ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love] – ตอนที่ 7

 ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย ตอนที่ 7

Author: 여님  (ยอนิม)

 

ไม่นานนักรถของกมลก็มาจอดที่หน้าบ้านหลังใหญ่ บอดี้การ์ดรีบเดินมาเปิดประตูรถให้อย่างรวดเร็ว

“ลงรถ” กมลบอกเสียงเรียบ แต่คิมก็ยังนั่งนิ่งอยู่

“คิม ชั้นบอกให้ลงรถ” กมลที่ลงจากรถไปแล้ว ก้มลงมาพูดบอกกับคิมที่ยังนั่งนิ่งอยู่เหมือนเดิม

“จะลงดีๆ หรือว่าให้ชั้นอุ้มลงมาต่อหน้าลูกน้องของชั้น” กมลถามออกมาอีก ทำให้คิมออกอาการฮึดฮัดเล็กๆ ก่อนจะยอมขยับตัวลงมาจากรถ  ดวงตากลมมองหน้ากมลตาเขียวปั่ด แต่กมลก็ไม่ได้คิดจะสนใจแต่อย่างไร มือแกร่งโอบเอวบางมาประชิดตัว

“เอ๊ะ ปล่อยนะ คุณจะกอดทำไมเนี่ย” คิมพยายามดันอกแกร่งของของกมลให้ออกห่างตนเอง แต่กมลก็โอบรัดเอาไว้แน่น พร้อมกับหันไปหาคมที่ยืนนิ่งอยู่

“ชั้นจะขึ้นไปพักบนห้อง จะลงมาตอนอาหารเย็นทีเดียว ถึงตอนนั้น ค่อยเรียกทุกคนในบ้านมารวมตัวกันที่ห้องประชุมด้วย” กมลพูดบอกกับคม ซึ่งคมก็ก้มหัวรับ เพราะรู้ดีว่ากมลจะทำอะไร

“แกเองก็ไปพักซะคม” กมลออกคำสั่ง เพราะคมเองก็ยังไม่ได้พักผ่อนเหมือนกับกมล เมื่อสั่งลูกน้องเรียบร้อยแล้ว กมลก็รั้งเอวบางของคิมให้เดินคู่กับตนเองเข้าไปในบ้าน คิมขืนตัวแล้วสู้แรงกมลไม่ได้ จึงจำต้องเดินตามอย่างโดยดี คิมมองสำรวจบ้านของกมลไปด้วย มีหญิงสาวและหญิงสูงวัยแอบมองจากด้านในห้องๆหนึ่ง ก่อนจะรีบหลบเมื่อเห็นสายตาของคิมที่มองไปพอดี ดูจากเสื้อผ้าที่ใส่คิมก็เดาว่าน่าจะเป็นคนรับใช้ของกมล

“ไม่ต้องรีบร้อนหรอกน่า เดี๋ยวชั้นจะพานายทัวร์บ้านของเราเอง” กมลเน้นคำว่าเรา ทำให้คิมร้อนหน้าวูบวาบ จนกมลพาขึ้นบันไดมาถึงชั้นบน และไปหยุดที่หน้าห้อง ห้องหนึ่ง คิมรู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นห้องนอน เท้าเรียวหยุดชะงักตรึงกับที่

“มีอะไร” กมลถามเสียงขุ่น ตอนนี้ร่างกายของกมลอยากจะนอนพักเต็มที

“ผมไม่เข้าไปเด็ดขาด” คิมพูดเสียงจริงจัง

“ทำไม” กมลถามกลับ

“ถ้าคุณจะให้ผมอยู่ที่นี่ ก็ต้องแยกห้องให้ผม ผมไม่นอนกับคุณ” คิมยื่นคำขาด เพราะรู้ตัวว่าคงหนีกมลไม่ได้ และเมื่อหนีไม่ได้ก็ต้องต่อรองเพื่อสวัสดิภาพของตนเองบ้าง กมลขมวดคิ้วเข้าหากัน

“ไม่ต้องเรื่องมากน่า” กมลบอกกลับ พร้อมกับดึงคิมให้เข้าไปในห้องด้วยกันอย่างแรง จนคิมถลาตามไป

“เจ็บนะคุณกมล ทำไมชอบรุนแรงกับผมนักห้ะ!!” คิมโวยวายใส่

“นายชอบไม่ใช่รึไง” กมลบอกกลับ ทำให้แก้มใสขึ้นริ้วสีแดงระเรื่อทันที เพราะรู้ว่ากมลหมายถึงอะไร

“บ้า ผมไม่ได้ชอบสักหน่อย” ต่อว่ากมล แต่ก็ไม่สบสายตาทำให้กมลยกยิ้มมุมปากนิดๆ

“เอาน่า ทำตัวให้ชิน แต่ตอนนี้เรานอนพักกันก่อนดีกว่า รู้มั้ย ว่าชั้นลงจากเครื่องได้ก็ออกตามหานายก่อนเลยนะ แทบจะไม่ได้นอนพักเลยนะ เพราะฉะนั้นนายต้องมานอนให้ชั้นกอดซะดีๆ” กมลพูดบอกพร้อมกับปลดเนคไทน์ตนเองออกพร้อมกับเสื้อสูท จนเหลือเพียงเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมคลายความอึดอัดเท่านั้น คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ

“คุณกมล ผมว่าเราสองคนมาคุยกันให้รู้เรื่องอีกสักหน่อยได้มั้ย” คิมพูดขึ้น เพราะอะไรๆมันยังคงดูสับสนสำหรับคิมเป็นอย่างมาก

“นอนคุยล่ะกันนะ” กมลตอบก่อนจะลากแขนของคิมให้ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง แล้วโอบกอดคิมเข้ามาแนบอก คิมขืนตัวเล็กน้อย แต่รู้ดีว่าสู้แรงไม่ได้จึงยอมนอนนิ่งๆ

“พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยน่ารักหน่อย” กมลบอกพร้อมกับหอมแก้มใสเบาๆ คิมเบี่ยงหน้าหนีแล้วเม้มริมฝีปากแน่น

“นี่คุณจะให้ผมมาอยู่ที่นี่ในฐานะเมียคุณจริงๆ งั้นเหรอ” คิมถามเสียงห้วน

“ใช่” กมลตอบกลับ

“ทั้งๆที่เราสองคนไม่ได้รักกันเนี่ยนะ เราแค่นอนด้วยกันสองครั้งเท่านั้นเองนะ” คิมถามออกมาตรงๆ

“ไม่ใช่สองครั้ง หลายครั้งตะหาก แต่นายคงนับไม่ถูกหรอก เพราะตอนนั้นนายยังนอนครางเสียงหวานอยู่เลย” คำพูดตรงๆของมล ทำให้คิมหน้าแดงก่ำ

“คุณกมล!” คิมโวยพร้อมกับดันอกแกร่งเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกเคอะเขินที่เกิดขึ้นจากคำพูดของกมล

“ชู่วว นิ่งๆสิ ที่นายบอกว่าเราสองคนไม่ได้รักกันน่ะ มันก็ใช่ ตอนนี้ชั้นบอกได้ว่าชั้นชอบนายและถูกใจนายมาก และเชื่อว่าไม่นานนายจะทำให้ชั้นรักนายจนหัวปักหัวปำได้ ส่วนนายชั้นจะทำให้นายรักชั้นเองแหละ ไม่แน่ ตอนนี้นายอาจจะรักชั้นแล้วก็ได้” กมลพูดพร้อมกับหลับตาลงไป คิมขมวดคิ้วมองคนที่กอดตนเองด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมกมลทำอะไรเหมือนเป็นเรื่องง่ายไปซะทุกอย่าง

“ฝันไปเถอะ” คิมพูดว่าออกมา แต่กมลยกยิ้มมุมปากทั้งๆที่หลับตา

“งั้นตกลงว่านายยอมอยู่ที่นี่กับชั้นแล้วนะ อย่าหนีไปไหนอีก ถ้าไม่อยากโดนทำโทษ” กมลพูดบอก คิมไม่ตอบแต่นอนคิดเรื่องของตนเองกับกมลเงียบๆ แล้วมองหน้าคนที่หลับตาพริ้มอยู่ข้างๆด้วยความไม่เข้าใจ ว่าทำไมกมลถึงได้มาถูกใจคิม แต่เมื่อคิดไปเรื่อยๆ ก็ต้องหน้าร้อนผ่าว เมื่อนึกถึงบทรักของกมล คิมยอมรับว่ากมลทำให้คิมรู้สึกเต็มอิ่มอย่างบอกไม่ถูก แต่ในใจคิมก็ไม่อยากจะยอมรับว่ามันเป็นความจริง  คิมนอนมองใบหน้าคมเข้มที่มีไรหนวดของกมลอย่างพิจจารณา คนตรงหน้าเป็นคนที่หล่อเข้มมากจริงๆ เครื่องหน้าทั้งหมดเข้ารูปดูดีไปทุกส่วน มองเรื่อยลงมาที่ริมฝีปากหยัก คิมก็ต้องหน้าแดงอีกครั้ง เพราะริมฝีปากนี้ที่พรมจูบและซุกไซร้ไปทั่วร่างกายของคิม เสียงกรนเบาๆของกมล ทำให้คิมรีบดึงสติตัวเองกลับมา

(ทำไมรู้สึกเหมือนเราใจง่ายจังวะ ที่อยู่ๆก็ยอมมาอยู่กับคนบ้าอำนาจดีแต่สั่งแบบนี้น่ะ) คิมคิดในใจ ก่อนจะขยับตัวนิดๆ เพื่อให้หลุดจากอ้อมกอดของกมล แต่กมลก็ยังกอดรัดคิมเอาไว้แน่น คิมถอนหายใจเบาๆ แล้วรอเวลาให้กมลนอนหลับสนิท สักพักคิมก็หลุดจากอ้อมกอดของกมล มายืนอยู่ที่ข้างเตียงได้

//สงสัยจะเพลียจัดแฮะ ไม่รู้ตัวเอาซะเลย ถ้าเราเอาหมอนอุดจมูกจะรู้รึเปล่าวะ// คิมพูดพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะล้มเลิกความคิด เพราะยังไม่อยากถูกลูกน้องของกมลฆ่าตายเสียก่อน คิมเดินสำรวจภายในห้องของกมล ก่อนจะค่อยๆเปิดประตูห้องนอนออกมา

“จะไปไหนเหรอครับ คุณคิม” เสียงของลูกน้องของกมลที่ยืนอยู่หน้าห้องดังขึ้น ทำเอาคิมสะดุ้งเฮือก

“ป่ะ…เปล่า แค่อยากไปเดินสำรวจรอบๆเท่านั้น ไม่ได้งั้นเหรอ” คิมทำทีเป็นถามกลับด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ ทั้งๆที่หัวใจเต้นรัวด้วยความเกร็งกับท่าทีของลูกน้องของกมล

“นายอนุญาตแล้วเหรอครับ” อีกฝ่ายถามกลับมาด้วยท่าทีนิ่งๆเช่นเคย

“คุณกมลเค้าหลับอยู่ จะให้ชั้นนั่งอยู่แกร่วอยู่ในห้องคนเดียวรึไง ถ้านายกลัวว่าชั้นจะหนี ก็เดินตามสิ” คิมพูดว่าออกมา ลูกน้องของกมลนิ่งไปนิด ก่อนจะก้มหัวรับ

“เชิญครับ” ลูกน้องของกมลตอบกลับ เพราะรู้ดีว่ายังไง คิมก็คงหนีไปไหนไม่ได้ แต่ที่เขากังวลคือ กลัวว่าเจ้านายตนเองตื่นขึ้นมาไม่เจอคิม จะเป็นเรื่องเสียเปล่าๆ เมื่อได้รับคำตอบรับจากลูกน้องของกมลแล้ว คิมก็เดินไปที่บันไดลงไปชั้นล่าง โดยมีลูกน้องของกมลอีกคน ที่ไม่รู้เดินมาจากทางไหน เดินตามหลังคิมไปด้วย คิมถอนหายใจออกมาเบาๆ รู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่มีคนมาเดินตามแบบนี้ ขาเรียวก้าวลงไปที่ห้องโถงขนาดใหญ่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องที่คิมเห็นผู้หญิงสองคนมายืนแอบดูตอนที่เดินเข้ามา พอเข้าไปในห้องซึ่งเป็นห้องรับประทานอาหาร ไม่มีใครอยู่ในห้องนี้ แต่คิมได้ยินเสียงพูดคุยดังมาจากห้องที่อยู่ติดๆกัน จึงไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปทันที โดยมีลูกน้องของกมลเดินตามติด คิมเห็นผู้หญิงสองคนอายุต่างกันกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารอยู่ โดยหันหลังให้กับคิม

“สวัสดีครับ” คิมกล่าวทักทายออกไป ทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนรีบหันมามองอย่างตกใจนิดๆ

“สวัสดีค่ะคุณ” หญิงสูงวัยยกมือขึ้นไหว้พร้อมกับหญิงสาวอีกคน ทำให้คิมต้องรีบยกมือขึ้นไหว้ตอบกลับเช่นเดียวกัน

“ป้าไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ” คิมพูดบอกออกมา คนทั้งสองมองหน้ากันไปมาเพราะไม่รู้จะพูดอะไรและไม่รู้ว่าคิมเป็นใครด้วย

“ป้านี  ดา นี่คุณคิม เมียของนายน่ะ พอดีคุณคิมอยากเดินดูบริเวณบ้าน” ลูกน้องของกมลที่ยืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้น ทำให้คิมหันไปมองตาขวางแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทำให้ลูกน้องของกมลแอบคิดในใจว่าเมียเจ้านายตนเองดุไม่เบา

“เมียคุณกมลเหรอคะ” ป้านีถามขึ้นอย่างอึ้งๆ ถึงรู้จะรู้รสนิยมของกมล แต่ก็ไม่เคยเห็นกมลพาใครเข้าบ้านมาแบบนี้

“ที่คุณกมลบอกให้ไปรวมตัวกันตอนเย็น ต้องเป็นเรื่องของคุณคิมแน่เลยป้านี” หญิงสาวที่ชื่อดา ดูท่าทางซื่อพูดขึ้น

“ป้าชื่อนีนะคะ เป็นแม่บ้านของที่นี่ ส่วนนี่ดาเป็นลูกมือป้าอีกคนค่ะ” หญิงสูงวัยพูดแนะนำตัวพร้อมกับยิ้มให้คิมอย่างอ่อนโยน ทำให้คิมยิ้มรับออกมาอย่างสบายใจ เพราะอย่างน้อยก็มีป้านีกับดาที่น่าจะคุยกันรู้เรื่องหน่อย

“คุณคิมต้องการอะไรมั้ยคะ เดี๋ยวป้าจัดการให้” ป้านีถามขึ้นมาอีก

“ไม่ล่ะครับ ผมแค่เดินสำรวจบ้านนิดหน่อย ว่าแต่ป้านีเรียกผมว่าคิมเฉยๆดีกว่านะครับ อย่าเรียกคุณเลย” คิมพูดบอก

“ไม่ได้หรอกค่ะ ภรรยาของคุณกมลก็เหมือนกับเจ้านายของป้าอีกคน ให้ป้าเรียกว่าคุณเถอะนะคะ” ป้านีพูดขึ้นแกมขอร้อง คิมถอนหายใจเบาๆ

“ก็ได้ครับ แล้วแต่ป้าเลย แต่ไม่ต้องยกมือไหว้ผมอีกแล้วนะ ผมไม่อยากอายุสั้น” คิมบอกกลับไปอีกพร้อมกับส่งยิ้มไปด้วย

“แล้วป้ามีอะไรให้ผมช่วยรึเปล่าครับ” คิมถามขึ้นมาอีก

“อย่าเลยค่ะ เดี๋ยวตัวจะเหม็นเสียเปล่าๆ เมื่อกี้คุณคิมบอกว่าจะเดินสำรวจบ้านไม่ใช่เหรอคะ ไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้านก็ได้ค่ะ แต่อย่าเดินไปใกล้กรงเสือกับกรงสุนัขของคุณกมลนะคะ มันไม่คุ้นกับคนแปลกหน้า กิจดูแลคุณคิมด้วยล่ะ” ป้านีพูดบอกกับลูกน้องของกมลที่ยืนอยู่ด้านหลังของคิม

“มีเสือด้วยเหรอครับป้านี” คิมถามขึ้นมาด้วยความสนใจ

“ค่ะ” ป้านีตอบกลับ ทำให้คิมสนใจอยากจะไปดู คิมหันมาหากิจ

“นายชื่อกิจใช่มั้ย พาชั้นไปดูเสือหน่อยสิ” คิมพูดบอก กิจมีท่าทีลังเลนิดๆ

“ปกติแล้ว นายไม่ชอบให้ใครไปยุ่มย่ามแถวกรงเสือน่ะครับ” กิจบอกกลับ คิมทำขมวดคิ้วเข้าหากัน

“แล้วทำยังไงถึงจะได้ดู” คิมถามกลับไปอีก

“ต้องขออนุญาตจากนายก่อนน่ะครับ” กิจตอบกลับ คิมออกอาการฮึดฮัดเล็กๆ

“แต่เดินเล่นในสวนได้ใช่มั้ย” คิมถามอีก

“ครับ” กิจตอบรับ

“งั้นนำชั้นไปในสวนหน่อยสิ” คิมพูดบอกออกมา กิจจึงเดินนำคิมไปยังประตูด้านข้างเพื่อออกไปยังสวนหลังบ้าน

“ป้านี คุณคิมเป็นผู้ชายแน่เหรอป้า ทำไมสวยจังเลยอ่า ผู้หญิงอย่างหนูชิดซ้ายเลยอ่ะ”  เสียงพูดของดาที่คุยกับป้านี ดังไล่หลังคิมมา คิมส่ายหน้าไปมานิดๆ

//ทำไมไม่มีใครชมว่าหล่อบ้างเลยนะ// คิมพึมพำออกมาเบาๆ เมื่อเดินมาที่สวนหลังบ้านคิมก็ต้องอึ้ง เพราะด้านหลังเป็นสวนที่ร่มรื่น มีต้นผลไม้มากมายทำให้คิมยิ้มออกมาได้ คิมชอบบรรยากาศแบบนี้ที่สุด ถ้าไม่มีใครบอกว่าที่นี่อยู่ในกรุงเทพ คิมก็คิดว่า ที่นี่คือสวนผลไม้ต่างจังหวัดแน่นอน

“บ้านพวกนั้นเป็นบ้านใคร” คิมชี้ไปอีกทาง ที่บ้านปลูกเรียงรายเว้นระยะห่างกันไป

“บ้านของลูกน้องนายครับ ลูกน้องที่นายไว้ใจเท่านั้นที่นายจะปลูกบ้านให้อยู่ในพื้นที่ของนาย” กิจตอบกลับ คิมพยักหน้ารับ ก่อนจะมองไปเห็นชิงช้าไม้กำลังแกว่งไกว โดยมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ แต่เมื่อหันมาเห็นคิม เด็กหนุ่มก็รีบลุกแล้ววิ่งหนีไป ทำให้คิมเรียกเอาไว้ไม่ทัน

“นั่นลูกหลานใครน่ะ” คิมถามอย่างสนใจ

“หลานป้านีครับ” กิจตอบอีก คิมพยักหน้ารับก่อนจะเดินดูสวนไปเรื่อยๆ

“คุณคิมครับ” เสียงของกิจเรียกเอาไว้ก่อนที่คิมจะเดินไปอีกทาง เมื่อคิมหันไปมองกิจก็ส่ายหน้าไปมา

“ผมคงให้คุณคิมไปทางนั้นไม่ได้นะครับ” กิจบอกอีก ทำให้คิมรู้ว่า ทางนี้เป็นทางไปกรงเสือแน่นอน

“มันอยู่ในกรงไม่ใช่รึไง ชั้นขอแค่ดูห่างๆไม่ได้เหรอ” คิมต่อรอง

“แต่ว่า” กิจจะค้าน

“ชั้นจะไปดู ถ้านายไม่พาชั้นไป ชั้นจะไปเอง” คิมพูดบอกเสียงเข้ม ทำให้กิจรู้นิสัยเมียเจ้านายตนเองเพิ่มมาอีกอย่างคือความดื้อรั้น

“ถ้าผมพาคุณคิมไปนายเอาผมตายแน่ครับ เห็นใจผมเถอะครับ” กิจหาวิธีหว่านล้อม คิมเม้มปากเข้าหากัน ใช่ว่าคิมอยากจะทำให้ใครเดือดร้อนเสียเมื่อไร

“ก็ได้ ไม่ไปก็ได้” พูดจบคิมก็เดินไปอีกทาง กิจถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ ที่ตนเองจะไม่ถูกเจ้านายหมายหัว ตลอดเวลาที่คิมเดินเล่นในสวน คิมจะเห็นลูกน้องของกมลคนอื่นๆเดินไปมาเป็นระยะๆ คิมเดินเล่นโดยไม่ได้ดูเวลาว่าผ่านไปนานเท่าไร หันไปมองกิจอีกทีก็เห็นกิจกำลังเดินไปคุยอะไรบางอย่างกับลูกน้องของกมลอีกคน ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก คิมยกยิ้มนิดๆ ก่อนจะรีบเดินหลบไปตามแนวพุ่มไม้ เพื่อไปยังทางที่จะไปกรงเสือ

“ไปทางนี้ใช่มั้ยเนี่ย” คิมพูดกับตัวเองแล้วเดินไปเรื่อยๆ ต้นไม้ที่ปลูกขึ้นหนาแน่นทำให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในป่า คิมเดินมาเรื่อยๆ จนเห็นกรงเหล็กขนาดใหญ่ คิมคิดว่าน่าจะใหญ่กว่าห้องที่คอนโดของคิมเสียอีก ภายในกรงมีต้นไม้อยู่มากมาย คิมเดินเข้าไปใกล้ๆ พลางชะเง้อมองหาเสือ

“ไม่เห็นมีเลย  หลบอยู่ตรงไหนเนี่ย” คิมพูดพึมพำพร้อมกับก้มและชะเง้อไปมา

“คุณคิมครับ คุณคิม” เสียงตะโกนเรียกหาคิมดังขึ้น ทำให้คิมหันไปมองตามทางที่เดินเข้ามา

แกร๊ก!

“อ๊ะ!!” เสียงร้องของคิมดังขึ้น

“โฮกกกกกกกกกกกกก” เสียงคำรามของสัตว์ป่าดังก้องไปทั่วบริเวณ พร้อมกับร่างของคิมที่ถูกกระชากออกห่างจากกรงเสืออย่างรวดเร็วจนปะทะกับอกแกร่งของคนที่กระชาก ทำให้เท้าที่เต็มไปด้วยอุ้งเล็บของเสือสีขาวตัวใหญ่คลาดจากแผ่นหลังบางของคิมไปนิดเดียวเท่านั้นเนื่องจากขนาดความกว้างของกรงแต่ละซี่กว้างพอที่เท้าของเสือจะรอดผ่านออกมาได้ ทำให้คิมใจหล่นไปกองที่ตาตุ่ม คิมไม่รู้เลยว่าเสือตัวใหญ่นี้ มาอยู่ใกล้ตนเองตั้งแต่เมื่อไร

“คลีโม!!!นิ่ง!!!!” เสียงตวาดดังก้องแข่งกับเสียงคำรามของเสือ ซึ่งทำให้เสือตัวใหญ่ชะงักหยุดทุกอย่าง แล้วยอมนอนหมอบไปกับพื้น สร้างความทึ่งให้กับคิมเป็นอย่างมาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่โอบกอดตนเองอยู่ คิมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ พลางคิดในใจว่าถ้ายอมให้เสือตัวนั้นตะปบตนเองน่าจะดีกว่าเมื่อเห็นสายตาของคนที่ช่วยตนเอง

“ทำบ้าอะไรห้ะคิม!!!” เสียงกมลดังลั่นอีกครั้ง ทำให้ลูกน้องที่วิ่งตามเข้ามาต่างหยุดนิ่งมองหน้ากันอย่างเครียดๆ

“คือ…ผม…ผม” คิมที่ยังคงตกใจอยู่พูดอะไรไม่ออก กมลหันไปมองหน้าลูกน้องด้วยสายตาวาวโรจน์

“พวกแกไปเจอชั้นที่ห้องโถงกลางเดี๋ยวนี้!!” กมลพูดเสียงลั่น ก่อนจะกระชากแขนคิมให้เดินตามตนเองไป คิมถลาไปอย่างฝืนไม่ได้ กมลลากคิมไปยังห้องโถงใหญ่ที่ติดกับห้องรับแขก

“เจ็บนะคุณกมล ปล่อย!” คิมโวยใส่ร่างสูงทันที

“ไม่ต้องมาโอดครวญนะคิม!! ถ้าชั้นไปถึงตัวนายช้ากว่านั้นเพียงเสี้ยววินาที นายจะเจ็บมากกว่านี้รู้มั้ย!!” กมลพูดว่าเสียงเข้ม ทำเอาลูกน้องที่ตามเข้ามาพากันเงียบกริบ คิมหันไปเห็นกิจยืนก้มหน้า หน้าเครียดอยู่ แม้แต่คมเองก็เดินเข้ามาด้วย

“มีอะไรเหรอครับนาย” ดูท่าคมจะไม่รู้เรื่องอะไร

“ใครเป็นคนพาคิมออกไปเดินเล่นห้ะ!!” กมลถามเสียงลั่น กิจนิ่งไปนิด ก่อนจะขยับเดินออกมาข้างหน้า

“ผมเองครับ” กิจตอบกลับเสียงจริงจัง

พลั่ก!!

กิจล้มลงไปกองที่พื้นท่ามกลางความตกใจของคิม เนื่องจากกมลตรงเข้าไปต่อยหน้าลูกน้องตนเองเข้าอย่างจัง

“แกพาคิมไปเดินเล่นภาษาอะไรห้ะ!! ชั้นสั่งแล้วไม่ใช่รึไง ว่าห้ามให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องไปเฉียดใกล้เจ้าพวกนั้น!!” กมลตวาดลั่น กิจที่เลือดกลบปากขยับลุกขึ้นยืนพร้อมกับก้มหัวให้กมล

“ขอโทษครับนาย ผมไม่ทันระวังเอง ลงโทษผมได้เลยครับ” กิจพูดบอกออกมาอย่างรับผิดชอบ กมลกำหมัดแน่น ทำท่าจะเข้าไปสั่งสอนลูกน้องตนเอง

หมั่บ!!

“หยุดนะคุณกมล!!” เสียงใสของคิมดังขึ้นพร้อมกับคว้าแขนของกมลเอาไว้ กมลหยุดชะงักหันไปมองหน้าคิมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด คิมรีบเดินไปขวางระหว่างกมลกับกิจทันที

“ห้ามคุณทำอะไรกิจนะ!!” คิมพูดบอกออกมา

“ทำไม” กมลถามเสียงเข้ม พร้อมกับมองเลยไปที่กิจด้วยความไม่พอใจ

“ก็กิจไม่ผิด เรื่องนี้ผมผิดเอง กิจเค้าห้ามผมแล้ว แต่ผมแอบหนีเข้าไปดูเอง เพราะฉะนั้น ถ้าจะลงโทษก็ลงโทษผม แต่อย่าไปลงโทษคนอื่นที่ไม่รู้เรื่อง” คิมว่าออกมาเสียงจริงจัง ทำให้ลูกน้องของกมลต่างมองกันอย่างอึ้งๆ เพราะเวลาที่กมลเกิดอาการโมโหหรือโกรธสุดๆ ไม่ว่าใครก็ห้ามไม่ได้ และไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม

“แต่มันก็ผิดที่ปล่อยให้นายคลาดสายตา” กมลว่าออกมาอีก

“โอ๊ย คุณกมล เลิกโวยวายสักทีเหอะ ผมไม่ได้เป็นอะไรแล้วนี่” คิมพูดว่าออกมาอย่างหงุดหงิด แต่ในใจก็แอบหวั่น คิมคิดว่านี่เป็นเรื่องที่กล้าหาญของตนเอง ที่กล้ามาขวางมาเฟียอย่างกมลในตอนนี้

“หรือต้องรอให้นายเจ็บตัวก่อน ชั้นถึงจะโวยวายได้งั้นเหรอคิม” กมลว่าออกมาอีก ก่อนจะหันไปมองหน้ากิจ

“ทำไมคุณเป็นคนพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้นะ” คิมพูดว่าออกมา กมลหายใจเข้าออกลึกๆเพื่อระงับอารมณ์โกรธในตัว

“ไปให้พ้นหน้าชั้นไอ้กิจ!!” กมลพูดบอกออกมาในที่สุด ลูกน้องของกมลสองคนรีบมาประคองกิจออกไปทันที

“คม แกไปดูเจ้าคลีโม กับเจ้าวิปครีมด้วย” กมลหันมาสั่งคมที่ยืนเงียบอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะดึงแขนลากคิมขึ้นไปชั้นบนด้วยกัน

“ช้าๆสิคุณกมล จะรีบไปไหนห้ะ” คิมก็ได้แต่โวยวายไปตลอดทางขึ้นบันได  กมลพาคิมกลับเข้าไปในห้องอีกครั้ง ตอนแรกที่เขาตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอร่างบางที่นอนกอดก็รีบลุกขึ้นออกมาจากห้องนอนอย่างรวดเร็ว กมลรีบถามหาคิมกับลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก่อนจะได้ความว่าคิมไปเดินสำรวจบ้าน โดยที่มีลูกน้องของกมลติดตามไปด้วย แต่พอลงจากชั้นบนมาเจอป้านี ที่บอกว่าคิมไปเดินเล่นที่สวนหลังบ้าน ลางสังหรณ์แปลกๆของกมลก็เกิดขึ้น เขารีบตรงไปยังที่กรงเสือของตนเองอย่างรวดเร็ว กมลเห็นร่างบางของคิมอยู่ใกล้กับกรงเสือ ตอนนั้นกมลรู้สึกใจหายเพราะน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเพชรฆาตที่กมลเลี้ยงไว้ซ่อนตัวอยู่ตรงไหน และอะไรจะเกิดขึ้นในเวลาต่อมา กมลรีบพุ่งตัวไปกระชากคิมได้ทันเวลาพอดี ความโกรธเกรี้ยวเกิดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว กมลไม่อยากจะนึกภาพถ้าคิมถูกเจ้าเสือร้ายตะปบเข้าอย่างจัง เขาคงไม่ให้อภัยตัวเองแน่นอน

“ทำไมต้องหาเรื่องด้วยห้ะ คิม” กมลถามขึ้นทันที เมื่อพาคิมกลับเข้ามาในห้องนอนของตนเองแล้ว

“หาเรื่องอะไร” คิมถามกลับหน้ามุ่ย

“ก็ที่เดินไปใกล้กรงเสือนั่นไงล่ะ” กมลว่าออกมาอีก คิมเดินไปนั่งที่โซฟาภายในห้องนอน ทำให้กมลต้องเดินตาม

“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะ ว่าเสือของคุณมันจะ…” เมื่อพูดถึงตอนนี้ภาพที่เสือตะปบเท้าออกมาจากกรงก็ผุดขึ้นมาให้เห็นอีกครั้ง คิมหน้าเจื่อนไปนิด

“หึ กลัวล่ะสิ” กมลพูดดักทางขึ้นมา

“เปล่าสักหน่อย ก็แค่ตกใจ” คิมเชิดหน้าพูดขึ้นแต่ในใจก็นึกกลัวอย่างที่กมลพูดบอกออกมาจริงๆ

“มาอยู่บ้านชั้นวันแรก ก็สร้างเรื่องเลยนะ” กมลที่คลายอารมณ์ตนเองได้บ้างแล้ว พูดบอกออกมาด้วยน้ำเสียงที่ลดลงนิดๆ

“งั้นก็พาผมไปส่งบ้านผมสิ ผมจะได้ไม่สร้างเรื่องอะไรอีก” คิมได้ทีหาเรื่องกลับไปอยู่ที่ที่ของตนเอง

“ไม่มีทาง” กมลพูดเสียงเข้มและจริงจัง ก่อนจะเดินปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตไปที่ตู้เสื้อผ้า แล้วถอดเสื้อออก คิมมองแผ่นหลังกว้างอย่างอึ้งๆ เมื่อเห็นรอยสักเต็มแผ่นหลังกว้างของกมล คิมไม่เคยได้เห็นหรือสังเกตเลยว่าร่างแกร่งตรงหน้ามีรอยสักด้วย เหมือนกับมนต์สะกด คิมลุกเดินเข้าไปหากมลทันที พร้อมกับจ้องรอยสักของกมลด้วยความรู้สึกหลงใหลแปลกๆ กมลเองก็รับรู้ว่าคิมมายืนอยู่ด้านหลังของตนเอง

รอยสักของกมล เครดิตในภาพนะคะ

“ทำไมต้องสัก เพราะเป็นมาเฟียเหรอ คุณถึงต้องสัก” คิมถามอย่างข้องใจ

“ใครบัญญัติอีกล่ะ ว่ามาเฟียต้องสักทุกคน ที่ชั้นสักก็เพราะความชอบส่วนตัวล้วนๆ ไม่มีอะไรแอบแฝง สักตั้งแต่อายุ 18” กมลบอกอย่างไม่ใส่ใจ

“นายไม่ชอบงั้นเหรอ” กมลถามกลับ

“เปล่า ผมอยากสักบ้าง” คิมพูดบอกออกมา ทำเอาคมขมวดคิ้วเข้าหากันทันที

“เลิกคิดไปได้เลยเรื่องสัก ชั้นชอบให้นายตัวขาวๆเนียนๆแบบเดิมมากว่านะ ถ้านายอยากให้ตัวของนายมีรอย ชั้นก็ทำให้ได้นะ”  กมลพูดบอกพร้อมกับหันมามองหน้าคมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม  ทำให้คิมรีบถอยห่างร้อนหน้าวูบวาบทันที เพราะรู้ว่ารอยที่กมลบอกคือรอยอะไร

“ลามก” คิมพูดว่าออกมาแต่ไม่กล้าสบตากับกมล

“อาบน้ำด้วยกันมั้ย หืม” กมลแกล้งพูดชวน อารมณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับ

“ไม่!!” คิมตอบกลับทันควัน เรียกเสียงหัวเราะในลำคอของกมลขึ้นมาทันที

“อย่าพึ่งหนีออกไปไหนคนเดียว รอชั้นอาบน้ำแป๊บหนึ่ง อย่าลองดี อย่าขัดใจ ตกลงตามนี้นะคิม” กมลพูดเสียงเข้ม ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ คิมเดินมานั่งที่โซฟาตามเดิม

“ชิส์ งั้นก็ล่ามโซ่ไว้เลยสิ สั่งอยู่ได้” คิมพูดบ่นออกมา แล้วนั่งคิดว่า ถ้าตนเองยอมที่จะอยู่ที่นี่กับกมล ก็คงต้องทำใจยอมรับนิสัยของกมลให้ได้ กมลอาบน้ำสักพักก็เดินนุ่งผ้าขนหนูออกมา

“เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ได้แล้วคิม ชั้นจะพานายลงไปเจอกับทุกคน” กมลพูดบอก คิมก็ยอมลุกหยิบของๆตนเองที่วางอยู่เข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดอะไร

..

..

..

..

“คุณจะพาผมลงมาเจอทุกคนทำไม” คิมถามขึ้นเมื่ออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย แล้วเดินออกมาจากห้องนอนพร้อมกับกมล

“ชั้นก็ต้องแนะนำเจ้านายคนใหม่ให้ทุกคนรู้จักสิ อย่าลืม ว่าชั้นพานายเข้ามาอยู่ที่นี่ ในฐานะเมียของชั้น” กมลบอกออกมาอีก คิมมองคนข้างๆอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมกมลถึงยกตำแหน่งเมียให้กับคิมได้อย่างง่ายดาย ความจริงระดับอย่างกมล คงหาคนรู้ใจได้ไม่ยากเลยสักนิด

รูป คลีโม กับ วิปครีม เสือเบงกอลที่กมลเลี้ยงเอาไว้

2   Be   Con

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนนี้มั่วๆ ป่วงๆ อารมณ์เปลี่ยนไวเกิ๊นนน

ทุกคนคงคิดว่าคิมยอมอยู่ง่ายไปหน่อยใช่มั้ยอ่ะ

ยอนิมไม่อยากให้เรื่องนี้มันโหด แค่อยากให้ SM ในแบบฉบับ ของกมลเท่านั้นเอง

งงมั้ยอ่ะ ฮ่าๆๆๆ

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

ร้ายนักนะ…รักของมาเฟีย!! [Yaoi , Boy’s love]

มาแล้วคร่า สำหรับคู่ใหม่ในนิยาย Yaoi ของ ยอนิม ถ้าใครเคยอ่าน รักโคตรๆ โหดอย่างมึง มาก่อนแล้ว คงรู้ดีว่า “กมล” กับ “คิม” คือใคร ยังไงยอนิมก็ขอฝากเรื่องนี้ไว้อีกเรื่องนะคะ อาจจะไม่สนุกนัก อาจจะซ้ำซาก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset