บทที่ 799 อาบน้ำเหมือนยวนยางว่ายเคล้าคลอ
มองเห็นนางนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสงบเสงี่ยม ดวงตาพริ้มลงนิดๆ ประกายแสงอ่อนจางวนเวียนรอบกาย และประกายแสงนี้ก็ชัดเจนขึ้นทุกวัน ตี้ฝูอีถอนหายใจเบาๆ ด้วยความโล่งอก
โชคดีที่นางไม่เห็นตัวเองยามฝึกฝน มิเช่นนั้นหากเห็นแสงเหลือบรุ้งพลายจางๆ โอบรอบอยู่รอบกายเช่นนี้ เกรงว่ายากนักที่นางจะไม่เกิดความสงสัยขึ้นมา!
การฝึกฝนชุดนี้เป็นวิธีฝึกเฉพาะของเขา มีผลกับร่างกายของ ‘เทพ’ เท่านั้น เขาไม่เคยถ่ายทอดให้ผู้ใดมาก่อน ตอนนี้นับว่าเป็นการถ่ายทอดให้ล่วงหน้า…
ดังนั้นอันที่จริงแล้วการสลับร่างครั้งนี้ถือว่าค่อนข้างมีประโยชน์ เนื่องจากร่างกายเล็กๆ ของนางเองยังไม่เคยฝึกฝนอย่างจริงจัง หากนางฝึกฝนด้วยร่างตน คาดว่าฝึกได้ไม่กี่ขั้นร่างนางก็คงระเบิดแล้ว! บางทีนี่ก็คงเป็นลิขิตจากสวรรค์กระมัง?
เขานั่งอยู่ตรงข้ามนาง สังเกตการเคลื่อวไหวของนางตลอดเวลา หลังจากเห็นว่านางฝึกฝนของนางราบรื่นมั่นคง เขาก้ตรวจสอบร่างกายเล็กน้อย ร่างกายน้อยๆ ของนางที่ได้รับการหล่อเลี้ยงจากจิตวิญญาณของเขา ก็เติบโตอย่างรวดเร็วเช่นกัน แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็วด้วย
หากพักฟื้นด้วยตัวนางเอง ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนนางถึงจะฟื้นฟูเป็นปกติ ใช้พลังยุทธ์ตามปกติได้
แต่ตอนนี้เมื่อเขาสลับมาอยู่ในร่างของนาง ระยะเวลาสั้นๆ เพียงห้าหกวัน อาการบาดเจ็บของนางก็ดีขึ้นเจ็ดแปดส่วนแล้ว พลังยุทธ์ก็ฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็วยิ่ง แม้กระทั่งพลังวิญญาณของร่างนี้ก็เพิ่มพูนขึ้นจนน่าตะลึง
ยามที่ยังไม่ได้สลับร่างนางอยู่ที่ขั้นห้ากับอีกเจ็ดส่วน ทว่ายามนี้อยู่ที่ขั้นหกแล้ว!
เพียงแต่สิ่งที่กู้ซีจิ่วไม่ทราบคือ ตี้ฝูอีใช้เวลาฝึกฝนพัฒนาร่างกายนี้ของเธอทั้งคืน ยามนั้นเธอวุ่นวายอยู่กับการฝึกยุทธ์ จึงไม่มีทางได้เห็น
ตี้ฝูอีก็ไม่ได้บอกเธอเช่นกัน เขาอยากให้สาวน้อยผู้นี้ประหลาดใจหลังจากกลับคืนร่าง…
ตี้ฝูอีมีนิสัยรักสะอาด เรื่องที่จะให้เขาไม่อาบน้ำเป็นเวลาห้าวันนั้นเป็นไปไม่ได้ ฆ่าเขาให้ตายเสียยังง่ายกว่า!
หลังจากเขาเจรจาต่อรองกับกู้ซีจิ่วไปรอบหนึ่ง ก็ได้รับข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายล้วนเห็นพ้องต้องกัน โดยทั้งสองจะไปแช่น้ำที่สระลึกแห่งนั้นทุกวันตามเวลาที่กำหนดไว้
เดิมทีกู้ซีจิ่วก็ไม่อยากแช่น้ำร่วมกับเขา การอาบน้ำที่เหมือนยวนยางว่ายเคล้าคลอเช่นนี้ เธอรู้สึกว่าไม่เหมาะสม
แต่ตี้ฝูอีบอกว่ากลัวเธอไม่วางใจ มิสู้ให้สองคนอาบพร้อมกัน ทั้งสองฝ่ายจะได้จับตามองอีกฝ่ายสะดวก…
ยามที่แช่ในสระลึก ทั้งสองคนล้วนใช้วิธีโคจรพลังยุทธ์ชนิดหนึ่ง พลังยุทธ์นั้นสามารถทำให้น้ำเดือดพล่านได้ แล้วให้คลื่นน้ำเคลื่อนผ่านรอบกายพวกเขาอย่างรวดเร็ว กระแสน้ำที่รุนแรงเหล่านั้นชำระล้างร่างกาย คราบสกปรกอันใดล้วนถูกชะล้างออกไปจนสิ้น…
เช่นนี้ก็นับว่าสะสางปัญหาการอาบน้ำได้แล้ว
เวลาผ่านไปว่องไวนัก ผ่านไปอีกสามวันแล้ว สามวันนี้สงบเงียบไร้คลื่นลมมาโดยตลอด กู้ซีจิ่วยังคงเข้าออกแทบจะพร้อมกับตี้ฝูอีอยู่เหมือนเคย ไม่รู้ว่ามีคนอิจฉาริษยามากน้อยเพียงใด
แน่นอนว่าเป็นไปตามที่คิด ฝูงชนล้วนมองหลงซือเย่ด้วยสายตาที่เจือด้วยความสงสาร
หลงซือเย่ชอบพอกู้ซีจิ่วเป็นความชอบที่เห็นได้ชัดเจนนัก เป็นเรื่องดูออกกันแทบทุกคน ยามนี้ต้องเห็นนางในดวงใจไปไหนมาไหนกับบบุรุษคนอื่นและถึงขั้นอาศัยอยู่ร่วมเรือนกัน ท่าทางคล้ายว่าใกล้จะมีเรื่องมงคล แล้วเขาจะไม่ผิดหวังได้อย่างไร?
เขาดูตรอมตรมไม่น้อย ต่อให้เข้าสอนลูกศิษย์ก็ใจลอยอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็บรรยายเนื้อหาสลับกลับหัวกลับหาง กลายเป็นที่น่าขบขันในหมู่ศิษย์
ศิษย์บางคนเห็นกับตาว่าเขาไปหากู้ซีจิ่วที่เรือนของตี้ฝูอี ผลคือถูกผู้คุ้มกันทั้งสี่ขวางไว้ แม้แต่ประตูใหญ่ก็เข้าไปไม่ได้…
ศิษย์บางคนเห็นเขาเดินเตร็ดเตร่อยู่นอกเรือนของตี้ฝูอีตั้งนานสองนาน
ยังมีอีกศิษย์บางคนเห็นเขาเป่าขลุ่ยอยู่ใต้แสงจันทร์ เงาหลังอ้างว้างเดี่ยวดาย…
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จึงทราบกันถ้วนหน้า เจ้าสำนักหลงผู้นี้ช้ำรักเสียแล้ว…
….
ส่วนอวิ๋นชิงหลัวหลายวันมานี้ทำตัวดีไม่น้อย ท่าทางคล้ายหนูเฒ่าข้ามถนน กระวีกระวาดมาเรียนทุกวัน หลังเลิกเรียนก็รีบร้อนกลับเรือนตนไป
————————————————————————————-
บทที่ 800 ‘ตี้ฝูอี’ หายไปแล้ว
เนื่องจากร่างกายอวิ๋นชิงหลัวบาดเจ็บ ดังนั้นกู่ฉานโม่จึงไม่ได้มอบหมายภารกิจใดๆ ให้นาง เพียงให้นางสงบใจพักฟื้นก็พอ
ความรักเป็นเรื่องที่ทำให้คนชอกช้ำระทมยิ่ง หนนี้อวิ๋นชิงหลัวบาดเจ็บยับเยินจริงๆ ทั้งรักทั้งชังตี้ฝูอี แต่ก็ทราบว่าชีวิตนี้ตนยังคงสิ้นหวังเช่นเดิม และบางทีนางอาจไม่มีวาสนากับเขามาตั้งแต่แรกแล้ว…
เพียงแต่สิ่งที่ทำให้นางกังวลที่สุดไม่ใช่เรื่องนี้ เรื่องที่ทำให้นางกังวลที่สุดคือ ‘ตี้ฝูอี’ ของนางหายไปแล้ว!
หุ่นที่อยู่เป็นเพื่อนข้างกายนางมาตลอดตัวนั้น หุ่นที่คอยปลอบประโลมนางมาตลอดนับครั้งไม่ถ้วนหายไปจากถุงเก็บของของนาง!
ดังนั้นหลายวันมานี้นางจึงระทมยิ่ง ตัวคนร้อนรนดั่งมดที่เดินบนหม้อร้อนลวก วิตกอย่างยิ่ง
เกรงว่าหุ่นตัวนั้นของนางจะถูกตี้ฝูอีพบเข้า…
หากถูกพบเข้า นางต้องตายแน่นอน!
ราตรีนี้ นางนอนอยู่บนเตียงเพียงลำพังขณะที่กำลังนอนไม่หลับด้วยความกระสับกระส่ายที่เปี่ยมล้นอยู่ในใจ ประตูก็เกิดเสียงเบาๆ เปิดออกดังเอี๊ยดอ๊าด คนผู้หนึ่งแทรกกายเข้ามา
เกศาดำอาภรณ์ม่วง หน้ากากบดบังใบหน้า
อวิ๋นชิงหลัวลุกพรวดขึ้นมา “เจ้า!” นางไม่สนใจร่างกายที่บาดเจ็บของตน พุ่งเข้าไปคว้ามืออีกฝ่ายไว้ “หลายวันมานี้เจ้าหนีไปที่ไหนมา?! ไม่สิ เจ้าหนีออกไปเองได้ยังไง?!”
คนผู้นี้คือหุ่นที่หายไปของนาง
นางรีบร้อนกระโจนเกินไป สั่นสะเทือนถึงบาดแผล จนต้องงอกายด้วยความเจ็บปวด
คนผู้นั้นถอนหายใจเบาๆ โอบเอวนางขึ้นมา วางลงบนเตียงอีกครั้ง “เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ไม่ระวังถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” น้ำเสียงอ่อนโยนเช่นที่เคยเป็นมา
อวิ๋นชิงหลัวเดือดดาล กระชากคอเสื้อเขา “พูด! เจ้าหนีออกไปเองได้อย่างไร?”
ทว่าคนผู้นั้นกลับฉวยโอกาสทาบทับนาง จุมพิตลงไป
ร่างกายอวิ๋นชิงหลัวสะท้านเล็กน้อย โอบคอเขาไว้ เสียงสั่นพร่านิดๆ “เจ้า…” พริ้มตาลง ครางเสียงแผ่ว “ฝูอี…”
ดวงตาคนผู้นั้นมีประกายแสงวูบไหวแวบหนึ่ง ขณะที่จุมพิตอย่างเร่าร้อนก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของนางออกทันที เผยให้เห็นเรือนร่างอรชรขาวสล้างปานแกะขาว นิ้วมือเคลื่อนไหวอย่างเหิมเกริม…
เห็นได้ชัดเจนยิ่งนัก ว่านี่คือเรื่องกระทำร่วมกับนางเป็นประจำ ดังนั้นคนผู้นี้จึงทำได้ช่ำชองยิ่ง
ร่างอวิ๋นชิงหลัวสะท้านอีกครา หยาดน้ำตาหลั่งรินมากขึ้น ทว่ามิได้ขัดขืน เพียงครวญครางนามของตี้ฝูอีออกมาไม่หยุด…
ราวกับคนที่กระทำเรื่องนี้กับนางคือคนในใจของนางผู้นั้น
คนผู้นี้หลุบตามองนาง มุมปากหยักยิ้มอ่อนโยน ทว่าก้นบึ้งดวงตากลับฉายแววรังเกียจออกมาแวบหนึ่ง เขาใช้มือส่งนางขึ้นสู่ ‘สรวงสวรรค์’
อวิ๋นชิงหลัวหวนคืนจากสรวงสวรรค์กลับสู่ความเป็นจริง นางมองหุ่นที่อยู่เบื้องหน้าหัวใจบังเกิดความรังเกียจ ผลักเขาออกไป “เจ้าไสหัวไปนะ! เจ้าไม่ใช่เขา! ไม่ใช่! อย่าทำให้ข้าแปดเปื้อน…”
ในอดีตยามที่นางผลักเขาออกเช่นนี้ เขาจะถอยไปอยู่ด้านข้างอย่างสงบเสงี่ยมทุกครั้ง รอให้นางเก็บเขาใส่ถุงเก็บของอีกครั้ง
แต่คราวนี้กลับมิใช่เช่นนั้น หลังจากเขาถอยหลังไปก้าวหนึ่งก็เข้ามาใกล้อีก บีบไหล่ข้างหนึ่งของนางไว้ ยิ้มบางๆ “อวิ๋นชิงหลัว เจ้าจะหลอกตัวเองเช่นนี้ไปถึงเมื่อไหร่?!”
ไหล่ของอวิ๋นชิงหลัวถูกเขาบีบจนรู้สึกเจ็บ แต่กลับเบิกตามองเขาอย่างตกตะลึง “เจ้า…”
คนผู้นั้นนั่งลงข้างกายนาง มือลูบไล้ทรวงอกนาง ออกแรงกดอย่างเฉียบพลัน กดลงบนจุดที่กระดูกหัก อวิ๋นชิงหลัวเจ็บจนหยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดซึมออกมาทั่วร่างทันที ขัดขืนเขาตามสัญชาตญาณ…
แต่คนผู้นั้นเรี่ยวแรงมหาศาล อีกทั้งนางบาดเจ็บอยู่ ใช้ไม่มีเรี่ยวแรงสักเท่าไหร่ จึงถูกคนผู้นั้นกักไว้ในอ้อมแขนอย่างสมบูรณ์ ดิ้นรนไม่ได้
คนผู้นั้นยังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนเช่นเดิม “ชิงหลัว เจ้าบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้แล้ว ไม่เกลียดแค้นบ้างหรือ?”
นิ้วมือไต่ไปถึงตำแหน่งที่ถูกกระบี่แทงทะลุ ตรงนั้นตกสะเก็ดแล้ว แต่เมื่อสัมผัสยังคงเจ็บปวดยิ่งนัก สุ้มเสียงคนผู้นั้นอ่อนโยน ทว่าการกระทำกลับไม่รักหยกถนอมบุปผาเลย ใช้มือแกะสะเก็ดแผลของนางจนเลือดอาบทันที…