหรี่แล้วทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่

“กิจ มึงว่าใบบุญต้องใส่ชุดแบบไหนถึงจะดูดีวะ” คมถามขึ้น ทำให้กิจเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ

“พี่ถามทำไมอ่ะ” กิจถามกลับ

“กูว่าจะหาซื้อเสื้อผ้าให้ใบบุญบ้างน่ะ เห็นใส่แต่เสื้อผ้าเก่าๆ” คมพูดบ่นขึ้นมา กิจยิ้มรับนิดๆ

“แต่ผมก็เห็นคุณคิมเค้าซื้อให้ใบบุญอยู่เหมือนกันนะพี่ แต่ใบบุญไม่ค่อยใส่เองมากกว่า พี่เองก็ซื้อให้ใบบุญบ้างแล้วไม่ใช่เหรอ” กิจตอบกลับ

“เออว่ะ หรือว่ากูต้องแอบเอาเสื้อผ้าเก่าๆของใบบุญไปทิ้งดีวะ ใบบุญถึงจะยอมใส่เสื้อผ้าใหม่ๆบ้าง” คมบ่นออกมาอีก ทำเอากิจยิ้มขำนิดๆ

“แล้วพี่นึกยังไงถึงอยากจะเอาเสื้อผ้าใบบุญไปเผาทิ้งล่ะ ไม่กลัวว่าใบบุญจะร้องไห้เสียใจเหรอพี่คม” กิจถามกลับไปบ้าง คมบกมือไปมา

“เออๆ ช่างเหอะ กูก็แค่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้นแหละ” คมบอกปัด เพราะรู้สึกว่าตนเองจะคิดอะไรเลอะเทอะไปกันใหญ่แล้ว เมื่อสูบบุหรี่หมด คมก็เดินกลับเข้ามาในสำนักงาน และเข้าไปที่ห้องทำงานของกมล

“วันนี้นายจะกลับตอนไหนครับ” คมถามขึ้น ทำให้กมลละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์ขึ้นมามอง

“สัก 4 โมงเย็นนั่นแหละ จะกลับไปหาเมีย” กมลตอบกลับเสียงเรียบ ทำเอาคมยกยิ้มมุมปากนิดๆ

“แล้วแกถามทำไม จะไปไหนรึเปล่า” กมลถามกลับไปบ้าง

“ผมกะว่าตอนไปรับใบบุญที่โรงเรียน จะพาใบบุญไปหาซื้อเสื้อผ้าหน่อยน่ะครับ” คมตอบกลับ

“อ่า เอาสิ แต่แกก็โทรบอกป้านีเค้าหน่อยล่ะกัน เดี๋ยวป้านีแกจะเป็นห่วงหลาน” กมลพูดแนะนำ

“ครับ” คมตอบรับ ก่อนจะคุยกับกมลเรื่องงานต่อ

..

..

..

..

“ใบบุญ วันนี้ไม่มีการบ้าน เราไปเดินเที่ยวห้างกันดีมั้ย” ไผ่พูดชวน ใบบุญส่ายหน้าไปมา

“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวพี่คมมารับ อีกอย่างเราอยากกลับไปช่วยงานยายด้วย” ใบบุญพูดบอก เพราะไม่อยากไปเดินเที่ยวห้างเท่าไรนัก ไผ่หน้านิ่งไปนิดทำให้ใบบุญรู้สึกไม่ดีสักเท่าไร

“เอาไว้วันอื่นได้มั้ยไผ่ เมื่อวานเราก็กินไอศกรีมด้วยกันแล้วไง วันนี้เว้นก่อนเถอะนะ” ใบบุญพูดออกมาอย่างเกรงใจ กลัวว่าเพื่อนจะไม่พอใจที่ตนเองไม่ไปเดินเที่ยวห้างด้วย

“จริงนะ งั้นวันหยุดเสาร์นี้ ใบบุญไปดูหนังกับเราได้มั้ย เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”ไผ่พูดชวนออกมาอย่างดีใจ ใบบุญอึกอักเล็กน้อย

“เอาไว้เราให้คำตอบวันศุกร์ได้มั้ย เราต้องขออนุญาตยายกับพี่คมก่อนน่ะ” ใบบุญพูดบอกเสียงอ่อยๆ

“อืม ได้ แต่ถ้าใบบุญจะให้เราไปช่วยขออนุญาตด้วยก็ได้นะ เราจะไปขอให้” ไผ่พูดขึ้น ใบบุญก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเก็บของใส่กระเป๋าแล้วเดินลงมารอคมที่เดิม ไผ่เองก็มานั่งรอเป็นเพื่อนเช่นเดียวกัน ไม่นานนักคมก็ขับรถเข้ามาจอดรับ ใบบุญหันไปพูดลาไผ่นิดหน่อย แล้ววิ่งไปหาคมที่รถ เด็กหนุ่มเปิดประตูเข้าไปนั่งพร้อมกับยกมือไหว้คม

“สวัสดีฮะพี่คม” ใบบุญทักทายขึ้นยิ้มๆ คมส่งแก้วน้ำสตอเบอรี่ปั่นให้เช่นเคย แต่สายตาก็มองไปที่ไผ่ที่เดินหันหลังไปเมื่อเห็นว่าใบบุญขึ้นรถแล้ว

“เพื่อนเราที่ชื่อไผ่ มานั่งรอเป็นเพื่อนเรารึไงใบบุญ” คมถามขึ้นเสียงเรียบ พร้อมกับขยับรถออกจากที่จอด

“ฮะ” ใบบุญตอบรับพร้อมกับดูดน้ำไปด้วย

“ทำไมไม่กลับบ้านกลับช่อง มานั่งรอด้วยทำไม” คมบ่นอุบ

“ไผ่มีซ้อมบาสฯน่ะฮะ ก็เลยมารอเป็นเพื่อนใบบุญได้” เด็กหนุ่มตอบด้วยความไม่รู้

“อ่อ เป็นนักบาสด้วยงั้นเหรอ” คมพึมพำกับข้อมูลที่ได้รับ ก่อนจะเลิกสนใจเพื่อนใหม่ของใบบุญแล้วหันมามองใบบุญบ้าง

“วันนี้มีการบ้านรึเปล่า” คมถามขึ้นมาก่อน

“ไม่มีฮะ” ใบบุญตอบรับ ทำให้คมยิ้มนิดๆ

“งั้นดีเลย พี่จะพาเราไปหาซื้อของแถวอนุสาวรีย์ฯ” คมพูดขึ้น ใบบุญมองหน้าคมอย่างงงๆ

“ไปซื้ออะไรฮะ” ใบบุญถามกลับ

“เดี๋ยวก็รู้” คมพูดบอก เพราะยังไม่อยากบอกใบบุญตอนนี้ว่าจะพาไปซื้อเสื้อผ้า เนื่องจากรู้ดีว่าถ้าบอกไป ใบบุญต้องปฏิเสธไม่ยอมไปแน่นอน คมขับรถไปจอดไว้ที่ห้างใกล้ๆ สถานีรถไฟฟ้าเพื่อจะพาใบบุญนั่งรถไฟฟ้าไปอนุสาวรีย์ฯ เนื่องจากที่อนุสาวรีย์หาที่จอดลำบาก

“เราจะไปไหนกันเหรอฮะ” ใบบุญถามเสียงตื่นเต้น ตอนนี้เด็กหนุ่มเอาชายเสื้อนักเรียนออกมาจากกางเกงแล้ว

“เราจะขึ้นรถไฟฟ้าไปอนุสาวรีย์กันไง” คมตอบกลับ ทำให้ใบบุญเบิกตาขึ้น

“รถไฟฟ้าที่วิ่งข้างบนน่ะเหรอฮะ” ใบบุญชี้ขึ้นไปที่รางรถไฟฟ้าเพราะตนเองยังคงอยู่ด้านล่างสถานีอยู่ คมพยักหน้ารับ ใบบุญรีบเกาะแขนคมเอาไว้ทันที

“ใบบุญไม่เคยขึ้น เค้าต้องทำยังไงบ้างฮะ พี่คมบอกใบบุญด้วยนะ” เด็กหนุ่มรีบถามทันที

“เดี๋ยวพี่สอนให้ ป่ะ มาทางนี้” คมบอกพร้อมกับพาใบบุญที่เดินกอดแขนคมเอาไว้ ขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้า มีสายตาของวัยรุ่นและอีกหลายๆคนหันมามองใบบุญกับคมเป็นระยะ เพราะใบบุญเล่นกอดแขนคมเอาไว้เหมือนคนขี้หวง กลัวว่าร่างสูงจะหายไปไหน ส่วนคมก็เดินยิ้มๆ ไม่มีท่าทีอะไรมากนัก คมพาใบบุญมาหยอดตู้ซื้อบัตรพร้อมกับอธิบายให้ใบบุญรับรู้ไปด้วย เมื่อได้บัตรจากรถไฟฟ้าแล้ว คมก็พาใบบุญมาที่ทางเข้าพร้อมกับอธิบายการสอดบัตรเข้าไป และรับบัตรเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งใบบุญก็ทำตามที่คมสอนได้ดีแต่อาจจะเงอะงะไปบ้าง ซึ่งคมมองว่าน่ารักดี คมพาใบบุญมายืนรอขบวนรถไฟ

“อ่า พี่ลืมคิดไปเลย ว่าช่วงนี้คนเยอะ” คมพูดบ่นขึ้นเมื่อเห็นคนยืนรอรถไฟฟ้าอยู่เต็มไปหมด ส่วนใบบุญก็เกาะคมเอาไว้แน่นเหมือนเคย

“เรากลับบ้านกันมั้ยฮะ” ใบบุญพูดชวนเมื่อเห็นคนมากมาย

“ไหนๆก็มาแล้ว ก็ไปให้ถึงเถอะ” คมตอบกลับ พอดีกับรถไฟฟ้าขับเข้ามาจอดเทียบสถานี คมจับมือใบบุญออกจากแขนตัวเองเพื่อโอบเอวเล็กเอาไว้ เนื่องจากคมมีรูปร่างสูงใหญ่ และหน้าตาดุๆ ทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้ามาเบียดคมกับใบบุญมากนัก พอประตูเปิดคนด้านในกรูกันออกมาจนเกือบหมด คมก็ดันใบบุญให้เดินก้าวเข้าไปในขบวนรถไฟ ใบบุญมองรอบๆอย่างตื่นเต้น แต่เนื่องจากในขบวนรถไม่มีที่ให้นั่ง คมจึงพาใบบุญขยับมายืนติดกับผนังรถไฟตรงช่วงรอยต่อของขบวนรถไฟฟ้า โดยที่ทั้งสองยืนหันหน้าเข้าหากัน ใบบุญยืนพิงผนังรถไฟฟ้าเอาไว้ ส่วนคมก็ยืนหันหน้าเข้าหาใบบุญ คนทยอยเข้ามาเบียดเรื่อยๆ

“คนเยอะจังเลยฮะ พี่คมยืนได้มั้ย” เด็กหนุ่มถามคมอย่างเป็นห่วง

“พี่สบายมากอยู่แล้ว เรานั่นแหละเกาะพี่ไว้ล่ะกัน” คมพูดบอก ใบบุญพยักหน้ารับยิ้มๆ พร้อมกับยกมือมากอดเอวของคมเอาไว้ด้วยสีหน้าซื่อๆ

“ใบบุญกอดเอาไว้แบบนี้ได้มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้น คมใจเต้นตึกตัก พลางคิดในใจว่า ใบบุญไม่อายสายตาคนอื่นๆที่เขาจะมองมาบ้างหรือยังไง แต่เมื่อคิดอีกที เด็กใสซื่ออย่างใบบุญคงไม่ได้คิดไปถึงเรื่องนี้แน่นอน

“กอดไว้แบบนี้ก็ได้” คมตอบกลับไป ทำให้ใบบุญยิ้มกว้าง ด้วยความที่คมยืนบังสายตาคนอื่นๆเอาไว้ ทำให้ใบบุญไม่รับรู้ว่ามีใครมองมาแบบไหนบ้าง พอรถไฟฟ้าเริ่มเคลื่อนที่ ใบบุญก็กอดคมเอาไว้เพราะเซนิดๆ

“คึคึ” ใบบุญหัวเราะขำเบาๆ จนคมต้องก้มลงมามอง

//หัวเราะอะไร// คมถามไม่ดังมากนัก พลางคิดว่า เสียงหัวใจตัวเองเต้นแรงอีกรึเปล่า ใบบุญถึงได้หัวเราะเหมือนก่อนหน้านี้

//ถ้าใบบุญไม่กอดพี่คมเอาไว้ ใบบุญคงล้มแน่เลย// เด็กหนุ่มพูดบอกออกมา คมยิ้มรับนิดๆ รถไฟฟ้าเคลื่อนไปเรื่อยๆ พอจอดตามสถานีอื่นๆ คนก็ทยอยเข้ามาอีก ยิ่งเบียดคมมากขึ้น คมพยายามเอาแขนตนเองกันไม่ให้ตัวของคมเองเบียดไปหาใบบุญมากนัก แต่ก็ช่วยได้ไม่มากเท่าไร ใบบุญแทบจะจมไปกับอกแกร่งของคมแล้วตอนนี้ พอยิ่งเบียดเข้าหากัน กลิ่นกายและความอบอุ่นจากร่างกายของคมก็ทำให้ใบบุญรู้สึกร้อนหน้าวูบวาบอย่างบอกไม่ถูก

//ทนหน่อยนะ// คมพูดขึ้นไม่ดังมากนัก แต่ใบบุญก็ได้ยินชัด ใบบุญซุกหน้าตัวเองไปกับช่วงหน้าอกของคมพร้อมกับถูไถไปมา ทำให้คมรู้สึกร้อนวูบไปทั่วทั้งตัว เมื่อเจอท่าทางอ้อนๆเหมือนลูกแมวของใบบุญแบบนี้เข้า

//พี่คมใช้น้ำหอมรึเปล่าฮะ// เด็กหนุ่มเงยหน้ามาถามขึ้นทั้งๆที่ใบหน้าบางส่วนยังแนบอยู่กับอกของคม

//อืม ก็ใช้บ้าง ทำไมเหรอ// คมถามกลับไป

//ใบบุญชอบกลิ่นพี่คมจัง// เด็กหนุ่มตอบพร้อมกับเอาหน้าไปถูกับอกแกร่งของคมอีก ทำให้ร่างสูงชะงักนิ่ง

(เย็นไว้โว้ยยยยย ไอ้คม) ร่างสูงตะโกนก้องในใจ

++++++++++++++++++++ 50%  +++++++++++++++++

“ใบบุญ ยืนนิ่งๆ อย่ายุกยิกไปมาสิ” คมพูดเสียงเรียบ ทำให้ใบบุญเงยหน้าขึ้นมายิ้ม พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะแหะๆกลับมาให้ ก่อนจะยอมยืนกอดเอวคมเอาไว้นิ่งๆ ไม่เอาหน้าไปถูไถหน้าอกของคมแล้ว ทำให้คมหายใจหายคอได้มากกว่าเดิมนิดหนึ่ง

“หิวรึยัง” คมถามขึ้นมาเสียงไม่ดังมากนัก ใบบุญพยักหน้ารับ

“งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อน แล้วค่อยไปซื้อของ” คมบอกอีก ใบบุญก็พยักหน้ารับอีกครั้งโดยไม่ได้พูดอะไร แต่เด็กหนุ่มก็ชะโงกหน้าออกมาจากแผงอกของคมเพื่อมองคนอื่นๆบ้าง ก่อนจะเห็นหญิงสาวกลุ่มหนึ่งหันมามองตนเองกับคมแล้วหัวเราะคิกคัก ยิ้มๆกันเบาๆ ทำให้ใบบุญขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างงงๆ

“พี่คมฮะ ทำไมผู้หญิงกลุ่มนั้นเค้ามองเราสองคนล่ะ ใบบุญเห็นเค้าหัวเราะกันด้วย ใบบุญทำอะไรตลกๆรึเปล่า” เด็กหนุ่มรีบถามคมทันที เพราะกลัวว่าตนเองจะทำอะไรเปิ่นๆออกไปตามประสาคนไม่เคยขึ้นรถไฟฟ้า แต่พอคิดอีกที ใบบุญก็งงมากกว่าเดิม เพราะใบบุญไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากยืนกอดร่างสูงอยู่ คมนิ่งไปนิดเมื่อได้ยิน ร่างสูงหันหน้าไปมองทางด้านหลัง พร้อมกับมองกลุ่มหญิงสาวด้วยสายตานิ่งๆแกมกดดัน ทำให้กลุ่มของหญิงสาวรีบหันหน้าหนีทันที แล้วคมก็หันกลับมายิ้มให้กับใบบุญอีกครั้ง

“เปล่านี่ พวกเค้าอาจจะคุยเรื่องอื่นกันอยู่ก็ได้ ไม่ได้หัวเราะขำอะไรใบบุญหรอก” คมพูดขึ้น ใบบุญชะโงกหน้าตัวเองออกไปดูอีกครั้ง ก็เห็นกลุ่มหญิงสาวยืนหันหลังให้ไม่มีทีท่าหัวเราะเหมือนเมื่อสักครู่อีก ใบบุญจึงยิ้มกว้างออกมา

“จริงด้วยฮะ” เด็กหนุ่มตอบยิ้มๆ คมเองก็ยิ้มรับอ่อนๆ พลางคิดในใจว่าเขาพอจะรู้ดีว่ากลุ่มของเด็กสาวที่หันมามองก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นกลุ่มที่ชอบพวกชายรักชาย และที่มองคงเข้าใจผิดคิดว่าคมกับใบบุญเป็นคู่รักกัน

กึก

คู่รัก…

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้คมก็ชะงักกึก

(ไม่ต้องบอกใบบุญดีกว่ามั้ง ว่าพวกนั้นมองเราสองคนยังไง) คมแอบคิดในใจ เพราะถ้าใบบุญรู้ แล้วเด็กหนุ่มเกิดนึกระวังตัวขึ้นมา ก็คงจะไม่เข้ามาออดอ้อนเขาแบบนี้แน่ๆ ไม่นานนักรถไฟฟ้าก็มาถึงสถานีอนุสาวรีย์ คนเริ่มทยอยกันเดินออก คมคว้าตัวใบบุญมายืนตรงหน้าตนเองพร้อมกับจับเอวเล็กของใบบุญเอาไว้เพื่อดันให้เดินไปข้างหน้า แต่ก็คอยระวังไม่ให้ใครเดินมากระแทกเด็กหนุ่มด้วย เพราะคนลงสถานีนี้กันเยอะมาก รวมไปถึงเด็กสาวกลุ่มนั้นด้วย

//น่ารักอ่ะแก น้องคงอยู่แค่มอต้นแน่เลย// เสียงกระซิบของหญิงสาวดังแว่วเข้ามาให้ดิ้น ซึ่งใบบุญก็ได้ยินเช่นกัน เพราะกลุ่มของหญิงสาวเดินลงบันไดสถานีตามมาทางด้านหลัง เสียงชมใบบุญยังดังให้ได้ยินเป็นระยะ ทำให้ใบบุญเอี้ยวตัวไปมองกลุ่มของหญิงสาวด้านหลัง พร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้

“ขอบคุณฮะ” เด็กหนุ่มบอกกลับ ก่อนที่กลุ่มหญิงสาวทั้งกลุ่มจะชะงักนิ่งหน้าขึ้นสี คมรีบดันหลังใบบุญเดินลงบันไดขั้นสุดท้ายเพื่อเดินสกายวอร์คไปที่ห้างเซ็นเตอร์วัน ก่อนจะได้ยินเสียงกรี๊ดจากกลุ่มหญิงสาว ทำให้ใบบุญหันไปมองอย่างงงๆ โดยที่คมก็พาเดินไปเรื่อยๆ

“เค้าเป็นอะไรกันเหรอฮะ” ใบบุญหันมาถามร่างสูงที่ตอนนี้เปลี่ยนมาเดินจับมือใบบุญแทนแล้ว

“แล้วเราไปขอบคุณอะไรเค้าล่ะ” คมถามกลับ

“ก็พวกพี่ๆเค้าบอกว่าใบบุญน่ารัก” เด็กหนุ่มตอบออกมาตามประสาเด็กซื่อ คมยิ้มรับนิดๆ

“รู้ได้ไงว่าเค้าชมเราว่าน่ารัก” คมแกล้งถาม ทำให้ใบบุญชะงักเสียความมั่นใจไปนิดหน่อย พลางคิดลังเลว่าเมื่อกี้กลุ่มหญิงสาวชมตนเองจริงๆรึเปล่า

“ก็พี่ๆเค้ามองมาที่ใบบุญนี่ฮะ หรือว่าพี่เค้าชมคนอื่นจริงๆอ่ะฮะพี่คม อ๊า ใบบุญปล่อยไก่ไปแล้วใช่มั้ยฮะ” ใบบุญเขย่ามือของตนเองที่คมจับเอาไว้ไปมาพร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีเพราะคิดว่าตัวเองหน้าแตกที่เผลอปล่อยไก่ขอบคุณคนอื่นโดยที่เขาไม่ได้ชมตัวเอง คมมองหน้าเด็กหนุ่มแล้วยิ้มขำ

“ช่างเหอะๆ เราเจอกับพวกนั้นแค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ ไม่ต้องอายไปหรอก” คมบอกขำๆ ใบบุญพยักหน้ารับ แต่ก็รู้สึกอายอยู่ลึกๆ ซึ่งคมก็ไม่บอกความจริงแต่อย่างไร เพราะในใจของคมเองก็อยากให้ใบบุญระวังตัวให้มากกว่านี้ ไม่อยากให้ไปส่งยิ้มให้ใครหรือกล่าวขอบคุณใครเพียงแค่เขาแอบซุบซิบชมว่าน่ารัก เพราะบางครั้งมันเป็นการเปิดทางให้คนที่สนใจในตัวของใบบุญ เข้าหาเด็กหนุ่มได้ง่ายขึ้น

คมพาใบบุญเดินเข้ามาในห้างเพื่อไปกินซูกิชิ คมรู้ว่าใบบุญจะต้องตื่นเต้นกับอาหารบนสายพานแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย เด็กหนุ่มตาโตเมื่อคมพาเดินมาถึงหน้าร้าน และใบบุญมองเข้าไปเห็นอาหารสดและผักนานาชนิดเลื่อนไปตามสายพาน แต่ด้วยความที่คนมากินกันเยอะ ทั้งสองเลยต้องรับบัตรคิวมานั่งรอที่โซฟาหน้าร้านเสียก่อน ใบบุญนั่งลงพร้อมกับเอี้ยวตัวไปมองอาหารบุฟเฟ่ท์ที่วางติดกระจกอยู่ภายในร้าน

“พี่คมๆ นี่อะไรฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่กระจกซึ่งตรงกับถาดใส่ซูชิมากมาย

“อ่อ ซูชิน่ะ อาหารญี่ปุ่น เคยกินมั้ย” คมถามขึ้น ใบบุญส่ายหน้าไปมาทันที

“มันแพงมั้ยฮะ” ใบบุญถามด้วยความอยากรู้

“ไม่ต้องถามหรอก มันเป็นบุบเฟ่ท์กินได้ทุกอย่างในร้าน” คมบอกยิ้มๆ ใบบุญตาโตขึ้นอีก

“กินเท่าไรก็ได้เหรอฮะ” ใบบุญถามอีก คมพยักหน้ารับ

“แต่ตักมาเท่าไรต้องกินให้หมด ห้ามกินเหลือไม่งั้นโดนปรับนะ” คมพูดบอก ใบบุญยิ้มรับออกมา

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ พร้อมกับมองเข้าไปในร้านอย่างตื่นเต้น

“อ๊ะ พี่คม” เสียงทักของหญิงสาวดังขึ้นทำให้คมละสายตาจากใบหน้าเนียนของใบบุญไปตามเสียงทัก รวมไปถึงใบบุญด้วย ก็เห็นหญิงสาวสองคนยืนอยู่ด้านหน้าที่คมนั่ง คมมองหน้าหญิงสาวที่แต่งตัวดูดีทั้งสองอย่างงงๆ

“เรารู้จักกันเหรอครับ” คมถามกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ใบบุญขยับมานั่งติดกับคมนิดๆ

“อะไรอ่ะ พี่คมลืมลูกชิ้นได้ไง คืนก่อนนั้นเราสองคนยัง…” หญิงสาวพูดเว้นช่วง ทำให้คมส่งเสียงอืออาในลำคอเมื่อพอจะเดาๆอะไรบางอย่างได้ คืนที่ใบบุญนอนค้างที่บ้านของเขา คมออกมาทำงานกับกมลพร้อมกับระบายความอึดอัดกับหญิงสาวที่มีเอเย่นหามาให้ แต่ตอนนั้นคมไม่ได้สนใจที่จะจำหญิงสาวมากนัก เพราะแค่ต้องการระบายเท่านั้น

“คนนี้เหรอแก ที่แกมาเพ้อว่าลีลาดี ทั้งใหญ่ ทั้ง…” เพื่อนของหญิงสาวพูดค้างเมื่อเห็นสายตาเข้มๆของคมมองมาอย่างดุๆ

“มีอะไรรึเปล่า” คมถามเสียงนิ่ง ทำให้หญิงสาวสองคนเริ่มเกร็งๆขึ้นมา

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พอดีลูกชิ้นเห็นพี่คมก็เลยเข้ามาทัก เอ่อ พี่คมคะ นี่เบอร์ลูกชิ้นนะ ถ้าพี่คมอยากเจอลูกชิ้นก็โทรหาได้เลยนะคะ สำหรับพี่คม ลูกชิ้นว่างเสมอ” หญิงสาวพูด พร้อมกับจดเบอร์โทรของตนเองลงกระดาษโน๊ตในกระเป๋าพร้อมกับส่งให้คมโดยที่คมไม่ได้ร้องขอ คมรับมาดูด้วยท่าทีนิ่งๆ พอดีกับที่พนักงานเรียกหมายเลขของคม คมจึงจับมือใบบุญลุกขึ้นยืน

“ขอตัวก่อนนะ” คมบอกกลับ ก่อนจะพาใบบุญเดินเข้าไปในร้านโดยไม่สนใจหญิงสาวเท่าไรนัก พนักงานพาคมกับใบบุญมานั่งที่โต๊ะ คมจัดแจงสั่งน้ำซุปแล้วหันมาหาใบบุญที่นั่งมองหน้าคมอยู่

“มีอะไร หืม” คมถามขึ้นเสียงนุ่ม

“พี่สาวสองคนนั่นเป็นใครเหรอฮะ” ใบบุญถามเสียงแผ่วๆ นึกลังเลอยู่นานว่าถามคมดีรึเปล่า ใบบุญเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงอยากรู้เรื่องราวทุกเรื่องของคมมากขนาดนี้

“แค่คนรู้จักน่ะ เคยติดต่อเรื่องงานกันมาก่อน” คมพูดด้วยท่าทีปกติ เพราะเขาไม่คิดจะบอกกับใบบุญอยู่แล้วว่าหญิงสาวพวกนั้นเคยเป็นคนบำบัดความอยากและความอึดอัดของตนเอง คมเห็นสายตาของใบบุญที่เอาแต่มองกระดาษในมือคมที่ยังคงถืออยู่ คมก้มมองกระดาษในมือตนเอง ก่อนจะขยำแล้ววางทิ้ง

“ขยำทิ้งทำไมอ่ะฮะ” ใบบุญถามทันที

“พี่ไม่มีเรื่องงานต้องติดต่อกับพวกนั้นอยู่แล้ว จะเก็บไว้ทำไมล่ะ พี่ว่าเราหยิบอาหารที่อยากกินมากินได้แล้ว ที่นี่เค้าจับเวลาด้วยนะ” คมบอกอีก ทำให้ใบบุญนึกขึ้นได้ รีบหันไปมองอาหารบนสายพานอย่างสนใจทันที คมอาสาไป กดเครื่องดื่มมาให้

“อยากกินซูชิก็ไปตักมาสิ” คมพูดขึ้น แต่ใบบุญทำหน้าแหยๆ

“พี่คมไปเป็นเพื่อนหน่อยสิฮะ ใบบุญมาเคยมา” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆ คมจึงพยักหน้ารับ แล้วพาใบบุญไปยังเคาน์เตอร์วางอาหาร คมคอยตักซูชิให้เด็กหนุ่มตามที่เด็กหนุ่มชี้อยากจะกิน แต่ก็คอยปรามเอาไว้ว่ามันเป็นข้าวอาจจะทำให้อิ่มเร็ว ให้กินพอประมาณ ซึ่งใบบุญก็ตอบรับอย่างว่าง่าย

“นี่อะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้นเมื่อพากันเดินกลับมาที่โต๊ะแล้ว

“วาซาบิ เราต้องผสมกับโซยุ แล้วเอาซูชิมาจิ้ม แต่ระวังหน่อยนะ วาซาบิมันเหมือนพริก แต่มันจะจี๊ดขึ้นหัวมากกว่านิดหน่อย มันเผ็ดกันคนละแบบน่ะ” คมพูดเตือน แต่ใบบุญก็ยังคงไม่รู้ จึงใช้ตะเกียบคีบซูชิมาจิ้มวาซาบิแล้วเอาเข้าปากกิน ซึ่งคมห้ามไม่ทันเนื่องจากใบบุญจิ้มไปเยอะพอสมควร ทันทีที่วาซาบิเริ่มทำหน้าที่ของมัน ใบบุญก็ตาโตพร้อมกับทำหน้าเลิ่กลั่กด้วยความที่ทำอะไรไม่ถูก วาซาบิมันจี๊ดขึ้นทั้งตาและหัว จนน้ำตาใสคลออยู่ที่ดวงตาคู่สวย

“อื๊ออออ” ใบบส่งเสียงอืออาออกมา

“เฮ้ย ใบบุญ” คมอุทานออกมาอย่างตกใจ ร่างสูงรีบลุกไปนั่งข้างๆใบบุญพร้อมกับหยิบกระดาษทิชชู่มารองที่ปากของเด็กหนุ่มเอาไว้ทันที

“คายออกมา” คมพูดขึ้นเสียงดุนิดๆ ทำให้ใบบุญรีบคายออกมาทันที คมก็รับของในปากของใบบุญโดยไม่นึกรังเกียจ พนักงานที่เห็นก็รีบเอาถังขยะขนาดเล็กมาให้ เพราะพนักงานสาวก็มองใบบุญที่น่ารักอยู่พอดี คมหันไปขอบคุณพร้อมกับทิ้งกระดาษทิชชู่ลงถังขยะ ใบบุญรีบคว้าน้ำมาดื่ม ก่อนจะถูกคมบีบจมูกเอาไว้ ใบบุญหายใจทางปากทันที น้ำตาใสไหลปริ่มลงมานิดๆ พอคมปล่อยมือออกจากจมูกของใบบุญ เด็กหนุ่มก็หันมามองคมหน้าจ๋อยๆ

“หายเผ็ดวาซาบิรึยัง” คมถามเสียงเข้ม เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ ก่อนจะเอาหน้าไปถูต้นแขนของคมที่นั่งข้างๆ

“ใบบุญขอโทษฮะ ใบบุญไม่รู้ว่ามันเผ็ดแบบนี้” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ้อนๆ เพราะกลัวว่าคมจะโกรธ คมถอนหายใจออกมาเบาๆ

“ถ้าหายเผ็ดแล้วก็กินกันต่อนะ” คมบอกอีก

“พี่คมโกรธใบบุญมั้ย” เด็กหนุ่มถามขึ้น

“พี่ไม่ได้โกรธ แต่พี่เป็นห่วง เอาล่ะเลิกพูดเรื่องนี้แล้วกินซะ” คมบอกอีก ก่อนจะลุกไปนั่งที่เดิม ใบบุญก็นั่งกินอย่างอื่นต่อ เวลาเจออาหารที่ไม่เคยกินก็จะถามคมตลอดว่ามันคืออะไร รสชาติแบบไหน

..

..

..

“อิ่มมั้ย” คมถามขึ้นเมื่อพาใบบุญเดินออกจากร้านหลังจากที่กินอิ่มและจ่ายเงินเรียบร้อย

“อิ่มมากเลยฮะ” ใบบุญตอบยิ้มๆ ตอนนี้ฟ้าข้างนอกเริ่มมืดลงแล้ว

“ป่ะ งั้นไปซื้อของกัน เราจะได้กลับบ้านไม่ดึกมาก” คมพูดชวน ก่อนจะพาใบบุญเดินออกจากห้างแล้วเดินดูของที่วางขายอยู่รอบอนุสาวรีย์ยามหัวค่ำแบบนี้ มีผู้คนมากมายมาเดินช็อปปิ้ง ทำให้คมต้องจับใบบุญมายืนด้านหน้าตนเองแล้วเกาะไหล่เล็กเอาไว้ พร้อมกับดันให้เดินไปข้างหน้าอย่างระวัง แต่ส่วนใหญ่พอผู้คนเห็นคมก็เดินเบี่ยงตัวหลบกันทั้งนั้น เพราะไม่มีใครกล้าเดินปะทะชนกับคมสักเท่าไร

“พี่คมจะซื้ออะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้นด้วยความอยากรู้

“พี่จะซื้อเสื้อผ้าให้เราใหม่ทั้งเสื้อผ้าอยู่บ้านแล้วก็เสื้อผ้าไปเที่ยว” คมพูดขึ้น ทำให้ใบบุญชะงักหันมามองหน้าคมทันที

“พี่คมทำแบบนี้อีกแล้ว ใบบุญไม่เอา ใบบุญจะกลับ” เด็กหนุ่มหันมางอแงใส่คมทันที

“อย่าดื้อกับพี่สิใบบุญ พี่บอกแล้วไงว่าให้เชื่อฟังพี่” คมแสร้งว่าเสียงดุๆ ใบบุญยื่นปากนิดๆ

“พี่คมกำลังจะทำให้ใบบุญนิสัยไม่ดี เคยตัว” เด็กหนุ่มพูดว่าออกมา คมต้องพาใบบุญมายืนหลบทางเดินเพื่อไม่ให้เกะกะ

“แล้วเราจะเคยตัว จะนิสัยไม่ดีเพราะอะไร” คมถามกลับ

“ก็พี่คมตามใจซื้อโน่นซื้อนี่ให้ใบบุญแบบนี้ จนใบบุญเคยตัว แล้วถ้าวันหนึ่งพี่คมไม่อยู่กับใบบุญล่ะ ใบบุญจะทำยังไง” เด็กหนุ่มพูดขึ้น คมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ เพราะไม่เคยเจอใครที่จะพูดบอกออกมาว่ากลัวตัวเองเคยตัวถ้ามีคนตามใจ คนส่วนใหญ่ก็จะดีใจทั้งนั้นที่มีคนมาคอยเอาใจตามใจแบบนี้

“ทำไม กลัวพี่จะตายก่อนงั้นเหรอ” คมแกล้งถาม ใบบุญมองหน้าคมด้วยสายตาสั่นๆ

“ใบบุญไม่ได้หมายถึงเรื่องตายสักหน่อย ทำไมพี่คมพูดแบบนี้ล่ะฮะ ใบบุญหมายถึงถ้าพี่คมแต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว พี่คมก็ต้องดูแลครอบครัว เอาใจครอบครัวของพี่ แล้วใบบุญจะทำยังไง ถ้าวันนั้นไม่มีพี่คมอยู่กับใบบุญแล้ว” เด็กหนุ่มบอกเสียงสั่น ไม่ได้สนใจคนที่เดินผ่านไปผ่านมาสักนิดว่าจะได้ยินในสิ่งที่ตนเองพูดหรือเปล่า คมนิ่งไปนิดใจก็อยากจะพูดประโยคประโยคหนึ่งออกไป แต่ก็พูดไม่ออก

“พี่บอกแล้วไง ว่าให้เลิกคิดมาก จะไปเลือกซื้อดีๆ หรือจะให้พี่บังคับ ถ้าเราไม่ยอมเลือก พี่จะเดินเข้าไปหยิบๆๆๆ ของทุกร้านที่เราเดินเข้าแล้วจ่ายเงินซื้อหมดเลยดีมั้ย” คมแกล้งพูดเสียงกดต่ำ

“ใบบุญเลือกเองฮะ” เด็กหนุ่มรีบพูดบอก เพราะขืนให้คมเลือกเองมีหวังคมต้องขนซื้อของให้ใบบุญมากมายแน่ๆ คมยิ้มมุมปากออกมาอย่างพอใจ

“ป่ะ งั้นไปเลือกกันเลย” คมบอกอีก ก่อนจะดันใบบุญให้เดินไปตามทางต่อ ร่างสูงมองเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าตัวเองพร้อมกับถอนหายใจ แล้วนึกถึงประโยคที่เขาอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาก่อนหน้านี้

…งั้นเราสองคนก็อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตเลย ดีมั้ย….

++++++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++++++++++

2   Be  Con

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพครบ 100% แล้วนะคะ และต้องขอโทษด้วยที่หายไป

ยอนิมทั้งไอ ทั้งอาเจียน เลยอัพนิยายไม่ตรงเวลาตามที่บอกไว้ในเพจ

ตอนนี้ไอจนเจ็บท้องไปหมดแล้วอ่า ฮืออออออออ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset