ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เกี้ยวพาเธอหรือ? 1
ในที่สุดท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ปล่อยเธอ เพ่งพิศตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่หลายครา “เจ้ากังวลอะไร?” พลางเอ่ยถามด้วยทาทียิ้มๆ อีกครั้ง “เมื่อกี้ยังดึงแขนเสื้อเปิ่นจุนไว้ไม่ให้จากไปไหนอย่างอาจหาญอยู่เลยมิใช่หรือ?”
กู้ซีจิ่วแอบเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ดึงแขนเสื้อก็อาจหาญแล้วหรือ? เธอไม่ได้ดึงกางเกงของเขาด้วยเสียหน่อย…
เธอรีบสลัดความคิดไม่เข้าท่านี้ไปทันที เพื่อยงเลี่ยงไม่ให้ความคิดดำเนินไปในทิศทางที่สกปรกกว่าเดิม…
“ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ครานี้จะดีจะร้ายอย่างไรข้าก็ออกแรงเหมือนกันนะเจ้าคะ ข้าคิดว่าข้ามสิทธิ์จะได้รู้” กู้ซีจิ่วสู้เพื่อสิทธิของตน
“เจ้าอยากดื่มชาไหม?” จู่ๆ ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็เอ่ยลอยๆ ขึ้นมา
กู้ซีจิ่วตะลึงไปครู่หนึ่ง เธอก็คอแห้งอยู่บ้างจริงๆ ได้โอกาสดื่มชาให้กระชุ่มกระชวยพอดีด้วยเหตุนี้จึงตอบรับอย่างซื่อตรงยิ่ง “ดื่มเจ้าค่ะ!”
ไม่รู้ว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หยิบอุปกรณ์ชงชาชุดหนึ่งออกมาจากที่ใด เริ่มต้นชงชา
กู้ซีจิ่วนั่งอยู่ตรงนั้น จ้องมองการเคลื่อนไหวของเขา เกรงว่าเขาจะผสมอะไรให้เธอ…
ท่าทางการชงชาของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ลื่นไหลยิ่งนัก ไม่ด้อยไปกว่าปรมาจารย์ด้านการชงชาเหล่านั้นเลย หลังจากชงเสร็จ เขาก็รินให้เธอหนึ่งถ้วย “ดื่มสิ”
กู้ซีจิ่วลังเลเล็กน้อย กลิ่นชาหอมสดชื่น กลิ่มเยี่ยมยอดนัก แต่กลิ่นอายไม่เหมือนกับชาชนิดใดที่เธอเคยดื่มเลย
“กลัวเปิ่นจุนวางยาพิษเจ้าหรือ? เจ้าคิดว่าถ้าเปิ่นจุนต้องการทำอะไรเจ้าจริงๆ ยังต้องใช้พิษด้วยหรือ?” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ตีความอาการลังเลของเธอผิด
กู้ซีจิ่วส่ายหน้าพลางเอ่ยตอบ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องวางยาพิษซีจิ่ว ที่ซีจิ่วลังเลเป็นเพราะกลิ่นของชานี้ค่อนข้างแปลก…”
เอ๊ะ ทำไมเธอรู้สึกเหมือนว่าเคยพูดจาทำนองเดียวกันกับที่สนทนากับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาก่อน?
ต้องคารวะความจำอันยอดเยี่ยม เธอนึกออกอย่างรวดเร็วว่าตนเหมือนจะเคยพูดจาทำนองนี้กับตี้ฝูอีมาก่อน…
แปลกนัก! เธออยู่กับท่านเทพศักดิ์สิทธิ์แท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงได้นึกถึงตี้ฝูอีอยู่เรื่อย…
จะว่าไป หลังจากคนผู้นั้นถอนหมั้นกับเธอก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ อีกเลย
เขาคงจะสุขสำราญมีอิสระเสรีเหมือนที่เคยเป็นมากระมัง?
เธอใจลอยเล็กน้อย ถือถ้วยชาค้างไว้
แปลกหรือ? ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เลิกคิ้ว จิบของตนเข้าไปอึกหนึ่ง รสชาติไม่เลวเลย แปลกตรงไหนกัน?
เพียงแต่เห็นนางมีท่าทางฝืนใจเช่นนั้น คงมิใช่ว่ารสชาติชานี้บังเอิญเป็นแบบที่นางไม่ชอบพอดีกระมัง?!
“หากไม่อยากดื่มจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องฝืน!” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เปิดปากเอ่ย น้ำเสียงไม่ดีสักเท่าไหร่
หลายวันก่อนเขาลำบากยากเย็นเหลือแสนกว่าจะเก็บชานี้มาได้ เดิมทียังนึกอยู่ว่าชานี้รสชาติดีแถมยังเหมาะกับวรยุทธ์ที่นางฝึกฝน นางคงชอบ คิดไม่ถึงว่า…
ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็ได้สติ ทราบว่าทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดแล้ว จึงรีบก้มลงไปดื่มอึกใหญ่
กลิ่นชาหอมสดชื่น ราวกับแฝงกลิ่นหอมอ่อนจางของสายลมฤดูใบไม้ผลิที่โชยผ่านยอดไม้ผลิใบ
หอมนุ่มชุ่มคอ! หอมนุ่มชุ่มคอโดยแท้!
ด้วยเหตุนี้เธอจึงดื่มเข้าไปอีกอึก จนกระทั้งหมดถ้วย…
“รสชาติดี! ชานี้รสดีนัก!” กู้ซีจิ่วเอ่ยชม แทบจะยกนิ้วให้เลย
เธอดันถ้วยชาออกไป จ้องกาน้ำชาใบน้อยที่อยู่ในมือเขาเพลางร้องขอ “ข้าดื่มอีกถ้วยได้ไหมเจ้าคะ?”
“หนึ่งถ้วยเพื่อคุณค่า สองถ้วยคือซดเหมือนวัว” ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ส่ายหน้า แต่พอเห็นสายตาที่มองดั่งสีซอให้ควายฟังของนาง ก็ทำได้เพียงรินให้นางอีกถ้วย “หนนี้ดื่มให้ช้าหน่อย”
นึกไม่ถึงว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ทราบถ้อยคำจากเรื่อง ‘ความฝันในหอแดง’ เหมือนกัน คล้ายคลึงกับถ้อยคำที่เมี่ยวอวี้กล่าวกับเป่าอวี้
หัวใจกู้ซีจิ่วเต้นรัวนิดๆ เรื่องความฝันในหอแดงเมี่ยวอวี้ชมชอบเป่าอวี้ เพียงนางไม่เคยแสดงออกมาเลย เก็บซ่อนไว้ล้ำลึกนัก
คงมิใช่ว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ชอบเธอ เพียงแต่ว่าเก็บซ่อนไว้ล้ำลึกเช่นกันกระมัง?
เดี๋ยวนะ! หยุดก่อน!
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว่าพอความคิดของตนฟุ้งซ่านแล้วน่ากลัวนัก! พูดอื่นเอ่ยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอก็ฟุ้งซ่านไปทิศทางพิสดารเช่นนี้แล้ว!