แต่ก็แค่ยั้งไว้เล็กน้อยนี้แหละก็เกินพอแล้ว
ยอดฝีมือประมือกัน ที่แย่งชิงก็คือวินาทีนี้ ชั่วกระพริบตาเท่านั้น!
เสียง ตูม! ดังขึ้น หยาดน้ำกระเซ็นไปทั่ว เงาร่างสีเขียวพุ่งออกจากผิวน้ำราวประกายกระบี่ กระบี่สั้นคู่หนึ่งในมือฟันใส่เท้าของเยียนหนูอย่างเกรี้ยวกราด
“โอ้ยยย…!” เยียนหนูร้องลั่นไม่เป็นภาษา พริบตานั้นข้อเท้าเลือดอาบ ร่างใหญ่โตเอนไปข้างหน้าอย่างควบคุมมิได้ แล้วหล่นโครมลงในน้ำ
แม้เขาจะสวมเสื้อและกางเกงไหมทอง แต่รองเท้าที่สวมใส่ยังคงเป็นรองเท้าธรรมดาคู่หนึ่ง
ขณะประมือกับเยียนหนูชิวเยี่ยไป๋ก็ยืนยันในข้อนี้แล้ว แต่สะกดใจไว้เพื่อรอนาทีนี้!
แม้เหมยซูจะตัวเบากว่าเยียนหนูอยู่มาก แต่ยามนี้ยังคงถูกเยียนหนูพาหัวทิ่มลงน้ำ
ก่อนสัมผัสกับผิวน้ำ บังเอิญสบตากับชิวเยี่ยไป๋ที่เงยหน้าขึ้น ดวงตาคมกล้าของเขาแลดูชิวเยี่ยไป๋อย่างเย็นชา
เมื่อครู่ที่เจ้าได้รับบาดเจ็บและหมดเรี่ยวแรง เป็นแผนเพื่อทำร้ายข้าหรือ ใช่หรือไม่!
หางตาของชิวเยี่ยไป๋ขยิบอย่างเย้ยหยัน แหงนมองเขาอย่างมิหวั่นเกรง
เป็นดั่งที่เจ้าว่าไว้ การศึกมิหน่ายอุบาย!
พริบตาที่ทั้งสองสบตากันอย่างเกรี้ยวกราด อาวุธในมือก็แทงใส่อีกฝ่ายราวกับนัดกันไว้
โครม!
เหมยซูหล่นลงในน้ำ เขาเติบโตในเจียงหนาน ฝีมือทางน้ำย่อมเหนือกว่าชิวเยี่ยไป๋ แม้แรงน้ำจะเป็นอุปสรรคต่อฝีมือของชิวเยี่ยไป๋อยู่บ้าง แต่พลังการฝึกปรือของนางสูงกว่าเหมยซูไม่น้อย ดังนั้นเหมยซูจะหลบพ้นจากการจู่โจมของนางย่อมมิใช่เรื่องง่าย
พริบตาที่ตกลงน้ำ ทั้งสองประมือกัน กลับไม่มีใครสังเกตถึงกระแสน้ำเบื้องล่างที่เชี่ยวกรากขึ้นทุกที น้ำวนขนาดมหึมาที่มืดมิดกำลังหมุนวนห่างจากทั้งสองไม่มาก และค่อยๆ ดูดเอาทั้งสองเข้าไป
คนบนฝั่งพากันตกตะลึงกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้
ไม่มีใครคิดว่าเป้าหมายกับนายของตนจะตกน้ำพร้อมกัน แถมยังไม่โผล่เหนือผิวน้ำอีก มิทราบว่าสภาพใต้น้ำขณะนี้เป็นอย่างไร
รองพ่อบ้านหลังหายตกตะลึงแล้วก็หน้าเปลี่ยนสี ตวาดสุดเสียง “ลงไป ช่วยนายท่าน ทุกคนลงไปให้หมด ถ้านายท่านเป็นอะไรไป พวกเจ้าอย่าคิดจะมีชีวิตเลย คนในวังไม่ปล่อยพวกเจ้าแน่!”
พวกทหารงงงันแล้วมองหน้ากัน
โจวอวี่กับเหล่าเจอกูก็หน้าซีดเผือด แต่โจวอวี่ยังคงพึมพำปลอบใจตนเอง “ยังดีๆ ทุกอย่างเป็นแผนของใต้เท้า อีกเดี๋ยวคงจับตัวไอ้สารเลวเหมยซูได้!”
แต่เหล่าเจอกูกลับหน้าซีดกว่าธรรมดา “ไม่…ไม่ดีเลย เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าจึงไม่แล่นเรือต่อ เพราะข้างใต้มีถ้ำลึก น้ำไหลไปทางนั้นหมด จนกลายเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ ใครไม่ระวังมีหวังถูกลากเข้าไปลึกกว่าเดิม!”
“อะไรนะ!” พริบตานั้นโจวอวี่มองเหล่าเจอกูอย่างไม่อยากจะเชื่อ กระชากคอเสื้อเขา “เจ้าพูดอีกที!”
“ข้าว่าข้างใต้มีถ้ำใต้น้ำจนเป็นน้ำวนขนาดใหญ่ กลืนกินคนได้!” เหล่าเจอกูละล่ำละลัก
คราวนี้เป็นเรื่องแล้ว เจ้านายของทั้งสองฝ่ายล้วนหล่นลงไป เขาจะเข้าข้างไหนดี
“ถ้ำใต้น้ำ…ถ้ำแถวนี้เกิดขึ้นตอนทำคลองขุด เจ้าว่าถ้ำใต้น้ำนี่เป็นทางระบายน้ำที่พวกคนงานเจาะภูเขาในครานั้นหรือ” เสียงเย็นเยือกนุ่มนวลเสียงหนึ่งจู่ๆ ก็ดังขึ้น
เหล่าเจอกูผงกศีรษะ “ไม่ผิด ขุดในครานั้นเอง เทือกเขาแถวนี้มีถ้ำเช่นนี้ไม่น้อย ต่อมามีการเปิดทำนบใหญ่ที่ต้นน้ำ ถ้ำเหล่านี้จึงท่วมและจมอยู่ใต้น้ำ”
คนผู้นั้นเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามอีกว่า “ถ้าข้าจำไม่ผิด ถ้ำนี้น่าจะทะลุออกนอกภูเขา ถ้าไม่ทะลุน้ำย่อมไม่ไหล กระแสน้ำในถ้ำนี้น่าจะไหลออกไปที่คลองขุดใหญ่ข้างนอกใช่ไหม”
เหล่าเจอกูงงงัน กล่าวอย่างลังเลว่า “อืม ไม่ผิด น้ำไหลนี่…หมายความว่า…”
เขาพลันหยุดลงและจ้องมองคนด้านหลังโจวอวี่อย่างงงงัน ยังคงเป็นผมสีเงินยวง ยังคงเป็นใบหน้าที่งดงาม แต่ดวงตา…
เขายังไม่ทันดูให้ถนัด พลันรู้สึกมีพลังขุมหนึ่งจู่โจมเข้าใส่ พริบตานั้นก็ม้วนเอาตัวเขาลงไปในน้ำ
ได้ยินคนผู้นั้นหัวร่อเบาๆ น้ำเสียงแหบแห้งเล็กน้อย เย็นเยือกไร้อารมณ์ “ซึ่งก็หมายความว่าเจ้าควรไปหาเสี่ยวไป๋ ถ้าไม่มีเสี่ยวไป๋ เจ้าก็ตายไปด้วยแล้วกัน”
พริบตานั้นเหล่าเจอกูกรีดร้องเสียงแหบ มือเท้าสะเปะสะปะ “ว้าก…!”
หลังเสียง ตูม แล้วก็ตกลงในน้ำ พอลงสู่ผิวน้ำเขาก็สยิวกาย ใต้น้ำที่มืดมิดดูเหมือนจะมีพลังมหาศาลขุมหนึ่งดูดเขาเข้าไปในพริบตา
ส่วนโจวอวี่ตะลึงวูบหนึ่ง หันศีรษะมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ แลดูคนด้านหลังกลับเห็นดวงตาสีเงินดำคู่หนึ่ง…ม่านตาสีดำของหยวนเจ๋อที่ขยายตัวจนแทบจะเต็มดวงตา เหลือเพียงรอบข้างเป็นวงสีเงิน งดงามสุดขีดและพิกลจนน่าสะพรึงกลัว
ดูแล้วเหมือนดวงตาของสิ่งไม่มีชีวิตในร่างมนุษย์ เย็นเยียบไร้อารมณ์แม้แต่น้อย สีดำเย็นเยียบนั้นราวกับความมืดไร้ที่สิ้นสุด
บังเอิญอีกฝ่ายกำลังจับจ้องตนเขม็ง
โจวอวี่พรั่นพรึงอย่างไม่รู้สาเหตุ ม่านตาที่ขยายตัวจนไร้แววเช่นนี้เขาเคยเห็นมาก่อน…คนตาย
มีแต่คนตายเท่านั้นนัยน์ตาจึงจะว่างเปล่าและมืดมน
“เจ้า…เจ้าเป็นใครกันแน่!”
เห็นชัดๆ ว่าเป็นหยวนเจ๋อ ซึ่งอยู่ในเสื้อผ้าชุดเดิม แต่โจวอวี่รู้สึกว่าไม่ใช่หยวนเจ๋อเด็ดขาด เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่เป็นเจ้าหลวงจีนโง่งม!
‘หยวนเจ๋อ’ แลดูเขาพลันยิ้ม “คนของเสี่ยวไป๋ดูแล้วงี่เง่าจะตาย เหมือนกับตัวเขาเอง สมน้ำหน้าที่โดนทำร้ายจนทุลักทุเลเช่นนี้”
คำพูดแสนโหดร้ายออกจากปากเขา กลับรู้สึกดึงดูดใจคนอย่างน่าพิศวง
โดยเฉพาะรอยยิ้ม คิ้วคางมุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อยกลายเป็นรอยโค้งอย่างน่าลุ่มหลง ริมฝีปากสีชมพูพลันกลายเป็นแดงสดงดงาม ทำเอาหยวนเจ๋อที่เดิมทีดูแล้วสูงส่งบริสุทธิ์กลายเป็นผู้มีเสน่ห์ชวนหลงใหล
เพียงรอยยิ้มก็แตกต่างกันมากขนาดนี้ ทำเอาโจวอวี่ไม่ได้สติจ้องมองอย่างหลงใหล
เดิมทีเขารู้สึกว่าหยวนเจ๋อที่เผยใบหน้าทั้งใบดูแล้วขัดตา แต่คนเบื้องหน้านี้หรือจะเรียกว่ามารเบื้องหน้านี้ก็ได้ เทียบกันไม่ได้เลย
‘หยวนเจ๋อ’ แลดูเขาพลางกล่าวอ้อยสร้อยว่า “อยากรู้หรือไม่ว่านายของเจ้าปลอดภัยดีไหม”
โจวอวี่ผงกศีรษะตามสัญชาตญาณ แต่พอเขาผงกศีรษะก็เห็นหยวนเจ๋อพยักหน้าอย่างพึงพอใจ และแล้วเขาก็ถูกถีบลงน้ำในพริบตา!
ข้างหูได้ยินเสียงกำชับกำชาอย่างไม่อนาทรลอยเข้ามาประโยคหนึ่ง “เช่นนั้นก็ไปเถิด หาไม่พบ ก็ตายเสีย”
โจวอวี่ตกใจหน้าถอดสี ร้องตะโกนเสียงแหลม “รอเดี๋ยว ข้าว่ายน้ำไม่เป็น…”
Related