บทที่ 735 แน่นอนว่าเธอโกรธมาก!
บัดนี้ภายใต้แสงดารากู้ซีจิ่วได้เห็นเขามากพอแล้ว รู้สึกอยู่ลึกๆ ว่าคนผู้นี้คือมารร้ายโดยแท้ ไม่เพียงแต่มีนิสัยก้าวร้าวยิ่งนักเท่านั้น แม้แต่รูปโฉมก็ยังร้ายกาจปานนี้…
ทำให้ผู้อื่นยอมสยบให้ง่ายดายนัก ไม่มีแม้กระทั่งจิตคิดริษยา
นี่คือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี ของแท้แน่นอน!
เจ้าจมน้ำไปหลายครั้ง ดูเหมือนว่าในที่สุดเขาก็สร่างขึ้นมาแล้ว
เขาล้างมือแล้วเช็ดปากจากนั้นก็จัดการเส้นผมที่เปียกชุ่ม…
เขายังดูอ่อนแอมาก สั่นสะท้านเล็กน้อยอยู่ในน้ำ ยามที่จัดการตัวเองก็กึ่งจมกึ่งลอย
กู้ซีจิ่วลำบากลำบนอยู่นานสองนาน เหนื่อยล้าอย่างยิ่ง พอถึงยามนี้รู้สึกเพียงว่าเมือเท้าล้วนอ่อนแรงไปหมด ราวกับเพิ่งผ่านศึกหนักมา
เนื่องจากจับอีกฝ่านกดน้ำจนกระอักเลือด กู้ซีจิ่วจึงรู้สึกผิดอยู่บ้าง ละอายใจที่จะปีนขึ้นฝั่งก่อน เลยอยู่ไม่ห่างจากข้างกายเขาแล้วมองดูเขา เมื่อเห็นเขาจัดการไปได้พอสมควรแล้วจึงเอ่ยถาม “ยังมีแรงอยู่หรือไม่? ต้องการให้ข้าพยุงเจ้าขึ้นฝั่งหรือเปล่า?”
ในที่สุดตี้ฝูอีก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาคู่นั้นมองมาที่เธอ
หัวใจกู้ซีจิ่วพลันเต้นรัว ภายใต้แสงดารานัยน์ตาเขาดั่งมหาสมุทรลึก ระลอกคลื่นส่องสะท้อนระยิบยับ เป็นแววตาตามปกติของเขา
เขาเอียงคอมองเธอ ดวงตาแฝงแววเพ่งพินิจ “กู้ซีจิ่ว? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”
น้ำเสียงเขายังคงแหบพร่าอยู่เล็กน้อย เดิมทีน้ำเสียงเขาก็ไพเราะอยู่แล้ว ต่อให้แหบพร่าก็ยังน่าฟัง ดึงดูดให้ใจคนสั่นไหว
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ก่อนหน้านี้เขาทั้งกอดทั้งจูบทั้งสัมผัส ตักตวงผลประโยชน์อย่างถึงที่สุด ทำอยู่ตั้งนานสองนานเขาไม่ทราบงั้นหรือว่าที่กอดที่จูบอยู่คือผู้ใด?!
เช่นนั้นที่เผยสันชาตญาณดิบก่อนหน้านี้เขาเห็นเธอเป็นผู้ใดกัน?!
กู้ซีจิ่วตะลึงไปชั่วขณะโมโหขึ้นมาทันที “ผ่านทางมา! บังเอิญเห็นชายชุดของท่านอยู่ในน้ำ ข้าเห็นเนื้อผ้าดูไม่เลว คิดจะงดขึ้นมาดูเนื้อสัมผัส นึกไม่ถึงว่าจะงมขึ้นมาเป็นท่าน!”
ตี้ฝูอีพูดไม่ออก
กู้ซีจิ่วหัวเราะหยันแล้วเอ่ยต่อ “น่าขันนัก ฝีมือท่านสูงส่งถึงเพียงนั้น เหตุใดถึงเมาสุราจนตกน้ำได้เสียเล่า?อาการเมาสุรานี้ช่างมีเอกลักษณ์ยัก ทำให้ผู้อื่นได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!”
ตี้ฝูอีมองเธออยู่เงียบๆ
กู้ซีจิ่วกล่าวต่อไป “หรือเมื่อครู่ท่านฝึกวิชาลมหายใจเต่าอันใดทำนองนั้นอยู่ใต้น้ำ? ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้อื่นข้าใจผิด เช่นนั้นก็ขออภัยด้วย ข้าไม่ควรลากท่านขึ้นฝั่ง ควรปล่อยให้ท่านอยู่ในน้ำต่อไป…”
“เจ้าโกรธมากหรือ?” ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็เปิดปากเอ่ย
แน่นอนว่าเธอโกรธมาก!
ผู้อื่นช่วยเหลือคนด้วยเจตนาดีกลับถูกเอาเปรียบ หนำซ้ำอีกฝ่ายังไม่ทราบว่าเอาเปรียบผู้อื่นไป ผู้อื่นพบเจอเรื่องนี้จะให้เบิกบานยินดีหรือ?
“ข้าเมาจริงๆ และเป็นครั้งแรกที่ข้าเมา…”ตี้ฝูอีเอ่ยเบาๆ “ข้าจมลงสู่น้ำมิใช่การฝึกวิชาอันใด แต่เป็นเมาอยู่ในนั้น”
กู้ซีจิ่วเบิกตามองเขา โพล่งประโยคหนึ่งออกมา “เจ้ามิได้จมน้ำตายหรอกหรือ?”
ตี้ฝูอีนิ่งงัน
“เจ้าปรารถนาให้ข้าจมน้ำตายหรือ?” แววตาเขาด่ำดิ่งอีกครั้ง ก้นบึ้งนัยน์ตาคล้ายฉายแววเจ็บปวด
กู้ซีจิ่วร้องเฮอะคราหนึ่ง “ข้าแค่ฉงนเล็กน้อย”
เขาน่าจะแช่อยู่ในน้ำนานแล้ว แช่อยู่ในน้ำด้วยสภาพเช่นนั้นนานถึงเพียงนี้เขายังมีชีวิตอยู่ได้ก็นับว่าปาฏิหาริย์แล้ว
“เมื่ออยู่ใต้น้ำข้าสามารถหายใจทางผิวหนังได้” เขาอธิบายแก่เธอ “ดังนั้นข้าไม่มีทางจมน้ำ”
ที่แท้เป็นเช่นนี้ กู้ซีจิ่วพยักหน้า ทันใดนั้นก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก “ไม่ถูกสิ เช่นนั้นก่อนหน้านี้ที่ข้าลากท่านลงไปในน้ำ ท่านก็น่าจะไม่จมน้ำสิ แล้วเหตุใดถึงกระอักโลหิตได้เล่า?”
ตี้ฝูอีมองเธอด้วยสายตาลึกล้ำซับซ้อน “บางทีข้าอาจถูกเจ้ายั่วโมโหจนกระอักโลหิตก็เป็นได้…”
กู้ซีจิ่วไม่เชื่อเด็ดขาด แค่ยั่วโมโหเขาก็กระอักโลหิตได้ เขานึกว่าเธอเป็นจูเก่อเลี่ยง ส่วนเขาคือจิวยี่หรือไง?!
————————————————————————————-
บทที่ 736 ช่วยข้าขึ้นฝั่งหน่อยได้หรือไม่?
“ซีจิ่ว เจ้ามาช่วยข้าโดยเฉพาะหรือ?” น้ำเสียงตี้ฝูอีนุ่มนวลลง นัยน์ตาคู่นั้นคล้ายฉายแววอ่อนโยน
“ข้าบอกแล้วไง ว่าผ่านทางมา! ผ่านทาง!” กู้ซีจิ่วเหลืออด เธอแค่ผ่านทางมาจริงๆ บังเอิญอยู่ที่นี่แล้วนึกถึงเข้าขึ้นมาก็เท่านั้น ผลสุดท้ายไม่นึกเลยว่าปล่อยไก่ตัวเบ้อเริ่มเช่นนี้…
เธอมองร่างกายตน เปียกปอนเหมือนเป็ดเล่นน้ำไม่มีผิด
กลางค่ำกลางคืนเธอไม่หลับไม่นอนอยู่ดีไม่ว่าดีผ่านทางมาที่นี่ ผลของการมีคุณธรรมคือทำให้ตนกลายเป็นเช่นนี้
กู้ซีจิ่วสำนึกเสียใจนัก เพียงแต่เธอยังมีปัญหาอีกข้อที่อยากถาม “ท่านไม่รู้เลยหรือว่าผู้ใดช่วยท่าน?”
เช่นนั้นที่เขาทั้งกอดทั้งจูบไปก่อนหน้านี้ เพราะคิดว่าเธอเป็นคนอื่นหรือเปล่า?
ตี้ฝูอีมองดูเธอ น้ำเสียงราบเรียบ “คนอื่นเข้าใกล้ข้าไม่ได้”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “หะ?”
เขาจะหลอกผีหรือไง?! ก่อนหน้านี้เขาเมาจนกลสยเป็นคนดีเช่นนั้น ต่อให้เป็นเพียงพอนเหลืองตัวหนึ่งที่มาก็สามารถลากเขาออกไปได้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ผู้อื่นจะเข้าใกล้ไม่ได้?
เช่นนั้นเมื่อกี้เธอจะเข้าใกล้เขาอย่างง่ายดายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร? ไม่รู้สึกว่ารอบกายเขามีอะไรกีดขวางอยู่เลย
ตี้ฝูอีถอนหายใจเฮือกหนึ่ง หาได้ยากนักที่เขาจะเมา แต่ต่อให้เขาเมามายรอบกายก็ยังมีเขตแดนคุ้มกันอยู่
เมื่อมีคนรุกเข้ามาใกล้เขาในระยะหนึ่งฉื่อ จะถูกพลังวิญญาณที่คุ้มกายเขาดีดสะท้อนกลับไปทันที หากคนผู้นั้นโจมตีด้วยเจตนาร้าย จะสะท้อนกลับไปร้ายแรงยิ่งกว่า
หากว่าเขาไม่มีความสามารถเช่นนี้ ในโลกที่วุ่นวายคาดคะเนไม่ได้เช่นนี้ไม่รู้ว่าจะตกตายไปไม่รู้กี่หนแล้ว! จะมีชีวิตมาถึงตอนนี้ได้หรือ?
ทว่าร่างกายของเขาไม่ป้องกันจากนาง ยินยอมให้นางเข้าใกล้ ยอมให้นางดึงให้นางกอด…
ร่างกายของเขาจดจำผู้คนได้ ในสัญชาตญาณจดจำได้เพียงนาง และมีความรู้สึกเพียงกับนางเท่านั้น คนที่ปรารถนาจะใกล้ชิดก็มีเพียงนางเช่นกัน เขาไม่สนใจสตรีนางอื่นเลย…
กู้ซีจิ่วย่อมไม่ทราบเรื่องพวกนี้ ดังนั้นปฏิกิริยาแรกของเธอก็คือเขาหลอกลวงเธออีกแล้ว…
แต่คำโปดเช่นนี้จะเปิดโปงหรือไม่ก็ไม่มีความหมายอะไร เป็นแค่การปะทะฝีปากก็เท่านั้น
ดังนั้นเธอจึงหัวเราะเหอะๆ คราหนึ่ง ขณะที่กำลังจะหันหลังว่ายกลับฝั่ง เขาที่ด้านหลังกลับไอออกมาอีกสองครา “เจ้าจะไปไหน?”
ยามนี้จะไปไหนได้เล่า?
แน่นอนว่าต้องกลับเรือนไปนอนน่ะสิ!
กู้ซีจิ่วไม่สนใจเขา กำลังจะว่ายจากไป ทว่าถูกยุดแขนเสื้อไว้ “เจ้าคงมิใช่ว่าจะไปหาเขาอีกกระมัง?!”
กู้ซีจิ่งดึ
แขนเสื้อตนกลับมา ตอบอย่างไม่เกรงใจ “เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย?
ด้านหลังไม่มีเสียงเคลื่อนไหว”
กู้ซีจิ่วว่ายไปครู่หนึ่ง ก็ยังไม่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านหลังตน รู้สึกสงสัยอบู่บ้าง จึงเหลียวมองแวบหนึ่ง หัวใจพลันเต้นแรงเล็กน้อย
เขากึ่งจมกึ่งลอยอยู่ตรงนั้น ศีรษะตกเล็กน้อย กำลังมองมือของเขาเองอย่างทึ่มทื่อ…
กู้ซีจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะมองมือเขาด้วย เมื่อเห็นชัดเจนก็สะดุ้งโหยง!
เส้นเลือดบนมือเขากำลังเต้นตุบๆ ราวกับโลหิตจะกระฉูดออกมาจากหลอดเลือด
นี่มิใช่สถานการณ์แปลกใหม่สำหรับกู้ซีจิ่ว เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าธาตุไฟกำลังจะเข้าแทรก!
บางทีอาจเป็นเพราะสังเกตเห็นว่ากู้ซีจิ่วหันกลับมา เจ่จึงเงยหน้าขึ้นมองเธอ ริมฝีปากสั่นระริกเล็กน้อย “ซีจิ่ว เจ้า…ช่วยข้าขึ้นฝั่งหน่อยได้หรือไม่?” ทันทีที่กล่าวจบ ร่างกายเขาก็ทรุดฮวบทันที ดิ่งลงใต้น้ำ
กู้ซีจิ่วตกตะลึง
เธออดไม่ได้ที่จะสบถด่าอยู่ในใจ ว่ายกลับไปอย่างรวดเร็ว ฉวยร่างเขาที่จมลงไปในน้ำขึ้นมา ลากเขาขึ้นฝั่งอย่างทุลักทุเลอีกครั้ง…
….
กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าชาติก่อนตนคงติดค้างเขาเป็นแน่ ดังนั้นจึงต้องมาชดใช้ให้ในวันนี้
หลังจากขึ้นฝั่งมาเขาก็อยู่ในสภาพกึ่งเลอะเลือนกึ่งได้สติ จะนั่งก็นั่งไม่อยู่ แถมบนพื้นก็เย็นเกินไป อันตรายต่อคนที่กำลังจะถูกธาตุไฟเข้าแทรกอย่างเขามาก
ดังนั้นเธอจึงให้เขาพิงร่างตนเสียเลย
เดิมทีคิดจะให้เขาพิงแค่หลังเท่านั้น เพียงแต่ไม่ว่าจะพิงอย่างไรเขาก็พิงด้วยตัวเองไม่ได้ กู้ซีจิ่งเลยได้เพียงให้เขาพิงไหล่ตน ในขณะเดียวกันก็ใช้แขนข้างหนึ่งโอบรอบเอวเข้าไว้ให้มั่น