ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 16 สัญญาที่ยากลำบาก

ตอนที่เฉินเป่ยชวนเข้ามารับช่วงบริหาร MR เขาต้องรู้เรื่องที่บริษัทมีปัญหากับหมิงลี่จิวเวลรี่จนถึงกับตัดไมตรีกันอยู่แล้ว แต่กลับมอบหมายให้เธอเป็นคนจัดการเรื่องนี้และสั่งให้เธอเจรจาเรื่องเซ็นต์สัญญาให้สำเร็จ แบบนี้มันเป็นการแกล้งเธอชัดๆ เลยไม่ใช่หรือ?

ลินดามองเฉียวชูเฉี่ยนอย่างเห็นใจราวกับรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร “เลขาเฉียว ประธานหลิวแห่งบริษัทหมิงลี่ไม่ใช่คนที่คุยด้วยง่ายนัก ถ้าหากคุณอยากได้รับความร่วมจากพวกเขา อาจจะเป็นไปได้ยากหน่อย…”

เฉียวชูเฉี่ยนที่อ่านข้อมูลของบริษัทหมิงลี่จิวเวลรี่อย่างคร่าวๆ แล้วพยักหน้า รู้สึกเหมือนอยากจะร้องไห้

นี่มันยากมากจนแทบจะเป็นไปไม่ได้!

เฉินเป่ยชวนจงใจสั่งให้เธอจัดการปัญหานี้ให้ได้ภายในห้าวัน

และเส้นตายคือวันพรุ่งนี้

เฉียวชูเฉี่ยนไม่ได้ทำอะไรเลยตลอดทั้งบ่ายนอกจากโทรติดต่อหมิงลี่จิวเวลรี่

แต่เมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าเธอเป็นคนจาก MR ก็รีบวางสายทันที แม้กระทั่งพนักงานรับโทรศัพท์ยังหัวเราะเยาะ “นี่ คุณเพิ่งมาใหม่หรือไง ถึงไม่รู้ว่าบริษัท MR ของพวกคุณกำลังจะล้มละลาย ยังมีหน้ามาขอความร่วมมือจากเราอีกหรือ”

ให้ตายเหอะ!

ไม่ร่วมมือก็ไม่ร่วมมือสิ ถึงกับต้องพูดราวกับว่าเธอเป็นคนโง่แบบนี้ด้วยหรือ?

หลังจากเอนตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างผิดหวังอยู่ครู่หนึ่ง เฉียวชูเฉี่ยนก็เข้าไปในเว็บไซต์ของหมิงลี่จิวเวลรี่แล้วแกล้งทำเป็นลูกค้าเข้าไปคุยกับฝ่ายบริการลูกค้า พูดคุยกันอยู่เกือบครึ่งชั่วโมง ฝ่ายบริการลูกค้าก็ให้เบอร์ติดต่อผู้บริหารของบริษัทหมิงลี่แก่เธอ

ประธานหลิวแห่งบริษัทหมิงลี่เป็นคนที่เป็นมิตร เขาไม่ได้วางสายเมื่อรู้ว่าเธอเป็นพนักงานจากบริษัท MR แค่บอกว่าตอนนี้เครื่องประดับคอลเลคชั่นใหม่ของหมิงลี่ได้นัดผู้ทำโฆษณาไว้แล้ว และช่วงนี้ตัวเขาเองยังไม่มีเวลาว่าง

อย่างไรก็ตามเฉียวชูเฉี่ยนฟังได้ความแล้วว่าพรุ่งนี้เขาจะไปร่วมงานเลี้ยงที่ไหนตอนกี่โมง

เธอรีบบันทึกสถานที่จัดเลี้ยงอย่างรวดเร็ว ยิ้มเล็กน้อยแล้วบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ในเมื่อประธานหลิวไม่ว่าง ดิฉันก็ไม่รบกวนแล้วค่ะ”

การไปหาตัวเขาที่งานเลี้ยงคงไม่เกินความสามารถของเธอนัก!

คืนวันพฤหัสบดีที่โรงแรมจิงเก๋อ

เฉียวชูเฉี่ยนสวมชุดราตรีสีน้ำเงินคอวีที่ทำจากผ้าทูลล์เนื้อดี รูปร่างสูงเพรียว แขนขาเรียวยาวทั้งสองข้างขาวนวลเนียนเปล่งปลั่ง แววตาสุกใสเป็นประกาย ริมฝีปากแดงสดกับรอยยิ้มที่ฉาบอยู่บนใบหน้าที่สวยงามนั้นช่างเข้ากันอย่างเหมาะเจาะ

ดูราวกับเทพธิดาที่มีออร่าสว่างไสวปกคลุมอยู่ทั่วร่างกาย

มือข้างหนึ่งควงเพื่อนชายที่มาด้วยกัน ส่วนมืออีกข้างยกชายกระโปรงไว้ พอเดินเข้าไปในงานเลี้ยงก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้ชายหลายๆ คนทันที

โชคไม่ดีที่เฉินเป่ยชวนอยู่ที่นั่นด้วย!

เขายืนอย่างสงบและดูโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ท่ามกลางผู้คน

เขาเพียงแค่เหลือบมองเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายมาจากทางประตู แววตาที่ไม่แยแสนั้นทำให้เฉียวชูเฉี่ยนทรงตัวแทบไม่อยู่จนเกือบจะล้มลงไป

เขาถอนสายตากลับไปอย่างรวดเร็วและยกแก้วชนกับนักธุรกิจตรงหน้า ทำราวกับว่าการปรากฏตัวของเธอไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญใดๆ

เพื่อนชายที่มาด้วยกันประคองเฉียวชูเฉี่ยนไว้แล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า “เฉี่ยนเฉียน ไม่เป็นไรใช่ไหม”

เฉียวชูเฉี่ยนส่ายหน้า

หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนคนนี้และบัตรเชิญที่เขามีอยู่ เฉียวชูเฉี่ยนอาจจะไม่ได้เข้ามาในงานนี้

เฉียวชูเฉี่ยนพยายามทำใจให้สงบ เธอกวาดตามองไปรอบๆ งานจนพบกับประธานหลิวจากบริษัทหมิงลี่ จึงบอกกับเพื่อนไปว่าจะเดินไปทางนั้นและถือโอกาสหยิบไวน์แดงจากถาดที่บริกรถือมาเสิร์ฟหนึ่งแก้ว

“ท่านประธานหลิว”

หลังจากรอจนประธานหลิวแห่งบริษัทหมิงลี่คุยกับคนอื่นๆ จนจบ เฉียวชูเฉี่ยนก็โปรยยิ้มหวานพลางถือแก้วไวน์เดินไปหา “ได้ยินชื่อเสียงของท่านประธานหลิวมานานแล้ว ไม่นึกว่าจะโชคดีได้พบกันที่นี่”

หลิวหนานแห่งหมิงลี่จิวเวลรี่เป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าๆ เขาแต่งกายดูดีด้วยชุดสูทสีดำ รูปร่างสูงใหญ่และให้ความรู้สึกเป็นมิตร อย่างน้อยก็น่าจะเข้าถึงได้ไม่ยากนัก

แววตาของหลิวหนานฉายแววประหลาดใจเมื่อเขามองเฉียวชูเฉี่ยน “ขอโทษครับ คุณคือ…?”

“คนที่โทรหาท่านสองครั้งเมื่อตอนบ่ายวันนี้ค่ะ”

เฉียวชูเฉี่ยนฉีกยิ้มบางๆ และยื่นมือออกไปทักทายอย่างสุภาพ “ขออนุญาตแนะนำตัวนะคะท่านประธานหลิว ดิฉันเป็นเป็นเลขานุการของท่านประธานจากบริษัท MR ชื่อเฉียวชูเฉี่ยนค่ะ”

ทันใดนั้นหลิวหนานจึงเข้าว่าทำไมเสียงของผู้หญิงคนนี้จึงฟังคุ้นหูนัก

เขายื่นมือมาจับมือของเฉียวชูเฉี่ยน มือบางที่เนียนนุ่มนั้นทำให้แววตาของประธานหลิวเป็นประกายวาบ เขายิ้ม “ต้องขออภัยคุณเฉียวจริงๆ ไม่ใช่ว่าผมตั้งใจจะปฏิเสธคุณ แต่พอดีช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องจัดการหลายอย่าง”

เฉียวชูเฉี่ยนพยักหน้าเพื่อแสดงให้เห็นว่าเธอเข้าใจ “ฉันมาร่วมงานนี้เป็นเพื่อนเพื่อนน่ะค่ะ อยากลองดูว่าพอจะหาคู่ค้าให้บริษัทได้ไหม ไม่คิดเลยว่าท่านประธานหลิวจะอยู่ที่นี่ด้วย”

เฉียวชูเฉี่ยนหยุดไปนิดหนึ่งก่อนจะถามว่า “ตอนนี้ท่านประธานหลิวพอจะสะดวกคุยกับฉันเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจไหมคะ ท่านเป็นมิตรเก่าของ MR แน่ใจได้ว่าหากเราร่วมมือกันครั้งนี้ ทางเราจะไม่ทำให้ท่านเสียผลประโยชน์อย่างแน่นอน”

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset