บทที่ 2333 รักษา 2
เมื่อร่วงลงพื้นเธอก็ถูกสะเทือนจนกระอักเลือดออกมาอีกคำ…
เธอเงยหน้ามองรอบข้างแวบหนึ่ง เนินเขาทุ่งราบล้วนเต็มไปด้วยทรายเหลืองอร่าม ทะเลทรายแห่งนี้กว้างใหญ่จนมองไม่เห็นชายขอบ
ส่วนคุณชายไผ่ขจีก็ยืนอยู่ข้างแคร่ไผ่ของเธอ ถอนหายใจยาวๆ เฮือกหนึ่ง
“เกือบไปแล้ว! หากว่าเขาไล่ตามมา คาดว่าต้องเอาชีวิตของข้าแน่!”
กู้ซีจิ่วมองไปที่เขา เอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้ง
“ทำไม?”
คุณชายไผ่ขจีถอนหายใจ
“เพราะข้าไปบีบบังคับให้แม่เด็กย่วนย่วนนั่นมอบยาถอนพิษออกมาโดยเร็ว เลยใช้วิธีพิเศษบางอย่าง หักซี่โครงนางสองซี่ ทำให้นางกระอักเลือดออกมาสองสามคำ ตอนที่ใช้ทวนนิ้วของนางแทงนาง แผลนั้นก็ค่อนข้างลึกเช่นกัน อืม ค่อนข้างฉกรรจ์ยิ่งนัก…ตอนข้าออกมาก็บังเอิญทำให้องครักษ์ของที่นั่นแตกตื่นขึ้นมา คาดว่าองครักษ์น่าจะรายงานแก่ราชันย์มารแล้ว ราชันย์มารผู้นั้นรักถนอมนางอย่างยิ่ง ดูแลดุจแก้วตาก็มิปาน พอเห็นสภาพนางแล้วไม่แน่ว่าอาจจะนึกอยากสังหารผู้อื่นขึ้นมา ต้องตามมาล้างแค้นข้าแน่! ป่าไผ่แห่งนั้นของข้าคนอื่นเข้ามาไม่ได้ มีเพียงราชันย์มารผู้นี้ที่บางครั้งก็เดินเตร่เข้ามาได้ ดังนั้นคนที่เข้ามาเมื่อกี้ต้องเป็นเขาแน่! เขาตามมารวดเร็วยิ่ง! เคราะห์ดีที่ข้าตอบสนองว่องไว พาเจ้ามาที่นี่ได้ทันกาล…”
กู้ซีจิ่วเงียบไปแล้ว
ตนได้รับบาดเจ็บเขาไม่มาเหลียวแลเลย พอย่วนย่วนถูกคนรังแกเขาก็ทุ่มเทชีวิตไล่ตามเลย…
อือ เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้นั่นแหละ เธอไม่โกรธหรอก…
บ้าเอ้ย! ถึงเธอจะบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าไม่ควรค่าพอให้โกรธหรอก แต่โทสะก็ยังพลุ่งพล่านขึ้นมาในทรวงอกเธออยู่ดี เธอพลันเบี่ยงหน้า กระอักโลหิตออกมาอีกคำ
คุณชายไผ่ขจีสะดุ้งโหยง เข้ามาจับชีพจรเธอ
“เหตุใดเจ้ากระอักเลือดไม่หยุดเลยเล่า? มานี่ ให้ข้าดูหน่อย พิษนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข…”
ตอนนี้กู้ซีจิ่วไม่มีแรงจะสะบัดเขาออกแล้ว จึงหลับตาสงบจิต พลางตรวจสอบอาการบาดเจ็บบนร่างไปด้วย
วิชาพิษของเธอแตกฉานล้ำเลิศ เนื่องจากเคยเล่นกับพิษมานานหลายปี ร่างกายจึงมีภูมิต้านทานพิษยิ่งนัก ไม่ถูกพิษง่ายๆ กล่าวอีกอย่างคือ นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ลิ้มรสชาติของการถูกพิษอันใด
ไม่นึกเลยว่าหนนี้จะมาถูกพิษร้ายแรงยิ่งนักเข้า ทำให้เธอได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานมหาศาลปานนี้
หลังจากเธอตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง พลันใจหายวาบ!
พิษบนร่างเธอยังไม่ได้รับการแก้ไข…
คุณชายไผ่ขจีก็ชักมือกลับไปแล้ว เอ่ยออกมา
“ประหลาด!”
กู้ซีจิ่วลืมตามองเขา นิ้วของคุณชายไผ่ขจีเคาะแคร่ไม้ไผ่ของเธอ
“ว่ากันตามเหตุผลแล้ว เจ้ากินยาถอนพิษลงไปแล้ว ร่างกายก็ฟื้นฟูขึ้นมาส่วนหนึ่งแล้ว พิษนี้สมควรจะคลี่คลายลงแล้วสิ แต่สีหน้าเจ้าดูเขียวคล้ำ ริมฝีปากดำคล้ำ ดวงตาก็ออกเขียว…คล้ายว่าพิษจะเข้าสู่อวัยวะภายในแล้ว…ดูเหมือนพิษที่ยังตกค้างอยู่คือสีเขียว มา ที่ข้ายังมียาถอนพิษอย่างอื่นอยู่ ขจัดได้นับร้อยพิษ เจ้ามาลองดู”
ไม่รู้ว่าหยิบขวดเล็กๆ ใบหนึ่งออกมาจากที่ใดอีก ในขวดมีน้ำยาสีเขียวไหวกระเพื่อม เปิดฝาขวดออก จ่อเข้าที่ปากกู้ซีจิ่ว
โชคดีที่ครั้งนี้กู้ซีจิ่วมีแรงพอปฏิเสธแล้ว พลันเบี่ยงหน้า ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่เป็นหนูทดลองของเขา
“ช้าก่อน!”
“หือ?”
คุณชายไผ่ขจีเลิกคิ้ว
ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วเป็นเชี่ยวชาญด้านศาสตร์พิษ ดมน้ำยาในขวดเพียงแวบเดียวก็ทราบถึงสรรพคุณส่วนใหญ่แล้ว เป็นยาถอนพิษจริงๆ แต่ไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด!
หากว่าเธอดื่มเข้าไป จะเป็นการเพิ่มพิษเข้าไปอีก หนักหนายิ่งขึ้น…
เวรเอ้ย คุณชายไผ่ขจีคนนี้เป็นมนุษย์ต่างดาวหรือไง?
ทำไมถึงพึ่งพาไม่ได้ขนาดนี้กัน?!
“พิษของข้ายังไม่ได้รับการแก้ไข ยาถอนพิษที่ย่วนย่วนมอบให้เจ้าน่าจะเป็นเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น…ครึ่งนี้เป็นอันตรายต่อชีวิตยิ่งนัก มันทำให้พิษในตัวข้าแพร่กระจายออกไป ทำร้ายชีพจรข้ารุนแรงขึ้น คงเป็นการเพราะการโจมตีทำร้าย จึงทำให้ชีพจรที่จับตัวแข็งของข้าในที่สุดก็เริ่มไหลเวียนแล้ว ทำให้ข้าเคลื่อนไหวอย่างอิสระได้ชั่วคราว หากไม่ผิดไปจากที่คาดไว้ หลังจากกินยานี้เข้าไปแล้ว ถ้ากินยาอีกครึ่งที่เหลือเข้าไปไม่ทันกาล พิษนี้จะประทุขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ ทำให้ชีพจรของผู้ถูกพิษแตกกระจาย กระอักเลือดจนตาย…”
————————————————————————————-
บทที่ 2334 รักษา 3
กู้ซีจิ่วฝืนสูดลมหายใจเฮือกหนึ่ง เริ่มอธิบายถึงฤทธิ์ของพิษในร่างตน
คุณชายไผ่ขจีฟังแล้วตะลึงงันไปชั่วขณะ
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นเช่นนี้…แต่ดูจากสีหน้าเจ้าแล้ว…ท่าทางไม่เหมือนพิษกำเริบหนักเลย…”
กู้ซีจิ่วสูดหายใจอีกครั้ง
“นั่นเป็นเพราะยาถอนพิษเจ็ดแปดขนานที่เจ้าเอาให้ข้ากินก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะถอนพิษของข้าไม่ได้ แต่เนื่องจากตัวยาที่อยู่ด้านในออกฤทธิ์ต้านกัน คล้ายใช้พิษต้านพิษ จึงสะกดพิษในอวัยวะภายในของข้าไว้ได้ชั่วคราว ทำให้มันปะทุขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ไม่ได้…ตอนนี้พิษนั้นผสมปนเปกันแล้ว ถูกสะกดไว้ในทะเลปราณ ณ จุดตันเถียนของข้า…”
เธอกล่าวศัพท์เฉพาะออกมากระบุงหนึ่ง คุณชายไผ่ขจีเพ่งพิศเธอแวบหนึ่ง แล้วก็พินิจดูอีกแวบหนึ่ง
“ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะเชี่ยวชาญศาตร์วิชาพิษด้วย…”
กู้ซีจิ่วหลับตาลง หากว่าเธอไม่เชี่ยวชาญวิชาพิษ คาดว่าคงถูกไอ้คนชุดเขียวปี๋ผู้นี้เล่นสนุกจนตายไปแล้ว!
เธออดไม่ได้ที่จะมองคุณชายไผ่ขจีแวบหนึ่ง
“ท่านผู้สูงศักดิ์ตัดเย็บชุดกันไฟได้ แถมยังปลุกเสกมันได้ด้วย ตามหลัก…ตามหลักแล้ววิชาแพทย์ก็น่าจะไม่เลวเหมือนกันสิ”
ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าวิชาแพทย์ของไอ้คนผู้นี้มันครึ่งๆ กลางๆ กันนะ?
คุณชายไผ่ขจีกระแอมเบาๆ
“ข้าคือปรมาจารย์ด้านนวัตกรรม ศาสตร์แพทย์ศาสตร์พิษนั้น…เพียงอ่านผ่านตามาบ้างเท่านั้น ไม่นับว่าแตกฉาน…”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย ไม่แตกฉานแล้วยังกล้ามารักษาให้เธอมั่วๆ อีกเหรอ?!
กู้ซีจิ่วไม่กล้าตั้งความหวังไว้กับเขาแล้ว เธอถูกพิษอยู่ ซ้ำเธอยังต้องพึ่งพาตัวเองในการแก้พิษด้วย…
ตอนนี้ในร่างเธอมีพิษสารพัดชนิดเดินสวนสนามกันอยู่ บางจุดก็เจ็บปวด บางจุดก็คันคะเยอ ซ้ำบางจุดยังเหน็บชาด้วย… ไร้เรี่ยวแรงไปทั้งร่าง อ่อนปวกเปียกดุจเส้นก๋วยเตี๋ยว ลำบากอย่างยิ่ง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เธอปรารถนาจะนอนนิ่งอยู่ที่เดิมนัก ทุกอย่างล้วนยกให้คนอื่นจัดการเสีย
แต่…ทำไม่ได้ ตัวเธอในตอนนี้ไม่กล้าคาดหวังกับใครทั้งนั้น ได้แต่พึ่งพาตัวเอง
เธอฝืนสูดหายใจเฮือกหนึ่ง ยื่นมือที่สั่นเทาล้วงกล่องเข็มเงินออกมาจากถุงเก็บของ…
คุณชายไผ่ขจีเบิกตามองนาง เห็นนางหยิบเข็มเงินเล่มหนึ่งออกมา แทงลงบนจุดที่เหมาะสมบนร่างกายนางเอง…
นางถูกพิษจนกลายเป็นเช่นนี้ ยังลงจุดฝังเข็มได้แม่นยำนัก ควบคุมแรงได้ดีมาก หลังจากเข็มแต่ละเล่มฝังลงไปแล้ว ก็มีโลหิตสีม่วงเข้มผุดออกมาจากก้นเข็มที่กลวงเปล่า…
ว่าไปแล้วก็แปลก หลังจากนางสำแดงทักษะฝังเข็มชุดนี้ออกมา สีหน้าที่เดิมทีเป็นสีเขียวอมม่วงของนางก็มีสัญญาณว่าจะอ่อนจางลง ชัดเจนยิ่งนัก สารพิษในร่างนางกำลังถูกขับออกมา…
อัศจรรย์ยิ่ง! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีวิชาขับพิษเช่นนี้อยู่ด้วย!
คุณชายไผ่ขจีเลื่อมใสแล้ว!
ถึงอย่างไรกู้ซีจิ่วก็อ่อนแอ หลังจากฝังเข็มอยู่ไม่กี่ครั้ง มือก็สั่นเทายิ่งนักแล้ว
คุณชายไผ่ขจีเอ่ยเสนอตัว
“ให้ข้าทำเถอะ เจ้าบอกมา ข้าจะฝังให้!”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า การฝังเข็มจะเลินเล่อไม่ได้เลยสักนิด แถมจุดชีพจรเหล่านี้ที่เธอฝังลงไปล้วนเป็นจุดสำคัญในร่างคน ฝังลึกไปตื้นไปล้วนไม่ได้ทั้งนั้น เป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งสิ้น ต้องอาศัยทักษะการฝังเข็มที่สูงส่งลึกล้ำ เธอไม่อยากเป็นหนูทดลอง ถูกคุณชายไผ่ขจีฝังเข็มจนพิการอีกแล้ว…
แววตาคุณชายไผ่ขจีโชนแสงเล็กน้อย ตัวเขาหยิ่งผยองมั่นใจในตัวเองยิ่ง มองกู้ซีจิ่วฝังลงไปสี่ห้าเข็มแล้วก็รู้สึกว่าจับจุดได้แล้ว จึงก้าวเข้าไป
“วางใจเถอะ ข้าทำได้…”
ยืนมือออกไปหมายจะหยิบเข็มเงินมา
กู้ซีจิ่วพลันเงยหน้าขึ้น มองเขาแวบหนึ่ง สายตานี้เยียบเย็นยิ่งนัก ดุจมีรูปลักษณ์จับต้องได้ ทำให้ฝีเท้าของคุณชายไผ่ขจีที่ไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินชะงักลง! รู้สึกได้รางๆ ว่าในยามนี้ พลังอำนาจบนร่างของแม่นางผู้นี้ช่างน่าตกตะลึงนัก ทำให้เขาหวั่นใจขึ้นมาอย่างน่าประหลาด…
ทำเอาเขาไม่กล้าบุ่มบ่ามไปชั่วขณะ
ผ่านไปครู่หนึ่ง บนร่างกู้ซีจิ่วก็มีเข็มเงินอยู่สิบสองเล่มแล้ว เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก นอนอยู่ตรงนั้น สีหน้าดูดีขึ้นไม่น้อยเลย
“เจ้ารู้สึกอย่างไรบ้าง?”
คุณชายไผ่ขจีสอบถาม