ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนพิเศษ 12

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่12  (คม x ใบบุญ)

Author: 여님  (ยอนิม)

 

“จริงนะฮะ พี่คมจะไปส่งใบบุญจริงๆนะ” ใบบุญถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ คมพยักหน้ารับ

“จริงสิ พี่จะหลอกทำไมล่ะ ไปๆ เข้าห้องนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เราต้องไปเรียนนะ เดี๋ยวพี่จะอาบน้ำก่อน เหนียวตัวหมดแล้วเนี่ย” คมพูดด้วยน้ำเสียงปกติ ก่อนจะพาใบบุญเข้าไปในห้องนอนของตนเอง

“พี่ว่าเราไปล้างหน้าล้างตาก่อนดีกว่านะ แล้วค่อยมานอน” คมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าใบหน้าใสมีแต่รอยคราบน้ำตา

“ฮะ” ใบบุญตอบรับแต่โดยดี พร้อมกับเดินเข้าไปล้างหน้าในห้องน้ำ คมมองตามแผ่นหลังบางพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ

//กูจะตบะแตกวันไหนวะเนี่ย// คมบ่นกับตัวเอง ก่อนจะเดินหยิบผ้าขนหนูเพื่อเตรียมไปอาบน้ำ พอใบบุญเดินออกมา คมก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กไปให้เด็กหนุ่มเช็ดหน้า

“เช็ดหน้าเสร็จก็ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย” คมพูดบอกแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทันที คมใช้สายน้ำเย็นฉ่ำเป็นตัวดับความรู้สึกวูบวาบในร่างกายของตนเอง ยามที่ได้ใกล้ชิดกับใบบุญ  คมใช้เวลาอาบน้ำอยู่สักพัก ก่อนจะเช็ดตัวแล้วเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูพันช่วงล่างและเปลือยแผงอกที่มีหยดน้ำเกาะอยู่เล็กน้อย ทำให้ใบบุญที่นอนมองอยู่ อดที่จะแอบชื่นชมหุ่นของคมในใจไม่ได้

“อ่าว ยังไม่หลับอีกเหรอ พี่นึกว่าเราหลับไปแล้วนะ” คมที่หันมาเห็นใบบุญนอนมองมา ก็ถามขึ้น

“ใบบุญปวดหัว แน่นจมูกหายใจไม่ออกด้วยฮะ” เด็กหนุ่มตอบออกมาเพราะมีอาการแบบที่ว่าจริงๆ

“สงสัยเพราะร้องไห้แน่ๆ ลุกนั่งพิงหัวเตียงก่อน เดี๋ยวพี่หยิบยามาให้” คมพูดบอกก่อนจะเดินออกไปนอกห้องนอน แล้วกลับเข้ามาพร้อมกับแก้วน้ำ และยาในมือ คมเดินไปนั่งที่ขอบเตียงฝั่งที่ใบบุญนอน เด็กหนุ่มรู้สึกร้อนหน้าวูบวาบเมื่อเห็นแผงอกแกร่งและกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยได้รูปของคมในระยะประชิด เพราะคมเองยังไม่ได้แต่งตัว

“ใบบุญ” คมเรียกเด็กหนุ่ม ทำให้ใบบุญสะดุ้งเฮือก

“ฮะ” ใบบุญขานรับหน้าตาตื่น

“เป็นอะไร พี่ส่งยาให้ทำไมไม่รับล่ะ” คมถามขึ้นเพราะเขายื่นส่งยาให้ใบบุญแต่เด็กหนุ่มกลับนั่งนิ่ง

“เอ่อ..ขอบคุณฮะ” ใบบุญรีบรับยามากินพร้อมกับดื่มน้ำตามทันที

“ส่วนนี่ วิคส์ เอาไปทาที่คอเสื้อกับอกจะได้หายใจสะดวกหน่อย” คมพูดบอกพร้อมกับส่ง วิคส์วาโปรับ ให้ใบบุญ ใบบุญก็รับมาทาแต่โดยดี

“พะ..พี่คมไปแต่งตัวเถอะฮะ เดี๋ยวจะไม่สบาย” ใบบุญพูดบอกคมเสียงแผ่วๆ เพราะรู้สึกเหมือนหัวใจของตัวเองมันสั่นแปลกๆ เมื่อเห็นคมเปลือยช่วงบนอยู่ตรงหน้าแบบใกล้ๆ

“อืม ทาเสร็จก็นอนได้แล้วนะ” คมบอกอีกครั้ง ก่อนจะลุกเดินมาใส่เสื้อผ้า ใบบุญเองก็คงไม่รู้ว่าคมเองก็ใจสั่นไม่ต่างกับใบบุญเลย เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วคมก็ปิดไฟในห้องเหลือเพียงไฟที่หัวเตียง พร้อมกับเดินกลับมาที่เตียงนอน โดยที่ใบบุญยังนั่งพิงหัวเตียงอยู่

ครืด ครืด

เสียงสั่นสะเทือนตรงโต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้น พร้อมกับแสงไฟสว่างวาบ ทำให้ทั้งคมและใบบุญหันไปมอง คมชะงักไปนิดเมื่อเห็นว่ามีคนส่งข้อความไลน์เข้ามาหาใบบุญ อารมณ์ดีๆก่อนหน้านี้ เริ่มขุ่นมัวนิดๆ  ใบบุญหยิบโทรศัพท์ของตนเองขึ้นมาดูก็เห็นว่าเป็นไผ่ที่ส่งข้อความมาหา คมขยับขึ้นมานอนบนเตียงด้วยท่าทีนิ่งๆ หางตาก็เหลือบมองใบบุญไปด้วย เด็กหนุ่มปิดโทรศัพท์แล้ววางเอาไว้ที่เดิม ทำให้คมเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ

“ปิดเครื่องทำไม” คมถามด้วยความอยากรู้

“ก็ใบบุญจะนอนแล้วนี่ฮะ” ใบบุญตอบกลับ

“ก็ไม่คุยกับเพื่อนก่อนล่ะ เพื่อนอาจจะมีธุระก็ได้” คมแกล้งพูดเหน็บกลับไป

“ดึกแล้วจะมีธุระอะไรล่ะฮะ พรุ่งนี้ค่อยไปคุยกันที่โรงเรียนก็ได้” ใบบุญตอบกลับ คมนั่งเงียบก่อนจะตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างออกมา

“ใบบุญ พี่ขออะไรสักอย่างได้มั้ย” คมถามขึ้น ใบบุญมองหน้าคมอย่างสงสัย ว่าตนเองมีอะไรให้คมต้องขอ

“อะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับ

“เวลาอยู่กับพี่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าคุยไลน์หรือคุยโทรศัพท์กับคนอื่นได้มั้ย” คมพูดบอกเสียงจริงจัง ทำให้ใบบุญนิ่งไปนิด คมเองก็มองปฏิกิริยาของใบบุญลุ้นๆ ว่าเด็กหนุ่มจะมีท่าทียังไง จะดื้อหรือต่อต้านกับคำขอของเขาหรือไม่ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นรอยยิ้มกว้าง

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ไม่คิดว่าพี่บังคับเรามากเกินไปเหรอ” คมถามอีก ใบบุญส่ายหน้าไปมา

“ไม่ว่าพี่คมจะขออะไร ใบบุญทำให้พี่คมได้ทุกอย่างเลยฮะ” เด็กหนุ่มพูดตอบด้วยความรู้สึกจากข้างในจริงๆ เดิมที ชีวิตของใบบุญก็อยู่อย่างเรียบง่ายมาตลอด แต่เริ่มมาสีสันก็เมื่อได้มาเจอกับร่างสูงอย่างคมนี่แหละ แล้วอีกอย่างใบบุญไม่ใช่เด็กที่ยึดติดกับวัตถุแต่อย่างไร

กึก…

คำพูดของใบบุญทำให้คมชะงักนิ่ง

“ไม่ว่าพี่จะขออะไร เราให้พี่ได้ทุกอย่างจริงๆน่ะเหรอ” คมถามกลับไปด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่ใบหน้ารู้สึกร้อนวูบๆ

“ฮะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงจริงจังพร้อมกับดวงตาที่ใสซื่อ

(ถ้าพี่อยากจะขอ……….) คมนึกในใจพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก

(โอ๊ยยย ไอ้คม มึงคิดอกุศลอีกแล้ว) คมแอบด่าตัวเองทันทีเมื่อจิตใต้สำนึกมันอยากจะขออะไรบางอย่างจากใบบุญ แต่มันไม่ใช่เรื่องดีนัก ใบบุญมองคมอย่างงงๆ ที่อยู่ๆก็เอามือทั้งสองข้างขึ้นมาเกาหัวตัวเองแรงๆจนหัวกระเซิง

“พี่คมเป็นอะไรฮะ” ใบบุญถามอย่างแปลกใจ

“ไม่มีอะไร นอนเถอะ ยิ่งคุยก็ยิ่งดึก” คมบอกกลับ ใบบุญพยักหน้ารับ ก่อนจะล้มตัวลงนอน คมก็ขยับผ้าห่มมาคลุมตัวให้ พร้อมกับปิดไฟ ตอนนี้ภายในห้องนอนมืดสลัว มีเพียงแสงไฟจากห้องน้ำที่คมเปิดไว้เผื่อใบบุญตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึก

“ฝันดีฮะพี่คม” ใบบุญพูดขึ้น ทำให้คมยิ้มรับนิดๆในความมืดสลัวนั้น

“ฝันดีใบบุญ” คมตอบกลับ รู้สึกดีที่มีคนมาบอกฝันดีในคืนนี้แถมยังมานอนอยู่ข้างๆอีกด้วย

..

..

เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอของคนข้างๆ ทำให้คมรู้ได้ในทันทีว่าใบบุญหลับไปแล้ว หลังจากที่นอนเงียบๆกันมาสักพักใหญ่ ใบบุญเพลียจากการร้องไห้จึงหลับลงไปในเวลารวดเร็ว

มีเพียงคม ที่นอนหงายเอามือก่ายหน้าผากลืมตาโพลง อย่างคนที่มีเรื่องให้คิด คมเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงฝั่งตนเอง ทำให้เห็นใบหน้านวลเนียนยามหลับของใบบุญได้ชัดกว่าในความมืดสลัวก่อนหน้านี้ คมตะแคงหันมาหาใบบุญพร้อมกับยันข้อศอกกับเตียงนอนขึ้นมามองหน้าเด็กหนุ่ม คมไม่รู้ว่าความรู้สึกของตนเองที่มีต่อใบบุญมันเริ่มขึ้นตอนไหน มันจะเป็นแค่ความสงสาร หรือเป็นแค่ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้เจอคนในแบบที่ตนเองไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ  แต่เท่าที่คมรู้ในตอนนี้ เขาอยากจะทำเรื่องไม่ดีกับเด็กหนุ่มตรงหน้าเอามากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนดี แต่ก็พอจะมีจิตสำนึกในด้านดี ที่คอยเตือนสติเขาอยู่เรื่อยๆเวลาที่คิดอะไรไม่ดีกับใบบุญ คมใช้นิ้วยาวเกลี่ยเบาๆที่พวงแก้มใส

//เปราะบางเหลือเกิน บางจนพี่กลัวว่าจะทำมันเสียหายเข้าสักวัน// คมพูดพึมพำกับตัวเอง เด็กหนุ่มยังคงหลับตาพริ้ม แต่ดวงตามีร่องรอยบวมแดงอยู่บ้างจากการร้องไห้ คมมองใบหน้าของใบบุญนิ่งๆ ก่อนจะจิตสำนึกอีกด้านหนึ่งจะดลใจให้คมทำอะไรบางอย่าง ชายหนุ่มก้มหน้าเข้าหาใบบุญช้าๆ ริมฝีปากอิ่มสีเชอรี่ ทำให้คมอดที่จะขอชิมสักนิดไม่ได้ เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายคนไหน ไม่เคยอยากจะลองชิมรสชาติจากริมฝีปากของผู้ชายคนไหนมาก่อน จนได้มาเจอกับใบบุญ คงไม่ต้องบอกว่าจิตสำนึกด้านดีหรือเลวที่ทำให้คมอยากจะทำแบบนี้ ริมฝีปากของคมทาบทับลงไปบนริมฝีปากอิ่มของใบบุญอย่างแผ่วเบา ความนุ่มของมันทำให้คมอยากจะชิมให้มากกว่านี้ คมลองดูดเม้มริมฝีปากล่างของใบบุญเบาๆ

“อือออ” เด็กหนุ่มขยับตัวน้อยๆแต่ก็ยังหลับสนิท ทำให้คมรีบผละออกมาพร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเหมือนกลองเพล ความรู้สึกบางอย่างพลุ่งพล่านขึ้นมาในทันที

//เ**้ยเอ๊ยยยย// คมสบถในลำคอ ก่อนจะขยับลงจากเตียงอย่างรวดเร็วแล้วตรงเข้าไปที่ห้องน้ำ เพื่อปลดปล่อยความอึดอัดที่เกิดขึ้น เสียงครางแหบต่ำดังแผ่วออกมาจากห้องน้ำ แต่ก็ไม่ได้ทำให้คนที่กำลังหลับใหลอยู่บนเตียงตื่นขึ้นมาแต่อย่างไร เมื่อจัดการกับตัวเองเรียบร้อยแล้ว คมก็กลับมาข่มตานอนอีกครั้ง

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ใบบุญค่อยๆลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าตรู่ พร้อมกับรู้สึกอบอุ่นแปลกๆในใจ แต่พอลืมตาได้เต็มที่เด็กหนุ่มก็ต้องชะงักเมื่อเห็นไรหนวดจางๆบนใบหน้าหล่อเข้มของคม ที่ตอนนี้กำลังนอนหลับสนิทอยู่ในระยะประชิด ใบบุญขยับร่างกายน้อยๆ ก็พบว่าตนเองถูกคมกอดอยู่และดูเหมือนว่าใบบุญเองก็กอดซบคมอยู่เช่นกัน เด็กหนุ่มร้อนหน้าวูบวาบรู้สึกเขินอายที่ตนเองนอนดิ้นจนมานอนซบอยู่กับคม ใบบุญคิดว่าคมคงนึกว่าใบบุญเป็นหมอนข้าง ถึงได้กอดเอาไว้แบบนี้ ใบบุญพยายามจะแกะมือของคมออกจากเอวตนเอง แต่กลับกลายเป็นว่าคมกระชับกอดแน่นขึ้นกว่าเดิม ทำให้ใบหน้าของใบบุญซุกอยู่ที่อกแกร่งของคม กลิ่นกายแบบฉบับผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่กว่าทำให้ใบบุญรู้สึกวูบวาบทั่วใบหน้า ทำให้ใบบุญต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อให้คมปล่อยตนเอง

“พี่คมฮะ…พี่คม” สิ่งที่ใบบุญทำก็คือการปลุกคมให้รู้สึกตัว

“อืมมม” คมที่พึ่งนอนได้ไม่กี่ชั่วโมงส่งเสียงฮึมฮัมในลำคอเมื่อถูกปลุก

“พี่คม ตื่นเถอะฮะ ใบบุญจะไปช่วยยาย” เด็กหนุ่มบอกอีกพร้อมกับใช้มือของตนเองตบหลังคมเบาๆไม่แรงมากนักเป็นการปลุก ทำให้คมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย คมปรือตาขึ้นมาก็ผละตัวนิดๆเพื่อมองคนที่อยู่ในอ้อมแขนของตนเอง

“อืมม ตื่นแล้วเหรอใบบุญ” คมพูดเสียงงึมงำ ก่อนจะจรดริมฝีปากลงไปที่หน้าผากเนียนของใบบุญด้วยความลืมตัว พร้อมกับกระชับกอดใบบุญอีกนิด

ฉ่า……

เด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนกับว่าอุณหภูมิที่หน้าตนเองพุ่งขึ้นสูงอย่างกะทันหัน

กึก….

แม้แต่คมเองก็พึ่งรู้สึกตัวว่าตนเองทำอะไรลงไป

พรึ่บ!

คมรีบปล่อยใบบุญออกจากอ้อมกอดแล้วเด้งตัวขึ้นมานั่งอย่างรวดเร็ว

“เอ่อ…ใบบุญ…คือ..พี่…เมื่อกี้พี่แค่ทักทายตอนตื่นเช้าน่ะ” พูดแล้ว คมก็อยากจะกัดปากตัวเองที่แก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ ใครได้ยินก็คงไม่มีใครเชื่อแน่ๆ แต่…

“ทักทายตอนตื่นเช้าเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับเสียงแผ่ว พร้อมกับใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อ ใบบุญไม่เคยทักทายตอนตื่นเช้าแบบนี้กับใครมาก่อน คมนิ่งไปนิดเมื่อเห็นสีหน้าของใบบุญแล้วรู้ว่าเด็กหนุ่มเชื่อในสิ่งที่คมพูด

“อ่ะ…อืม..ใช่แล้วล่ะ เราคงไม่เคยทำแบบนี้สินะ โทษที” คมได้ทีพูดสมทบไปอีก

“แล้วทำไม วันก่อนนั้นที่ใบบุญนอนค้างที่นี่ พี่คมไม่เห็นทักทายแบบเมื่อกี้ตอนที่ใบบุญตื่นล่ะฮะ” เด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ทำให้คมนิ่งไปนิด ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์

จุ๊บ..

“อ่ะ พี่ทักทายย้อนหลังให้แล้วกัน” พูดจบคมก็รีบลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ปล่อยให้ใบบุญนั่งนิ่งกระพริบตาถี่ๆอย่างมึนๆอยู่บนเตียงนอน ส่วนคมก็รีบเปิดน้ำล้างหน้าอย่างรวดเร็ว

(ไอ้เ**้ยคม มึงกล้าเนียนใส่ใบบุญแบบนั้นได้ไงวะ) คมด่าตัวเองในใจ มือก็วักน้ำล้างหน้าเพื่อสงบจิตใจไปด้วย

+++++++++++++++++++++++ 50% +++++++++++++++++++++

ขณะที่กำลังล้างหน้า คมก็นึกบางอย่างได้ รีบเดินออกจากห้องน้ำในทันที ก็พบว่าใบบุญยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง

“ใบบุญการทักทายแบบเมื่อกี้ ห้ามเราไปบอกใคร แล้วห้ามไปทักทายใครแบบนั้นนอกจากพี่รู้มั้ย” คมพูดกำชับ

“เอ่อ…ฮะ” ใบบุญตอบรับอย่างงงๆ

“ดีมาก กลับไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว เดี๋ยวพี่พาไปส่งโรงเรียน” คมบอกอีกครั้ง ใบบุญจึงตั้งสติได้รีบลงจากเตียงแล้วออกจากห้องนอนของคมทันที คมยิ้มตามก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำบ้าง

..

..

..

“พี่คม วันนี้เอาไงอ่ะ” ลพเดินเข้ามาถามคมเมื่อเห็นร่างสูงเดินออกมาจากบ้านพัก

“อะไร? เอาไง?” คมถามกลับ

“ก็จะให้ผมไปส่งใบบุญที่โรงเรียนรึเปล่า” ลพถามด้วยความไม่รู้ คมยกยิ้มมุมปากนิดๆ

“ไม่ต้อง เดี๋ยวกูไปส่งเอง” คมบอกกลับ ทำให้คมยิ้มล้อๆออกมา

“ฮั่นแน่! แปลว่าปรับความเข้าใจกับใบบุญแล้วใช่มั้ยเนี่ย” ลพพูดแซว

“ปรับความเข้าใจอะไร กูกับใบบุญไม่ได้ทะเลาะกันสักหน่อย” คมตอบหน้านิ่ง

“โธ่ พี่คม พี่อย่าโกหกผมเลย ผมมองคนออกนะ” ลพพูดขึ้นยิ้มๆ คมก็ยกยิ้มขึ้นมาบ้าง

“เหรอ มองคนออกเหรอ แล้วมึงมองออกมั้ย ว่าไอ้กิจกับไอ้รุธมันจ้องจะจับมึงทำเมียกันน่ะ” เมื่อทิ้งระเบิดให้ลพเรียบร้อยแล้ว คมก็เดินยิ้มขำไปที่โรงรถทันที ทิ้งให้ลพยืนหน้าเหวอค้างอยู่คนเดียว

..

..

..

..

“เช้านี้เราเลยไม่ได้กินโจ๊กหน้าปากซอยเลยนะฮะ” ใบบุญพูดขึ้นเมื่อคมขับรถผ่านหน้าร้านโจ๊กหน้าทางเข้าหมู่บ้าน เนื่องจากก่อนจะออกจากบ้านมา คิมเรียกให้ใบบุญกับคมไปนั่งทานอาหารเช้าพร้อมกัน

“ถ้าอยากกิน ทำไมไม่บอกคุณคิมล่ะ ว่าเราจะออกมากินโจ๊ก” คมแกล้งถาม ใบบุญส่ายหน้าไปมาทันที

“ไม่เอาหรอกฮะ เดี๋ยวพี่คิมน้อยใจ ใบบุญแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ความจริงกินข้าวที่บ้านก็ดีฮะ ไม่เปลืองเงินด้วย” ใบบุญตอบกลับ ทำให้คมยิ้มขำก่อนจะยกมือไปขยี้หัวใบบุญไปมาเบาๆ แล้วขับรถต่อ

ครืด

แรงสั่นจากโทรศัพท์ทำให้ใบบุญหยิบออกมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดดูพบว่าไผ่ไลน์มาถามว่ามาโรงเรียนรึยัง คมเหลือบมองนิดๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา

“พี่คมฮะ ไผ่ส่งมาถามว่าถึงโรงเรียนรึยัง ใบบุญตอบกลับไผ่หน่อยนะฮะ” ใบบุญพูดขอเพราะจำได้ว่า คมขอไว้ว่าไม่อยากให้ใบบุญคุยกับใครขณะอยู่กับตนเอง

“ถ้ามันจำเป็นต้องตอบเราก็ตอบไปเถอะ พี่ไม่ว่าอะไรหรอก แต่อย่าคุยกันนานจนลืมไปว่ามีพี่อยู่ด้วยก็พอ” คมบอกเสียงเรียบ ใบบุญยิ้มรับก่อนจะเอียงหัวไปซบไหล่แกร่งของคมอย่างอ้อนๆ

“ใบบุญไม่มีทางลืมพี่คมหรอกฮะ” เด็กหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง ทำให้คมยิ้มรับออกมา ส่วนใบบุญก็กดตอบไลน์ไผ่กลับไป แล้วเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเหมือนเดิม ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างได้

“จริงด้วย ใบบุญเกือบลืมไปเลย พี่คมฮะ ไผ่ชวนใบบุญไปดูหนังวันเสาร์นี้” ใบบุญพูดบอกกับคมเมื่อนึกได้ ทำให้คมที่ยิ้มอ่อนๆ หุบยิ้มทันที คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากัน

“ไปดูหนังงั้นเหรอ” คมพูดทวน

“ฮะ” ใบบุญตอบรับ

“มีใครไปบ้าง” คมถามต่อ

“ไม่รู้ฮะ ก็คงมีพวกเพื่อนๆล่ะมั้งฮะ” ใบบุญตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก คมหันมามองใบบุญนิดๆ

“แล้วเราอยากไปรึเปล่าล่ะ” คมลองถามเด็กหนุ่มดู ใบบุญส่ายหน้าไปมา

“ใบบุญไม่อยากไปหรอกฮะ” เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อยๆ

“ทำไมล่ะ” คมถามกลับไปอีก

“ใบบุญไม่อยากเอาเงินที่พี่คมให้ไปใช้เที่ยวฟุ่มเฟือย” เด็กหนุ่มตอบกลับจากความรู้สึกจริงๆ ทำให้คมนิ่งอึ้งไปนิด

“แล้วถ้าพี่อนุญาตให้เราใช้เงินที่พี่ให้ได้ล่ะ เราจะไปมั้ย” คมแกล้งถาม ใบบุญก็ยังคงส่ายหน้าไปมา

“ใบบุญไม่เคยไปดูหนังในห้าง ใบบุญกลัวว่าจะไปทำให้เพื่อนๆอายคนอื่นเสียมากกว่า แล้วอีกอย่าง ถ้าจะให้ไปกับเพื่อน ใบบุญไปกับพี่คมดีกว่าฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกออกมาอีก ทำให้คมเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ แต่หัวใจก็พองโตกับคำพูดของเด็กหนุ่มไม่น้อย

“ทำไมถึงอยากไปกับพี่มากกว่าล่ะ” คมถามด้วยความอยากรู้

“ไม่รู้สิฮะ ใบบุญบอกไม่ถูก” ใบบุญตอบเสียงแผ่ว เพราะบอกไม่ถูกจริงๆว่า ทำไมถึงอยากไปไหนมาไหนกับคมมากกว่า อาจจะเป็นเพราะเวลาอยู่ใกล้คมใบบุญรู้สึกถึงความปลอดภัย ความอบอุ่น จากคนร่างสูงคนนี้

“แล้วเราจะเอายังไง” คมถามต่อ

“ใบบุญไม่อยากไป แต่ไม่รู้ว่าจะตอบปฏิเสธเพื่อนยังไงน่ะสิฮะ” เด็กหนุ่มตอบกลับเพราะไม่อยากโกหกเพื่อน แต่ก็ไม่อยากพูดออกไปตรงๆว่าไม่อยากไป

“เราก็บอกไปสิว่า วันเสาร์มีธุระต้องไปทำกับที่บ้าน” คมเสนอขึ้น

“ทำอะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามด้วยความไม่รู้

“ก็บอกไปแบบนี้แหละ” คมตัดบท ใบบุญจึงได้แต่พยักหน้าช้าๆ

..

..

..

..

“ตอนเย็นพี่คมจะมารับใบบุญรึเปล่าฮะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นเมื่อคมมาจอดรถที่เดิมเหมือนทุกวัน

“ถ้าพี่ไม่มารับ แล้วใครจะมาล่ะ” คมถามกลับยิ้มๆ

“ก็ทีเมื่อวานพี่คมยังให้พี่ลพมารับใบบุญเลย” เด็กหนุ่มตอบเสียงอ่อย ทำให้คมชะงักไปนิด

“ขอโทษ เมื่อวานพี่ติดธุระจริงๆ เอางี้นะ ถ้าวันไหนที่พี่มารับไม่ได้ พี่จะโทรบอกเราก่อนตกลงมั้ย” คมพูดขึ้นเพื่ออยากให้ใบบุญสบายใจ เด็กหนุ่มพยักหน้ารับยิ้มๆ

“ฮะ” ใบบุญตอบรับ ก่อนจะยกมือไหว้คมพร้อมกับลงจากรถไป คมมองแผ่นหลังบางของเด็กหนุ่มพร้อมกับถอนหายใจเบาๆ ความรู้สึกบางอย่างมันอัดแน่นในใจ จนบางครั้งก็อยากจะคลั่งเสียให้ได้ เมื่อเห็นว่าใบบุญเดินไปที่อาคารเรียนแล้ว คมจึงขับรถกลับบ้านทันที

..

..

..

..

..

“ใบบุญตกลงว่าเสาร์นี้ไม่ไปด้วยกันจริงๆน่ะเหรอ” ไผ่ถามขึ้นในช่วงพักเที่ยง เมื่อใบบุญให้คำตอบในตอนเช้าไปแล้วว่าไปเที่ยวดูหนังด้วยไม่ได้ เพราะติดไปทำธุระกับที่บ้าน

“ขอโทษนะไผ่ เราไปไม่ได้จริงๆ เอาไว้โอกาสหน้านะ” ใบบุญตอบกลับด้วยความรู้สึกผิด

“อืม ไม่เป็นไร” ไผ่ตอบเสียงแผ่ว

“ไผ่ อย่าทำหน้าแบบนี้สิ เราขอโทษ” ใบบุญเมื่อเห็นเพื่อนหน้าหม่นลงจึงรีบพูดปลอบและขอโทษ

“ถ้าใบบุญอยากไถ่โทษ งั้นใบบุญช่วยอะไรเราสักอย่างได้มั้ย” ไผ่พูดขึ้นเมื่อนึกอะไรบางอย่างได้

“ช่วยอะไรเหรอ” ใบบุญถามกลับ

“ตอนนี้ใบบุญยังไม่ได้ลงชมรมไหนใช่มั้ย” ไผ่ถามขึ้นอีก ใบบุญพยักหน้ารับ เพราะเขาพึ่งจะเข้ามาเรียนอาทิตย์แรก ยังไม่มีชมรมอยู่

“ถ้าเราจะให้ใบบุญมาเข้าชมรมบาสฯได้มั้ย” ไผ่พูดบอกยิ้มๆ

“อ่า เราเล่นบาสไม่เป็นนะไผ่ เราไม่ค่อยรู้เรื่องบาสด้วย เราจะไปเข้าชมรมบาสฯได้ยังไงล่ะ”ใบบุญรีบพูดบอก

“เราไม่ได้ให้ใบบุญลงเล่นบาสหรอก พอดีว่าฝ่ายดูแลนักกีฬามันขาดน่ะ พี่สันเองก็หาคนอยู่เหมือนกัน ก็ให้ช่วยงานจิปาถะในชมรมนั่นแหละ” ไผ่พูดอธิบาย ใบบุญนิ่งคิดก่อนจะพยักหน้ารับ

“ก็ได้ ถ้าให้เราแค่ช่วยงานในชมรมเราทำได้นะ ขออย่างเดียวอย่าให้เราเล่นบาสเลย” ใบบุญบอกกลับเสียงอ่อยๆ เพราะตนเองตัวเล็กแถมไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไรนัก

“จริงนะ งั้นเริ่มวันนี้เลยนะช่วงคาบชมรมเราจะพาใบบุญไปที่โรงยิม” ไผ่พูดบอกออกมาอย่างดีใจ ใบบุญก็ยิ้มรับ เมื่อเห็นว่าเพื่อนตนเองยิ้มได้บ้างแล้ว

..

..

..

“ใบบุญญญญญ คิดถึงพี่ใช่มั้ย ถึงมาหาถึงที่เลย” เสียงของสันดังลั่นโรงยิม พร้อมกับทำท่าจะวิ่งเข้ามากอดใบบุญ ใบบุญรีบหลบหลังไผ่ด้วยความตกใจ ไผ่เองก็ยืนขวางสันเอาไว้เช่นเดียวกัน

“พี่สัน อย่าเล่นแบบนี้สิ ใบบุญกลัวพี่แล้วเห็นมั้ย” ไผ่พูดว่าออกมา สันชะงักเท้าทันที ก่อนจะตบหัวไผ่ไม่แรงมากนัก

“ไอ้ขี้หวง แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยนะ” สันพูดแซวขำๆ ก่อนจะมองใบบุญยิ้ม

“ใบบุญจ๋า ไม่ต้องกลัวพี่หรอก พี่ตะหากที่ต้องเป็นฝ่ายกลัวเราน่ะ มีบอดี้การ์ดตั้ง 2 คน” สันพูดขึ้นยิ้มๆ ก่อนที่ใบบุญจะขยับออกมาจากด้านหลังของไผ่

“บอดี้การ์ด? ใครเหรอฮะ” ใบบุญถามกลับ สันเหลือบมองไผ่อย่างล้อๆ

“ก็มีไอ้ไผ่กับพี่คมของใบบุญไง” สันตอบกลับ ใบบุญเลิกคิ้วอย่างงงๆ

“พูดไปเรื่อยน่ะพี่สัน อ่อ ที่ผมพาใบบุญมาก็เพราะผมจะให้ใบบุญมาเข้าชมรมเราด้วย เห็นพี่บอกว่าฝ่ายดูแลนักกีฬาขาดคนอยู่ไม่ใช่เหรอ”ไผ่พูดบอกเป็นการเป็นงาน

“เฮ้ย จริงอ่ะ ยินดีต้อนรับเลย แบบนี้พี่ก็จะได้เห็นหน้าใบบุญทุกวันเลยดิ” สันไม่วายพูดแซวออกมาอีก

“มีอะไรจะให้ผมช่วย พี่สันบอกได้เลยนะฮะ” ใบบุญพูดขึ้นอย่างเกรงใจ

“งั้นพี่ให้ไอ้ไผ่เป็นคนบอกเราล่ะกัน ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพราะมันคงไม่อยากให้พี่เป็นคนบอกงานเราสักเท่าไรหรอกมั้ง” สันพูดยิ้มๆ ใบบุญหันไปมองหน้าไผ่อย่างงงๆ ไผ่ยกมือแตะหลังใบบุญเบาๆ

“ไปเถอะ เราจะบอกให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง” ไผ่พูดบอกก่อนจะพาใบบุญไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของนักกีฬา สันมองตามหลังไปพร้อมกับส่ายหน้าไปมา

“กะจะให้ใบบุญอยู่ในสายตาตลอดเลยใช่มั้ยเนี่ยไอ้ไผ่เอ๊ย”

+++++++++++++++++++++ 100% +++++++++++++++++++++++++

2   Be   Con

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพครบร้อยแล้วนะคะ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset