บทที่ 751 ขนาดเขาสลับร่างก็ยังคงจู้จี้ถึงเพียงนี้!
“พูดจาเหลวไหลให้น้อยหน่อย! สรุปแล้วมีวิธีเปลี่ยนกลับหรือไม่?!” กู้ซีจิ่วไม่คิดจะอ้อมค้อมเสียเวลากับเขา เธอมองท่าทางเอ้อระเหยของ ‘ตัวเอง’ ที่อยู่ตรงกันข้ามแล้วกระดากนัก!
ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ “ตอนนี้ยังไม่มีวิธี ข้าก็เพิ่งประสบสถานการณ์เช่นนี้เป็นครั้งแรกเช่นกัน อับจนวาจานัก” เขาวางมือทาบอก “เจ็บปวดเหลือเกิน”
กู้ซีจิ่วเห็นเขาทำท่าไซซีกุมหัวใจก็อยากเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “นี่ มือเจ้าจับตรงไหนอยู่กัน?!”
ตี้ฝูอีก้มหน้าลง มองเห็นมือน้อยๆ ของตนวางอยู่บนเนินออกฯนพอดี เขากระแอมคราหนึ่ง ชักมืออกอย่างไม่รู้ไม่ชี้ “ข้าไม่ได้ตั้งใจ”
ทันใดนั้นดูเหมือนเขาจะนึกอะไรขึ้นมาได้ สายตาวนรอบร่างของกู้ซีจิ่วแวบหนึ่ง เอ่ยคาดเดา “ร่างกายของข้า…คงมิใช่ว่าเจ้าสัมผัสดูแล้วกระมัง?”
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน คนที่หนังหน้าหนามาตลอดอย่างเธอ ยามนี้รู้สึกว่าใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาเช่นกัน
ตี้ฝูอีเป็นคนฉลาดปราดเปรื่องผู้หนึ่ง เข้าใจแจ่มแจ้งในทันที “เจ้าสัมผัสหมดแล้วจริงๆ สินะ!”
ขณะที่หัวข้อสนทนานี้กำลังจะพัฒนาไปในทิศทางที่หวาบหวิว กู้ซีจิ่วก็เบี่ยงเบนหัวข้อทันที “ตี้ฝูอี ร่างของท่านถูกข้ายึดครอง ท่านไม่ร้อนใจสักนิดเลยหรือ?”
ตี้ฝูอีเอ่ยว่า “ข้าจะไม่ร้อนใจได้อย่างไร แต่ร้อนใจไปแล้วทำอันใดได้? จะให้ข้าตีอกชกหัวอยากฆ่าตัวตายดั่งสตรีแท้ๆ ก็คงไม่ได้กระมัง? บอกกับเจ้าตามตรง ตอนที่ข้าเพิ่งตื่นแล้วพบเจอสิ่งเหล่านี้ก็ทึ่มทื่อไปเป็นระยะหนึ่งเหมือนกัน แม้แต่จิ้งจอกน้อยของบ้านเจ้าเรียกข้าก็ไมได้ยินเลย เธอยังนึกว่าวิญญาณของข้าถูกสิ่งใดล่อลวงไปอยู่เลย โบกไม้โบกมืออยู่ตรงหน้าข้าตั้งนานสองนาน”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
สีหน้าเธออึมครึม แต่เมื่อกล่าวถึงจิ้งจอกน้อยเธอก็ถามอีกคำถามทันที “ท่านทำอะไรจิ้งจอกน้อย? ทำไมนางถึงมีสีหน้าคับอกคับใจเช่นนั้น?”
ตี้ฝูอีสีหน้าเดียดฉันท์ “จิ้งจอกน้อยตัวนี้วอแวผู้อื่นยิ่งนัก ตอนที่ข้าเพิ่งตื่น กำลังพยายามปรับตัวเข้ากับร่างกายนี้ จิ้งจอกน้อยของบ้านเจ้าก็มาวนเวียนทำโน้นทำนี่ให้ข้า ซีจิ่วเช่นนั้นซีจิ่วเช่นนี้ เทน้ำรินชาให้ข้าก็แล้วไปเถิด นางยังคิดจะกอดแขนข้าอีก ข้าไม่ทันระวังจึงซัดนางกระเด็นไปติดผนังเข้า”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน
จิ้งจอกน้อยสนิทสนมคุ้นเคยกับเธอ ยามปกติก็ชอบมากอดแขนประจ๋อประแจ๋เธอ
เธอไม่ถือสา ทว่าตี้ฝูอีย่อมไม่เคยชินแน่นอน
“ท่านสามารถพูดดีๆ กับนางได้” เมื่อนึกถึงท่าทางขุ่นข้องไม่ได้รับความเป็นธรรมของจิ้งจอกน้อย กู้ซีจิ่วก็อดไม่ได้ที่จะออกหน้าช่วยเหลือนาง
“ข้าพูดดีๆ กับนางแล้ว ว่าต่อไปให้นางเว้นระยะห่างกับข้าหน่อย! อย่าเข้าใกล้ในระยะสามฉื่อ นี่คือขีดจำกัดของข้าแล้ว” น้ำเสียงตี้ฝูอีไม่ผ่อนปรนสักนิด
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ขนาดเขาสลับร่างก็ยังคงจู้จี้ถึงเพียงนี้!
“นิสัยของจิ้งจอกน้อยนก็เป็นเช่นนี้ นางเคยชินกับการวอแวข้า พวกเรายังสลับร่างกลับไม่ได้ ต่อไปท่านยังต้องอาศัยร่วมกับนางด้วยฐานะของข้าไปชั่วระยะหนึ่ง เจ้าจะเป็นเช่นนี้ไม่ได้…”
ตี้ฝูอีโน้มกายมาด้านหน้า เข้าใกล้กู้ซีจิ่วอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย “เจ้ายังคิดจะให้ข้าอาศัยร่วมกับนางอีกหรือ?!”
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะถอยหลังไปเล็กน้อย “ท่านอยู่ในร่างข้า ย่อมต้องอาศัยร่วมเรือนกับนาง…”
“ไม่ได้! ข้าไม่คุ้นเคยกับการอาศัยร่วมกับผู้อื่น! อีกอย่างข้าก็ไม่คุ้นเคยกับการนอนในบ้านรูหนูของเจ้าด้วย ข้ากลับไปพักที่เรือนของตนยังดีกว่า” ตี้ฝูอีลุกขึ้นมาคิดจะเดินออกไป
กู้ซีจิ่วดึงเขาไว้ทันที “ไม่ได้!”
ตอนนี้รูปโฉมของเขาคือกู้ซีจิ่ว หากเขาเดินวางท่าไปพักในเรือนของ ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ เช่นนี้ จะมิใช่การยืนยันความสุมพันธ์ของเธอกับตี้ฝูอีหรอกหรือ?
เช่นนั้นต่อให้เธอมีปากอยู่ทั่วตัวก็พูดได้ไม่ชัดเจนแล้ว!
————————————————————————————-
บทที่ 752 เจ้าเตรียมจะชดใช้อย่างไร
อีกอย่างคือหลงซือเย่จะคิดยังไง? เธอเพิ่งตัดสินใจจะสานสัมพันธ์กับหลงซือเองนะ…
ช้าก่อน! หลงซือเย่! ดูเหมือนเมื่อเช้าหลงซือเย่จะมาแล้ว แถมยังจากไปด้วยท่าทีไร้วิญญาณ…
“ตี้ฝูอี ก่อนหน้านี้หลงซือเย่เข้ามาใช่ไหม? ท่านพูดอะไรกับเขา? ทำไมเขามีท่าทางได้รับความสะเทือนใจ?” กู้ซีจิ่วมีสีหน้าระแวงสงสัย
ตี้ฝูอีแย้มยิ้ม “เหตุใดเจ้าไม่ไปถามเขาเองล่ะ?”
กู้ซีจิ่วมีน้ำโหแล้ว “ข้าเป็นแบบนี้จะไปถามเขาได้ยังไง? หรือให้ข้าบอกเขาว่าข้ากับท่านสลับร่างกันอยู่?”
คราวนี้ตี้ฝูอีจริงจังขึ้นมาอย่างที่พบเห็นได้ยาก “ซีจิ่ว ไม่อาจให้ผู้ใดรู้ได้เด็ดขาดว่าเจ้ากับข้าสลับร่างกัน!”
กู้ซีจิ่วขมวดคิ้ว “เพราะอะไร?”
ตี้ฝูอีถอนใจเบาๆ “หากพูดออกมา ชีวิตของเจ้าและข้าจะหาไม่”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง ไม่ค่อยอยากเชื่อนัก “ท่านหลอกข้ากระมัง? ใครจะทำอะไรท่านได้?”
นัยน์ตาตี้ฝูอีสาดแสงแวบหนึ่ง บางเรื่องนั้นยังไม่สะดวกจะบอกกล่าวต่อสาวน้อยผู้นี้ เกี่ยวพันลึกล้ำกว้างขวางเกินไป บอกกล่าวได้ไม่กระจ่างในระยะเวลาสั้นๆ
ดังนั้นเขาจึงอ้างเหตุผลอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างทำให้คนเชื่อถือได้ เอ่ยออกมาเบาๆ สองคำ “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์”
กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว “ท่านจะบอกว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์จะจัดการเราด้วยเหตุนี้หรือ? เป็นไปไม่ได้กระมัง? และพวกเราก็ไม่ได้ตั้งใจด้วย อีกอย่างหากว่าท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ทราบ บางทีเขาอาจมีวิธีที่สามารถช่วยให้พวกเราสลับร่างกลับได้”
ตี้ฝูอีส่ายหน้าเล็กน้อย “พูดยากนัก พวกเราไม่ควรเสี่ยงกับเรื่องนี้ อันที่จริงข้าเคยศึกษาวิธีสลับวิญญาณอย่าหงนึ่งมา แต่น่าเสียดายที่มิอาจร่ายได้ในยามนี้”
กู้ซีจิ่วตาเป็นประกายทันที “วิธีอะไร? ท่านลองว่ามาก่อน ข้าอาจใช้ร่างท่านร่ายออกมาได้ ข้าเรียนรู้ได้รวดเร็วยิ่ง”
ตี้ฝูอีส่ายหน้าอีกครั้ง “ร่างนั้นของข้าสูญเสียพลังวิญญาณมหาศาลนัก ยามนี้พลังยุทธ์สิบส่วนใช้ออกมาได้ไม่ถึงครึ่ง และวิธีนั้นต้องใช้พลังวิญญาณของข้าอย่างน้อยห้าส่วนถึงจะร่ายออกมาได้”
กู้ซีจิ่วตรวจสอบร่างกายครู่หนึ่ง พบว่าจุดพลังวิญญาณของเขาว่างเปล่าจริงๆ ใช้พลังวิญญาณไม่ได้เลย
มิน่าล่ะตอนที่เขาอยู่ริมสระถึงถูกเสือพวกนั้นลากไปได้ ที่แท้ร่างกายนี้ก็ถูกเขาทำลายจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว…
แต่เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเขาแข็งแกร่งมาตลอด จู่ๆ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?
หรือสาเหตุเป็นเพราะสูญเสียพลังวิญญาณมากเกินไปในตอนที่…ช่วยถอนกระบี่ให้เธอ?
แต่ว่าตอนนั้นยามที่เขาจากไปก็ดูไม่ผิดปกติอะไรนี่…
“เหตุใดจู่ๆ ร่างกายของท่านจึงเสื่อมถอยลงเช่นนี้? เพราะช่วยข้าหรือ?” กู้ซีจิ่วอดไม่ได้จึงเอ่ยถาม
ตี้ฝูอีนิ่งไปครูหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าแรงๆ “มิผิด! ข้าสูญเสียพลังวิญญาณไปเกือบหมดเพื่อช่วยเจ้า”
จิตใจกู้ซีจิ่วหนักอึ้งอีกครั้ง นึกย้อนกลับไปยังสถานการณ์นั้น เอ่ยถามอีกครั้ง “ตอนนั้นท่านกระอักเลือดใช่ไหม?”
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “กระอักหนึ่งชามใหญ่”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก
เธอรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาเล็กน้อย “ตี้ฝูอี ข้าจริงจังอยู่นะ!”
ตี้ฝูอีมองเธออย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “ข้าก็จริงจังอยู่เหมือนกัน”
พูดกันดีๆ ไม่ได้เลยจริงๆ!
คนผู้นี้พูดจาเดี๋ยวจริงเดี๋ยวเท็จอยู่เสมอ ทำให้คนสับสนฉงนฉงาย
กู้ซีจิ่วนึกถึงตอนที่ถูกเขาจับตัวกลับมาจากเขาถามสวรรค์ครั้งนั้น ระหว่างทางที่กลับดูเหมือนว่าเขาสูญเสียพลังวิญญาณไปหนหนึ่งเหมือนกัน กลายเป็นขยะชิ้นหนึ่ง ต้องบ่มเพาะอยู่พักหนึ่งถึงจะดีขึ้นอีกครั้ง ตอนนั้นเขายังแสร้งทำเป็นอ่อนแอวางแผนโต้กลับทูตสวรรค์ฝ่ายขวาอยู่เลย…
บนร่างคนผู้นี้มีความลับมากมายเหลือเกิน ทุกความลับล้วนทำให้ผู้คนประหนึ่งก้าวเข้าสู่ดงหมอก จับทิศทางไม่ได้
เธอสูดลมหายใจนิดๆ “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ติดค้างหนีน้ำใจท่านครั้งหนึ่งแล้ว…”
“เช่นนั้นเจ้าเตรียมจะชดใช้อย่างไร?” ตี้ฝูอีเอ่ยขัดเธอ