ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 60 ผู้ชายเฮงซวย

ลูกน้องที่ได้รับบาดเจ็บลุกขึ้นมาหยิบปืนเล็งไปที่เฉินเป่ยชวน

“เป่ยชวน ระวังค่ะ!”

เฉียวชูเฉี่ยนเหมือนหัวใจจะกระเด็นออกมานอกอก เธอคิดจะพุ่งเข้าไป แต่ถูกจับมัดเอาไว้จึงลุกไม่ได้

“สะใภ้เล็กลืมผมไปได้อย่างไรกันครับ?”

จู่ๆ ถังอี้ก็กระโดดเข้ามา เตะขาขึ้นแล้วปัดปืนหลุดจากมือของลูกน้องคนนั้นอย่างว่องไว ทำให้แขนที่บาดเจ็บอยู่เลือดไหลเป็นน้ำ เจ็บปวดจนต้องแยกเขี้ยวออกมา

“นายมาได้อย่างไร?”

เฉินเป่ยชวนโยนพี่เฉิงที่โดนต่อยจนเกือบหมดสติไปไว้ที่ด้านข้าง จากนั้นก็หันหลังไปมอง

ถังอี้ที่กระโดดตามหลังมา

“ในเมื่อจะเล่นทั้งที ทำไมไม่เล่นให้ยิ่งใหญ่ไปด้วยกันล่ะพี่น้อง?” จากนั้นก็ยิ้มหล่อออกมาอย่างชั่วร้าย หากพลาดงานนี้ไป เขาจะไปหาฉากตื่นเต้นเร้าใจขนาดนี้ได้จากที่ไหนอีก

เขาชกลูกน้องคนนั้นจนสลบอย่างคล่องแคล่ว แล้วเล็งปืนไปยังคนขับเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ด้านหน้า “ขับดีๆ ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับรองว่าปืนจะเบี่ยงไปโดนนายหรือไม่นะ”

คนขับเฮลิคอปเตอร์ที่อยู่ด้านหน้าพยักหน้าขาวซีดมาให้ ถังอี้เลิกคิ้วจากนั้นก็หันไปมอง

เหยียนสือเซี่ยที่อยู่ข้างๆ วันนั้นตอนอยู่ในศาลเธอเม้มปากแน่นราวกับมีดเล็กๆ แต่วันนี้ริมฝีปากเธอขาวซีดแฝงความหวาดกลัว ดูไม่ร้ายกาจเหมือนก่อนหน้านี้เลย

“ไฮ คุณทนายคนสวย เราได้เจอกันอีกแล้วนะครับ”

ถังอี้โบกมือทักทายอย่างสง่างาม และเผยรอยยิ้มภาคภูมิใจออกมา เขาจะคอยดูว่าต่อไปผู้หญิงคนนี้ยังจะมาฟ้องร้องคดีกับเขาอีกไหม!

เหยียนสือเซี่ยที่ตกใจจนเซ่อไปเลยจากเหตุการณ์ที่เฉินเป่ยชวนกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ จนกระทั่งเธอได้ยินเสียงอะไรที่ข้างหูถึงคืนสติกลับมาได้ พอเห็นชัดเจนว่าคนที่มาเป็นใครเธอก็เบิกตากว้าง นึกว่าตัวเองมองผิดไป “ทำไมเป็นคุณไปได้ล่ะ?”

ไอ้ผู้ชายเฮงซวย! คนที่กระโดดตามหลังเฉินเป่ยชวนเข้ามาก็คือผู้ชายเฮงซวยคนนี้หรือ?

“เป็นไง ผมดูเท่ระเบิดเป็นพิเศษใช่ไหมครับ? สนใจที่จะพิจารณาคำพูดของผมเมื่อก่อนหน้านี้ดูบ้างไหมครับ?”

ถังอี้ยิงตาใส่ แต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้แม้แต่สมองก็ยังไม่กลับเข้าที่ดีเลย จะไปจำคำที่เขาเคยพูดก่อนหน้านี้ได้อย่างไร

“ช่างเถิด เห็นแก่ที่คุณกำลังตกใจจนเซ่อไปแล้ว รอให้ลงพื้นอย่างปลอดภัยแล้วเราค่อยมาคุยกันใหม่ก็แล้วกันครับ”

ถังอี้เอาแต่จะจีบสาว ส่วนเฉินเป่ยชวนก็เอาแต่มองเฉียวชูเฉี่ยน เมื่อครู่นี้เธอตะโกนเรียกเขาว่า “เป่ยชวน”

พอขาด เฉิน ไปคำหนึ่งกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ประหนึ่งกำลังย้อนเวลากลับไปสมัยเมื่อเจ็ดปีก่อน เธอก็ตะโกนเรียกชื่อเขาอย่างอ้อนแอ้นน่ารักอยู่ในอ้อมกอดเขาเช่นเดียวกัน

เฉียวชูเฉี่ยนมีน้ำตาคลอเบ้า เธอพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลออกมา ตอนที่กระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เมื่อสักครู่นี้ เขาคิดว่าตัวเองกำลังเล่นหนังแอคชั่นหรืออย่างไร จากที่สูงขนาดนั้นถ้าเกิดกระโดดไม่ดีแล้วตกลงไปข้างล่างจะทำอย่างไร?

“คราวหลังอย่าให้ผมรู้ว่าคุณไป KTV อีกนะ”

เห็นอยู่ชัดๆ ว่ามีความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่ข้างใน แต่เฉินเป่ยชวนกลับใช้คำสั่งพูดออกไปอย่างเย็นชาแทน จากนั้นก็จ้องไปที่หน้าเหยียนสือเซี่ยที่กำลังมึนงงอยู่ ถ้าไม่เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้พาเธอไปโซ่วจินจะเจอเรื่องแบบนี้ได้อย่างไรกัน

ถังอี้เบะริมฝีปาก สองคนนี้กำลังเล่นอะไรกันอยู่ คนหนึ่งเห็นๆ อยู่ว่าแอบรักเขา อีกคนก็รักเขาเสียจนไม่เสียดายชีวิต แต่กลับแสร้งทำตัวเย็นชาสูงส่ง เวลานี้ควรจะโอบกอดกันแน่นๆ ควรจะจูบกัน ควรจะทำอะไรๆ แบบนั้นสิ

“ดูท่าต้องรอให้ก้างขวางคออย่างเราสองคนหลบฉากไปก่อน พวกเขาถึงจะ……”

พูดแขวะยังไม่ทันจบดี จู่ๆ เครื่องเฮลิคอปเตอร์ก็สั่นสะเทือน จากนั้นห่ากระสุนก็ลอยมาไม่หยุดหย่อน โดยเฉพาะที่พื้นใต้ฝ่าเท้า เพียงพริบตาก็มีรูกระสุนเจาะทะลุอยู่เป็นจำนวนมาก ดูท่าจะพ้นจุดลี้ภัยไปแล้ว “ทวดมึงสิ เกิดอะไรขึ้น?”

เฉินเป่ยชวนมองลงไปข้างล่าง ก็มองเห็นบริเวณใกล้ๆ ทางวงแหวนมีคนจำนวนหนึ่งกำลังใช้ปืนกลยิงกราดขึ้นมาไม่อย่างหยุดยั้ง

“เป็นพวกที่มารับคนกลุ่มนี้”

พวกมันคงจะเห็นการยิงตอบโต้กันเมื่อสักครู่นี้แล้วและกลัวจะมีลูกน้องถูกจับส่งตำรวจอีก จึงตั้งใจจะฆ่าหมดไม่ให้เหลือไว้สักคน

“แม่-เอ๊ย เป็นฮีโร่ไม่สำเร็จ จะได้เป็นตะแกรงแทนหรือนี่?”

หากยังกราดยิงเช่นนี้ต่อไป อีกไม่นานพวกเขาคงได้เป็นตะแกรงที่มีรูพรุนแน่ๆ

“โดดร่มลงไปเลย”

เฉินเป่ยชวนเปิดช่องเก็บร่มชูชีพ แต่พบอยู่แค่สองชุดเพียงเท่านั้น

“นายกอดเธอกระโดดลงไป”

เฉินเป่ยชวนโยนร่มชูชีพให้ถังอี้โดยไม่ลังเล ส่วนอีกชุดเขากลับสวมให้เฉียวชูเฉี่ยนอย่างลวกๆ

“เฉินเป่ยชวน……”

สายรัดเอย กระดุมเอยที่ดูลายตาเธอล้วนไม่สนใจ สายตาเธอเอาแต่มองไปยังชายที่อยู่ตรงหน้า เธอไม่เคยโดดร่มมาก่อน

“กลัวอะไร มีผมอยู่ทั้งคน”

เสียงพูดของเฉินเป่ยชวนยังชวนให้เหน็บหนาวเหมือนเดิม แต่หากฟังดีๆ จะพบความอ่อนโยนแฝงอยู่ภายใน แม้แต่อากัปกิริยายามติดกระดุมให้เธอก็ยังกระทำอย่างอ่อนละมุน ครั้นแล้วเขาก็ผลักหลังเธอเบาๆ แต่กลับสัมผัสได้ถึงความร้อนระอุที่เหนียวข้น

เขาหรี่ตาลงในชั่วพริบตา ยื่นมือดึงร่างเธอกลับมา เขาพบบาดแผลที่เอวเธออย่างชัดเจน กระโปรงขาดเป็นรูยาว และมีเลือดไหลซิบๆ อยู่

น่าตายนัก!

เขาหันไปหยิบปืนที่อยู่ข้างๆ แล้วยิงใส่พี่เฉิงที่นั่งตัวอ่อนอยู่สองสามนัด ล้วนเป็นตำแหน่งกระดูกข้อต่อทั้งหมด

ถังอี้หัวเราะ เหอะๆ ออกมา เฉินเป่ยชวนขึ้นชื่อว่าเป็นคนใจแคบมาก รังแกผู้หญิงของเขาก็ต้องได้รับการเอาคืนอย่างสาสม

“คุณทนายคนสวย ผมจะกอดคุณกระโดดลงไปแล้วนะครับ คุณว่าถ้าพวกเราลงไปถึงด้านล่างแล้วคุณจะขอบคุณผมอย่างไรดีครับ แต่ถ้าคุณขอบคุณไม่เต็มอิ่ม ผมอาจจะทิ้งคุณไว้กลางอากาศนี่ก็ได้นะครับ”

เหยียนสือเซี่ยกัดฟัน สมเป็นผู้ชายเฮงซวยจริงๆ เวลาอย่างนี้ยังจะหลีสาวอยู่อีก

แต่เมื่อคิดไปด้านล่างที่มีการยิงกราดกันอยู่ เธอจึงเข้าไปโอบคอถังอี้แน่นหนา อย่างมากที่สุดอีกหน่อยก็ไม่ต้องรับเคสเป็นจำเลยหรือโจทก์ของเขาก็สิ้นเรื่อง

“ไม่พูดใช่ไหมครับ ผมมีวิธีทำให้คุณพูดออกมาครับ”

ปากเขายังคงพูดหยอกล้อต่อไป จากนั้นก็โยนตัวกระโดดลงไปโดยไม่บอกกล่าว

เหยียนสือเซี่ยที่ถูกมัดติดกับร่มชูชีพตกใจจนร้องเสียงแหลมออกมา สีหน้าเธอซีดขาวยิ่งกว่ากระดาษ เธอทำได้แค่ยกขาทั้งสองข้างเกาะเอวเขาเอาไว้ให้แน่นๆ เหมือน

หมีโคอาลาตัวหนึ่งที่เอาแต่เกาะตัวถังอี้เอาไว้ไม่ยอมปล่อย

เฉินเป่ยชวนระบายความโกรธในใจจนสาแก่ใจแล้ว ถึงค่อยโค้งตัวมากอดเฉียวชูเฉี่ยนที่ติดร่มชูชีพเอาไว้แล้ว

“อีกสักครู่ตอนกระโดดลงไปกอดผมให้แน่นๆ นะ ไม่อย่างนั้นหล่นลงไปผมไม่รับผิดชอบด้วย”

เพราะสัมผัสถูกตัวเขา ใจเธอจึงเต้นจนยุ่งเหยิงไปหมด เฉินเป่ยชวนกอดเธออย่างเบามือ ยิ่งไปกว่านั้นเขาทำให้เธอลืมอาการเจ็บปวดบริเวณเอวไปเลย เธอไม่รู้จะมองไปทางไหน จึงได้แต่กอดเฉินเป่ยชวนแน่นๆ แต่โดยดี อารมณ์ของตาคนนี้ยิ่งเปลี่ยนแปลงง่ายอยู่ ดีไม่ดีเขาอาจจะทิ้งเธอให้ตกลงไปก็เป็นได้

แต่ทว่าความกลัวในใจกลับถูกทำให้นิ่งสงบด้วยสองมือที่สวมกอดเธออย่างแน่นหนา ราวกับพอมีเขาอยู่ เธอก็ไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวอะไร ร่างกายเธอค่อยๆ ชิดติดหน้าอกที่สะท้อนขึ้นลงของเขา เธอรีบปิดตาเอาไว้ อีกสักพักจะได้ไม่ต้องร้องเสียงแหลมแบบ

เหยียนสือเซี่ย

เฉินเป่ยชวนก้มศีรษะลงไปมองหญิงสาวในอ้อมกอด ริมฝีปากเรียวบางก็ค่อยๆ ยิ้มออกมา จากนั้นเขาก็กระชับวงแขนทั้งสองข้างเพื่อโอบกอดหญิงสาวให้แน่นขึ้นไปอีก ในเวลาเดียวกันหางตาเขาก็มองเห็นลูกน้องที่เคยถูกถังอี้ชกจนสลบกำลังเอาปืนเล็งมาที่พวกเขาจากในมุมมืด เห็นได้ชัดว่าเขาคิดจะยิงไปที่หญิงสาวในอ้อมกอดเขา

ลูกน้องคนนั้นยิ้มแยกเขี้ยวออกมา นังสารเลว กูบอกแล้วว่าจะไม่ปล่อยมึงไป

มันเหนี่ยวไกปืนออกไปในชั่วพริบตา เฉินเป่ยชวนเอียงตัวรับกระสุนโดยไม่ลังเล

ปัง เหมือนจะเป็นเสียงปืน เฉียวชูเฉี่ยนตกใจจนต้องลืมตาขึ้นไปมองในทันใด แต่กลุ่มควันขนาดใหญ่และร่างที่ตกลงไปก็ทำให้เธอลืมตาอ้าปากไม่ขึ้น

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset