ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายชอบเจ้าไหม?
จู่ๆ หัวใจเธอก็สั่นไหวแวบหนึ่ง ที่กู่ฉานโม่มาขอพบท่านเทพศักดิ์สิทธิ์เช้านี้ หรือจะมาพูดเรื่องนี้กันนะ?
“เจ้าไล่ตามข้ามาเพื่อพูดแค่นี้น่ะหรือ?” กู้ซีจิ่วถามออกไป
อวิ๋นชิงหลัวชะงักไปครู่หนึ่ง เม้มริมฝีปากแล้วเอ่ย “ครั้งนี้ข้ามาเพื่อขอบคุณเจ้าโดยเฉพาะ”
“หือ?” กู้ซีจิ่วไม่เข้าใจ
“ครานั้นหากมิใช่เจ้ายื่นมือเข้ามา เกรงว่าข้าคงหมดแรงตายไปแล้ว ดังนั้นข้าต้องขอบคุณเจ้า”
“อืม ข้ารับไว้แล้ว” กู้ซีจิ่วก็พูดจาตรงไปตรงมาเช่นกัน “เพียงแต่ครั้งนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเจ้า การช่วยเจ้าเป็นแค่ผลพลอยได้”
อวิ๋นชิงหลัวสูดลมหายใจเข้าไปเฮือกหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า “ข้ารู้ แต่เจ้าก็ยังช่วยข้าไว้อยู่ดี คำขอบคุณนี้เป็นเรื่องที่สมควร”
“ได้ คำขอบคุณของเจ้าข้ารับไว้แล้ว เจ้าไม่ต้องตามข้ามาแล้ว” กู้ซีจิ่วเร่งฝีเท้าขึ้นหลายก้าว เธอไม่คิดว่าเธอกับอวิ๋นชิงหลัวจะเป็นเพื่อนกันได้
“นอกจากขอบคุณแล้ว ข้ายังมีเรื่องจะพูดอีก” อวิ๋นชิงหลัวไล่ตามมาอีกครั้ง
เธอว่าแล้ว!
กู้ซีจิ่วหยุดเท้าทันที “ได้ เจ้าว่ามาสิ”
อวิ๋นชิงหลัวมองเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้า สูดหายใจแล้วสูดหายใจอีกถึงได้เอ่ยปากออกมา “ที่ข้าจะพูดคือ เจ้าช่วยข้าไว้ข้าซาบซึ้งมาก แต่ข้าจะไม่ยอมเลิกไล่ตามท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเพราะเรื่องนี้ ข้าชอบเขามานานหลายปีแล้ว…”
เสียงนางสั่นนิดๆ “ข้าชอบเขาในระดับที่เจ้าจินตนาการไม่ถึงเลย…กู้ซีจิ่ว ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถมาก บุรุษมากมายล้วนหลงใหลเจ้า แม้แต่ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์…ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ออกหน้าพูดให้เจ้า ตอนนี้เจ้าล้ำเลิศมากแล้ว อย่าแย่งท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกับข้าอีกได้ไหม?”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
ดวงตาอวิ๋นชิงหลัวแดงก่ำ “ข้าไม่สนว่าบุรุษคนอื่นจะปฏิบัติต่อข้าอย่างไร ข้าชอบแค่ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเท่านั้น ชอบเขาจนแทบคลั่งแล้ว ข้าพยายามฝึกฝนเพื่อเขา ข้าหลายเป็นสานุศิษย์สวรรค์เบื้องบนก็เพื่อเขา ข้าถึงขั้นแลก…ข้าทำทุกอย่างก็เพื่อเขา เจ้าไม่มีทางรู้ว่าข้าต้องรับความทุกข์ทรมานมากเพียงใดเพื่อให้ได้ยืนเคียงข้างเขา…”
ร่างกายนางสั่นสะท้าน มองดูกู้ซีจิ่ว “เจ้าอย่ายื้อแย่งกับข้าได้หรือไม่? ขอเพียงเจ้าหลีกทางไปข้าสามารถมอบสิ่งชดเชยมากมายให้เจ้าได้ ข้าจะทุ่มเททำทุกอย่างเพื่อชดเชยให้เจ้า…”
กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากแน่น ความรักหรือกล่าวอีกอย่างก็คือความลุ่มหลงที่อวิ๋นชิงหลัวมีต่อทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทำให้เธอหวั่นไหวได้ แต่เธอไม่ได้ชื่นชมเลย
เพียงแต่เห็นแก่ความตรงไปตรงมาของแม่นางผู้นี้ กู้ซีจิ่วจึงตัดสินใจคุยกับนาง
“อวิ๋นชิงหลัว ข้าขอถามเจ้า ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายชอบเจ้าไหม?”
สีหน้าอวิ๋นชิงหลัวซีดขาวเล็กน้อย “เขา…จะต้องชอบข้าแน่”
“กล่าวอีกอย่างคือ เขายังไม่ได้ชอบเจ้าใช่ไหม?” กู้ซีจิ่วถามต่อ
“ไม่…” น้ำเสียงอวิ๋นชิงหลัวหวีดแหลมนิดๆ “เขาน่าจะชอบข้าอยู่นิดหน่อย ตอนที่ข้ายังไม่กลายเป็นสานุศิษย์สวรรค์ เคยถูกคนลักพาตัว เป็นเขาที่ตามมาช่วยข้าไว้ และพูดคุยกับข้ามากมาย…”
อวิ๋นชิงหลัวคล้ายจะจมดิ่งอยู่ในห้วงความทรงจำ “ยามนั้นเขาน่าจะชอบข้ามาก พาข้าขึ้นรถม้าส่วนตัวกลับ เขาพาข้าไปที่อาณาจักรเฟยซิงด้วยตัวเอง บอกฐานะข้ากับจักรพรรดิของอาณาจักรเฟยซิง ให้จักรพรรดิจัดเรือนรับรองที่ดีที่สุดให้ข้า เขาบอกว่าสานุศิษย์สวรรค์จะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมเกียรติ ตอนนั้นเขาคงจะยอมรับแล้วว่าข้าคือสานุศิษย์สวรรค์ ยังไม่ได้ทดสอบก็เริ่มสอนวรยุทธ์ให้ข้าแล้ว ชีพจรของข้าบกพร่องเล็กน้อย ไม่อาจฝึกฝนวรยุทธ์แขนงหนึ่งได้ เขาก็หลอมยาให้ข้าด้วยตัวเอง…ให้ข้าไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ตั้งใจฝึกฝนก็พอ เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนนั้นข้าดีใจมากแค่ไหน…”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน เธอก็นึกถึงตัวเองก่อนหน้านี้ ดูเหมือนตอนแรกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายก็ไม่ยอมรับว่าเธอคือสานุศิษย์สวรรค์ กล่าวเป็นนัยๆ อยู่เสมอว่าเธอคือตัวปลอมจะจัดการเธอ
ดูเหมือนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ต่อให้ไม่ใช้แท่นเบิกสวรรค์ทดสอบ เขาก็มองออกแปดเก้าส่วนแล้ว