ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่19 (คม x ใบบุญ)
Author: 여님 (ยอนิม)
“คุณคิมรู้แล้วเหรอครับ ว่านายอยู่โรงพยาบาล” คมถามขึ้น หลังจากที่ได้ยินกมลคุยโทรศัพท์กับคิม เนื่องจากวันนี้คมพากมลไปดูร้านที่ไฟไหม้ แล้วบังเอิญว่าคานที่ช่างรื้อเอาไว้ มันหล่นลงมาใส่ ทำให้กมลกับคมบาดเจ็บกันเล็กน้อย คมถูกคานไม้หล่นใส่ที่หลังและไหล่ ทำให้รู้สึกเจ็บยอกอยู่บ้าง
“อืม จับผิดเก่งจริงๆ ว่าจะไม่บอกสักหน่อย” กมลพูดยิ้มๆ เพราะอุตส่าห์แกล้งบอกคิมว่าปวดแขนมาเอายานวด แต่คิมก็จับได้เสียก่อน สักพักหมอก็เรียกทั้งสองคนเข้าไปด้านในเพราะคุ้นเคยรู้จักกับกมลดี
“ไปโดนอะไรมาล่ะครับ คุณกมล” หมอทักขึ้นยิ้มๆ
“คานไม้หล่นใส่น่ะหมอ ของผมโดนแขน ของเจ้าคมโดนที่หลังกับไหล่” กมลบอกกลับ
“งั้นผมขอตรวจดูก่อนนะครับ” หมอพูดขึ้นก่อนจะให้ทั้งสองไปเอกซเรย์ ผลออกมาทั้งสองไม่เป็นอะไรมาก หมอจึงให้กมลถลกเสื้อขึ้น แล้วให้คมถอดเสื้อออกเพื่อดูรอยช้ำ
“คม ไหล่แกไปโดนใครกัดมา” กมลถามขึ้นเมื่อเห็นรอยกัดที่ไหล่แกร่งของลูกน้องคนสนิท คมชะงักไปนิด
“ก็ เด็กๆล่ะครับ” คมหมายถึงเด็กขายทั้งหลายที่ตนเองเคยไปใช้บริการ
“แต่เท่าที่ชั้นจำได้ ช่วงนี้แกไม่ได้ออกไปปลดปล่อยกับใครเลยนะ จะว่าเป็นคนที่บ้านก็ไม่น่าใช่ เพราะแกไม่เคยคิดจะยุ่งกับคนในสังกัดเดียวกัน” กมลบอกออกมาอย่างรู้ใจลูกน้อง คมหน้าเครียดทันที เพราะลืมไปว่าตนเองมีรอยกัดอยู่ที่ไหล่ จึงเปิดเสื้อให้หมอตรวจ
“ไอ้คม แกปิดบังอะไรชั้น” กมลถามเสียงนิ่ง
“เอ่อ ผมว่าเราทำแผลกันก่อนดีมั้ยครับ” หมอพูดขัดขึ้นก่อน กมลนิ่งไปนิด ก่อนจะยอมพยักหน้าให้หมอทำการรักษา เมื่อรักษาเรียบร้อยแล้ว ทั้งสองก็ออกมาจากห้องตรวจ กมลให้เงินกับรุธไปจ่ายค่ายาและรอรับยา ส่วนตนเองพาคมมานั่งที่ร้านกาแฟภายในโรงพยาบาล ซึ่งคมก็รู้แล้วว่า ตนเองต้องถูกซักฟอกแน่ๆ เพราะกมลขอคุยกับเขาตามลำพัง
“แกมีอะไรจะบอกชั้นมั้ย อย่าให้ชั้นต้องมารู้เอง” กมลพูดเสียงเรียบ ขณะนั่งจิบกาแฟไปด้วย
“คือ…ผม” คมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มพูดยังไง
“ผมอะไร อะไรวะ เป็นถึงมือซ้ายของชั้น ยังจะมาอ้ำอึ้งอีก กลัวอะไรวะ” กมลว่าออกมาเสียงเข้ม
“ผมขอโทษครับนาย ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันผิด แต่ผม…รักใบบุญจริงๆ” คมสารภาพออกมา
พรวด…
“แค่กๆๆ…แกว่าอะไรนะ แค่กๆ ใบบุญงั้นเหรอ” กมลที่สำลักกาแฟถามออกมาพร้อมกับไอไปด้วย คมหน้าเหวอนิดๆ
“คะ..ครับ” คมตอบรับ กมลหายใจเข้าลึกๆ แล้วมองหน้าคมเขม็ง
“ชั้นนึกว่าเป็นไอ้ลพ” กมลพูดขึ้นหน้าเครียด คมรีบโบกมือไปมาทันที
“ผมไม่ตาบอดไปเอาไอ้ลพหรอกครับนาย” คมรีบพูดบอก ก่อนจะนั่งเงียบอีกครั้ง
“เรื่องเพศ ชั้นไม่สนหรอกนะ แต่ใบบุญอายุ 15 นะไอ้คม ยังเป็นเยาวชนอยู่ แกอยากติดคุกรึไง” กมลถามเสียงเครียด เพราะคิดไม่ถึง
“ผมรู้ครับนาย ว่ามันผิด แต่ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้จริงๆ” คมยอมรับออกมาแต่โดยดี กมลถอนหายใจอย่างหนักใจ
“ถามหน่อย แกทำกับใบบุญไปกี่ครั้งแล้ว ตั้งแต่เมื่อไร” กมลถามอีก
“คือ ผมแค่ทำภายนอกเท่านั้นครับนาย ไม่ได้ทำขั้นสุดท้าย” คมพูดบอกออกมาตรงๆ
“นั่นก็เข้าข่ายทำอนาจารเด็กแล้วไอ้คม” กมลว่าออกมาอีก
“ใบบุญสมยอมเองใช่มั้ย แกไม่ได้บังคับใบบุญใช่มั้ย” กมลถามเพื่อความแน่ใจ
“ผมไม่เคยบังคับใบบุญนะครับ” คมย้ำเสียงจริงจัง
“แต่ก็หลอกล่อใช่มั้ยล่ะ ชั้นว่าชั้นเดาไม่ผิดหรอกนะ” กมลบอกออกมาอย่างรู้ทัน ทำให้คมนิ่งเงียบไปนิด
“เฮ้อ ชั้นมึนไปหมดแล้วว่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ แล้วไหนป้านีอีก ถ้าป้าเค้ารู้ แกจะทำยังไง แกไม่โดนข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอวะ ถึงแม้ว่าชั้นจะช่วยให้แกรอดคุกได้ แต่ป้านีเค้าจะยอมให้แกกับใบบุญใช้ชีวิตอย่างที่แกต้องการรึไง แล้วใบบุญน่ะ แกมั่นใจแค่ไหน ว่าใบบุญรักแกเหมือนที่แกรักใบบุญ อย่าลืมนะ ว่าใบบุญไม่เคยมีประสบการณ์อะไรมาก่อน อาจจะเพียงแค่คล้อยตามแกก็ได้” กมลพูดในสิ่งที่น่าจะเป็นออกมา
“ตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออกจริงๆครับนาย ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่า ใบบุญคือแสงสว่างสำหรับผม ผมไม่อยากเสียแสงสว่างนี้ไปให้ใคร” คมบอกออกมาจากใจจริง
“ชั้นเองก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร แนะนำได้อย่างเดียวคือ อย่าพึ่งให้ใครรู้ตอนนี้ อย่าให้ใครจับได้เด็ดขาดว่าแกทำอะไรใบบุญบ้าง โดยเฉพาะเมียชั้น ชั้นนึกภาพไม่ออกเลยนะ ว่าถ้าเมียชั้นรู้เรื่องนี้ แกจะเป็นยังไง รายนั้นยิ่งอยากได้ใบบุญมาเป็นลูกอยู่ด้วย” กมลพูดบอกออกมา ทำให้คมหน้าเครียดหนักเข้าไปใหญ่
“เอาเป็นว่าแกก็พยายามปิดเรื่องนี้ไว้ก่อนล่ะกัน ลองคิดหาหนทางและดูท่าทีใบบุญด้วยว่ายังไง ใบบุญยังเด็ก อายุยังน้อย ยังเจออะไรๆในอนาคตอีกเยอะ” กมลพูดขึ้นก่อนจะนั่งดื่มกาแฟต่อ แล้วปล่อยให้คมนั่งใช้ความคิดไปเรื่อยๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“วันนี้อาจารย์ประชุมเลยปล่อยเร็ว พวกเราไปไหนกันดี” สาลี่พูดชวนขึ้นมาในช่วงบ่ายสองโมงกว่าๆ
“ไปห้างกันมั้ย ไปหาอะไรกินกัน” มอสเสนอขึ้นมา
“เราไม่ไปได้มั้ย คือ เดี๋ยวพี่คมมารับไม่เจอ เราเองก็ไม่อยากไปไหนด้วย” ใบบุญพูดบอกออกมาเสียงอ่อย ทำให้ไผ่หน้าหม่นลงนิดๆ เพราะคิดว่าใบบุญกลัวจะไปเจอเหตุการณ์แบบวันนั้นอีก
“แล้วใบบุญจะนั่งรอพี่คมที่โรงเรียนอ่ะเหรอ ไม่เบื่อแย่เหรอ” สาลี่ถามอีก
“ไม่เบื่อหรอก เดี๋ยวเรานั่งทำการบ้านรอไปเรื่อยๆได้ พวกสาลี่ไปกันเหอะ” ใบบุญพูดบอกยิ้มๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนเป็นห่วง
“งั้นเราอยู่เป็นเพื่อนใบบุญล่ะกัน ได้มั้ย” ไผ่พูดขอ ใบบุญนิ่งคิด
“แล้วไผ่ไม่ไปซ้อมเหรอ” ใบบุญถามขึ้น
“ซ้อม แต่เข้าช้าหน่อยได้ เพราะพี่สันไปทำธุระให้อาจารย์ เรียกรวมกันอีกทีก็เหมือนตอนเวลาเลิกเรียนปกตินั่นแหละ” ไผ่ตอบกลับ ใบบุญจึงพยักหน้ารับ เพื่อนคนอื่นๆ จึงแยกไปเดินเที่ยว ส่วนใบบุญกับไผ่ก็มานั่งรอคมมารับใบบุญที่โต๊ะประจำ ใบบุญหยิบการบ้านขึ้นมาทำเพื่อฆ่าเวลา โดยมีไผ่นั่งทำอยู่ข้างๆด้วย ไผ่นั่งลอบมองเสี้ยวหน้าของใบบุญเป็นระยะ ทั้งสองนั่งทำการบ้านด้วยกัน ไผ่สอนบางจุดที่ใบบุญไม่เข้าใจให้ด้วย พอทำการบ้านเสร็จทั้งสองก็นั่งคุยกันไม่นานนัก คมก็ขับรถเข้ามาจอดรับ
“พี่คมมาแล้ว เราไปก่อนนะไผ่ ขอบใจมากนะที่มานั่งเป็นเพื่อนเรา” ใบบุญพูดบอกกับไผ่ เด็กหนุ่มพยักหน้ารับ
“สวัสดีฮะพี่คม” ใบบุญยกมือไหว้คม และเหมือนเช่นเคยที่คมต้องซื้อน้ำสตอเบอรี่ปั่นมาให้
“โรงเรียนเลิกนานรึยัง” คมถามอย่างสงสัย เพราะไม่ค่อยเห็นเด็กนักเรียนเดินขวักไขว่เหมือนทุกที
“เลิกนานแล้วฮะ วันนี้อาจารย์มีประชุม” ใบบุญตอบยิ้มๆ
“แล้วทำไมไม่โทรบอกพี่ล่ะ พี่จะได้มารับเร็วกว่านี้” คมถามเสียงดุนิดๆ
“ก็ใบบุญเกรงใจนี่ฮะ เผื่อพี่คมกำลังทำงาน ใบบุญไม่อยากกวน อีกอย่างช่วงที่รอ ใบบุญก็นั่งทำการบ้านจนเสร็จหมดเลย” เด็กหนุ่มบอกออกมาอีก คมถอนหายใจเบาๆ กับความขี้เกรงใจของใบบุญ
“วันหลังถ้าเลิกเร็วอีกให้โทรบอกพี่ รู้มั้ย” คมพูดสั่งอีกครั้ง
“ฮะ” ใบบุญตอบรับ คมขับรถไปเรื่อยๆ ร่างสูงค่อยๆขยับไหล่ของตนเองไปมา เพราะรู้สึกยอกไหล่ที่โดนคานหล่นใส่
“พี่คมเป็นอะไรรึเปล่าฮะ” ใบบุญถามเมื่อเห็นท่าทีของคม
“เอ่อ ไม่เป็นอะไรมากหรอก แค่เมื่อยน่ะ สงสัยนั่งทำงานมากไปหน่อย” คมพูดอ้าง เพราะไม่อยากให้ใบบุญรู้เรื่องที่ตนเองถูกคานหล่นใส่
“งั้นเอาไว้กลับถึงบ้าน ใบบุญนวดให้นะฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกอย่างเอาใจ คมยิ้มรับนิดๆ แต่ก็ไม่คิดจะให้ใบบุญนวดให้อยู่แล้ว เพราะถ้านวดก็ยิ่งปวดเข้าไปใหญ่ ใบบุญนั่งมองออกไปนอกรถ ก็เห็นคนขี่รถจักรยานอยู่ที่ริมฟุตบาท
“พี่คมฮะ จักรยานขี่ยากมั้ยฮะ” ใบบุญถามขึ้น
“ไม่ยากนะ เราขี่เป็นรึเปล่า” คมถามกลับมา ใบบุญส่ายหน้าไปมาหงอยๆ
“ไม่เป็นหรอกฮะ ใบบุญไม่มีจักรยานขี่” เด็กหนุ่มบอกเสียงแผ่ว คมมองเด็กหนุ่มด้วยความรู้สึกสงสาร
“เอางี้ ที่บ้านมีจักรยานที่ให้รปภ. ขี่ตรวจตรารอบรั้วบ้าน เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้เราฝึกดีมั้ย ไหนๆวันนี้ก็ทำการบ้านเสร็จหมดแล้วนี่” คมเสนอขึ้นมา ทำให้ใบบุญยิ้มกว้าง
“จริงเหรอฮะ เอาฮะ ใบบุญอยากลองขี่จักรยานมานานแล้ว” เด็กหนุ่มบอกออกมาอย่างตื่นเต้น และเมื่อกลับถึงบ้าน ใบบุญรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วไปช่วยงานยายตนเองจนเสร็จ ก่อนจะออกมาหาคมที่บ้านพัก
“พี่คม ใบบุญพร้อมแล้วฮะ” เด็กหนุ่มเรียกคมอยู่หน้าบ้าน ร่างสูงเปิดประตูออกมาแล้วยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพาใบบุญไปยืมจักรยานจาก รปภ.ของบ้าน ทั้งสองมาหัดที่สนามหญ้าหลังบ้านใหญ่
“ก่อนอื่น เราต้องทรงตัวให้ได้ มือจับแฮนด์ให้แน่นๆ ไม่ต้องเกร็ง” คมให้ใบบุญนั่งคร่อมจักรยาน แล้วคมก็ไปยืนโอบเด็กหนุ่มทางด้านหลัง เพื่อให้ใบบุญจับแฮนด์จักรยานเอาไว้ ใบบุญตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยขี่จักรยานมาก่อน
“แล้วมันจะล้มมั้ยฮะ” ใบบุญถามอย่างหวั่นๆ
“เดี๋ยวพี่ช่วยประคองท้ายให้ก่อนไง ถ้ามันล้มก็ไม่ต้องกลัวหรอก มันเป็นพื้นหญ้า พี่เองตอนหัดครั้งแรกก็ล้มหลายครั้งอยู่เหมือนกัน แต่ไม่นานก็เป็นเอง” คมพูดให้กำลังใจเด็กหนุ่ม ก่อนจะเริ่มสอนให้ใบบุญขี่จักรยาน ช่วงแรกใบบุญก็มีเงอะงะบ้าง แต่พอจะล้ม คมก็พุ่งคว้ารับตัวเด็กหนุ่มเอาไว้ได้ทุกครั้ง
“แหะแหะ นึกว่าจะเจ็บตัวซะแล้ว” ใบบุญพูดกับคมยิ้มๆ เมื่อรถจักรยานเอียงไปข้างหนึ่ง ทำให้ใบบุญเกือบตกจากจักรยาน แต่คมก็รับเด็กหนุ่มเอาไว้ได้ทัน คมยิ้มขำนิดๆ แล้วให้ใบบุญเริ่มหัดขี่ใหม่ โดยมีคมประคองท้ายไว้ให้ จนกระทั่งใบบุญเห็นคิมเดินเข้ามาหา
“ใบบุญไปหาพี่คิมก่อนนะฮะ” ใบบุญพูดบอกกับคม คมพยักหน้ารับนิดๆ
“พี่คิม พี่คมกำลังสอนใบบุญขี่จักรยานฮะ” ใบบุญพูดบอกกับคิมยิ้มๆ
“แล้ววันนี้ไม่มีการบ้านเหรอ” คิมถามขึ้นพร้อมกับยิ้มกลับไป
“ไม่มีฮะ ใบบุญทำเสร็จตั้งแต่ที่โรงเรียนแล้ว วันนี้โรงเรียนเลิกเร็ว ใบบุญเลยนั่งทำการบ้านจนเสร็จเลย” เด็กหนุ่มบอกกลับ
“วันนี้อาจารย์ที่โรงเรียนของใบบุญที่ประชุมช่วงเย็นน่ะครับ ก็เลยปล่อยให้นักเรียนกลับบ้านเลย แต่ใบบุญไม่โทรบอกผมว่าเลิกเร็ว แต่นั่งรอจนผมไปรับนั่นแหละครับ” คมได้ทีพูดฟ้องคิมขึ้นมา คิมหันมามองใบบุญด้วยสายตาดุๆนิดๆ ในขณะที่ใบบุญหน้าจ๋อยลง
“ทำไมไม่โทรบอกพี่คมล่ะใบบุญ แล้วนั่งรออยู่ในโรงเรียนคนเดียวเนี่ยนะ” คิมถามขึ้นทันที
“ก็ ใบบุญไม่อยากรบกวนพี่คมนี่ฮะ พี่คมต้องทำงาน แต่ก็ต้องไปรับใบบุญด้วย ใบบุญไม่อยากรบกวนเวลางานของพี่คม” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ่อยๆ
“แต่ใบบุญไม่ได้อยู่คนเดียวนะฮะ นักเรียนคนอื่นๆเค้าก็ยังอยู่ในโรงเรียนกันด้วย อีกอย่างเพื่อนของใบบุญก็มานั่งทำการบ้านรอกับใบบุญด้วยเหมือนกัน” เด็กหนุ่มรีบพูดอธิบาย เพราะไม่อยากถูกคิมดุ
“ทีหลังถ้าเลิกเร็วก็ให้โทรบอกพี่หรือไม่ก็โทรบอกพี่คมรู้มั้ย หรือถ้าอยากจะไปเที่ยวกับเพื่อนหลังเลิกเรียนก็ให้บอก ไม่มีใครเค้าว่าอะไรหรอก” คิมบอกกลับเสียงนุ่มนวล ทำให้ใบบุญยิ้มรับออกมาได้ ก่อนที่คิมจะเงยหน้ามาหาคม
“แล้วหลังนายเป็นยังไงบ้างอ่ะคม เห็นคุณกมลบอกว่านายก็โดนด้วยเหมือนกัน” คิมถามขึ้นด้วยความไม่รู้ว่า ใบบุญยังไม่รู้เรื่องนี้
“โดนอะไรฮะ พี่คมเป็นอะไร” เด็กหนุ่มรีบหันไปถามคมในทันที คมยกมือขึ้นลูบหน้าตนเอง ในขณะที่คิมหน้าเหวอไปนิด
“เอ่อ…นายยังไม่ได้บอกใบบุญเหรอ” คิมถามกลับเสียงอ่อย คมพยักหน้ารับ และดูเหมือนคิมจะพูดแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้ว เมื่อใบบุญผละจากคิมไปหาคมอย่างรวดเร็ว พร้อมกับซักถามเสียงสั่น
“พี่คมเป็นอะไรฮะ ทำไมไม่บอกใบบุญล่ะ” เด็กหนุ่มถามขึ้นด้วยท่าทางร้อนรน
“แหะแหะ ชั้นว่า ชั้นเข้าไปหาคุณกมลดีกว่า โทษทีนะคม อ่อ เดี๋ยวคมกับใบบุญเข้าไปกินข้าวเย็นด้วยกันนะ” คิมพูดจบก็รีบชิ่งทันที ให้คมเป็นคนอธิบายกับใบบุญไปแทน
“พี่คม บอกใบบุญสิฮะว่าเป็นอะไร” เด็กหนุ่มถามเสียงสั่นเครือ
“เข้าไปคุยในบ้านนะ” คมพูดชวน เพราะถ้าอยู่นอกบ้าน เค้าไม่สามารถปลอบโยนใบบุญที่กำลังใจเสียได้ คมจูงมือพาใบบุญเข้าไปในบ้านของตนเอง
“ใบบุญ อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก” คมพูดให้เด็กหนุ่มสบายใจ ใบบุญมองหน้าคมด้วยดวงตาที่แดงก่ำ
“แล้วทำไมพี่คมไม่บอกมาล่ะฮะ ว่าเป็นอะไร” เด็กหนุ่มบอกเสียงเครือ คมถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อคิดว่าคงต้องบอกใบบุญจริงๆ
“พอดีวันนี้คานไม้มันหล่นใส่หลังพี่ ตอนไปตรวจร้านของนายน่ะ แต่พี่ไปหาหมอมาแล้ว ไม่เป็นอะไรมากหรอก” คมพูดขึ้น ทำให้หยาดน้ำตาใสไหลลงมาอาบแก้มของใบบุญทันที เพราะรู้สึกเป็นห่วงคมเป็นอย่างมากและรู้สึกน้อยใจด้วยที่คมไม่คิดจะบอกตนเองเรื่องนี้
“ฮึกก…ใบบุญขอดูหน่อย…ฮึกก..ให้ใบบุญดูหน่อย” เด็กหนุ่มสะอื้นขอ คมจึงปลดกระดุมเสื้อแล้วเปิดให้ใบบุญดูหลังและไหล่ของตนเอง ซึ่งตอนนี้เริ่มขึ้นสีเขียวช้ำให้เห็นแล้ว และตรงหลังก็มีผ้าประคบติดอยู่ ใบบุญค่อยๆเอามือไปแตะเบาๆตรงรอยช้ำ
“ทำไมไม่ยอมบอกใบบุญ ฮึกก…พี่คมเจ็บแล้วยังจะมาสอนใบบุญขี่จักรยานอีก ..ฮึกก..ทำไมไม่ยอมพักล่ะฮะ” เด็กหนุ่มตัดพ้อออกมา คมรีบใส่เสื้อเหมือนเดิม แล้วดึงใบบุญจะเข้ามากอด แต่ใบบุญขืนตัวเอาไว้
“บอกแล้วไง ว่าพี่ไม่ได้เป็นอะไรมาก” คมพูดเสียงจริงจัง
“ฮึกก..ใบบุญแค่อยากให้พี่คมบอกใบบุญบ้าง เวลาพี่คมเป็นอะไร ใบบุญก็อยากรู้ทุกเรื่องของพี่ ทำไมพี่ต้องปิดบังใบบุญด้วย” เด็กหนุ่มตัดพ้อออกมาเป็นชุด
“พี่ขอโทษ ชู่วว เงียบเถอะ เดี๋ยวต้องไปกินข้าวกับนายกับคุณคิมอีกนะ” คมพูดปลอบออกมา
“ฮึกก..พี่คมนิสัยไม่ดี” เด็กหนุ่มพูดว่าออกมา คมยิ้มรับนิดๆ เพราะนานๆทีจะถูกใบบุญต่อว่าสักที
“อย่างอนเลย ที่พี่ไม่บอกเพราะไม่อยากให้เราเป็นห่วง” คมบอกกลับเพราะอยากให้ใบบุญเข้าใจ เด็กหนุ่มยังนั่งสะอื้นอยู่อย่างนั้นสักพัก จนคมเห็นว่าใบบุญเริ่มคลายอาการสะอื้นลงแล้ว ก็ให้ไปล้างหน้าล้างตา แล้วเข้าไปยังบ้านใหญ่ของกมลเพื่อทานอาหารเย็น
..
..
..
“ขอโทษทีนะคม” คิมพูดบอกกับคม เมื่อลงมาจากห้อง ร่างสูงยิ้มรับนิดๆ
“ไม่เป็นไรครับ” คมตอบกลับเพราะรู้ดีว่าคิมขอโทษตนเองเรื่องอะไร คิมเดินไปหาใบบุญพร้อมกับกอดคอเอาไว้
“หายโกรธพี่เค้ารึยัง” คิมแกล้งแถมใบบุญ เด็กหนุ่มเหลือบไปมองคมนิดๆ ก่อนจะซุกหน้ากอดคิมเอาไว้เหมือนกับยังคงงอนอยู่ ทำให้คิมยิ้มขำออกมา
“หึหึ นี่ถ้าไม่ใช่เรานะใบบุญ ชั้นคงหึงแน่ๆ” กมลพูดบอกออกมา เพราะใบบุญกอดคิมอยู่ ใบบุญจึงรีบผละออกจากคิมทันทีเพราะกลัวว่ากมลจะไม่พอใจ
“หึหึ ชั้นไม่ได้ว่าอะไร ไม่ต้องกลัวหรอก” กมลบอกกลับ ใบบุญยิ้มแหยๆ ก่อนที่ทั้ง 4 จะตรงไปที่โต๊ะอาหาร ใบบุญวิ่งเข้าไปช่วยยายของตนเองยกอาหารมาจัดวางที่โต๊ะ ทั้งสี่คนนั่งทานอาหารด้วยกันเหมือนทุกที คิมพูดบอกกับใบบุญเรื่องที่จะพาไปเที่ยวทะเล ทำให้เด็กหนุ่มดีใจเป็นอย่างมาก คมเองก็สบายใจเมื่อเห็นใบบุญยิ้มออกมาได้แล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“จัดกระเป๋ารึยังใบบุญ” คมถามขึ้นเพราะวันรุ่งขึ้นก็จะเป็นวันที่กมลจะพาทุกคนไปเที่ยวทะเล
“จัดเสร็จตั้งแต่เมื่อวานแล้วฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอกกับคมยิ้มๆในช่วงเย็นของวัน ขณะที่คมมาหัดให้ใบบุญขี่รกจักรยานที่สวนหลังบ้านอีกครั้ง
“หึหึ ทำไมรีบจัดจัง” คมพูดถามออกมาอย่างขำๆ ใบบุญทำแก้มพองลมนิดๆ
“ก็ใบบุญกลัวว่าถ้าจัดกะทันหันจะลืมเอาโน่นเอานี่ไปนี่ฮะ” เด็กหนุ่มบอกกลับยิ้มๆ
“งั้นเดี๋ยวคืนนี้มาจัดให้พี่บ้างละกัน ได้มั้ย” คมพูดขึ้น
“ได้สิฮะ” ใบบุญตอบรับทันที ก่อนจะหัดขี่จักรยานต่อ ตอนนี้ใบบุญพอจะปั่นได้บ้างแล้ว แต่ยังทรงตัวไม่เก่งเท่าไรนัก
..
..
..
..
“มาแล้วฮะ” ใบบุญที่อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย เดินเข้ามาในบ้านของคมช่วงหัวค่ำ เพื่อช่วยคมจัดกระเป๋าเสื้อผ้า
“มาช่วยพี่จัดกระเป๋าใช่มั้ย” คมถามขึ้น ใบบุญพยักหน้ารับ คมจึงเดินนำพาใบบุญเข้าไปในห้องนอน ซึ่งตอนนี้คมเอากระเป๋าใส่เสื้อผ้า มาวางไว้กลางห้อง แล้วเอาเสื้อผ้าที่ตนเองจะใส่มาวางไว้กลางเตียงอย่างกระจัดกระจาย
“พี่คมอ่ะ ทำไมทำรกแบบนี้ล่ะฮะ” ใบบุญพูดบ่น ก่อนจะเดินไปนั่งบนเตียงแล้วค่อยยๆหยิบเสื้อของคมมาพับ คมมองท่าทีของใบบุญยิ้มๆ
“ก็รอให้ใบบุญมาเก็บให้นี่ไง” คมตอบพร้อมกับเดินมานั่งทางด้านหลังของเด็กหนุ่มก่อนจะนั่งกอดใบบุญจากทางด้านหลังแล้วเอาคางเกยหัวของใบบุญเอาไว้
“ใจร้าย พี่คมนั่นแหละต้องช่วยใบบุญ” เด็กหนุ่มว่าออกมายิ้มๆ ไม่จริงจังนัก คมแกล้งก้มงับหูร่างเล็กเบาๆ ทำให้ใบบุญขนลุกจนต้องหดคอเข้าหากัน
“พี่คมอ่ะ อย่าแกล้งสิฮะ มาช่วยใบบุญเลยนะ” เด็กหนุ่มว่าออกมาเสียงกระเง้ากระงอด คมยิ้มขำ ก่อนจะยอมลุกมาช่วยใบบุญจัดกระเป๋าของคมเอง ไม่นานนัก ก็จัดเสร็จ
“พี่คมลืมอะไรบ้างรึเปล่า ของใช้จำเป็นของพี่น่ะฮะ คิดให้ดีนะ” ใบบุญพูดถามก็จริง แต่ร่างเล็กก็ยืนคะเนด้วยสายตาตัวเองไปด้วยว่าในกระเป๋าของคมตอนนี้มีของครบรึยัง คมไม่ตอบแต่ยืนมองใบบุญยิ้มๆ ทำให้เด็กหนุ่มหันไปมอง
“อะไรเหรอฮะ” ใบบุญถามคมอย่างสงสัย
“ถ้าพี่มีใบบุญมาอยู่กับพี่ทุกวัน มาคอยดูแลชีวิตประจำวันพี่ทุกวันก็ดีสินะ” คมพูดขึ้นเสียงจริงจัง ใบบุญยิ้มรับ
“ใบบุญก็อยู่กับพี่คมทุกวันนี่ฮะ” เด็กหนุ่มพูดขึ้นตามความเข้าใจของตนเองว่าทุกวันนี้ตนเองก็อยู่กับคมทุกวันอยู่แล้ว เจอหน้ากันทุกวันอยู่แล้ว ยกเว้นเวลาที่คมออกไปทำงานข้างนอกกับกมลเท่านั้น
“พี่หมายถึงในอนาคตแล้วก็ตลอดไปน่ะ” คมพูดขึ้นมาอีก ก่อนจะขยับมากอดเอวบางของใบบุญให้หันหน้าเข้าหาตนเอง ใบบุญยกมือขึ้นจับอกเสื้อของคมเอาไว้พร้อมกับเงยหน้ามองคมด้วยแววตาเป็นประกายสดใส
“ใบบุญบอกแล้วว่าใบบุญจะอยู่กับพี่คมตลอดไป จะไม่ไปไหนหรอกฮะ” เด็กหนุ่มพูดในสิ่งที่ตนเองคิดเอาไว้และตั้งใจเอาไว้
“แล้วใบบุญจะอยู่กับพี่ในฐานะอะไรล่ะ” คมถามขึ้นมา ทำให้ใบบุญชะงักไปนิดก่อนจะก้มหน้าลงช้าๆ เพราะใบบุญเองก็ยังไม่รู้ว่าทุกวันนี้ตนเองอยู่ในฐานะอะไรกันแน่
“กะ..ก็ พี่น้อง” ใบบุญตอบเสียงเบาๆ คมเชยคางมนของใบบุญขึ้นมานิดๆให้มองสบตากับตนเอง
“พี่น้อง เค้าไม่ทำแบบที่เราทำให้กันหรอกนะ พี่คงไม่ต้องอธิบายนะ ว่าเราทำอะไร แบบไหน” คมพูดบอกออกมาอีก ทำให้ใบบุญหน้าแดงก่ำ เพราะรู้ดีว่าที่คมพูดหมายถึงเรื่องอะไรที่เขาสองคนทำให้กัน
“คะ..คือ..ใบบุญไม่รู้” เด็กหนุ่มบอกออกมาอย่างสับสน
“ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอก เดี๋ยวใบบุญก็รู้เองว่าเราสองคนควรอยู่กันในฐานะอะไร” คมพูดยิ้มๆ เขายังไม่อยากคาดคั้นและอัดความคิดบีบให้ใบบุญมีแต่เขาคนเดียว คมรู้ว่าโลกของใบบุญมันต้องกว้างกว่านี้อีก ใบบุญต้องเจออะไรมากกว่านี้ เขาจะปล่อยให้เด็กหนุ่มเข้าใจและรู้ใจตัวเองว่าจริงๆแล้ว ใบบุญต้องการอยู่กับคมในฐานะอะไรกันแน่
“พี่คมบอกใบบุญเลยไม่ได้เหรอฮะ ว่าเราสองคนอยู่ในฐานะอะไรกัน” เด็กหนุ่มก็ยังคงอยากรู้ คมยิ้มก่อนจะเอาหัวตัวเองลงไปเขกหัวของเด็กหนุ่มเบาๆ
“พี่คมอ่ะ” ใบบุญโอดครวญขึ้นมาพร้อมกับเอามือจับหน้าผากตนเองป้อยๆ
“จัดกระเป๋าแล้วก็ไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้เดินทางนะ หรือว่าจะนอนกับพี่” คมแกล้งถาม พร้อมกับมองใบบุญด้วยสายตาแวววาว จนใบบุญรู้สึกร้อนหน้ากับสายตานั่น
“มะ..ไม่เอาฮะ เดี๋ยวนอนดึก นอนไม่หลับ” เด็กหนุ่มบอกเสียงอ้อมแอ้ม คมเลิกคิ้วขึ้นนิดๆ
“ทำไมถึงนอนไม่หลับ ตื่นเต้นหรือยังไง” คมแกล้งถาม ใบบุญเม้มริมฝีปากนิดๆ
“เดี๋ยวพี่คมชวนทำ..เอ่อ…แบบนั้น ใบบุญกลัวตื่นสาย…ใบบุญกลัว..เอ่อ” เด็กหนุ่มพูดเองก็รู้สึกอายเอง ที่ไม่กล้านอนเพราะกลัวว่าจะถูกคมกวนจนทำให้นอนดึกและตื่นสาย กลัวว่าจะตื่นไม่ทันไปเที่ยว คมได้ยินถึงกับหัวเราะขำออกมาจากลำคอ
“หึหึ โอเคๆ งั้นเราไปนอนที่บ้านพักเราเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ขอบคุณมากที่มาจัดกระเป๋าให้พี่นะ” คมพูดเสียงนุ่ม ใบบุญยิ้มรับ ก่อนที่คมจะพาใบบุญไปส่งที่บ้านพัก
“ฝันดีนะฮะพี่คม” ใบบุญพูดขึ้นเมื่อยืนอยู่หน้าประตูบ้านตนเอง
“ฝันดีเหมือนกัน เจอกันพรุ่งนี้” คมบอกยิ้มๆ ก่อนที่ใบบุญจะเข้าบ้านไป ส่วนคมก็เดินกลับบ้านพักของตนเอง ตอนนี้ร่างสูงมีความสุขดีอยู่แล้ว กับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ก็จะดีกว่านี้ ถ้าเขากับใบบุญใจตรงกันจริงๆ ไม่ใช่แค่การคล้อยตามอย่างที่กมลเคยพูดเอาไว้
..
..
“ชักไม่อยากให้โตไปมากกว่านี้แล้วสิ” คมพูดกับตัวเองเบาๆ
2 Be Con
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนนี้ไม่มีอะไรมากนะคร่า