ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 105 การสืบสวน

เหยียนสือเซี่ยบังคนที่อยู่ข้างหลังเธอโดยไม่รู้ตัว เหยียนสือเซี่ยมองไปยังหมู่คนตรงหน้าเธอด้วยความรำคาญเล็กน้อย ตอนนี้นักข่าวคงเป็นบ้ากันไปหมดแล้วถึงได้มาเฝ้าอยู่หน้าบ้านของพวกเขาเช่นนี้

“คุณนายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าคุณเฉียว ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณกับประธานเฉินทำไมถึงหย่าร้างกันล่ะคะ? เป็นเพราะการนอกใจหรือเปล่าคะ? ”

“คุณเฉียว ตามข้อมูลที่เราได้รับมาบอกว่าคุณและประธานเฉินเคยหย่าร้างกันเมื่อเจ็ดปีก่อน แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงยังประกาศความสัมพันธ์ว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่ล่ะคะ? คุณเฉียวได้ใช้วิธีการบังคับประธานเฉินให้ประกาศสถานะของคุณทั้งสองหรือเปล่า? ”

ผู้สื่อข่าวต่างผลักกันไปมาเพื่อถามคำถาม แต่ในสายตาของพวกเขากลับมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม ไม่ว่าจะในนิยายหรือในละคร ก็ไม่สามารถขาดฉากแบบนี้ไปได้ หญิงสาวยากจนที่ต้องการความร่ำรวย หน้าด้านทนอยู่ในตระกูลที่สูงส่ง

เธออยู่ในวงล้อมนั้นโดยไม่เอ่ยปากอะไรสักคำ นับตั้งแต่วันนี้ในตอนเช้า โทรทัศน์ทุกช่องก็ประกาศข่าวเธอและเฉินเป่ยชวน ไม่ใช่ข่าวการหย่าร้างของพวกเขาสองคน แต่แม้แต่การหมั้นหมายครั้งใหม่ของเฉินเป่ยชวนพวกเขาก็รู้

“ใครอนุญาตให้พวกคุณถ่ายภาพ แอบถ่ายภาพในพื้นที่ส่วนบุคคลแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายนะ ” เหยียนสือเซี่ยดึงเธอไปด้านหลังพลางเอื้อมมือไปปิดกั้นกล้องเหล่านั้น

“ทนายเหยียน เราไม่ได้บุกเข้าไปในบ้านส่วนตัว ถือว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ย”

นักข่าวชายแถวหน้าชี้ไปที่ตำแหน่งเท้าของเขาอย่างมีชัย ช่างเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาเป็นปาปารัสซี่มาหลายปีแล้ว ถ้าพวกเขาไม่รู้ทันทนายละก็คงทำอาชีพนี้ต่อไปไม่ได้แน่

สำหรับการแอบถ่าย ตราบใดที่มีการถ่ายในพื้นที่สาธารณะก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในการสอดแนมความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

เหยียนสือเซี่ยอึ้ง เธอเรียนมากมายแต่กลับถูกปาปารัสซี่ย้อนคำพูดได้ จนไม่สามารถปกป้องเพื่อนของตัวเองได้ ทำให้เธอรู้สึกหดหู่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ฉันบอกว่าห้ามถ่ายไง ! ”

ความรู้สึกอัปยศอดสูปล่อยให้ความโกรธพลุ่งพล่านและทันใดนั้นกล้อง SLR ที่ราคาแพงของปาปารัสซี่ที่เพิ่งคุยเรื่องกฎหมายกับเธอ ก็ถูกปัดลงพื้นอย่างแรง

เหยียนสือเซี่ยบังคนที่อยู่ข้างหลังเธอโดยไม่รู้ตัว เหยียนสือเซี่ยมองไปยังหมู่คนตรงหน้าเธอด้วยความรำคาญเล็กน้อย ตอนนี้นักข่าวคงเป็นบ้ากันไปหมดแล้วถึงได้มาเฝ้าอยู่หน้าบ้านของพวกเขาเช่นนี้

“คุณนายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าคุณเฉียว ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณกับประธานเฉินทำไมถึงหย่าร้างกันล่ะคะ? เป็นเพราะการนอกใจหรือเปล่าคะ? ”

“คุณเฉียว ตามข้อมูลที่เราได้รับมาบอกว่าคุณและประธานเฉินเคยหย่าร้างกันเมื่อเจ็ดปีก่อน แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงยังประกาศความสัมพันธ์ว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่ล่ะคะ? คุณเฉียวได้ใช้วิธีการบังคับประธานเฉินให้ประกาศสถานะของคุณทั้งสองหรือเปล่า? ”

ผู้สื่อข่าวต่างผลักกันไปมาเพื่อถามคำถาม แต่ในสายตาของพวกเขากลับมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม ไม่ว่าจะในนิยายหรือในละคร ก็ไม่สามารถขาดฉากแบบนี้ไปได้ หญิงสาวยากจนที่ต้องการความร่ำรวย หน้าด้านทนอยู่ในตระกูลที่สูงส่ง

เธออยู่ในวงล้อมนั้นโดยไม่เอ่ยปากอะไรสักคำ นับตั้งแต่วันนี้ในตอนเช้า โทรทัศน์ทุกช่องก็ประกาศข่าวเธอและเฉินเป่ยชวน ไม่ใช่ข่าวการหย่าร้างของพวกเขาสองคน แต่แม้แต่การหมั้นหมายครั้งใหม่ของเฉินเป่ยชวนพวกเขาก็รู้

“ใครอนุญาตให้พวกคุณถ่ายภาพ แอบถ่ายภาพในพื้นที่ส่วนบุคคลแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายนะ ” เหยียนสือเซี่ยดึงเธอไปด้านหลังพลางเอื้อมมือไปปิดกั้นกล้องเหล่านั้น

“ทนายเหยียน เราไม่ได้บุกเข้าไปในบ้านส่วนตัว ถือว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ย”

นักข่าวชายแถวหน้าชี้ไปที่ตำแหน่งเท้าของเขาอย่างมีชัย ช่างเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาเป็นปาปารัสซี่มาหลายปีแล้ว ถ้าพวกเขาไม่รู้ทันทนายละก็คงทำอาชีพนี้ต่อไปไม่ได้แน่

สำหรับการแอบถ่าย ตราบใดที่มีการถ่ายในพื้นที่สาธารณะก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในการสอดแนมความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

เหยียนสือเซี่ยอึ้ง เธอเรียนมากมายแต่กลับถูกปาปารัสซี่ย้อนคำพูดได้ จนไม่สามารถปกป้องเพื่อนของตัวเองได้ ทำให้เธอรู้สึกหดหู่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ฉันบอกว่าห้ามถ่ายไง ! ”

ความรู้สึกอัปยศอดสูปล่อยให้ความโกรธพลุ่งพล่านและทันใดนั้นกล้อง SLR ที่ราคาแพงของปาปารัสซี่ที่เพิ่งคุยเรื่องกฎหมายกับเธอ ก็ถูกปัดลงพื้นอย่างแรง

“งั้นฉันขอรบกวนเธอหน่อยนะ”

“บ้าน่า เพื่อนสนิทมีไว้ทำอะไรล่ะ ก็มีไว้ใช้ตอนจำเป็นยังไงเล่า”

เมื่อได้ฟังเธอก็อดยิ้มไม่ได้ “สือเซี่ย การมีเธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตถือว่าฉันได้ทำบุญมาดีมากในชาติก่อนแน่ๆ ”

“ยัยโง่ ฉันเองก็ไม่มีผู้ายคนไหนที่ต้องทำดีด้วย ก็ต้องทำดีกับเธอน่ะสิ จริงสิ เธอว่าผู้ชายคนที่ฉันทำกล้องเขาพังเมื่อครู่ เขาจะฟ้องฉันจริงไหม? ”

เมื่อคิดว่าทนายเหยียนผู้ซึ่งรักและปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด มีความขัดแย้งทางกับนักข่าวเพื่อปกป้องเธอจนเป็นคนเริ่มลงมือก่อน ” ทำไมเธอถึงทำล่ะ”

“ฉันเสียใจหลังจากทำไปแล้ว แต่ถ้าให้เลือกอีกครั้งฉันก็เลือกที่จะทำมันอยู่ดี คนอะไร เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นสักนิด”

เธอด่าอย่างไม่สบอารมณ์ พลางหมุนพวงมาลัย ช่างมันเถอะ…อยากฟ้องก็ไปฟ้อง กินอิ่มก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ห้องส่วนตัวโซ่วจิน KTV

ควันลอยคละคลุ้ง ร่างของเฉินเป่ยชวนเอนอยู่บนโซฟา ดูโทรมกว่าปกติ

เหยียนสือเซี่ยบังคนที่อยู่ข้างหลังเธอโดยไม่รู้ตัว เหยียนสือเซี่ยมองไปยังหมู่คนตรงหน้าเธอด้วยความรำคาญเล็กน้อย ตอนนี้นักข่าวคงเป็นบ้ากันไปหมดแล้วถึงได้มาเฝ้าอยู่หน้าบ้านของพวกเขาเช่นนี้

“คุณนายเฉิน ไม่สิ ตอนนี้ควรจะเรียกว่าคุณเฉียว ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณกับประธานเฉินทำไมถึงหย่าร้างกันล่ะคะ? เป็นเพราะการนอกใจหรือเปล่าคะ? ”

“คุณเฉียว ตามข้อมูลที่เราได้รับมาบอกว่าคุณและประธานเฉินเคยหย่าร้างกันเมื่อเจ็ดปีก่อน แล้วทำไมก่อนหน้านี้ถึงยังประกาศความสัมพันธ์ว่าเป็นสามีภรรยากันอยู่ล่ะคะ? คุณเฉียวได้ใช้วิธีการบังคับประธานเฉินให้ประกาศสถานะของคุณทั้งสองหรือเปล่า? ”

ผู้สื่อข่าวต่างผลักกันไปมาเพื่อถามคำถาม แต่ในสายตาของพวกเขากลับมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม ไม่ว่าจะในนิยายหรือในละคร ก็ไม่สามารถขาดฉากแบบนี้ไปได้ หญิงสาวยากจนที่ต้องการความร่ำรวย หน้าด้านทนอยู่ในตระกูลที่สูงส่ง

เธออยู่ในวงล้อมนั้นโดยไม่เอ่ยปากอะไรสักคำ นับตั้งแต่วันนี้ในตอนเช้า โทรทัศน์ทุกช่องก็ประกาศข่าวเธอและเฉินเป่ยชวน ไม่ใช่ข่าวการหย่าร้างของพวกเขาสองคน แต่แม้แต่การหมั้นหมายครั้งใหม่ของเฉินเป่ยชวนพวกเขาก็รู้

“ใครอนุญาตให้พวกคุณถ่ายภาพ แอบถ่ายภาพในพื้นที่ส่วนบุคคลแบบนี้ถือว่าผิดกฎหมายนะ ” เหยียนสือเซี่ยดึงเธอไปด้านหลังพลางเอื้อมมือไปปิดกั้นกล้องเหล่านั้น

“ทนายเหยียน เราไม่ได้บุกเข้าไปในบ้านส่วนตัว ถือว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎหมายใดๆ ย”

นักข่าวชายแถวหน้าชี้ไปที่ตำแหน่งเท้าของเขาอย่างมีชัย ช่างเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาเป็นปาปารัสซี่มาหลายปีแล้ว ถ้าพวกเขาไม่รู้ทันทนายละก็คงทำอาชีพนี้ต่อไปไม่ได้แน่

สำหรับการแอบถ่าย ตราบใดที่มีการถ่ายในพื้นที่สาธารณะก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในการสอดแนมความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

เหยียนสือเซี่ยอึ้ง เธอเรียนมากมายแต่กลับถูกปาปารัสซี่ย้อนคำพูดได้ จนไม่สามารถปกป้องเพื่อนของตัวเองได้ ทำให้เธอรู้สึกหดหู่อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ฉันบอกว่าห้ามถ่ายไง ! ”

ความรู้สึกอัปยศอดสูปล่อยให้ความโกรธพลุ่งพล่านและทันใดนั้นกล้อง SLR ที่ราคาแพงของปาปารัสซี่ที่เพิ่งคุยเรื่องกฎหมายกับเธอ ก็ถูกปัดลงพื้นอย่างแรง

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset