ตอนที่ 230 ราชันแห่งเสือดาวในป่าใหญ่ (2) ปลายเท้าลงสู่พื้นแล้ว และการพลิกตัวกลางอากาศก็มิใช่เรื่องง่าย ดังนั้นครั้งนี้นางจึงเร่งลมปราณไม่ทัน และร่วงลงสู่หลุมดำมืดขนาดใหญ่นั้นทันที กลไกซ้อนกลไก นี่จึงเป็นตั๊กแตนจับจักจั่นยังมีนกกระจอกตามหลังอย่างแท้จริง ชิวเยี่ยไป๋เม้มปากอย่างอับจน ดูเหมือนนางจะดูแคลนศัตรูจนเกินไป พริบตาที่นางตกลงไปในหลุม เสียงหัวร่อฮ่าๆ ก็ดังขึ้นกลางอากาศ “ฮ่าๆ จับได้แล้ว!” บ้านที่เดิมทีดูเหมือนบ้านร้าง มิทราบจู่ๆ ก็มีคนชุดเทาหน้าตามอมแมมกลุ่มใหญ่โผล่มาจากที่ใด คนที่เดินนำหน้าผอมซูบ ดวงตาสามเหลี่ยมคู่นั้นมีแววได้ใจ ดูเผินๆ เหมือนหนูตัวใหญ่ เขาเงยหน้าพูดผ่านหน้าต่างชั้นบนอย่างภาคภูมิใจ “ใต้เท้าอี้จ่าง ข้าบอกแล้วว่ากับดักของข้าต้าสู่ไม่มีใครหลบพ้น ต่อให้เป็นใต้เท้าชิวที่พลังฝีมือสะท้านสะเทือนก็ต้องจับตัวได้ ท่านอย่าลืมนะว่าจะเลี้ยงข้ามื้อหนึ่ง” บรรดาคนเสื้อเทากลุ่มใหญ่ที่ตามหลังพากันตะโกนลั่น “จริงด้วย ใต้เท้าอย่าลืมนะ!” เสียงใสของเด็กหญิงล่องลอยมาจากชั้นบน “จริงหรือ พวกเจ้าแน่ใจหรือ” “แน่ใจสิ!” คนผอมซูบรับคำทันที แต่ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเย็นชาหยามหยันดังมาจากหลุม “แม้หลุมพรางจะพิสดาร แต่ทำการไม่รอบคอบ ยังไม่ทันแน่ใจว่าศัตรูติดกับหรือยัง ก็ด่วนขอรางวัลเสียแล้ว ไม่ได้ความเลย!” พวกคนเสื้อเทาสะดุ้ง พริบตานั้นกระจายตัวออกพร้อมกัน ก็เห็นเงาร่างสีเขียวสายหนึ่งพลันโผขึ้นจากหลุมพราง พวกเขาตาลายวูบหนึ่ง ยังไม่ทันมีปฏิกิริยา เงาร่างสีเขียวก็โถมเข้าหาพวกเขาพร้อมกับพลังแหลมคม คนเสื้อเทาที่เรียกตัวเองว่า ‘ต้าสู่’ ปฏิกิริยารวดเร็วที่สุด ร้องเสียงแหลมทันที “แย่แล้ว เหยื่อหนีแล้ว ใช้ฟองน้ำเร็ว!” เขาพูดไม่ทันสิ้นเสียง ก็ถูกชิวเยี่ยไป๋เตะเข้าที่หน้า ‘ต้าสู่’ ถูกนางเตะจนกระเด็นไป ในเวลาเดียวกัน คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ถูกชิวเยี่ยไป๋ถีบเข้าที่ยอดอก กระบวนท่าห่านป่าสยายปีกกวาดบุปผา พริบตาเดียวทุกคนก็ถูกถีบกระเด็นติดผนังอย่างพร้อมเพรียงกัน “โอ้ย!” “เจ็บจะตายแล้ว!” “ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต!” เสียงร่ำร้องขอชีวิตดังระงมไปทั่ว พวกคนเสื้อเทาที่อยู่ข้างหลังเห็นแล้วพากันแตกฮือ แต่พวกเขามิใช่หนีไปเฉยๆ ต่างพากันกลับมาพร้อมด้วยของลักษณะทรงกลมในมือและทุ่มเข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋ พวกเขาย่อมทุ่มไม่โดนชิวเยี่ยไป๋ นางแววตาเย็นเยียบวูบหนึ่ง เตะปลายเท้าออก คิดจะเตะของสิ่งนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าของสิ่งนั้นถึงกับเปราะบางเช่นนี้ พอกระทบถูกก็แตกกราวทันที น้ำในนั้นกระเซ็นใส่ขาและรองเท้าของชิวเยี่ยไป๋ นางตะลึง เดิมทียังตกใจอยู่บ้าง แต่เมื่อแน่ใจว่าของนั้นไม่มีพิษและของพวกนั้นยังถูกทุ่มมาไม่ขาดสาย นางจึงหลบก่อน ปล่อยให้ของพวกนั้นตกอยู่จนเต็มพื้น บรรดาคนเสื้อเทาดูเหมือนจะไม่นำพาว่าทุ่มแม่นยำหรือไม่ และแทบจะไม่ใส่ใจว่าไม่ได้ทุ่มโดนชิวเยี่ยไป๋เลย เอาแต่ทุ่มใส่นางสุดแรงเกิด ชิวเยี่ยไป๋เห็นที่เท้าเปื้อนของเหลวเหนียวๆ ก็ชักโมโห กำลังจะหันกายไปสั่งสอนคนเหล่านั้น แต่พอก้าวเท้าก็พบว่าเป็นเรื่องเสียแล้ว น้ำพวกนั้นพอตกพื้นก็ข้นเหนียวอย่างรวดเร็ว พอนางเหยียบลงพื้นรองเท้าก็เหนียวหนึบ พอยกเท้าก็ยืดออกเหมือนยางเหนียว นางจึงหมดหนทางที่จะกระโจนเข้าใส่อย่างคล่องแคล่วเหมือนเดิม ยิ่งเวลาผ่านไปของพวกนั้นก็ยิ่งเหนียว เดิมทีการเคลื่อนไหวของนางยังคล่องตัวอยู่ แต่พอก้าวไปไม่กี่ก้าวก็พบว่าตนเองช้าลง พวกคนเสื้อเทาย่อมเห็นกับตา คนตัวอ้วนชุดเทาคนหนึ่งตะโกนลั่น “บ่วงบาศ เชือกบาศ เร็ว!” พวกเขาฉวยโอกาสนี้ ไม่รู้ว่าไปเอาบ่วงบาศมาจากไหนพากันขว้างใส่ชิวเยี่ยไป๋ ดูแล้วเหมือนกับพวกเล่นทอยห่วงข้างนอก คิดจะคล้องชิวเยี่ยไป๋ไว้ แม้ชิวเยี่ยไป๋จะชักเท้าไม่สะดวก แต่ท่อนบนของนางยังรวดเร็ว นางบิดตัวหลบบ่วงบาศที่มาจากทุกมุมอย่างคล่องแคล่ว บวกกับท่าฝ่ามือที่แม่นยำ จึงตบเอาบ่วงบาศพวกนั้นลงพื้นจนหมด พวกคนเสื้อเทามองดูการหลบหลีกด้วยท่าทางพิลึกพิลั่นของชิวเยี่ยไป๋จนอ้าปากค้าง มองดูบ่วงบาศของพวกตนที่กองกับพื้นแล้วพลันบันดาลโทสะ เจ้าอ้วนสั่งคนแบก ‘ต้าสู่’ ที่โดนเตะจนสลบ พลางสั่งให้โยนบ่วงบาศใส่ชิวเยี่ยไป๋อย่าได้หยุด พร้อมข่มขู่ว่า “ถ้าใต้เท้ายังไม่ยอมแพ้อีก พวกเราจะใช้เกาทัณฑ์แล้วนะ!” ชิวเยี่ยไป๋หัวร่อ “เอาสิ! มาเลย!” นางมองดูบ่วงบาศที่ติดแน่นกับพื้น ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ การเคลื่อนไหวในมือช้าลงเล็กน้อย บ่วงบาศวงหนึ่งก็คล้องใส่ตัวนางพอดิบพอดี เจ้าคนชุดเทาร่างใหญ่นึกไม่ถึงว่าตนเองจะโชคดีเพียงนี้ งงงันครู่หนึ่งแล้วจึงตะโกนลั่นอย่างดีอกดีใจ “จับได้แล้ว ข้าจับได้แล้ว ขาหมูย่างกับหมูน้ำแดงเป็นของข้านะ!” คนชุดเทาคนอื่นๆ ตะลึงและมีสีหน้าเจ็บปวด “ต้าเฉิน นี่มิใช่โชคของเจ้าคนเดียวนะ พวกเราช่วยกันชัดๆ!” เจ้าอ้วนร่ำร้องอย่างไม่ยินยอม เจ้าตัวใหญ่ที่คล้องชิวเยี่ยไป๋ไว้ได้กำลังจะเถียง พลันรู้สึกว่าเชือกในมือตึงขึ้น เขายังไม่ทันมีปฏิกิริยาก็พบว่าตนเองลอยขึ้นกลางอากาศ เขามองดูก็เห็นชิวเยี่ยไป๋กำลังยิ้มให้ตนราวกับ..ยิ้มให้สายลมแสงจันทร์ แต่ต้าเฉินกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเย็นยะเยียบ “โอ้ย!” เห็นชัดๆ ว่าร่างนั้นกำลังจะกระแทกเข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋ ต้าเฉินหลับตาปี๋ร้องลั่น เกร็งร่างเตรียมพร้อมจะรับความเจ็บปวดจากการปะทะ นาทีนั้นกลับรู้สึกว่าเชือกที่รัดตนไว้สะบัดคราหนึ่ง แล้วตัวเขาก็หล่น โครม ลงกับพื้น “โอ้ย!” เขาร้องลั่นอย่างเจ็บปวด ในเวลาเดียวกัน ชิวเยี่ยไป๋กระชากคนชุดเทาอีกคน แล้วใช้วิธีเดียวกันทุ่มใส่พื้นข้างกายตน โครม ใหญ่ นางพบว่าผลลัพธ์ไม่เลวจึงพยักหน้าอย่างพอใจ ช้อนตาขึ้นมองดูคนเสื้อเทารอบๆ เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย กลุ่มคนเสื้อเทาเห็นคนเบื้องหน้าเผยรอยยิ้มประสงค์ร้ายเช่นนี้ก็กลัวจนสยิวกาย แต่ใจเต้นตึกตักยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เห็นนางก้มลงคว้าเชือกบ่วงบนพื้นที่ยังเปื้อนของเหนียวไม่มากนัก แล้วเดินพลังกระชาก
ตอนที่ 230 ราชันแห่งเสือดาวในป่าใหญ่ (2)
ปลายเท้าลงสู่พื้นแล้ว และการพลิกตัวกลางอากาศก็มิใช่เรื่องง่าย ดังนั้นครั้งนี้นางจึงเร่งลมปราณไม่ทัน และร่วงลงสู่หลุมดำมืดขนาดใหญ่นั้นทันที
กลไกซ้อนกลไก นี่จึงเป็นตั๊กแตนจับจักจั่นยังมีนกกระจอกตามหลังอย่างแท้จริง
ชิวเยี่ยไป๋เม้มปากอย่างอับจน ดูเหมือนนางจะดูแคลนศัตรูจนเกินไป
พริบตาที่นางตกลงไปในหลุม เสียงหัวร่อฮ่าๆ ก็ดังขึ้นกลางอากาศ
“ฮ่าๆ จับได้แล้ว!”
บ้านที่เดิมทีดูเหมือนบ้านร้าง มิทราบจู่ๆ ก็มีคนชุดเทาหน้าตามอมแมมกลุ่มใหญ่โผล่มาจากที่ใด คนที่เดินนำหน้าผอมซูบ ดวงตาสามเหลี่ยมคู่นั้นมีแววได้ใจ ดูเผินๆ เหมือนหนูตัวใหญ่
เขาเงยหน้าพูดผ่านหน้าต่างชั้นบนอย่างภาคภูมิใจ “ใต้เท้าอี้จ่าง ข้าบอกแล้วว่ากับดักของข้าต้าสู่ไม่มีใครหลบพ้น ต่อให้เป็นใต้เท้าชิวที่พลังฝีมือสะท้านสะเทือนก็ต้องจับตัวได้ ท่านอย่าลืมนะว่าจะเลี้ยงข้ามื้อหนึ่ง”
บรรดาคนเสื้อเทากลุ่มใหญ่ที่ตามหลังพากันตะโกนลั่น “จริงด้วย ใต้เท้าอย่าลืมนะ!”
เสียงใสของเด็กหญิงล่องลอยมาจากชั้นบน “จริงหรือ พวกเจ้าแน่ใจหรือ”
“แน่ใจสิ!” คนผอมซูบรับคำทันที
แต่ไม่ทันขาดคำก็ได้ยินเสียงเย็นชาหยามหยันดังมาจากหลุม “แม้หลุมพรางจะพิสดาร แต่ทำการไม่รอบคอบ ยังไม่ทันแน่ใจว่าศัตรูติดกับหรือยัง ก็ด่วนขอรางวัลเสียแล้ว ไม่ได้ความเลย!”
พวกคนเสื้อเทาสะดุ้ง พริบตานั้นกระจายตัวออกพร้อมกัน ก็เห็นเงาร่างสีเขียวสายหนึ่งพลันโผขึ้นจากหลุมพราง
พวกเขาตาลายวูบหนึ่ง ยังไม่ทันมีปฏิกิริยา เงาร่างสีเขียวก็โถมเข้าหาพวกเขาพร้อมกับพลังแหลมคม
คนเสื้อเทาที่เรียกตัวเองว่า ‘ต้าสู่’ ปฏิกิริยารวดเร็วที่สุด ร้องเสียงแหลมทันที “แย่แล้ว เหยื่อหนีแล้ว ใช้ฟองน้ำเร็ว!”
เขาพูดไม่ทันสิ้นเสียง ก็ถูกชิวเยี่ยไป๋เตะเข้าที่หน้า ‘ต้าสู่’ ถูกนางเตะจนกระเด็นไป
ในเวลาเดียวกัน คนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ถูกชิวเยี่ยไป๋ถีบเข้าที่ยอดอก กระบวนท่าห่านป่าสยายปีกกวาดบุปผา พริบตาเดียวทุกคนก็ถูกถีบกระเด็นติดผนังอย่างพร้อมเพรียงกัน
“โอ้ย!”
“เจ็บจะตายแล้ว!”
“ใต้เท้าโปรดไว้ชีวิต!”
เสียงร่ำร้องขอชีวิตดังระงมไปทั่ว
พวกคนเสื้อเทาที่อยู่ข้างหลังเห็นแล้วพากันแตกฮือ แต่พวกเขามิใช่หนีไปเฉยๆ ต่างพากันกลับมาพร้อมด้วยของลักษณะทรงกลมในมือและทุ่มเข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋
พวกเขาย่อมทุ่มไม่โดนชิวเยี่ยไป๋ นางแววตาเย็นเยียบวูบหนึ่ง เตะปลายเท้าออก คิดจะเตะของสิ่งนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าของสิ่งนั้นถึงกับเปราะบางเช่นนี้ พอกระทบถูกก็แตกกราวทันที น้ำในนั้นกระเซ็นใส่ขาและรองเท้าของชิวเยี่ยไป๋
นางตะลึง เดิมทียังตกใจอยู่บ้าง แต่เมื่อแน่ใจว่าของนั้นไม่มีพิษและของพวกนั้นยังถูกทุ่มมาไม่ขาดสาย นางจึงหลบก่อน ปล่อยให้ของพวกนั้นตกอยู่จนเต็มพื้น
บรรดาคนเสื้อเทาดูเหมือนจะไม่นำพาว่าทุ่มแม่นยำหรือไม่ และแทบจะไม่ใส่ใจว่าไม่ได้ทุ่มโดนชิวเยี่ยไป๋เลย เอาแต่ทุ่มใส่นางสุดแรงเกิด
ชิวเยี่ยไป๋เห็นที่เท้าเปื้อนของเหลวเหนียวๆ ก็ชักโมโห กำลังจะหันกายไปสั่งสอนคนเหล่านั้น แต่พอก้าวเท้าก็พบว่าเป็นเรื่องเสียแล้ว
น้ำพวกนั้นพอตกพื้นก็ข้นเหนียวอย่างรวดเร็ว พอนางเหยียบลงพื้นรองเท้าก็เหนียวหนึบ พอยกเท้าก็ยืดออกเหมือนยางเหนียว นางจึงหมดหนทางที่จะกระโจนเข้าใส่อย่างคล่องแคล่วเหมือนเดิม
ยิ่งเวลาผ่านไปของพวกนั้นก็ยิ่งเหนียว เดิมทีการเคลื่อนไหวของนางยังคล่องตัวอยู่ แต่พอก้าวไปไม่กี่ก้าวก็พบว่าตนเองช้าลง
พวกคนเสื้อเทาย่อมเห็นกับตา คนตัวอ้วนชุดเทาคนหนึ่งตะโกนลั่น “บ่วงบาศ เชือกบาศ เร็ว!”
พวกเขาฉวยโอกาสนี้ ไม่รู้ว่าไปเอาบ่วงบาศมาจากไหนพากันขว้างใส่ชิวเยี่ยไป๋ ดูแล้วเหมือนกับพวกเล่นทอยห่วงข้างนอก คิดจะคล้องชิวเยี่ยไป๋ไว้
แม้ชิวเยี่ยไป๋จะชักเท้าไม่สะดวก แต่ท่อนบนของนางยังรวดเร็ว นางบิดตัวหลบบ่วงบาศที่มาจากทุกมุมอย่างคล่องแคล่ว บวกกับท่าฝ่ามือที่แม่นยำ จึงตบเอาบ่วงบาศพวกนั้นลงพื้นจนหมด
พวกคนเสื้อเทามองดูการหลบหลีกด้วยท่าทางพิลึกพิลั่นของชิวเยี่ยไป๋จนอ้าปากค้าง มองดูบ่วงบาศของพวกตนที่กองกับพื้นแล้วพลันบันดาลโทสะ
เจ้าอ้วนสั่งคนแบก ‘ต้าสู่’ ที่โดนเตะจนสลบ พลางสั่งให้โยนบ่วงบาศใส่ชิวเยี่ยไป๋อย่าได้หยุด พร้อมข่มขู่ว่า “ถ้าใต้เท้ายังไม่ยอมแพ้อีก พวกเราจะใช้เกาทัณฑ์แล้วนะ!”
ชิวเยี่ยไป๋หัวร่อ “เอาสิ! มาเลย!”
นางมองดูบ่วงบาศที่ติดแน่นกับพื้น ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ การเคลื่อนไหวในมือช้าลงเล็กน้อย บ่วงบาศวงหนึ่งก็คล้องใส่ตัวนางพอดิบพอดี
เจ้าคนชุดเทาร่างใหญ่นึกไม่ถึงว่าตนเองจะโชคดีเพียงนี้ งงงันครู่หนึ่งแล้วจึงตะโกนลั่นอย่างดีอกดีใจ “จับได้แล้ว ข้าจับได้แล้ว ขาหมูย่างกับหมูน้ำแดงเป็นของข้านะ!”
คนชุดเทาคนอื่นๆ ตะลึงและมีสีหน้าเจ็บปวด
“ต้าเฉิน นี่มิใช่โชคของเจ้าคนเดียวนะ พวกเราช่วยกันชัดๆ!” เจ้าอ้วนร่ำร้องอย่างไม่ยินยอม
เจ้าตัวใหญ่ที่คล้องชิวเยี่ยไป๋ไว้ได้กำลังจะเถียง พลันรู้สึกว่าเชือกในมือตึงขึ้น เขายังไม่ทันมีปฏิกิริยาก็พบว่าตนเองลอยขึ้นกลางอากาศ
เขามองดูก็เห็นชิวเยี่ยไป๋กำลังยิ้มให้ตนราวกับ..ยิ้มให้สายลมแสงจันทร์ แต่ต้าเฉินกลับรู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นเย็นยะเยียบ
“โอ้ย!” เห็นชัดๆ ว่าร่างนั้นกำลังจะกระแทกเข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋ ต้าเฉินหลับตาปี๋ร้องลั่น เกร็งร่างเตรียมพร้อมจะรับความเจ็บปวดจากการปะทะ นาทีนั้นกลับรู้สึกว่าเชือกที่รัดตนไว้สะบัดคราหนึ่ง แล้วตัวเขาก็หล่น โครม ลงกับพื้น
“โอ้ย!” เขาร้องลั่นอย่างเจ็บปวด
ในเวลาเดียวกัน ชิวเยี่ยไป๋กระชากคนชุดเทาอีกคน แล้วใช้วิธีเดียวกันทุ่มใส่พื้นข้างกายตน โครม ใหญ่
นางพบว่าผลลัพธ์ไม่เลวจึงพยักหน้าอย่างพอใจ ช้อนตาขึ้นมองดูคนเสื้อเทารอบๆ เผยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
กลุ่มคนเสื้อเทาเห็นคนเบื้องหน้าเผยรอยยิ้มประสงค์ร้ายเช่นนี้ก็กลัวจนสยิวกาย แต่ใจเต้นตึกตักยังไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะทำอะไร เห็นนางก้มลงคว้าเชือกบ่วงบนพื้นที่ยังเปื้อนของเหนียวไม่มากนัก แล้วเดินพลังกระชาก