บทที่ 2276 อย่าลากข้า ข้าจะไปกับเจ้า
หมาป่าน้อยมองเธอด้วยดวงตาสุกสกาวราวกับกับทับทิม พลันอ้าปากคาบชายกระโปรงกู้ซีจิ่ว พยายามลากออกไปด้านนอกสุดชีวิต คล้ายว่าอยากจะลากเธอไปที่ไหนสักแห่ง
กู้ซีจิ่วพลันฉุกใจขึ้นมา ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
“เจ้าอยากลากข้าไปไหน?”
หมาป่าครางหงิงๆ สองครา พยายามลากเธอเธอต่อไป
กู้ซีจิ่วนวดหว่างคิ้ว
“ก็ได้ๆ อย่าลากข้า ข้าจะไปกับเจ้า”
หรือว่าเจ้าตัวเล็กอยากขอร้องให้เธอไปช่วยญาติมิตร?
งั้นวันนี้เธอจะมีเมตตาสักหน่อยแล้วกัน ใครใช้เธอเธอถูกชะตากับเจ้าตัวเล็กนี่กันล่ะ
หมาป่าน้อยเข้าใจภาษามนุษย์ เมื่อได้ยินวาจากู้ซีจิ่ว มันก็หันหลังออกวิ่งทันที วิ่งไปด้วยเหลียวมองไปด้วย คล้ายเกรงว่ากู้ซีจิ่วจะไม่ยอมตามมา
กู้ซีจิ่วตามติดอยู่ข้างกายมัน
“วางใจเถอะ ในเมื่อผู้ทรงศักดิ์อย่างข้ารับปากแล้วว่าจะไปกับเจ้า ก็จะไม่กลับคำแน่ รีบวิ่งเถอะ! วิ่งเร็ว!”
ด้วยเหตุนี้ หมาป่าน้อยจึงโกยหน้าตั้งแล้ว…
กู้ซีจิ่วทราบมาตลอดว่าตนมีวาสนากับสัตว์วิเศษ ไม่ว่าจะไปโลกไหนก็จะได้รับสัตว์วิเศษที่พิเศษโดดเด่น
อย่างเช่นเจ้าหอยยักษ์ ลู่อู๋ ราชาเสือดาวเมฆา…
ไม่นึกเลยว่าจะมีวันที่ได้รับเด็กน้อยคนหนึ่งมาด้วย…
ซ้ำยังเป็นเด็กน้อยที่ไม่สามารถสลัดทิ้งได้ด้วย…
เด็กน้อยดูอายุราวสองสามเดือน ขาวนุ่มนิ่ม นัยน์ตาโต ขนตายาว ดวงหน้าน้อยๆ ทำให้คนอยากจะขบดูสักครา ถูกห่อไว้ในผ้าอ้อมผืนหนึ่ง
เด็กน้อยคือสิ่งที่หมาป่าน้อยต้องการลากกู้ซีจิ่วมาช่วยเหลือ ยามนั้นเด็กน้อยคนนั้นนอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ไม่ห่างจากร่างเขามีสตรีชุดขาวนางหนึ่งกับชายชุดเขียวนอนอยู่…
เห็นได้ชัดว่าสตรีชุดขาวนางนั้นลากให้ชายชุดเขียวตายตกไปตามกัน อาวุธของทั้งสองฝ่ายเสียบทะลวงเข้าที่จุดสำคัญของอีกฝ่าย
ชายชุดเขียวสิ้นลมไปแล้ว ส่วนสตรีชุดขาวนางนั้นยังมีลมหายใจอยู่
กู้ซีจิ่วกวาดตามองชุดเขียวของชายผู้นั้นแวบหนึ่งก็ทราบฐานะของอีกฝ่ายแล้ว เป็นสมุนของอวิ๋นเยียนหลี
เช่นนั้นสตรีชุดขาวนางนี้คือผู้ใด?
ตามหลักการแล้วศัตรูของศัตรูก็คือมิตร กู้ซีจิ่วมองบาดแผลบนร่างของสตรีนางนั้นก่อน อดไม่ได้ที่จะส่ายศีรษะ
สตรีนางนี้บาดเจ็บสาหัสยิ่ง ช่วยเหลือไม่ได้แล้ว ลมหายใจนี้ก็เป็นเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายเท่านั้น
เธอยืดตัวขึ้น ดูเหมือนสตรีนางนั้นได้ยินความเคลื่อนไหว จึงลืมตาขึ้นมา เมื่อเห็นกู้ซีจิ่วก็อ้าปากนิดๆ คล้ายจะพูดอันใดทว่าพูดไม่ออกชั่วขณะ
กู้ซีจิ่วย่อตัวลง ป้อนโอสถเม็ดหนึ่งให้นาง
โอสถนี้ช่วยชีวิตไม่ได้ ทว่าทำให้นางรวบรวมกำลังได้ชั่วขณะ กลับมามีเรี่ยวแรงได้พักหนึ่ง
เป็นไปตามนั้นจริง ผ่านไปครู่หนึ่ง สีหน้าสตรีนางนั้นก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย และสามารถพูดจาได้แล้ว
“แม่นาง ช…ช่วย…ช่วยหลินเอ๋อร์ด้วย…”
กู้ซีจิ่วย่อมทราบดีว่าหลินเอ๋อร์ที่นางพูดถึงก็คือทารกน้อยคนนั้น จึงพยักหน้ารับ
“วางใจเถอะ ข้าจะช่วยแน่”
เธออุ้มเด็กน้อยคนนั้นขึ้นมา ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย นัยน์ตาใสแจ๋วมองมาที่กู้ซีจิ่ว ไม่ร้องไม่งอแง
“เอาเขา…ไปด้วย…อย่าให้ถูก…ถูกคนจับไปได้…”
สตรีนางนั้นมองไปที่เด็กน้อยนัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาวรณ์
“หากว่าเป็นไปได้ ส่งเขาไป…ไปที่อาณาจักร…อาณาจักรมารอสุรา…”
กู้ซีจิ่วตะลึง
เธอสูดหายใจเบาๆ
“ข้าเข้าอาณาจักรมารอสุราไม่ได้ เมื่อกี้ข้าลองดูแล้ว เพิ่งย่างเท้าเข้าไปก็ถูกไฟเผาแล้ว”
เธอเลิกแขนเสื้อตัวเอง เผยให้เห็นแผลถูกลวกบนท่อนแขน
มือที่สั่นสะท้านของสตรีนางนั้นล้วงขวดยาสีแดงเพลิงใบหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อ
“ท…ทาสิ่งนี้…เอาไว้รักษาบาดแผลจากเพลิงอนธการโดยเฉพาะ”
บังเอิญถึงเพียงนี้เชียว?!
กู้ซีจิ่วรับขวดใบนั้นไว้ สตรีนางนั้นถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ดะ…ได้โปรด…เด็กคนนี้…เด็กคนนี้…”
————————————————————————————-
บทที่ 2277 เด็กคนนี้พูดได้!
วาจาท่อนหลังยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา มือก็ร่วงผล็อยลงไปแล้ว นัยน์ตาไร้แวว
“งี้ด งี้ด!”
“หงิงๆ!” หมาป่าเงินตัวน้อยวนเวียนรอบกายสตรีนางนั้นหลายรอบ ส่งเสียงงี้ดง้าดอยู่ไม่หยุด น้ำตาไหลรินลงมาจากดวงตา
ดูเหมือนสตรีนางนี้จะเป็นผู้ที่เลี้ยงดูหมาป่าน้อยตัวนี้มา ส่วนทารกน้อยก็เป็นบุตรของนาง ไม่ทราบว่าไปล่วงเกินคนของอวิ๋นเยียนหลีเข้าอย่างไร จึงถูกไล่ล่าสังหารมาถึงที่นี่…
สตรีนางนี้ต่อสู้จนตัวตายก็ยังคิดจะส่งเด็กน้อยคนนี้ไปยังอาณาจักรมาร หรือว่าบิดาของเด็กคนนี้จะเป็นชาวอาณาจักรมาร?
ข้อสันนิษฐานมากมายวนเวียนอยู่ในสมองกู้ซีจิ่ว ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าข้อสันนิษฐานนี้เข้าเค้า
กู้ซีจิ่วขุดหลุมหนึ่งขึ้นตรงจุดเดิม ฝังศพของสตรีนางนั้น
หมาป่าน้อยตัวนั้นโผลงไป อุ้งเท้าน้อยๆ เกี่ยวกระโปรงนางไว้ไม่ยอมปล่อย น้ำตาไหลรินจนหางตาเปียกปอน
ช่างเป็นเจ้าตัวน้อยที่รักใคร่รู้คุณโดยแท้!
กู้ซีจิ่วมองแล้วนัยน์ตาแสบเคืองขึ้นมา อุ้มหมาป่าน้อยขนเงินออกมา ตบหลังคอมันเบาๆ
“นายของเจ้าจากโลกไปแล้ว เจ้าร้องไห้แค่ไหนก็ไม่ฟื้นแล้ว ให้ข้าฝังนางเถอะ ทิ้งศพไว้ในถิ่นกันดารไม่ดีหรอก”
หมาป่าเงินตัวน้อยถึงได้ไม่กระโจนลงไปในหลุมอีก ได้แต่วนเวียนอยู่ด้านข้างอย่างไม่อาจหักใจได้
กู้ซีจิ่วกลบดินลงไปอยู่หลายครั้ง ซ้ำยังก่อเนินหลุมน้อยๆ ลูกหนึ่งขึ้นมาด้วย จากนั้นก็เข้ามาอุ้มเด็กน้อย
“หนูน้อย บอกลามารดาเจ้าเสียเถิด”
สายตาของเด็กน้อยคนนั้นมองไปที่หลุมศพ จากนั้นก็มองกู้ซีจิ่ว ริมฝีปากน้อยๆ เม้มแน่น ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะร้องไห้เลย
กู้ซีจิ่วทอดถอนใจอยู่ภายใน ถึงอย่างไรเด็กน้อยคนนี้ก็ยังเล็กนัก ไม่เข้าใจความตายเช่นนี้หรอก…
ตัวเขาในตอนนี้ยังรักใคร่รู้คุณได้ไม่เท่าหมาป่าน้อยตัวนี้เลย หมาป่าน้อยตัวนั้นวนเวียนรอบหลุมศพอยู่ตลอด น้ำตาหลั่งรินจากดวงตาทั้งสองข้าง ทำให้หัวใจของกู้ซีจิ่วค่อนข้างหนึบชาไปด้วย
เมื่อฝังศพสตรีนางนั้นแล้ว กู้ซีจิ่วก็มองชายชุดเขียวที่สิ้นชีพมานานแล้วคนนั้น ถอนหายใจ เอาชายคนนั้นไปฝังไว้ที่อื่น
คนผู้นี้แค่จัดการเรื่องราวแทนผู้อื่นเท่านั้น สิ้นชีพอยู่ที่นี่แล้วถูกสัตว์ร้ายกัดทึ้งคงไม่ดี วันนี้เธอจะทำบุญสักหน่อยแล้วกัน
ยาของสตรีนางนั้นได้ผลยิ่งนัก หลังจากกู้ซีจิ่วทาลงบนบาดแผลตน ไม่น่าเชื่อว่าจะสมานกันอย่างรวดเร็วยิ่ง และไม่ปวดแสบปวดร้อนเช่นนั้นอีกแล้ว
ยามีประสิทธิภาพ แต่การเข้าสู่อาณาจัการมารอสุรายังคงเป็นปัญหาอยู่
เธอเข้าไปเพียงครู่เดียวก็โดนไฟลวกจนพุพองมากมายขนาดนี้แล้ว หากว่าเข้าสู่ส่วนลึกด้านใน คาดว่าเธอคงถูกเผาจนจนเป็นเถ้าถ่านแน่นอน
ยังมีเด็กคนนี้อีก คาดว่าเข้าไปแล้วคงไหม้เป็นตอตะโกแน่ เธอจะพาเขาเข้าไปส่งได้ยังไง?
เธอยื่นนิ้วไปจิ้มแก้มของหนูน้อย
“หนูน้อย มารดาเจ้าสร้างความลำบากให้ข้าโดยแท้ อาณาจักรมารอสุราแห่งนั้นข้าเข้าไปไม่ได้”
“หญ้ายืนเยาว์…”
จู่ๆ เด็กคนนั้นก็เอ่ยออกมาสามคำ ซ้ำยังเปล่งอักขระชัดเจนยิ่ง
กู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปแล้ว…
เด็กคนนี้พูดได้!
เพิ่งอายุสองสามเดือนก็พูดได้แล้วหรือ?
ช่างเป็นตัวตนที่ละเมิดสวรรค์ยิ่งนัก!
ภาพตี้ฝูอีในวัยเยาว์แวบเข้ามาในสมอง ได้ยินว่าฝ่าบาทเนี่ยนโม่ผู้นี้ถือกำเนิดขึ้นมาก็พูดได้เลย ซ้ำยังวิ่งได้กระโดดได้อีก ประหนึ่งนาจา…
หนูน้อยที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้เกรงว่าจะเทียบชั้นกับเสี่ยวเนี่ยนโม่ได้เลย…
ไม่ถูกสิ หนูน้อยคนนี้แค่พูดได้เท่านั้น ยังห่างชั้นกับเสี่ยวเนี่ยนโม่มากนัก
“เจ้าจะบอกว่าถ้าพกหญ้ายืนเยาว์แล้วจะเข้าสู่อาณาจักรมารอสุราได้ใช่ไหม?”
กู้ซีจิ่วลองถามดู
“หญ้ายืนเยาว์ ชุดกันเพลิง”
หนูน้อยเอ่ยเพิ่มมาอีกสามคำ
กู้ซีจิ่วรู้จักหญ้ายืนเยาว์ เป็นสมุนไพรหายากชนิดหนึ่ง แต่ชุดกันเพลิงคือสิ่งใด? หาได้จากไหน?
“บนร่างฮ่วนเฟิ่งมีชุดกันเพลิง”
หนูน้อยคนนั้นยื่นมือน้อยๆ ข้างหนึ่งชี้ไปที่หลุมศพ
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
เวรเอ้ย แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก!
ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงต้องขุดหลุมศพที่เพิ่งก่อขึ้นอย่างดีอีกครั้ง นำร่างของสตรีนางนั้นขึ้นมาใหม่