บทที่ 2415 อยากทำให้เจ้าสมปรารถนา…
ขอบตาเธอแดงเรื่อแล้ว
“ข้าไม่ได้ไม่คิดแย่งชิง! หากว่าเจ้ายังไม่ได้ชอบใครอื่น ข้าก็จะสู้สุดชีวิตเพื่อแย่งกลับมา มิเช่นนั้นแล้วหลังจากเจ้าหายตัวไป ข้าคงไม่รอนแรมอยู่ด้านนอกเพื่อตามหาเจ้ากว่าหนึ่งปีหรอก ทุกหลืบมุมของแผ่นดินล้วนไม่เคยปล่อยผ่าน ทุกครั้งที่ข้าเข้าไปยังแต่ละเมืองก็จะโอบอุ้มความหวังอันน้อยนิดไว้ จากนั้นก็ต้องทุกข์ทรมานจากความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าน่ะเจ้ารู้บ้างไหม? เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเพื่อเข้าอาณาจักรมารข้าต้องลำบากลำบนแค่ไหน? ข้าตามหาเจ้ามาเนิ่นนานถึงเพียงนี้ แต่พอเจ้าเห็นข้าประโยคที่ถามข้าก็คือ ‘มาทำอะไร?’ จากนั้นก็บอกว่าตัดใจจากข้าแล้ว…เจ้ารักถนอมอวิ๋นชิงหลัวอย่างยิ่ง ต่อหน้าข้าก็ปกป้องนางสารพัด เห็นได้ชัดว่าเจ้าไม่ต้องการข้าแล้วจริงๆ…”
ความคับข้องหมองใจที่ถูกเธอกดทับเอาไว้ในส่วนลึกของสมองเหล่านั้นผุดขึ้นมาอีกครั้ง เบ้าตาเธอแสบเคืองแล้ว
“เป็นเจ้าที่เปลี่ยนใจก่อน แล้วเจ้าถือดีอะไรถึงมาโทษข้า? ตี้ฝูอี เจ้าจะทำตัวไร้เหตุผลไม่ได้นะ…”
เธอยกมือขยี้ตา ขยี้จนมือเปรอะคราบน้ำ
“ที่ข้าปล่อยมือก็เพราะไม่อยากสร้างความลำบากให้เจ้า อยากทำให้เจ้าสมปรารถนา…”
เป็นเพราะใส่ใจความรู้สึกของเขา ความสุขของเขา เธอถึงได้บีบคั้นตัวเองขนาดนี้ ทำให้ตัวเองเป็นเหมือนนางเอกผู้รันทด ไม่เพียงแต่ปล่อยมืออย่างสมบูรณ์เท่านั้น ยังช่วยเหลือศัตรูหัวใจด้วย…
เธอรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะถูกความเป็นแม่พระครอบงำอย่างสมบูรณ์แล้ว เขายังจะถือโทษโกรธเคืองที่เธอปล่อยมือง่ายๆ อีกหรือ?!
เวรเอ้ย ทำไมถึงไร้เหตุผลได้ขนาดนี้กันนะ!
หากว่ากู้ซีจิ่วเป็นสตรีอ่อนหวานล่ะก็ เกรงว่ายามนี้คงโกรธจน
‘ใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบอกเจ้า’
ไปแล้ว แต่เธอไม่ได้อ่อนหวาน ดังนั้นเธอจึงอยากจะถีบยอดอกของเขาสักป้าบ เตะเขากระเด็นออกไป!
ซัดเขาจนน่วมเหมือนตือโป๊ยก่าย!
เพียงแต่ยังพึงระลึกอยู่ว่าเขาถูกพิษสาหัส เธอจึงลงบัญชีลูกถีบนี้ไว้ก่อน วันหน้ามีโอกาสค่อยเอาคืน
“ซีจิ่วข้าไม่ต้องการคำอวยพรให้สมปรารถนาจากเจ้า นับตั้งแต่เจ้าชอบข้าก็เป็นการเติมเต็มความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับข้าแล้ว!”
ตี้ฝูอีไม่สนใจการขัดขืนของนาง รั้งนางเข้าสู่อ้อมอกอีกครั้ง
“ตั้งแต่ต้นจบจบคนที่ข้าชอบมีเพียงเจ้า ไม่เคยมีคนอื่นเลย อวิ๋นชิงหลัวเคยมีบุญคุณช่วยชีวิตข้า ตอนนั้นข้าเห็นนางเป็นน้องสาว ระหว่างข้ากับนางไม่เคยมีสัมพันธ์ลึกซึ้งอันใดเลย…”
กู้ซีจิ่วนิ่งไปแล้ว
เธอจะเชื่อเขาได้ยังไง? ถึงอย่างไรเรื่องราวมากมายนั้นเธอก็เห็นมากับตา ได้ยินมากับหู
“ซีจิ่ว เรื่องบางอย่างอาศัยแค่ตามองเห็นก็ใช่ว่าจะนำมาตัดสินได้ บางครั้งสิ่งที่ตาเห็นก็ไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง บางทีอาจมีคนจงใจทำให้เจ้าเห็นก็ได้ เป็นเพียงหลุมพรางหนึ่ง เจ้าต้องใช้หัวใจของเจ้าสัมผัสดู แล้วใช้สติปัญญาของเจ้ามาวิเคราะห์…”
ตี้ฝูอีดุจพยาธิในท้องเธอก็มิปาน ทราบความคิดในใจตอนนี้ของเธอ
กู้ซีจิ่วเงียบงัน…
นางไม่พูดอะไรแล้ว แต่เขารู้ว่านางรับฟัง จึงยินดีอยู่บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงมุมานะต่อไป
“พิษที่นางใช้กับข้าในครั้งนี้พิเศษอย่างยิ่ง ต้องใช้โลหิตหัวใจสดใหม่ของนางถึงจะล่อจระเข้วงแหวนเงินตัวนั้นออกมาได้ ดังนั้นข้าจึงไว้ชีวิตนาง พานางมาด้วย ต้องการให้นางทำคุณชดใช้ ถอนพิษของเจ้าอย่างแท้จริง…”
กู้ซีจิ่วพลันสะท้าน เบิกตากว้าง
โลหิตหัวใจ?!
ไม่น่าเชื่อเลยว่าตี้ฝูอีจะพาอวิ๋นชิงหลัวมาเพราะเหตุนี้?!
ในสมองเธอมีฉากที่พวกตี้ฝูอีล่อจระเข้วงแหวนเงินเข้ามาวาบผ่าน ตอนนั้นตี้ฝูอีใช้เชือกลากตัวอวิ๋นชิงหลัวกลับมา ยามนั้นอาภรณ์ของอวิ๋นชิงหลัวไม่เรียบร้อย สีหน้าซีดเซียวอย่างยิ่ง…
เพียงแต่ยามนั้นสถานการณ์เร่งด่วนยิ่ง เธอสนใจแค่จระเข้วงแหวนเงินตัวนั้น เลยไม่ได้สังเกตสีหน้าของอวิ๋นชิงหลัวอย่างละเอียด แค่นึกว่านางถูกจระเข้ทำร้ายเข้า บาดเจ็บสาหัส เลยไม่ได้คิดมากอีก
แต่ตอนนี้พอคิดๆ ดูแล้ว จะเหมือนเข้าเค้ากับคำพูดทั้งหมดของตี้ฝูอี…
ที่แท้นางก็ถูกกรีดเอาโลหิตหัวใจ
————————————————————————————-
บทที่ 2416 คืนดี
คนทั่วไปถ้าถูกกรีดเอาโลหิตหัวใจย่อมไม่รอดแน่ แต่อวิ๋นชิงหลัวเป็นผู้บำเพ็ญ ขอเพียงกรีดเอาอย่างถูกวิธี นางก็จะไม่ตาย
เมื่อทราบเหตุผลข้อนี้แล้ว การที่ต่อมาตี้ฝูอีวางกำลังป้องกันอวิ๋นชิงหลัวไว้ส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ ในเมื่อต้องการโลหิตหัวใจของนาง ย่อมต้องคุ้มครองนางไว้ดีๆ ปล่อยให้นางเกิดอุบัติเหตุไม่ได้…
ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง!
เดิมทีกู้ซีจิ่วก็ฉลาดอยู่แล้ว ย่อมนึกเรื่องราวที่ตามมาได้อย่างง่ายดายยิ่ง
ในใจเธอบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร หลังจากตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่ง ถึงนึกประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งออก
“แล้วที่เจ้ากับนางวิญญาณออกจากร่างพร้อมกันในครั้งนี้ล่ะ?”
“ข้าตกหลุมพรางของนาง…”
ตี้ฝูอีเล่าเรื่องราวออกมาคร่าวๆ
ถึงแม้เขาจะเล่าอย่างคร่าวๆ แต่พอกู้ซีจิ่วได้ฟังแล้วกลับอกสั่นขวัญแขวน ไม่น่าเชื่อว่าอวิ๋นชิงหลัวจะหมกหมุ่นจนถึงขั้นนี้ ตัวเธอก็นึกไม่ถึงเลยเช่นกัน
ต้องการจะครอบครองคนผู้นี้จนบ้าคลั่งถึงเพียงนี้ ไม่คำนึงเลยว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนอันใด ขายศักดิ์ศรีขายวิญญาณได้…
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า เธอไม่มีทางเข้าใจเรื่องนี้ได้
แน่นอนว่าไม่อยากเข้าใจด้วย
ระหว่างที่เธอคุยกับเขา กู้ซีจิ่วก็ฉวยโอกาสตรวจสอบพิษในร่างตี้ฝูอีอย่างละเอียดไปด้วย
พบว่าพิษนี้วิปริตจริงๆ เธอก็หาวิธีแก้ไขไม่ได้ชั่วขณะ คล้ายว่าการร่วมคู่จะเป็นเพียงหนทางเดียว…
เธอค่อนข้างใจลอยอยู่บ้าง รอจนสติของเธอกลับมาอีกครั้ง ก็พบว่าข้างตัวมีเตียงเพิ่มขึ้นมาหลังหนึ่ง เป็นเตียงไม้พยุง กว้างใหญ่และแข็งแรงยิ่งนัก คนสองคนสามารถนอนเกลือกลิ้งบนเตียงได้ไม่มีปัญหา
ส่วนตัวเธอก็ไม่รู้ว่าถูกเขาจูงมานั่งอยู่ริมเตียงตั้งแต่ตอนไหน เขาเกาะติดเธอแนบแน่น แขนข้างหนึ่งของเขากึ่งๆ โอบเอวเธอไว้ ท่อนแขนของเขาร้อนผ่าว ร่างกายที่แนบติดเธออยู่ก็ร้อนรุ่มเช่นกัน…
เธอพลันเงยหน้า สบเข้ากับนัยน์ตาดำสนิททว่าราวกับแฝงเปลวเพลิงเอาไว้!
หยาดเหงื่อบนหน้าผากเขาเพิ่มมากยิ่งขึ้น แต่กลับยิ้มน้อยๆ มองดูเธอ
“เจ้ายังมีอะไรอยากถามข้าอีกไหม? ถ้ามีถามออกมาทีเดียวเถิด! ขอเพียงข้ารู้ ก็จะตอบเจ้าแน่”
ถึงแม้เขาจะแย้มยิ้มสุภาพอ่อนโยน แต่กู้ซีจิ่วกลับรู้สึกเหมือนลูกแกะน้อยที่ถูกหมาป่าหิวโซตัวหนึ่งจับจ้อง…
หนังหัวเธอชาหนึบ เผชิญกับสายตากดดันของเขา ตอบอ้อมแอ้ม
“ไม่…ไม่มีแล้ว…”
“ดีมาก”
ตี้ฝูอีถอนหายใจอย่างโล่งอก ยิ้มแล้ว!
พลันพลิกตัวคร่อมเธอไว้บนเตียง
“เช่นนั้นจะถอนพิษให้ข้าได้หรือยัง?”
ถึงแม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่การกระทำของเขากลับแกร่งกร้าวนัก ยามที่ดวงตาคู่นั้นมองดูเธอราวกับต้องการจะกลืนกินเธอเข้าไป สายตาบ่งบอกว่าไม่อาจหลบเลี่ยงได้แล้ว
หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นกระหน่ำ พวงแก้มร้อนดั่งไฟ
เขาคร่อมทับเธอไว้ เธอสัมผัสได้ชัดเจนว่าส่วนนั้นของอีกฝ่ายที่แข็งดุจเหล็กกล้า!
“ข้า…อันที่จริงข้ากำลังคิดหาวิธีแก้พิษให้เจ้าอยู่…”
ภายใต้สายตาอันร้อนแรงของเขา เธอแทบจะพูดจาติดขัดแล้ว
“ข้าคิดว่าน่าจะมีวิธีแก้พิษแบบอื่นอยู่…”
“เด็กน้อย ตอนนี้ข้ารับได้เพียงวิธีนี้เท่านั้น! เรียบง่ายฉับไวได้ผลที่สุดแล้ว! ”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออกเลย
“เช่นนั้น…”
เธอนึกถึงครั้งแรกที่ทำกับเขาขึ้นมา ความดุดันของเขาทำให้เธอหนักใจอยู่บ้าง
ตอนนี้เขาโดนยาปลุกกำหนัดที่แรงกล้าขนาดนี้ เกรงว่าคงจะบ้าคลั่งขึ้นไปอีก ดุดันขึ้นไปอีก…
เธอจะถูกเขาเครี่ยวกรำจนหมดสภาพหรือเปล่า?!
เธอกลืนน้ำลายลงไปอย่างลำบากใจ ขณะที่กำลังจะพูดอะไร จุมพิตของเขาก็ทาบลงมาแล้ว
“ข้าทรมานเหลือเกิน! ข้ารอไม่ไหวแล้ว…”
วินาทีถัดไป สาบเสื้อของเธอก็ถูกเขาเปิดออก และจุมพิตของเขาก็บ้าคลั่งดุจพายุฝน โจมตีรุกราน
“ซีจิ่ว เจ้าสามารถมาหาข้าได้ ช่างดีจริงๆ!”
กู้ซีจิ่วไม่ได้ขัดขืนอีก ด้านหนึ่งก็รับรู้ถึงความเร่าร้อนและจริงจังของเขา อีกด้านก็ครุ่นคิดอย่างเลือนรางไปด้วย ที่หยกนภาบอกว่ามีแค่เธอที่จะช่วยเหลือเขาได้ก็หมายความเช่นนี้นี่เอง…
เวรเอ้ย ที่แท้เธอลำบากตรากตรำเข้ามาจนถึงที่นี่เพื่อ
‘มอบตัวให้ถึงหน้าประตู’
สินะ…