ลาก่อน คุณสามี – ตอนที่ 84 ค่าเลิกรา

“ไม่งั้นผมไม่มีทางเซ็นเช็กหนึ่งร้อยล้านแน่ๆ ”

เมื่อนึกถึงเลขศูนย์หลายตัวที่ลอยไปลอยมาต่อหน้าเธอนั้น ก็นึกถึงรอยเยิ้มเย้ยหยันของหลินเฟยเอ๋อร์ และรู้สึกสั่นสะท้านในหัวใจ

“ถ้าฉันบอกว่าเงินหนึ่งร้อยล้านนั่นจะทำให้เธอหายไปจากชีวิตผม คุณจะเชื่อไหม”

“คุณกำลังพูดถึงอะไร? ”

เฉียวชูเฉี่ยนผงะกับสิ่งที่เขาพูด หายไปจากชีวิตเขา…หมายความว่ายังไง?

“หลินเฟยเอ๋อร์ต้องการเงินจากฉัน สิ่งที่ฉันให้ได้คือเงิน แต่นับจากตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แม้แต่เงินก็จะไม่ให้แล้ว”

มองไปที่ดวงตาของเธอด้วยสายตาที่มั่นคง ตั้งแต่วันนี้ต่อไปผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ เขาจะเป็นเฉียวชูเฉี่ยนคนเดียว เพียงคนเดียวเท่านั้น

“คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้” ยังไงซะพวกเขาก็ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว

“อะไรที่เรียกว่าไม่จำเป็น? ”

เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาไม่ชอบฟัง เฉินเป่ยชวนก็ขมวดคิ้วพลางกดร่างลงไปอีก

“คุณจะทำอะไรน่ะ? ”

เมื่อมองดูชายตรงหน้าอย่างระมัดระวัง จมูกของเธอยังได้กลิ่นน้ำหอมของหลินเฟยเอ๋อร์บนร่างของเขาเบาๆ

“เฉียวชูเฉี่ยน คุณเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถทำให้ผมหลงใหลได้”

แม้ว่าร่างกายและรูปลักษณ์ของผู้หญิงคนนี้จะดูธรรมดา แต่กลับทำให้คนลืมไม่ลง

“… ”

ราวกับโดนดึงดูดอย่างไม่รู้ตัว เธอตะลึงงันเมื่อพบว่าจมูกของเธออยู่ใกล้กับเขาเป็นอย่างมาก เมื่อครู่เฉินเป่ยชวนพูดถึงอะไร เขาพูดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถทำให้เขาหลงใหลได้งั้นเหรอ?

“บางทีฉันอาจจะติดใจเธอเมื่อนานมาแล้ว”

เธอรู้สึกขบขัน สาเหตุที่เขาตกลงแต่งงานกับเธอเมื่อแปดปีก่อนไม่ใช่เพราะการแต่งงานทางธุรกิจ แต่เป็นเพราะผู้หญิงที่รีบมาหาเธอเพื่อแนะนำตัวทำให้เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น 

“เฉินเป่ยชวน คุณเวียนหิวเพราะหิวหรือเปล่า? ”

เขาอาจจะพูดเรื่องไร้สาระตอนที่เขาหิว ไม่งั้นเขาที่เย็นชาและหยิ่งผยองมาตลอดจะพูดแบบนี้ได้อย่างไร ต่อให้พวกเขาเพิ่งแต่งงานกันเขาก็ไม่เคยพูดแบบนี้

“ผมเองก็คิดว่าตัวเองหิวจนเวียนหัวเหมือนกัน”

ทันใดนั้นจึงประทับริมฝีปากที่ที่ริมฝีปากของเธอเบาๆ แต่อ่อนโยน

“เฉินเป่ยฉวน …”

จังหวะที่เธอหายใจนั้นจึงรีบผลักเขาออกไป แต่เขากลับอุ้มเธอขึ้นและพาไปยังมุมพักผ่อน

พระเจ้า หรือว่าเขาจะ …

ลินดานั่งกังวลอยู่ที่เดิมเป็นเวลานาน กลัวว่าเจ้านายจะโกรธมาก สองชั่วโมงต่อมา เฉียวชูเฉี่ยนถึงจะเดินออกมาจากห้อง

“คุณโอเคไหมคะ? ”

“ฉันโอเคค่ะฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”

“… ”

ลินดารู้สึกงุนงงเล็กน้อย แต่แล้วเมื่อเธอเห็นรอยยับบนกระโปรง เธอก็รู้ทันทีว่าเมื่อครู่พวกเขาทำอะไรกันด้านใน …

ช่วงบ่ายที่เดิมทีคิดว่ายากจะผ่านไป แต่ดูเหมือนว่าเวลาจะถูกขโมยไปในพริบตาก็ถึงเวลาเลิกงาน เฉียวชูเฉี่ยนปิดคอมพิวเตอร์แต่ประตูห้องทำงานถูกดันเปิดออกด้วยมือเรียวยาว

“กลับบ้านกัน”

เฉินเป่ยชวนที่ยืนอยู่หน้าประตูทำให้เธอหน้าแดงด้วยคำง่ายๆ เพียงไม่กี่คำและเธอรู้สึกอึดอัดที่จะคิดถึงสิ่งที่เธอทำในห้องทำงานเมื่อตอนเที่ยง

……

“แม่กลับมาแล้ว”

ทันทีที่เปิดประตู เจ้าตัวน้อยก็วิ่งเข้ามาทันทีด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข

“มีความสุขจังเลยนะ คุณย่าซื้อของเล่นใหม่ให้หนูอีกแล้วเหรอ?”

“อย่าใส่ร้ายคนแก่สิ จิ่งเหยียนมีข่าวดีจะประกาศ”

ท่านผู้หญิงรีบแก้ตัว ยายหนู อะไรนิดหน่อยก็สงสัยตนเอง ให้ตายเถอะ

“ข่าวดีอะไรคะ? ”

เมื่อได้ยินคำว่าข่าวดี สีหน้าของเธอก็สดใสขึ้นทันใด

“ผมสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นของการสอบกลางภาคครับ”

เจ้าตัวน้อยหยิบใบผลสอบขึ้นมาพลางพูด

“ที่หนึ่งของรุ่นเหรอ? ไม่เลวนี่ เจ้าเด็กเหลือขอ”

เฉินเป่ยชวนอดไม่ได้ที่จะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อก่อนสมัยที่เขาเรียน ไม่เคยสอบได้ที่หนึ่งของรุ่นเลยแม้เพียงครั้งเดียว

“แน่นอนอยู่แล้วครับ”

ในขณะที่กำลังดีใจอยู่นั้น เจ้าเด็กน้อยที่ถูกเรียกขานว่าเจ้าเด็กเหลือขอกลับไม่ได้งอแงอะไร แต่กลับเงยหน้าด้วยความภาคภูมิใจ ใบหน้าเล็กนั้นคล้ายคลึงกับเฉินเป่ยชวนที่ยืนอยู่ด้านข้างราวกับแกะสลักออกมา เฉียวชูเฉี่ยนเมมริมฝีปาก รออีกไม่นาน เธอจะบอกความจริงเกี่ยวกับตัวตนของจิ่งเหียนให้เฉินเป่ยชวนฟัง

พวกเขาในเมื่อก่อนยังเด็กและหุนหันพลันแล่นและความเข้าใจผิดบางอย่างไม่เคยได้รับการแก้ไขมาก่อนที่จะตัดสินใจเลือก เจ็ดปีผ่านไปและพวกเขาก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว

“ผมอิจฉาพี่ชายของผมจริงๆ ที่มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ผมอยากแต่งงานและมีลูกเร็ว ๆ เลย”

เฉินจิ้นถงมองไปที่พ่อแม่ลูกสามคนที่ประตูและมุมริมฝีปากของเขายกขึ้นเบา ๆ

“ถ้าอย่างนั้นแกก็รีบสิ แกเองก็กลับมาเกินครึ่งเดือนแล้ว หรืออยากจะให้ย่าจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ถึงเวลานั้นแกก็เลือกหญิงสาวสักคนในงาน ไม่แน่นะอาจจะมีคนที่ถูกใจแกก็ได้”

ท่านผู้หญิงพูดด้วยสีหน้าที่ยินดี และพูดต่ออย่างอารมณ์ดีว่า “จริงสิ แกไม่รู้สินะว่าสังคมเราทั้งสาวสวยการศึกษาดีมากมายขนาดไหน”

หากสามารถหาคู่แต่งงานที่ดีให้กับจิ้นถงได้ เช่นนั้นในอนาคตก็จะมีการสนับสนุนที่ดี เมื่อถึงเวลาที่ต้องแย่งชิงทรัพย์สมบัติมรดกกับเฉินเป่ยชวน ก็ถึงว่าได้เปรียบ

“แม่ แม่คิดว่าการมีภรรยามันเป็นเรื่องง่ายเหรอครับ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องของโชคชะตา ผมเองก็ไม่ได้มีข้อเรียกร้องอะไรมากมาย ขอแค่แบบพี่สะใภ้ก็พอครับ”

หลังจากที่เฉินจิ้นถงพูดจบ เขาก็ไม่ลืมที่จะยิ้มให้เฉียวชูเฉี่ยนอย่างอ่อนโยน ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกพูดไม่ออก เกิดอะไรขึ้น หรือวันนี้เธอทำงานหนักเกินไปจึงคิดเพ้อเจ้อไร้สาระ?

“จิ้นถง แม่ต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแกสิ”

รอยยิ้มบนริมฝีปากของเว่ยชูหรงหุบลงเล็กน้อย แต่หัวใจของเธอกลับสั่นสะท้าน เจ้าเด็กบ้านี่ เจ็ดปีที่ผ่านมาเธอไม่ได้คิดอะไรมาก ยังไงซะลูกชายของเธอคงไม่ตาต่ำ แต่ไม่คิดว่าเขาจะ ……

เฉียวชูเฉี่ยนคิดว่างานเลี้ยงต้อนรับเป็นเพียงการพูดถึงแบบสบาย ๆ ของคุณย่า ไม่ได้คาดหวังว่าเว่ยชูหรงจะเตรียมจัดงานเลี้ยงขึ้นจริงๆ และแขกร่วมงานก็มีแต่คนรวยๆ

“ฉันคิดว่าจิ่งเหยียนกับฉันไม่ควรเข้าร่วมในงานแบบนี้ค่ะ”

แม้ว่าจะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้เกี่ยวกับการหย่าร้างระหว่างเธอกับเฉินเป่ยชวน แต่บนโลกนี้ไม่มีความลับใดๆ ถ้าหากมีคนรู้จะยิ่งทำให้รู้สึกอึดอัดใจ และที่สำคัญเธอยิ่งไม่เต็มใจที่จะให้จิ่งเหยียนเผชิญกับสภาพแวดล้อมเช่นนี้ตั้งแต่เขายังเด็ก

” ถ้าคุณไม่เข้าร่วมงานในฐานะผู้หญิงของผมละก็อาจจะมีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพันมาแย่งผมไปนะ”

เฉินเป่ยชวนพลิกดูหนังสือในมือ พลางเหลือบมองเธออย่างสนุกสนานและบอกเธอว่าเธอจะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงในวันพรุ่งนี้

“… ”

เมื่อโดนข่มขู่เช่นนี้ ทำให้เธอถึงกับพูดอะไรไม่ออก ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงคิดเองเออเองเช่นนี้นะ

ลาก่อน คุณสามี

ลาก่อน คุณสามี

ความทรงจำของปลาอยู่ได้แค่ 7 วินาที แต่ฉันกลับรักคุณมาถึง 7 ปี ……………..เฉียวชูเฉี่ยน เฉียวชูเฉี่ยนไม่คิดเลยว่าวันแรกที่เธอมาถึงประเทศจีน เธอจะได้พบกับอดีตสามีของเธอ……….เฉินเป่ยชวน มีข่าวลือมาว่า เจ้าของกิจการสถานบันเทิงอย่างเฉินเป่ยชวน เป็นคนที่มีนิสัยแปลกๆ และไม่สนใจผู้หญิง แต่กลับไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยแต่งงานและเคยหย่ามาก่อน ซ้ำยังมีลูกแล้วอีกด้วย “ใคร” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็งในขั่วโลกเหนือ “เป็น…….เป็นลูกของฉันเอง” “อ่อ ถ้างั้นคุณเลขาเฉียวสาธิตผมหน่อยสิว่าทำยังไง” เขาหยุดคำพูดของเขา และก้าวเข้าไปหาเธอ ทำให้เธอไปไหนไม่ได้ดวงตาของชายหนุ่มมืดลงทันที คุณลุงลู่ฉีเหรอ? “………” เธอ ซวย แล้ว! เฉียวชูเฉี่ยน เด็กน้อยเฉียวจิ่งเหยียนไม่ทำตาม และเข้าไปกัดต้นขาของเขา “ปล่อยหม่ามี๊ของผมนะ ผมเป็นลูกของหม่ามี๊และคุณลุงลู่ฉี ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset