ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่27 (คม x ใบบุญ)
Author: 여님 (ยอนิม)
“เดย์ เดี๋ยวชั้นไปทำธุระแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวมาคุยด้วย” คมพูดขึ้น
“ไม่เป็นไรพี่ ผมก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เอาไว้ว่างๆก็พาเด็กคนนี้ไปเที่ยวหาผมที่บ้านได้” เดย์พูดขึ้นเสียงเรียบ
“เออๆ” คมตอบรับ ก่อนจะพาใบบุญเดินออกมานอกบ้านใหญ่ ส่วนเดย์ก็เดินกลับไปที่รถของตัวเอง
“มาถึงรึยัง” คมถามขึ้น
“ใกล้จะถึงแล้วล่ะฮะ” ใบบุญตอบรับ ทั้งสองคนพากันเดินมาที่ประตูรั้วบ้าน ซึ่งพอดีกับที่ไผ่ขี่รถชะลอเข้ามาจอด ไผ่มองบ้านด้านในอย่างอึ้งๆ คมเปิดประตูรั้วเล็กออกไป ใบบุญจึงเดินไปหาไผ่ทันที ส่วนเดย์ก็กำลังขับรถออกจากรั้วบ้าน
“ขับรถดีๆล่ะ” คมหันไปพูดกับเดย์ที่ลดกระจกรถลงมา เดย์พยักหน้ารับ
“ฝากบอกนายด้วยนะพี่คม ว่าผมกลับก่อน” เดย์พูดส่งท้ายก่อนจะขับรถออกไป คมจึงหันมามองไผ่กับใบบุญด้วยสายตานิ่งๆ ไผ่กำลังอธิบายเรื่องการบ้านให้ใบบุญเข้าใจ โดยที่คมไม่เข้าไปยุ่งอะไรมากนัก จนใบบุญเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าลำบากใจ
“มีอะไร” คมถามขึ้น
“เอ่อ…พี่คมฮะ คือ วิชาคณิตมันมีบางจุดที่ใบบุญต้องให้ไผ่สอน เพราะใบบุญไม่ได้ไปโรงเรียน อาจารย์เค้าสอนเรื่องใหม่ แล้วให้การบ้านมา” เด็กหนุ่มพูดเสียงอ่อยๆ คมมองเลยไปที่ไผ่นิดๆ
“งั้นให้ไปนั่งสอนที่สนามหญ้าหน้าบ้านพักเราล่ะกัน” คมพูดบอกออกมา ใบบุญเลิกคิ้วนิดๆ เพราะตอนแรกกลัวว่าคมจะไม่พอใจ
“พี่คมไม่ว่าอะไรใช่มั้ย” เด็กหนุ่มถามต่อ คมขยี้หัวใบบุญเบาๆ
“ทำไมต้องว่าด้วยล่ะ ก็แค่เพื่อนเอาการบ้านมาให้” คมพูดพร้อมกับมองหน้าไผ่นิดๆ
“นายน่ะ เข็นรถเข้ามาจอดด้านใน” คมพูดกับไผ่ก่อนจะไปเปิดประตูรั้วให้ ไผ่จึงเข็นรถเข้าไปจอดแต่โดยดี พร้อมกับมองไปรอบๆอย่างสำรวจ คมเดินไปพูดบางอย่างกับ รปภ. อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ก่อนที่คมจะหันมาอีกครั้ง
“เดินตามมา แล้วไม่ต้องทำตัวอยากรู้อยากเห็นอะไรมากนัก” คมพูดบอก ไผ่จึงเดินถือกระเป๋าตามคมกับใบบุญไป ตลอดทางไผ่รู้สึกหวั่นๆกับชายร่างใหญ่ที่เดินไปมาอยู่รอบๆบริเวณบ้าน แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมต้องมีคนมาเดินมากมายแบบนี้ด้วย
“อ่า นั่นใครมาน่ะคม” ป้านีที่เดินออกมาจากบ้านใหญ่ทักขึ้นมาทันที
“ไผ่ๆ นี่ยายของใบบุญเอง ยายฮะ นี่ไผ่ เพื่อนที่โรงเรียนฮะ พอดีไผ่เอาการบ้านมาให้ พี่คมเลยให้เข้ามาสอนใบบุญฮะ” เด็กหนุ่มพูดบอก
“สวัสดีครับ” ไผ่ยกมือไหว้ยายของใบบุญทันที
“สวัสดีจ๊ะ แล้วนี่คมขอคุณกมลแล้วเหรอ” ป้านีถามขึ้นบ้างเพราะเกรงใจกมลไม่น้อย ที่ให้คนนอกเข้ามาในบ้านแบบนี้
“ยังครับ แต่ป้านีไม่ต้องห่วง เดี๋ยวผมคุยกับนายเอง” คมบอกกลับ ป้านีพยักหน้ารับรู้
“แล้วจะไปนั่งกันที่ไหนล่ะ เดี๋ยวยายเอาน้ำไปให้” ป้านีหันมาถามหลานชายตนเอง
“พี่คมให้ปูเสื่อหน้าบ้านฮะ” ใบบุญตอบรับ ป้านีพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะให้คมพาเด็กๆไปยังบ้านพัก ใบบุญรีบไปเอาเสื่อมาปูนั่งทันที
“พี่คมจะไปไหนฮะ” ใบบุญถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคมจะเดินแยกไปทางอื่น
“พี่จะเข้าไปหานายสักหน่อย เราทำการบ้านไปก่อนล่ะกัน” คมบอกกลับ ความจริงเขาอยากจะนั่งเฝ้าอยู่ด้วย แต่ก็กลัวว่าทั้งใบบุญและก็ไผ่จะพากันเกร็งจนทำอะไรไม่ถูก แล้วอีกอย่างที่นี่อยู่ในถิ่นของคม ไผ่ก็คงไม่กล้าที่จะทำอะไรมากนัก
“ฮะ” ใบบุญตอบรับเสียงอ่อยๆ ก่อนที่คมจะเดินแยกไป
“เราทำการบ้านกันเถอะไผ่” ใบบุญพูดชวน ไผ่พยักหน้ารับ ก่อนจะนั่งลงที่เสื่อ
“ใบบุญ ถามอะไรหน่อยสิ ทำไมถึงมีคนเดินไปเดินมาเยอะแยะเลยล่ะ” ไผ่ถามขึ้น
“ก็เวรยามคอยเฝ้าบ้านน่ะ” ใบบุญตอบกลับ
“เฝ้ากันขนาดนี้เลยเหรอ” ไผ่ถามต่อ
อืม เดี๋ยวไผ่สอนวิชาคณิตให้เราก่อนนะ” ใบบุญชวนเปลี่ยนเรื่องคุย ไผ่จึงพยักหน้ารับ แล้วนั่งสอนการบ้านให้ใบบุญทันที นั่งสอนนั่งทำการบ้านไปสักพักใหญ่ๆ ป้านีก็เดินเอาน้ำกับขนมมาให้ใบบุญกับเพื่อน แล้วแยกไปทำงานต่อ ใบบุญกับไผ่จึงนั่งพักดื่มน้ำและกินขนม
“ใบบุญนอนบ้านนี้เหรอ” ไผ่พยักหน้าไปที่บ้านพักของใบบุญ
“อืม อยู่กับยายน่ะ ส่วนบ้านใหญ่เป็นของเจ้านายยาย แล้วบ้านพักหลังอื่นๆก็เป็นของคนที่ทำงานที่นี่ทั้งนั้น” ใบบุญตอบกลับ
“พี่คมก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ” ไผ่ถามต่อ
“อืม อยู่ตรงโน้น เดินผ่านต้นไม้ใหญ่นั่นไปก็เป็นบ้านพี่คมแล้วล่ะ” ใบบุญชี้ไปอีกทาง ไผ่ก็หันไปมองก่อนจะหันมาหาใบบุญ
“แล้วใบบุญเคยไปนอนค้างบ้านพี่คมมั้ย” ไผ่ถามอีกครั้ง ใบบุญที่กำลังกินขนมอยู่พยักหน้ารับ
“ก็ไปนอนค้างหลายครั้งเหมือนกัน บางทีไปนั่งเล่นกับพี่คมที่บ้านพอดึกก็นอนที่นั่นเลย” ใบบุญตอบยิ้มๆ ไผ่นั่งเงียบไปนิด ก่อนจะเห็นใครบางคนเดินเข้ามาหา
//นั่นใครน่ะ// ไผ่พูดกับใบบุญเบาๆ เด็กหนุ่มหันไปมองก่อนจะยิ้มกว้างออกมา ใบบุญรีบลุกแล้ววิ่งเข้าไปหาทันที
“พี่คิม” ใบบุญเรียกคิมด้วยความดีใจ เด็กหนุ่มโผเข้ากอดคิมเอาไว้ คิมยิ้มรับพร้อมกับโอบกอดใบบุญเอาไว้เช่นเดียวกัน
“ไง ใบบุญ” คิมทักทายยิ้มๆ
“ใบบุญดีใจจังเลยฮะ ที่พี่คิมปลอดภัยกลับมา ละ..แล้วพี่คิมกับคุณกมล….” ใบบุญถามออกมาด้วยน้ำเสียงละล่ำละลัก
“พี่กับคุณกมลคุยกันเข้าใจแล้ว ขอบใจนะที่เป็นห่วงพี่ นั่นเพื่อนของใบบุญใช่มั้ย พอดีพี่เจอคม คมบอกว่าใบบุญนั่งทำการบ้านกับเพื่อน พี่ก็เลยเดินมาดูน่ะ” คิมบอกยิ้มๆ ใบบุญจึงพาคิมมาที่เสื่อ ซึ่งไผ่นั่งอยู่
“นี่ไผ่เพื่อนของใบบุญฮะ ไผ่นี่พี่คิมเป็นภรรยาเจ้าของบ้าน” ใบบุญแนะนำ คิมหัวเราะขำเบาๆ เมื่อเห็นหน้าไผ่ที่มองมาอย่างอึ้งๆ
“สวัสดีครับ เอ่อ พี่เป็นผู้ชายใช่มั้ยครับ” ไผ่ถามขึ้นมาทันที
“หึหึ ใช่แล้วล่ะ ทำไมแปลกใจงั้นเหรอ” คิมถามกลับไป ไผ่ยิ้มแหยๆ
“เปล่าหรอกครับ แค่สับสนนิดหน่อย” ไผ่พูดแล้วยิ้มเจื่อนๆ เพราะกลัวว่าคิมจะหาว่าตนเองเสียมารยาทที่ถามอะไรแบบนั้นออกไป
“แล้วรับได้มั้ย” คิมถามต่อ ไผ่ลอบมองใบหน้าของใบบุญนิดๆ
“ได้ครับ” ไผ่ตอบเสียงแผ่ว คิมยิ้มออกมาอ่อนๆ
“งั้นเดี๋ยวเย็นนี้เราอยู่กินข้าวเย็นด้วยกันกับพวกพี่ดีมั้ย” คิมพูดชวน
“ไม่ดีกว่าครับ ผมเกรงใจ” ไผ่ตอบออกมาทันที
“ไม่ต้องเกรงใจ ยังไงวันนี้คุณกมลเค้าจะเลี้ยงฉลองเล็กๆน้อยๆด้วย” ว่าแต่เรากลับบ้านดึกได้มั้ย” คิมถามอีกครั้ง
“ไม่ดีกว่าครับ ผมไม่ได้บอกแม่เอาไว้ด้วยว่าจะกลับมืด อีกอย่างผมขี่มอเตอร์ไซค์มาน่ะครับ” ไผ่ตอบกลับอย่างเกรงใจ
“งั้นเหรอ น่าเสียดายจัง” คิมพูดขึ้นยิ้มๆ
“พี่คิมฮะ จะเลี้ยงฉลองอะไรกันเหรอฮะ” ใบบุญถามอย่างงงๆ
“ก็คุณกมลน่ะสิ อยากจะเลี้ยงฉลองที่พี่กลับมาบ้าน บ้าจริง แต่ก็นะ ตามใจเค้าหน่อยล่ะกัน อ่อ แล้วทำการบ้านไปถึงไหนแล้วล่ะ ทำต่อสิ พี่คงไม่ได้มากวนหรอกนะ” คิมถามขึ้นเมื่อนึกได้
“ไม่ได้กวนหรอกฮะ” ใบบุญตอบกลับ ก่อนที่คิมจะให้ไผ่กับใบบุญนั่งทำการบ้านไปด้วยกัน ส่วนคิมก็นอนเล่นอยู่ข้างๆ ทำให้ไผ่รู้สึกเหมือนกับว่าคิมมานอนเฝ้าใบบุญยังไงยังงั้น
..
..
..
..
“ขอบใจไผ่มากนะ ที่อุตส่าห์เก็บงานไว้ให้ แล้วยังมาสอนเราอีกตะหาก” ใบบุญพูดขึ้นยิ้มๆ เมื่อทำการบ้านทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว
“ไม่เป็นไร” ไผ่ตอบรับยิ้มๆ พร้อมกับเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
“ไม่อยู่กินข้าวด้วยกันจริงๆเหรอ” คิมถามขึ้นมาอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากครับพี่คิม” ไผ่ตอบกลับยิ้มๆ พอดีกับที่คมเดินตรงเข้ามาหา
“คุณคิมครับ นายให้มาตามครับ” คมพูดขึ้น
“ขอบใจนะ พี่ไปก่อนนะใบบุญ แล้วเจอกันตอนกินข้าวนะ” คิมพูดยิ้มๆ
“ฮะ” ใบบุญตอบรับ ก่อนที่คิมจะเดินไป
“จะกลับแล้วใช่มั้ย” คมถามไผ่ขึ้นเสียงเรียบ
“ครับ” ไผ่ตอบรับ
“งั้นเดี๋ยวเราเดินไปส่งเพื่อนของใบบุญด้วยกันนะ” คมหันมาพูดกับใบบุญยิ้มๆ ใบบุญยิ้มรับ
“ฮะ” ใบบุญตอบกลับ ก่อนที่จะเดินพาไผ่มาส่งที่รถมอเตอร์ไซค์
“กลับบ้านดีๆนะไผ่ แล้วก็ขอบใจอีกครั้งนะที่เอาการบ้านมาให้เรา” ใบบุญพูดยิ้มๆ รู้สึกขอบคุณเพื่อจากใจจริงๆ
“ไม่เป็นไร เจอกันที่โรงเรียนวันจันทร์นะ” ไผ่ตอบกลับ
“อืม กลับถึงบ้านแล้ว ไลน์มาบอกเราด้วยนะ” ใบบุญพูดเตือนขึ้นเมื่อนึกได้
“อืม” ไผ่ตอบรับพร้อมกับเข็นรถออกไปนอกรั้ว ไผ่หันมาส่งยิ้มให้ใบบุญนิดๆ ก่อนที่คมจะเดินกอดคอใบบุญพากลับเข้าไปในบ้าน โดยไม่รอให้ไผ่ขี่รถไปก่อน ไผ่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วทำท่าจะสตาร์ทรถ
“เดี๋ยว!” เสียงเรียกดังขึ้น ทำให้ไผ่ชะงักไปนิด ก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกจากรั้วบ้านมา
“มีอะไรเหรอครับ” ไผ่ถามขึ้นและคิดว่าเป็นคนในบ้านนี้แน่นอน
“นายเป็นอะไรกับใบบุญ” หญิงสาวถามขึ้น
“เพื่อนครับ เอาการบ้านมาให้” ไผ่ตอบกลับไป รู้สึกไม่ค่อยชอบใจหญิงสาวคนนี้สักเท่าไรนัก
“งั้นเหรอ อืม ถามแค่นี้แหละ” หญิงสาวพูดเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าไปบ้าน ทิ้งให้ไผ่มองตามอย่างงงๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร
..
..
..
..
“ดื่มกันตามสบาย วันนี้ชั้นเลี้ยงฉลองที่เมียชั้นกลับมาอย่างปลอดภัย และชั้นกับเมียก็ปรับความเข้าใจกันดีแล้ว” กมลพูดขึ้นที่สนามหญ้าข้างบ้านในช่วงหัวค่ำ ท่ามกลางลูกน้องของตนเอง วันนี้กมลให้จัดงานปาร์ตี้เล็กๆเพื่อเลี้ยงฉลอง ใบบุญกับคมมายืนย่างบาร์บีคิวอยู่ที่เตา โดยมีป้านี นั่งมองมาด้วยสายตาครุ่นคิด
“เป็นอะไรรึเปล่าครับป้านี” คิมเดินมานั่งข้างๆแล้วถามขึ้น เมื่อเห็นป้านีนั่งเงียบๆ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่มองดูใบบุญเท่านั้นเอง” ป้านีพูดพร้อมกับยิ้มอ่อนๆให้กับคิม
“ดูใบบุญ? ดูทำไมเหรอครับ ใบบุญก็ย่างบาร์บีคิวอยู่ที่เตากับคมนั่นไงครับ” คิมพูดออกมาขำๆ
“ป้าแค่คิดเรื่องของใบบุญแล้วก็อดห่วงไม่ได้” ป้านีบอกออกมาอีก
“ห่วงเรื่องอะไรครับ” คิมถามอีก
“ก็ห่วงเรื่องทั่วไปนี่แหละค่ะ ไม่รู้ว่าอนาคตของใบบุญจะเป็นยังไง ป้าเองก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ดูแลใบบุญได้อีกนานแค่ไหน แล้วถ้าป้าเป็นอะไรก่อน แล้วเกิดอะไรขึ้นกับใบบุญ แล้วใบบุญจะทำยังไง” ป้านีพูดออกมาเสียงเครียด ดวงตาก็มองไปที่หลานชายไม่วางตา คิมจับมือป้านีแล้วบีบเบาๆ
“ป้าอย่าคิดอะไรมากเลยครับ เรื่องอนาคตของใบบุญถ้าเป็นเรื่องเรียน ผมบอกกับป้านีเลยครับ ว่าผมจะขอเป็นคนส่งเสียใบบุญเอง เพราะป้าก็รู้ ผมกับคุณกมลเป็นแบบนี้ คงไม่มีลูก แค่ส่งเสียใบบุญแค่คนเดียวไม่เป็นไรหรอกครับ” คิมพูดเสียงจริงจัง
“ป้าต้องขอบคุณมากนะคะ ถ้าใบบุญไม่ได้คุณกมล ไม่ได้คิม ป้าก็คงไม่มีปัญญาส่งให้ใบบุญได้เรียนสูงๆอย่างคนอื่นเขา” ป้านีพูดบอกออกมาอีก คิมมองหน้าป้านีอย่างครุ่นคิด
“นอกจากอนาคตการเรียนของใบบุญแล้ว ป้านีกังวลเรื่องอื่นด้วยใช่มั้ยครับ” คิมถามต่อ ป้านีนิ่งไปนิด
“ค่ะ มันมีอะไรให้ต้องห่วงอีกเยอะ” ป้านีพูดขึ้นเสียงแผ่ว
“คิมกินอะไรรึยังคะ ป้าทำอาหารไว้ตั้งหลายอย่าง” ป้านีเปลี่ยนเรื่องคุย
“ก็ว่าจะไปหาอะไรกินเหมือนกันแหละครับ อืมมมม ผมว่าผมไปหาใบบุญดีกว่า” คิมพูดยิ้มๆ ก่อนจะลุกเดินไปหาคมกับใบบุญ
..
..
..
..
“มองอะไรเหรอใบบุญ” คมถามขึ้นเมื่อนั่งกินอาหารอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับใบบุญ คิม และกมล
“เบียร์ที่พี่คมกินมันอร่อยเหรอฮะ” ใบบุญถามขึ้น ทำให้คมยิ้มขำออกมา
“นึกยังไงถึงถามล่ะ” คมถามกลับไปบ้าง
“ก็ใบบุญเห็นพวกพี่คมกินกัน ก็เลยอยากรู้นี่ฮะ” ใบบุญตอบกลับ
“ลองมั้ยล่ะ” คมแกล้งถาม
“ไม่ต้องเลย ใบบุญยังเด็กอยู่เลยนะ” เสียงคิมห้ามออกมาเสียงแข็ง คมได้แต่นั่งยิ้มขำ
“อ่า แม่เราไม่ให้กินนะใบบุญ” คมแกล้งแซว ใบบุญก็หัวเราะขำคิกคัก ก่อนที่คมจะยื่นหน้าไปกระซิบกับใบบุญ
//คืนนี้ไปนอนกับพี่มั้ย// คมถามขึ้น ใบบุญมีสีหน้าลังเลนิดๆ
//ใบบุญขอยายก่อนได้มั้ยฮะ ใบบุญพึ่งฟื้นไข้ กลัวยายจะเป็นห่วง// ใบบุญตอบกลับ คมก็พยักหน้ารับ เด็กหนุ่มจึงลุกไปหายายตนเองที่กำลังเติมอาหารใส่ถาด
“ยายฮะ” ใบบุญเรียกยายตนเอง
“ว่าไง” ป้านีขานรับ
“คือ คืนนี้ใบบุญไปนอนบ้านพี่คมได้มั้ยฮะ” เด็กหนุ่มพูดขอ ทำให้ป้านีชะงักไปนิดก่อนจะหน้าเครียดลง
“อย่าพึ่งเลย เราพึ่งหายป่วย เดี๋ยวจะไปติดพี่เค้า นอนพักอยู่ที่บ้านก่อน” ป้านีบอกกลับไป ใบบุญหน้าหม่นลงนิดๆ แต่ก็ยอมรับในคำพูดของยายตนเอง
“ก็ได้ฮะ” เด็กหนุ่มตอบรับ ก่อนจะเดินกลับไปหาคม
“พี่คมฮะ ยายบอกว่าให้ใบบุญนอนที่บ้านไปก่อน เพราะยังไม่หายดี” เด็กหนุ่มพูดขึ้น คมรู้สึกเสียดายนิดๆ เพราะเขาอยากจะนอนกอดใบบุญเต็มที เพราะหลายวันที่ผ่านมา มีเวลาให้กันไม่มากนัก แต่เมื่อยายของเด็กหนุ่มบอกมาแบบนี้ คมก็จำต้องยอมรับ
“งั้นไม่เป็นไรครับ เอาไว้ให้ใบบุญหายดีกว่านี้ก่อนล่ะกันเนอะ” คมพูดกับใบบุญยิ้มๆ เด็กหนุ่มก็ยิ้มรับ ก่อนจะนั่งกินอาหารกันต่อ และเมื่อได้เวลาพอสมควร ใบบุญก็กลับบ้านพักไปกับยายของตนเอง
..
..
“เป็นอะไรหน้าเครียดๆ” กมลเดินเข้ามาถามคมที่ยืนหน้าเครียดอยู่
“ผมไม่รู้ว่าผมคิดมากไปรึเปล่าน่ะสิครับนาย” คมพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ๆตนเอง เพราะคิมก็ไปเข้าห้องน้ำอยู่
“คิดมากเรื่องอะไร” กมลถามต่อ
“ป้านีน่ะครับ คือว่า…” คมอึกอักเล็กน้อย เพราะไม่รู้ว่าจะบอกกับกมลยังไง
“ว่าอะไร” กมลถามย้ำ
“คือ ผมขอเวลานายสักครู่ เข้าไปคุยกับผมในห้องทำงานได้มั้ยครับ ผมยังไม่อยากให้ใครได้ยินตอนนี้” คมพูดเสียงเครียด กมลนิ่งคิดก่อนจะยอมพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวชั้นบอกเมียชั้นก่อนล่ะกัน” กมลตอบกลับ ก่อนที่จะเดินไปหาคิมที่พึ่งเดินออกมาพอดี ว่าจะเข้าไปคุยเรื่องงานสำคัญกับคมแป๊บเดียว ซึ่งคิมก็พยักหน้ารับไม่ได้ซักถามอะไรต่อ กมลจึงพาคมเข้ามาคุยในห้องทำงานของตนเอง
“ไหนมีอะไรว่ามา” กมลถามขึ้นขณะนั่งลงที่โซฟา คมนั่งลงอีกตัว
“คือ…นายก็ทราบแล้วใช่มั้ยครับ ว่าผมรู้สึกยังไงกับใบบุญ” คมพูดเกริ่นขึ้น
“อืม” กมลตอบรับ
“คือ….ผมกับใบบุญ…มีอะไรกันแล้วครับ” คมพูดต่อ ทำให้กมลนิ่งอึ้งไปนิด
“แกว่าอะไรนะไอ้คม แกบอกอีกทีสิ” กมลถามขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ว่าตนเองได้ยินไม่ผิด
“ผมกับใบบุญมีอะไรกันแล้วครับ” คมตอบกลับมาอีกครั้ง กมลยกมือขึ้นมากุมขมับทันที
“เมื่อไร” กมลถามเสียงเครียด
“คืนก่อนกลับจากทะเลครับ แล้วก็..” คมกำลังจะบอกต่อ กมลยกมือขึ้นมาขัดเอาไว้ก่อน
“ไม่ต้องบอก เอาเป็นว่าชั้นรู้แล้วว่าแกมีอะไรกับใบบุญ” กมลรีบขัดขึ้นมา เขาเอ็นดูใบบุญพอๆกับที่คิมเอ็นดูใบบุญเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะรู้ว่าคมจริงจัง แต่เขาก็รู้สึกวูบๆในอกอยู่ดี
“แล้วเรื่องที่แกเครียดเกี่ยวกับป้านีล่ะ” กมลถามต่อ
“คือ ผมรู้สึกว่าช่วงนี้ป้านีเค้าแปลกๆไป เค้ามักจะมองผมด้วยสีหน้าเหมือนคิดอะไรอยู่ บางครั้งก็เริ่มถามคำถามกับผมแปลกๆเกี่ยวกับใบบุญ” คมพูดบอกในสิ่งที่ตนเองคิด
“แกก็เลยคิดว่า ป้านีจะรู้เรื่องของแกกับใบบุญรึเปล่า ใช่มั้ย” กมลถามต่อ คมพยักหน้ารับ
“ครับ นายครับ ผมไม่ได้คิดอยากจะปกปิดเรื่องนี้ไปตลอด แต่ผมอยากจะเคลียอะไรๆให้มันเรียบร้อย แล้วผมจะสารภาพกับป้านีด้วยตัวผมเองทุกอย่าง แต่ถ้าป้านีรู้ขึ้นมาก่อน ผมก็กลัวว่าป้านีจะโกรธ และไม่ยอมรับในเรื่องของผมกับใบบุญ” คมพูดบอกออกมาเสียงเครียดๆ พร้อมกับยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาลูบหน้าตนเองเบาๆ กมลถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาพึ่งผ่านเรื่องเครียดมาไม่ถึงวัน ก็ต้องมาเจออีกเรื่องแล้ว
“ชั้นเข้าใจ ถึงแม้ว่าป้านีเค้าจะรับเรื่องความรักของผู้ชายกับผู้ชายได้ แต่ในกรณีแกกับใบบุญอายุต่างกันมาก แถมใบบุญยังเป็นเด็กอยู่ ถึงแม้ว่าจะใช้คำว่านายขึ้นต้นชื่อแล้วก็ตามเถอะ” กมลบอกออกมา
“ถ้าป้านียังไม่รู้ก็แล้วไป แต่ถ้าป้านีรู้ขึ้นมาก่อนที่ผมจะสารภาพ ผมควรทำยังไงดีครับนาย” คมถามออกมาต่อ
“ถามจริง แกตั้งใจจะสารภาพกับป้านีเมื่อไร” กมลถามเสียงจริงจัง
“ผมอยากจะช่วยงานนายให้เสร็จเรียบร้อยทุกอย่างก่อนน่ะครับ ถึงจะบอกกับป้านีอีกที” คมบอกออกมาตรงๆ ตามที่ตนเองคิดเอาไว้ กมลถอนหายใจออกมาอีกครั้ง
“ชั้นว่าแกควรรีบสารภาพกับป้านีนะ อีกสัก 2-3 วันก็ได้ ให้ส่งมอบรายชื่อลูกค้าคืนอีวานก่อน แล้วแกก็เข้าไปสารภาพเลย เดี๋ยวชั้นจะไปช่วยคุยด้วย” กมลบอกกลับเพราะช่วงนี้เขาจำเป็นต้องให้คมมาช่วยงานจริงๆ
“แล้วช่วงนี้แกก็ห่างๆกับใบบุญบ้าง อย่าไปทำพิรุธอะไรให้ป้านีเค้าเห็นหรือจับได้ ให้เขารู้ทีเดียววันที่แกสารภาพไปเลยล่ะกัน” กมลบอกต่อ คมนั่งนิ่งก่อนจะพยักหน้ารับ
“ก็ได้ครับ ขอบคุณนายมากนะครับที่แนะนำ” คมยกมือไหว้กมล
“ไม่เป็นไร แกเองก็เตรียมหัวเอาไว้ด้วยล่ะกัน เผื่อป้านีจะเอาอะไรตีหัวแก โทษฐานไปทำให้หลานชายของเค้าใจแตก” กมลอดที่จะเหน็บคมไม่ได้
“ป้านีผมก็กลัวนะครับ อีกคนที่น่ากลัวเหมือนกันก็คือเมียนาย ผมไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าคุณคิมรู้เรื่องนี้จะเป็นยังไงบ้าง” คมพูดบอกออกมา กมลยกยิ้มนิดๆ
“คอขาด” กมลพูดขู่เอาไว้ คมก็ได้แต่ถอนใจยอมรับชะตากรรมของตนเอง แต่เป็นชะตากรรมที่คมตั้งใจที่จะรับมันอยู่ดี
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เช้าวันจันทร์
วันนี้คมเป็นคนไปส่งใบบุญที่โรงเรียน เนื่องจากเมื่อวาน เป็นอีกวันที่คมแทบจะไม่ได้เจอหน้าใบบุญ คุยกันผ่านโทรศัพท์เท่านั้น เพราะว่าคมต้องออกไปข้างนอกกับกมลเพื่อจัดการเรื่องงานให้เรียบร้อย และให้เร็วที่สุด วันนี้เขาจึงขอกมล เป็นคนขับรถมาส่งใบบุญที่โรงเรียนเอง
“เมื่อวานคิดถึงพี่มั้ย” คมถามขึ้นขณะขับรถออกมาจากบ้านเพื่อไปส่งใบบุญที่โรงเรียน
“คิดถึงฮะ” ใบบุญพูดพร้อมกับเอนหัวไปซบไหล่แกร่งของคมด้วยความคิดถึงจริงๆ คมยิ้มรับ ก่อนจะรีบก้มลงไปหอมแก้มใสแล้วผละออกมาทันที เพราะต้องขับรถ
“ชื่นใจ” คมพูดยิ้มๆ
“พี่คมอ่ะ ขับรถอยู่นะฮะ” ใบบุญว่าออกมาด้วยความขัดเขิน คมยิ้มขำนิดๆ
“ก็คนมันคิดถึงนี่นา” คมตอบกลับไป ใบบุญมองออกไปนอกรถแก้เขิน คมยูเทิร์นรถเพื่อจะไปตามเส้นทางโรงเรียนของใบบุญ ทำให้รถติดไฟแดงอยู่อีกฝั่ง
“นั่นพี่ไหมนี่ฮะ” ใบบุญชี้ไปที่หน้าร้านเซเว่น ซึ่งอยู่ตรงปากซอยทางเข้าหมู่บ้าน คมหันไปมองก็เห็นไหมยืนคุยกับผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง
“พี่ไหมคุยกับใครอยู่เหรอฮะ ใช่คนที่บ้านรึเปล่า ใบบุญไม่คุ้นหน้าเลย” เด็กหนุ่มพูดขึ้นเพราะนึกว่าเป็น 1 ในลูกน้องของกมลอีกคน
“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่ใช่คนในบ้านเรา ช่างเถอะ เขาจะคุยกับใครก็ช่างเค้า” คมพูดอย่างไม่ใส่ใจ ใบบุญจึงไม่ใส่ใจตามไปด้วย
2 Be Con
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อีก 3 ตอนก็จบแล้วนะคะ