ด้านนอกของห้องทำงานเต็มไปด้วยผู้คน แต่ไม่มีใครสนใจจริงๆ พวกเขาแค่มาดูเรื่องตื่นเต้น
“โอ้ ไม่ใช่ว่าหลินเฟยเอ๋อร์แย่งชิงบัลลังก์สำเร็จหรอกนะ? ”
พนักงานหญิงคนหนึ่งปิดปากพูดเสียงเบา แต่เสียงนั้นก็ยังดังจนเธอได้ยินอยู่ดี
ถึงแม้จะไม่มีหลินเฟยเอ๋อร์ เธอและเฉินเป่ยชวนก็ต้องลงเอยเช่นนี้
“ได้ยินมาว่าท่านประธานแล้วงานมาเจ็ดปีกว่าแล้ว ที่แท้อาถรรพ์เจ็ดปีก็มีอยู่จริงน่ะสิ”
“อีกอย่างนะหลินเฟยเอ๋อร์เป็นดาราดังอีกด้วย ถ้าฉันเป็นท่านประธานกคงอยากจะเปลี่ยนรสชาติสักหน่อย”
เสียงแห่งความอิจฉาดังระงม แต่เฉียวชูเฉี่ยนกลับทำเป็นไม่ได้ยิน ปากของคนอื่นเธอไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามไม่ให้เขาพูดนี่นา
คนต้นเรื่องเดินมาถึงที่ชั้นหนึ่ง ชี้นิ้วมายัง MRที่ตอนนี้วุ่นวายจนเกือบจะกลายเป็นตลาดสดไปเสียแล้ว
เฉียวชูเฉี่ยนถือลังกระดาษไว้ในอ้อมแขนของเธอ และกำลังจะแพ้การต่อสู้และจากไปเมื่อเธอเห็นร่างที่คุ้นเคยทั้งสองเดินเข้ามาจากประตู เธอก็รู้สึกหายใจไม่ออก แต่ต้องยอมรับว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีมาก!
“โอ้พระเจ้า ท่านประธานพาหลินเฟยเอ๋อร์มาที่นี่”
ความสับสนวุ่นวายในฝูงชนเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ภาพที่เพิ่งกระจายออกไปเดิมทีพวกเขาคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยท่านประธานจะชะลอเรื่องนี้เพื่อพิจารณา จากนั้นค่อยหาโอกาสที่เหมาะสมเป็นเจ้านายสาวคนใหม่ให้พวกเขา
อย่างไรก็ตามฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งต่างๆ จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประธานมาที่ บริษัทพร้อมกับเจ้านายสาวคนใหม่ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งทันที
ด้านนอกของห้องทำงานเต็มไปด้วยผู้คน แต่ไม่มีใครสนใจจริงๆ พวกเขาแค่มาดูเรื่องตื่นเต้น
“โอ้ ไม่ใช่ว่าหลินเฟยเอ๋อร์แย่งชิงบัลลังก์สำเร็จหรอกนะ? ”
พนักงานหญิงคนหนึ่งปิดปากพูดเสียงเบา แต่เสียงนั้นก็ยังดังจนเธอได้ยินอยู่ดี
ถึงแม้จะไม่มีหลินเฟยเอ๋อร์ เธอและเฉินเป่ยชวนก็ต้องลงเอยเช่นนี้
“ได้ยินมาว่าท่านประธานแล้วงานมาเจ็ดปีกว่าแล้ว ที่แท้อาถรรพ์เจ็ดปีก็มีอยู่จริงน่ะสิ”
“อีกอย่างนะหลินเฟยเอ๋อร์เป็นดาราดังอีกด้วย ถ้าฉันเป็นท่านประธานกคงอยากจะเปลี่ยนรสชาติสักหน่อย”
เสียงแห่งความอิจฉาดังระงม แต่เฉียวชูเฉี่ยนกลับทำเป็นไม่ได้ยิน ปากของคนอื่นเธอไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามไม่ให้เขาพูดนี่นา
คนต้นเรื่องเดินมาถึงที่ชั้นหนึ่ง ชี้นิ้วมายัง MRที่ตอนนี้วุ่นวายจนเกือบจะกลายเป็นตลาดสดไปเสียแล้ว
เฉียวชูเฉี่ยนถือลังกระดาษไว้ในอ้อมแขนของเธอ และกำลังจะแพ้การต่อสู้และจากไปเมื่อเธอเห็นร่างที่คุ้นเคยทั้งสองเดินเข้ามาจากประตู เธอก็รู้สึกหายใจไม่ออก แต่ต้องยอมรับว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีมาก!
“โอ้พระเจ้า ท่านประธานพาหลินเฟยเอ๋อร์มาที่นี่”
ความสับสนวุ่นวายในฝูงชนเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ภาพที่เพิ่งกระจายออกไปเดิมทีพวกเขาคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยท่านประธานจะชะลอเรื่องนี้เพื่อพิจารณา จากนั้นค่อยหาโอกาสที่เหมาะสมเป็นเจ้านายสาวคนใหม่ให้พวกเขา
อย่างไรก็ตามฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งต่างๆ จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประธานมาที่ บริษัทพร้อมกับเจ้านายสาวคนใหม่ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งทันที
หลินเฟยเอ๋อร์เอนกายกอดซบอกเขาด้วยท่าทางเขินอาย แม้ว่าเธอจะรู้ว่านี่เป็นเพียงบทละครที่กำกับโดยเฉินเป่ยชวน แต่เธอก็ไม่ลังเลที่จะเล่นตามบท เพราะเธอเชื่อว่าเมื่อแสดงไปเรื่อยๆ สิทธิ์ของการกำกับการแสดงนี้ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนมาอยู่ในกำมือของเธอ
พระเจ้าให้โอกาสนี้แก่เธอ และเธอจะจับเฉินเป่ยชวนไว้ในแน่นเลยล่ะ
“แน่นอน คุณย่าชอบคุณมากที่สุด”
ริมฝีปากบางยกยิ้มอย่างเอาแต่ใจ แต่สายตากลับมองไปยังผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา ลู่ฉีมารับที่ประตูหน้าบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ จากนั้นเธอจึงมาเก็บของและไปจาก MR และเข้าสู่อ้อมอกของลู่ฉีอย่างรีบร้อน
เมื่อนึกถึงสีหน้าตอนที่เธอเข้าสู้อ้อมกอดของชายอื่น เขากลับไม่สามารถควบคุมความโกรธภายในใจของเขาได้
“เป่ยชวน พวกเราไปที่ห้องทำงานของคุณกันเถอะ ทำไมวันนี้ถึงมีอยู่กันเยอะจัง?”
หลินเฟยเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นอย่างไร้เดียงสา ความโกรธของเฉินเป่ยชวนจึงระงับไว้เพียงเท่านี้ ริมฝีปากที่เซ็กซี่แต่กลับเย็นชายกขึ้นเบาๆ “อืม ไปที่ที่มีเพียงเราสองคนกันเถอะ”
“คนนิสัยไม่ดี มีคนดูอยู่ตั้งมากมายนะ”
เธอยิ้มอย่างเขินอายและปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง กิริยาที่น่ารักน่าเอ็นดูนี้ทำให้ผู้ชายรอบข้างต่างละสายตาไม่ได้
เฉียวชูเฉี่ยนไม่มีพลังที่จะชื่นชมภาพที่สะดุดตาเช่นนี้อีกต่อไปแล้ว เธอเพียงรู้สึกว่าทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเธอสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับว่าโลกอาจจะถล่มลงมาได้ทุกเมื่อ เธอหายใจเข้าลึก ๆ กระชับลังกระดาษในอ้อมแขนตนเอง บังคับให้ตัวเองเงยหน้าและหลังตรง และเดินผ่านคู่รักที่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยกคู่นี้ไป
ด้านนอกของห้องทำงานเต็มไปด้วยผู้คน แต่ไม่มีใครสนใจจริงๆ พวกเขาแค่มาดูเรื่องตื่นเต้น
“โอ้ ไม่ใช่ว่าหลินเฟยเอ๋อร์แย่งชิงบัลลังก์สำเร็จหรอกนะ? ”
พนักงานหญิงคนหนึ่งปิดปากพูดเสียงเบา แต่เสียงนั้นก็ยังดังจนเธอได้ยินอยู่ดี
ถึงแม้จะไม่มีหลินเฟยเอ๋อร์ เธอและเฉินเป่ยชวนก็ต้องลงเอยเช่นนี้
“ได้ยินมาว่าท่านประธานแล้วงานมาเจ็ดปีกว่าแล้ว ที่แท้อาถรรพ์เจ็ดปีก็มีอยู่จริงน่ะสิ”
“อีกอย่างนะหลินเฟยเอ๋อร์เป็นดาราดังอีกด้วย ถ้าฉันเป็นท่านประธานกคงอยากจะเปลี่ยนรสชาติสักหน่อย”
เสียงแห่งความอิจฉาดังระงม แต่เฉียวชูเฉี่ยนกลับทำเป็นไม่ได้ยิน ปากของคนอื่นเธอไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามไม่ให้เขาพูดนี่นา
คนต้นเรื่องเดินมาถึงที่ชั้นหนึ่ง ชี้นิ้วมายัง MRที่ตอนนี้วุ่นวายจนเกือบจะกลายเป็นตลาดสดไปเสียแล้ว
เฉียวชูเฉี่ยนถือลังกระดาษไว้ในอ้อมแขนของเธอ และกำลังจะแพ้การต่อสู้และจากไปเมื่อเธอเห็นร่างที่คุ้นเคยทั้งสองเดินเข้ามาจากประตู เธอก็รู้สึกหายใจไม่ออก แต่ต้องยอมรับว่าสองคนนี้เข้ากันได้ดีมาก!
“โอ้พระเจ้า ท่านประธานพาหลินเฟยเอ๋อร์มาที่นี่”
ความสับสนวุ่นวายในฝูงชนเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ภาพที่เพิ่งกระจายออกไปเดิมทีพวกเขาคิดว่าอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างน้อยท่านประธานจะชะลอเรื่องนี้เพื่อพิจารณา จากนั้นค่อยหาโอกาสที่เหมาะสมเป็นเจ้านายสาวคนใหม่ให้พวกเขา
อย่างไรก็ตามฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าสิ่งต่างๆ จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ประธานมาที่ บริษัทพร้อมกับเจ้านายสาวคนใหม่ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งทันที