ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 638

เศรษฐีอันดับหนึ่งของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์

“อาจารย์ใหญ่กู่ นี่คือยาหยกกระจ่าง สามารถรักษาอาการแดดไหม้ไฟลวกได้ ทาแล้วจะทำให้ผิวที่ได้บาดเจ็บชุ่มชื้นอย่างรวดเร็ว กำจัดรอยแตกได้…”

ตอนนี้กู่ฉานโม่ทราบถึงฝีมือด้านการหลอมโอสถของกู้ซีจิ่วแล้ว นางไม่เพียงแต่หลอมโอสถล้ำค่าบางอย่างของโลกนี้ได้เท่านั้น ยังหลอมโอสถบางอย่างที่เขาไม่ได้ยินชื่อมาก่อนได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่นยาบำรุงโฉม ได้ยินว่านางวางขายในตลาดผีไปแล้วหลายขวด ผู้ที่เคยใช้ล้วนบอกว่าดี

ยามนี้พอเห็นนางกำนัลสิ่งนี้ให้ ก็พึงพอใจมาก เพียงแต่ยังคงปฏิเสธอย่างเคร่งครัดเที่ยงธรรม “อาจารย์ใหญ่เช่นข้าไม่รับสินบนใดๆ”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “ใครบอกว่าข้ามอบสินบน?” มือน้อยๆ ข้างหนึ่งยื่นออกมา “ยานี้ในตลาดผีขายขวดล่ะแปดร้อยหินวิญญาณ ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่จะขายให้ท่านในราคาพิเศษแล้วกัน หกร้อยหินวิญญาณก็พอ”

กู่ฉานโม่แทบกระอักโลหิตออกมา!

สุดท้ายเขาก็ยังคงซื้อยาของนาง เนื่องจากเขาลองใช้ดูเล็กน้อย ทาลงบนรอยแตกแห่งหนึ่ง ผลคือรอยแตกนั้นสมานกันเร็วมากจริงๆ…ที่สำคัญกว่านั้นคือ ความรู้สึกแสบร้อนนั้นก็บรรเทาลงไปมากเช่นกัน

ยาเช่นนี้เขาหาจากที่อื่นมิได้ หาได้ที่กู้ซีจิ่วจอมเจ้าเล่ห์ผู้เดียว ดังนั้นต่อให้แพง เขาก็ต้องกัดฟันซื้อ

ที่เขามาหาสามคนนี้ยังมีจุดประสงค์อื่นอยู่ด้วย ดังนั้นพอให้กำลังใจเสร็จเขาก็เอ่ยความต้องการของตนออกมา “กลยุทธ์ของพวกเจ้ายอดเยี่ยมมาก โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ประลองกับสหายร่วมชั้นเรียนเมฆาคล้อยต่อไปก็ไม่น่าสนใจมากเท่าไหร่แล้ว มิสู้เริ่มขั้นต่อไป พวกเจ้ามาประลองกับชั้นเรียนเมฆาม่วงดีหรือไม่?”

ดวงตาเชียนหลิงอวี่ส่องประกายทันที เขาอยากกลับไปถล่มชั้นเรียนเมฆาม่วงมานานแล้ว! แม้เป็นเพียงการประลองก็ตาม…

การประลองจะต้องต่อสู้กันอย่างจริงจัง ชนะเรียบอยู่ตลอดก็น่าเบื่อเหมือนกัน

เพียงแต่ในกลุ่มของพวกเขาสามคนกู้ซีจิ่วคือหัวหน้ากลุ่ม ดังนั้นเขาจึงหันไปมองกู้ซีจิ่วทันที

กู้ซีจิ่วใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยถามกู่ฉานโม่ “พวกเราเป็นศิษย์ของชั้นเรียนเมฆาคล้อย ประลองกับชั้นเรียนเมฆาม่วงแล้วเสียเปรียบนัก อย่างไรเสียอาหารของพวกเราสองฝ่ายก็แตกต่างกัน เท่ากับจุดเริ่มต้นที่พวกเรายืนแตกต่างกัน นี่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมยิ่ง”

กู่ฉานโม่ก็ใจกว้างมาก โบกมือเป็นการใหญ่ “ได้ ขอเพียงพวกเจ้าชนะชั้นเรียนเมฆาม่วงได้สักตา ต่อไปก็สามารถกินอาหารที่ชั้นหนึ่งของโรงอาหารได้”

กู้ซีจิ่วยังคงมีเงื่อนไขข้อที่สอง “อาจารย์ใหญ่กู่ เหตุผลที่ท่านให้พวกเราไปประลองกับชั้นเรียนเมฆาม่วงเป็นเพราะอยากศึกษาแนวทางการจับกลุ่มของพวกเรากระมัง อยากเห็นว่าการจับกลุ่มเช่นนี้จะทรงอานุภาพมากเพียงใด จากนั้นก็พิจารณาว่าจะเผยแพร่ให้แก่เหล่าศิษย์ดีไหม ใช่หรือไม่?”

จุดประสงค์ของกู่ฉานโม่ถูกกู้ซีจิ่วกล่าวออกมาจนหมดเปลือก จึงชะงักไปครู่หนึ่ง ค่อยพยักหน้ารับ “มิผิด กู้ซีจิ่ว แนวทางการจับกลุ่มของเจ้าพิเศษมาก แต่ก็มีประสิทธิภาพมากเช่นกัน แนวทางการจับกลุ่มที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้สมควรจะเผยแพร่จริงๆ เพื่อยกระดับความสามารถในการร่วมกันของศิษย์ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ของพวกเรา”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วแวบหนึ่ง “ไม่ง่ายเลยกว่าข้าจะคิดค้นแนวทางการจับกลุ่มนี้ได้ สิ้นเปลืองจิตวิญญาณไปไม่น้อย ข้าไม่อาจให้ผู้อื่นนำไปเรียนรู้เปล่าๆ ได้ เช่นนี้แล้วกัน จ่ายมาสองพันหินวิญญาณ อาจารย์ใหญ่กู่ก็ซื้อแนวทางนี้ไปเผยแพร่ได้แล้ว…”

กู่ฉานโม่นิ่งงัน

ในที่สุดเขาก็ระเบิดโทสะออกมา “กู้ซีจิ่ว เจ้าหน้าเงินไปแล้วหรือไง?! ตอนนี้เจ้าร่ำรวยกว่าข้าเสียอีก ยังจะเอาหินวิญญาณมากมายปานนั้นไปทำอันใด?!”

กู้ซีจิ่วไม่พูดไม่จา เพียงมองดูเขา

ในที่สุดกู่ฉานโม่ก็ยอมแพ้เธอ “ได้ ยอมเจ้าแล้ว! เจ้าไปรับที่คลังหินวิญญาณได้ในภายหลัง”

กู่ฉานโม่จากไปประหนึ่งพายุบุแคม

เชียนหลิงอวี่อดไม่ได้ที่จะยกนิ้วชมเชยกู้ซีจิ่ว “ซีจิ่ว ยังคงเป็นเจ้าที่รู้ช่องทางหาเงิน! ข้ารู้สึกว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ถึงหนึ่งปีเจ้าก็จะกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์”

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset