แน่นอนว่าการมีเจ้านายที่หล่อเหลาเป็นเรื่องดี แต่มีเจ้านายที่หล่อเหลาอยู่แล้วสิ่งที่พวกเขารู้สึกได้ก็คือพวกเขาไม่สามารถมาสายหรือเลิกงานก่อนเวลาได้ ที่มากกว่านั้นคือไม่สามารถทำอย่างอื่นได้เลยในเวลางาน
“ใครใช้ให้ภรรยาของเจ้านายอยู่ใน MRล่ะ ต่อไปนี้พวกเราต้องเรียนรู้นะ ขนาดท่านประธานอยู่ในใต้อำนาจได้เลย หากพวกเราทำได้บ้างอาจจะบงการลูกคนรวยสักคนก็เป็นได้นะ”
ในห้องน้ำพนักงาน เฉียวชูเฉี่ยนที่นั่งอยู่บนฝาชักโครกนั่งฟังเพื่อนร่วมงานนิทากันอย่างอึดอัด เธอควบคุมเฉินเป่ยชวนงั้นเหรอ?
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าเฉินเป่ยชวนผู้ชายที่ขาดเพื่อน เพียงแค่ชอบนัดเธอไปกินข้าวด้วยกันเท่านั้น
“แต่ว่านะ อย่าลืมว่ายังมีคนสวยหลินอีกคน”
การสนทนาข้างนอกดังขึ้นอีกครั้งเฉียวชูเฉี่ยน ความฝันอันแสนหวานของเธอพังทลายลง ใช่สิ เธอลืมไปเลยว่ายังมีหลินเฟยเอ๋อร์อีกคนหนึ่ง
หลังจากเสียงเปิดประตูดังขึ้น เสียงพูดคุยก็ไกลออกไปเรื่อยๆ เธอกดชักโครกแล้วเดินออกมามองดูตัวเองในกระจก ระหว่างเธอกับเฉินเป่ยชวน ไม่ใช่มีเพียงปมรักเก่าเมื่อเจ็ดปีก่อน แต่ทว่ายังมีผู้หญิงอีกมากมาย
ถึงแม้ว่าไม่อยากจะอารมณ์เสียเพราะบทสนทนาเมื่อครู่ แต่เธอก็ไม่สามารถอารมณ์ดีขึ้นได้ เมื่อตัดสินใจจะกลับไปยังห้องทำงานเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเองแต่เธอกลับโดนลินดาเรียกไว้
“เฉี่ยนเฉียน”
“มีอะไร?” เธอชะงักฝีเท้า สงสัยว่าทำไมสีหน้าของลินดาถึงดูแปลก ๆ
“คุณอย่าเพิ่งกลับไปที่ห้องทำงานในตอนนี้เลยค่ะ”
ลินดาเตือนว่า “เมื่อครู่หลินเฟยเอ๋อร์เพิ่งมาถึง ตอนนี้อยู่ในห้องทำงานของท่านประธานเฉิน”
ในช่วงหลายวันนี้เธอรู้สึกได้ถึงบรรยากาศสีชมพูระหว่างเจ้านายกับเลขาเฉียว แต่เธอไม่คิดว่าหลินเฟยเอ๋อร์จะมาที่นี่ด้วยท่าทางที่ไม่น่าเชื่อ
เหลือบมองไปที่ห้องทำงานที่กำลังปิดอยู่เฉินเป่ยชวน เหมือนตรงหน้ากลายเป็นฉากหนึ่งที่เคยเห็นมาก่อน หลินเฟยเอ๋อร์กับเฉินเป่ยชวนอยู่ข้างในนั้น พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่?
เธอกลับไปที่ห้องทำงานโดยไม่ฟังคำแนะนำของลินดา เธอมองผ่านกระจกใสเห็นภาพหลินเฟยเอ๋อร์กอดเฉินเป่ยชวนจากด้านหลัง
ในห้องทำงาน เฉินเป่ยชวนขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ แต่มือของหลินเฟยเอ๋อร์ก็โอบรอบเอวของเขาไว้แน่น แม้ว่าเขาต้องการจะดึงเธอออกไป แต่เขาก็ยังคงอดทนด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ
“เป่ยชวนฉันไม่อยากเลิกกับคุณ คุณบอกว่าคุณชอบที่จะอยู่กับฉัน” หลินเฟยเอ๋อร์ตีหน้าเศร้า พูดอย่างอ่อนแรงและวิงวอนต่อหน้าเขา
“นั่นเป็นเพราะผมรู้ว่าคุณต้องการอะไร” เมื่อคำพูดเย็นชาออกมาจากริมฝีปากบางของเขาในมือมีเช็กสิบล้าน ตัวเลขบนนั้นทำให้หลินเฟยเอ๋อร์ใจสั่น แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ขอเพียงแค่เธอได้อยู่ข้างกายของเฉินเป่ยชวน อย่าพูดถึงเงินสิบล้านเลย เงินหนึ่งพันล้านเธอก็สามารถเอามาได้
“เป่ยชวนฉันไม่ต้องการเช็กนี้ ฉันรักคุณจริงๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นคุณ ฉันตกหลุมรักคุณเพื่อที่จะอยู่ข้างกายคุณ ฉันพยายามแสดงทุกบาท ที่ฉันไม่เป็นข่าวอื้อฉาวก็เพราะฉันรักคุณจริงๆ”
เธอยอมรับว่าความสัมพันธ์ของเธอและเขามีอะไรบางอย่าง แต่ความรู้สึกที่เธอมีนั้นเธอรู้สึกจริงๆ ผู้ชายแบบนี้ถึงจะเป็นผู้ชายที่เธออยากได้ เธอ…หลินเฟยเอ๋อร์จะต้องอยู่ข้างกายผู้ชายที่ดีที่สุดแบบนี้เท่านั้น
เฉินเป่ยชวนหัวเราะเยาะเสียงดัง “คุณแสดงเยอะเกินไปหน่อยนะ”
ด้วยทักษะการแสดงที่เยี่ยมยอดเช่นนี้จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ชื่อเสียงในการคว้ารางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในช่วงสองปีที่ผ่านมา
จากนั้นร่างของเขาแข็งขืนเล็กน้อย เขาต้องการจะผละออกไปจริงๆ
เฉียวชูเฉี่ยน…ในหัวของเธอนึกถึงคนคนนี้ ใช่แล้ว หล่อนนี่เอง ที่เฉินเป่ยชวนเป็นแบบนี้ก็เพราะผู้หญิงคนนั้น หากไม่ใช่เพราะหล่อนปรากฏตัวขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน เธอก็จะยังเป็นคนที่ผู้หญิงทุกคนต้องอิจฉา
“เป็นเพราะเฉียวชูเฉี่ยนหรือเปล่า ฉันไม่ต้องการสถานะใด ๆ ”
ร่างเพรียวสั่นเทา เสียงหายใจหอบดังขึ้นเบาๆ ตำแหน่งข้างกายของเฉินเป่ยชวนเธอนั้นต้องการ ชื่อเสียงก็ต้องการเช่นกัน แต่ตอนนี้เธอต้องแน่ใจก่อนว่าจะได้อยู่ข้างกายเขาจริงๆ
เฉียวชูเฉี่ยนมองคนทั้งสองที่กอดกันในห้องทำงาน ดวงตาของเธอสั่นสะท้านด้วยความโกรธ
เขาไม่เต็มใจที่จะผลักผู้หญิงคนนั้นออกไป
เฉียวชูเฉี่ยนอดทนดูต่อไปไม่ได้จึงผละออกจากตรงนั้น ลินดาเห็นว่าเธอสีหน้าไม่ค่อยดีนัก อยากพูดปลอบเธอสักสองสามประโยค แต่เธอกลับชิงเอ่ยปากก่อนว่า “ลินดาฉันมีธุระ ต้องอออกไปก่อน คุณช่วยฉันดูหน่อย”
“เฉี่ยนเฉียน คุณสบายดีไหม?”
“ไม่เป็นไร”
ไม่สนใจว่ารอบยิ้มที่ยิ้มออกไปนั้นจะน่าเกลียดหรือไม่ เธอเดินเข้าไปในลิฟต์ เธอกับเฉินเป่ยชวนในตอนนี้หย่าร้างกันแล้ว ไม่ว่าเขาจะทำอะไร เธอก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรเขาได้
แต่ทำไมใจมันหดหู่และอึดอัดเหลือเกิน
“ถ้าคุณคิดว่าจำนวนเงินของเช็กนี้ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด ฉันสามารถเพิ่มศูนย์ในตัวเลขให้ได้อีก แต่ฉันต้องเตือนคุณว่านี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่คุณจะเลือก ถ้าคุณไม่ยอมรับฉันก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายได้อยู่ดี ฉันคิดว่าคุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดและคุณควรรู้ว่าทางเลือกใดเป็นประโยชน์ต่อคุณมากกว่า ”
เขาดึงมือรอบเอวของเขาออกไป เขาหันไปมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างรังเกียจเล็กน้อยและเติมเลขศูนย์ในเช็ก ตอนนี้มีมูลค่าถึง 100 ล้านแล้ว
หลินเฟยเอ๋อร์มองเช็กที่ส่งให้เธอ เลขศูนย์เป็นสิ่งที่เธอต้องการมาโดยตลอด จะไม่ล่อใจได้อย่างไร คราวนี้ไม่ใช่สิบล้าน แต่เป็น 100 ล้าน
“ถ้าฉันไม่ยอมรับเช็คนี้คุณจะทำอะไรกับฉัน”
เธอควบคุมความอยากได้พลางเงยหน้าขึ้นมองอย่างน่าสงสาร ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธออยู่ใกล้ ๆ กับ เฉินเป่ยชวน และเข้าใจอารมณ์ของเขาบ้างแล้ว ในเมื่อเขาพูดแบบนั้นออกมาแล้ว เขาก็จะทำแน่นอน เพียงแค่คิดถึงวิธีที่เขาจะทำ เธอก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย
“ด้วยความสามารถของฉัน มันไม่น่าจะยากสำหรับคุณที่จะหายตัวไปในเมืองซั่นเป่ย
น่าจะไม่ยากหรอกนะ? เป็นยังไงล่ะ เลือกได้หรือยัง? ”
สีหน้าของเฉินเป่ยชวนสงบนิ่ง ทำให้ผู้หญิงตรงหน้าไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ ความเย็นชาของเขาเหมือนกับมีด ที่พร้อมจะเชือดผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา
“คุณก็รู้ว่าฉันรักคุณจริงๆ”
น้ำตาที่พร่ามัวหยดลงมาจากมุมตา แต่กลับแลกมาด้วยรอยยิ้มมุมปากของเขา บนโลกใบนี้มีหัวใจมากมาย แต่ใจที่แท้จริงกลับมีไม่กี่ดวง
“จะรับเช็คหรือจะให้ฉันส่งคุณไป? ”
ดวงตาที่เย็นชามองไปที่ใบหน้าของหลินเฟยเอ๋อร์อีกครั้งด้วยความเย็นชาและไร้ความปรานี
“ตกลง ฉันตกลงที่จะเลิกกัน แต่โปรดเชื่อว่าฉันรักคุณจริงๆ ”
หลังจากได้รับเช็คจำนวนมากมายเธอค่อยๆ เช็ดน้ำตาออกจากมุมตาของเธอราวกับเป็นผู้หญิงน่าสงสารที่ถูกบังคับให้เลือก เฉินเป่ยชวนมองเธออย่างเฉยเมย ความรักที่แท้จริงแบบนี้ไม่ได้หายากสำหรับเขา