บทที่ 2403 ใครเล่นงานใครกันแน่ 8
ทะเลสาบใสกระจ่าง กว้างไกลไร้ขอบเขต
ในทะเลสาบมีเสียงน้ำสาดกระจาย มีคนโผล่ศีรษะขึ้นมา
เส้นผมเปียกชุ่มปรกดวงหน้างดงามสะคราญโฉม เป็นกู้ซีจิ่ว
นางกำลังลอยผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ในทะเลสาบ ภายใต้แสงตะวัน สองแขนขาวกระจ่างของนางเผยออกมา ผิวพรรณนั้นขาวผุดผาดดุจหิมะ รูปโฉมงดงามจนทำให้คนตะลึง
ตี้ฝูอีใจเต้นแวบหนึ่ง ความเร่าร้อนกลุ่มหนึ่งเอ่อท้นขึ้นมาในช่องท้องเขายืนมองนางอยู่ตรงนั้นยิ้มน้อยๆ
“เด็กน้อย มาว่ายน้ำที่นี่แต่เช้าเลยหรือ?”
เขาเริ่มใคร่ครวญแล้วว่าจะไปอาบน้ำกับนางดีหรือไม่ ในความทรงจำเพิ่งจะเสร็จกิจพลิกผ้าห่มกันมาชัดๆ แต่ตอนนี้เขากลับต้องการนางอีกแล้ว! ต้องการอย่างยิ่ง!
หากว่าได้ทำในน้ำล่ะก็…
ตี้ฝูอีรู้สึกว่าวันนี้ตนค่อนข้างคล้ายหมาป่าหิวโซอยู่บ้าง มีความต้องการจะขยำนางแล้วกลืนลงท้องอยู่ตลอด…
กู้ซีจิ่วที่อยู่ในทะเลสาบยิ้มละไมแล้วกวักมือเรียกเขา
“ฝูอี ลงมาว่ายน้ำด้วยกันไหม?”
ตี้ฝูอีนิ่งงันไป
เขาจำได้รางๆ ว่าระยะนี้กู้ซีจิ่วเรียกเขาว่า
‘ท่านราชันย์มาร’
นานมากแล้วที่ไม่ได้เรียกชื่อเขา ยามนี้พอได้ฟัง เขาจึงรู้สึกสนิทสนมยิ่งนัก…
เขายืนอยู่ริมทะเลสาบค่อนข้างใจลอยอยู่บ้าง
กู้ซีจิ่วเอียงคอมองเขา
“ท่านเป็นอะไรไป? ไม่อยากลงมาว่ายน้ำกับข้าหรือ?”
ตี้ฝูอีนั่งลงริมทะเลสาบ ถอนหายใจ
“ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ร่างกายจึงอ่อนล้ายิ่งนัก เจ้าว่ายไปก่อนเถอะ อีกเดี๋ยวข้าจะตามลงไป”
กู้ซีจิ่วก็ไม่ฝืนใจเขา ว่ายน้ำอยู่ในทะเลสาบอย่างอิสระเสรี
นางคงอยากแสดงทักษะด้านการว่ายน้ำของนางต่อหน้าคนรัก จึงว่ายน้ำด้วยท่วงท่าต่างๆ
อีกทั้งท่วงท่าที่ว่ายก็เย้ายวนคนยิ่ง เดี๋ยวก็เผยส่วนบนที่สวมไว้เพียงผ้าเอี๊ยมออกมา ส่วนอวบอิ่มด้านบนนั้นตะหง่านชูช่อ ปรากฏวับแวบอยู่ภายใต้ผ้าเอี๊ยมที่เปียกโชก
เดี๋ยวก็เผยสะโพกกลมกลึงของนางออกมา ส่วนสะโพกโค้งเว้าเหยียดตรง ได้รูปงดงาม ชวนให้คนจิตนาการ
เดี๋ยวเผยต้นขาเรียวยาวออกมา เดี๋ยวยืดเดี๋ยวเหยียดปานจะเกี่ยวดวงวิญญาณ
ตี้ฝูอีมองอยู่ครู่หนี่ง สัมผัสได้ทันทีว่าร่างกายร้อนผ่าวกว่าเดิม มีกระแสความร้อนหมุนวนอยู่ตรงหน้าท้อง ตรงไปรวมตัวอยู่ที่จุดหนึ่งของส่วนล่าง…
เขาต้องการนาง! ต้องการเหลือเกิน!
เขาอยากกระโจนลงไปในทะเลสาบยิ่งนัก ให้ทะเลสาบที่เย็นฉ่ำช่วยคลายความเร่าร้อนของบุรุษไป…
เขาถอนหายใจเบาๆ กวักมือเรียกกู้ซีจิ่วที่อยู่ในทะเลสาบ
“ซีจิ่ว ขึ้นมา!”
กู้ซีจิ่วตอบรับคำหนึ่ง ในที่สุดก็ขึ้นฝั่งแล้ว
บนร่างนางมีเพียงผ้าเอี๊ยมและกางเกงตัวใน ซ้ำยังเปียกลู่แนบร่างอีกด้วย เย้ายวนยิ่งนัก!
นางเยื้องย่างเข้ามา
“ฝูอี มีอะไรหรือ?”
แววตาตี้ฝูอีดั่งบึงลึก มีคลื่นแสงไหวระยับ
“เด็กน้อย ปกติเจ้าเรียกข้าว่าอะไร? เรียกตามปกติสิ”
กู้ซีจิ่วเอียงคอขบคิดครู่หนึ่ง แย้มยิ้มอ่อนหวาน
“เช่นนั้นให้ข้าเรียกท่านว่าท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายไหม?”
ตี้ฝูอีก็ยิ้มแล้ว สายตาที่จับจ้องนางสะกดข่มผู้อื่นยิ่งกว่าเดิม
“นี่ก็ใช่”
พลางตบลงบนตำแหน่งข้างกายตน
“มานี่สิ มานั่งข้างๆ ข้า พวกเราพูดคุยกันให้ดีๆ หน่อย”
“ได้!”
กู้ซีจิ่วเดินไปหยุดข้างกายเขาจริงๆ กำลังจะนั่งลง พลันมองเห็นแสงสีรุ้งวาบขึ้นมา! ห่อหุ้มร่างกายของนางไว้!
เนื่องจากอีกฝ่ายจู่โจมกะทันหันซ้ำยังอยู่ในระยะประชิด นางไม่มีทางหลบได้ทัน ถูกแสงสีรุ้งโอบล้อม ดุจถูกเพลิงแผดเผา!
นางกรีดร้องคราหนึ่ง คิดจะกระโดดหนีลงทะเลสาบ
แต่ร่างกายเสมือนถูกล่ามตรึงไว้ นางดิ้นไม่หลุดชั่วขณะ ถูกแสงสีรุ้งกรีดเฉือนผิวกาย เจ็บจนกรีดร้องโหยหวน!
ร้องตะโกนอยู่ท่ามกลางแสงสีรุ้ง
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านทำอะไร?”
ตี้ฝูอีลุกขึ้นอย่างสง่างาม มองนางอย่างเยือกเย็น
“อวิ๋นชิงหลัว เจ้านึกว่าเปิ่นจวินไม่รู้หรือว่าเจ้าคืออวิ๋นชิงหลัว?!”
————————————————————————————-
บทที่ 2404 ช่วยเขา 1
‘กู้ซีจิ่ว’
พลันแข็งทื่อ เงยหน้าขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ท่านทำได้ยังไง? มองออกได้ยังไงว่าเป็นข้า?!”
นี่เป็นห้วงฝันมายาที่นางสร้างขึ้นชัดๆ นางแสดงได้เหมือนขนาดนี้แล้วชัดๆ…
ตี้ฝูอีหัวเราเบาๆ สายตาเฉียบคมเย็นชา
“เจ้าไม่เหมือนนางเลยสักอย่าง มองเจ้าออกแล้วแปลกนักหรือ?”
แรกเริ่มตี้ฝูอียังมองนางไม่ออก ถึงอย่างไรความฝันนี้ก็มาพร้อมกับความรักหวานชื่นในวันวาน เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องจากฉากรักครั้งนั้น และเขาก็รู้ว่าตัวเองฝันอยู่ ดังนั้นจึงไม่ได้ระแวง เห็นนางลอยคออยู่ในทะเลสาบก็ไม่ได้นึกสงสัยเลย
แต่พอเดินมาถึงริมทะเลสาบตอนที่กำลังจะลงไปก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติแล้ว…
เวลาที่กู้ซีจิ่วว่ายน้ำจะสวมชุดว่ายน้ำ ถ้าเป็นยามปกติก็จะสวมชุดชั้นใน ไม่เคยสวมผ้าเอี๊ยมเลย…
นางมีนิสัยเย็นชา เวลาว่ายน้ำจะไม่ใช้ท่วงท่าที่ยั่วยวนคนอย่างชัดเจนเช่นนี้…
แน่นอน เนื่องจากเขารู้ตัวว่าฝันอยู่ คนในความฝันอาจจะแตกต่างกับคนในโลกความเป็นจริงไปบ้าง การที่จู่ๆ กู้ซีจิ่วในความฝันเขาเป็นแบบนี้ ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้
ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าที่นี่ใช่กลลวงจริงๆ หรือไม่
ทำได้เพียงลองหยั่งเชิงดูเงียบๆ…
จนกระทั่งอีกฝ่ายเรียกเขาว่า
‘ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’
ในที่สุดเขาถึงมั่นใจว่าอีกฝ่ายคืออวิ๋นชิงหลัวสวมรอยมา!
ไม่น่าเชื่อว่าอวิ๋นชิงหลัวจะเข้ามาในความฝันเขาได้ เรื่องนี้ทำให้เขาประหลาดใจมาก…
ผนวกกับปฏิกิริยาของร่างกายเขาในยามนี้ กระแสความร้อนในร่างเขาไม่ลดลงเลย ถึงขั้นที่ความร้อนยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วย…
นี่คล้ายอาการของคนถูกวางยาปลุกกำหนัด!
เขาถูกพิษได้ยากนัก บนโลกนี้แทบจะไม่มีพิษไหนที่สามารถเล่นงานเขาได้เลย กลับนึกไม่ถึงว่ายามนี้…
ตรวจสอบร่างกายดูเล็กน้อยแล้ว กระแสโลหิตในร่างเริ่มไหลเวียนเร็วขึ้น ในโลหิตคล้ายมีตัวหนอนที่เปี่ยมไปด้วยความร้อนมุดไปมุดมาอยู่ในเส้นเลือด เป็นเหตุให้ทุกส่วนที่เคลื่อนผ่านร้อนรุ่มและพองตัว…
เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าอากาศเย็นสบายยิ่ง เขากลับเริ่มเหงื่อออกแล้ว
เขาติดกับอวิ๋นชิงหลัวเข้าแล้ว!
แต่ติดกับได้อย่างไร?
เมื่ออวิ๋นชิงหลัวถูกเปิดโปงแล้ว นางจึงไม่ปกปิดเอาไว้อีก นัยน์ตาราวกับหล่อด้วยวารี ขยับเข้ามาใกล้เขา
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย รู้สึกทรมานมากใช่หรือไม่?”
น้ำเสียงนางแฝงความแหบพร่าเอาไว้รางๆ ว่ากันตามจริงแล้วไม่น่าฟังเลย แต่พอแว่วเข้าหูของผู้ที่ถูกพิษอยู่ กลับประหนึ่งเสียงสวรรค์
ตี้ฝูอีมองนางที่เข้ามาใกล้อย่างเฉยชา
“เจ้าวางยาข้าตั้งแต่เมื่อไหร่? อวิ๋นชิงหลัว เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะเฉือนดวงวิญญาณเจ้าเป็นหมื่นชิ้นพันชิ้นหรือไง?”
น้ำเสียงเขานุ่มนวลยิ่ง แต่สำเนียงกลับหนักแหน่น ฝีเท้าของอวิ๋นชิงหลัวชะงักไปเล็กน้อย นึกถึงลำแสงเจ็ดสีที่เขาสำแดงออกมาเมื่อครู่นี้ ก็ไม่ก้าวต่อไปแล้ว
แต่ดูเหมือนนางจะนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงยิ้มน้อยๆ แวบหนึ่ง
“ฝูอี ตัวข้าในยามนี้ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นจริงๆ”
ในดวงตานางมีความผยองและบ้าคลั่งวาบผ่านแวบหนึ่ง
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้าแค่อยากครอบครองท่าน ขอเพียงได้ครอบครองท่าน ข้าก็ไม่กลัวที่จะต้องจ่ายทุกสิ่งออกไป ถึงแม้จะต้องขายวิญญาณให้แก่ปีศาจร้ายก็ตาม!”
ตี้ฝูอีนั่งอยู่ตรงนั้นมองนางอย่างเยือกเย็น เสมือนมองดูคนบ้าคนเสียสติผู้หนึ่ง เขาค่อยๆ กำมือเข้าหากัน แสงเจ็ดสีก่อตัวขึ้นที่ปลายนิ้ว สว่างเรืองรอง ราวกับพร้อมจะจู่โจมเพื่อปลิดชีพได้ทุกเมื่อ!
อวิ๋นชิงหลัวกลับคล้ายว่าจะไม่รู้สึกถึงอันตรายเลย เธอกลับแย้มยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง
“ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ท่านอยากจะซัดข้าให้ตายใช่ไหม? งั้นข้าจะบอกท่านไว้นะ ถ้าท่านฆ่าข้าตอนนี้ ท่านก็จะไม่รอดเหมือนกัน!”
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว
“หือ?”
อวิ๋นชิงหลัวยิ้มน้อยๆ
“ท่านคิดว่านี่คือความฝันของท่านใช่ไหม? ความฝันของท่าน ท่านเป็นนาย ท่านสามารถควบคุมทุกอย่างได้งั้นสิ?”
“หรือว่ามิใช่เช่นนี้ล่ะ?”
น้ำเสียงตี้ฝูอียังคงสุขุมเช่นเดิม