บทที่ 803 นอกในตีขนาบประสานกัน
จากนั้นสองคนนั้นก็เข้าไปในเรือน
ไม่รู้ว่าหลงซือเย่อยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางไร้วิญญาณเนิ่นนานเพียงใดแล้ว จากหลังก็หันหลังเดินโซเซจากไป
ป่าเฟิงยังเป็นเช่นวันวาน ตัวคนก็เช่นกัน
หลงซือเย่ยังคงพิงต้นไม้เป่าขลุ่ยเพียงลำพังเช่นเคย เพียงแต่หนนี้ท่วงทำนองโศกสลดร้านรานยิ่งกว่าเดิม ซ้ำยังแฝงความขุ่นเคืองไม่ยินยอมเอาไว้เต็มเปี่ยม
เมื่อบรรเลงจบ ในป่าก็มีเสียงคนปรบมือขึ้นมา “เจ้าสำนักหลงเป่าขลุ่ยได้ไม่เลวเลยจริงๆ!”
เป็นคนชุดฟ้าเมื่อคืน
หลงซือเย่มองเขาอย่างเยียบเย็น สูดลมหายใจเข้านิดๆ “เจ้ามาหัวเราะเยาะข้าหรือ? เจ้าอาศัยอะไรมายินดีในคราวเคราะห์ของผู้อื่น?! เจ้าถึงขั้นใช้ชีวิตอยู่ในมุมมืดด้วยซ้ำ เทียบกับข้าไม่ได้เลย!”
บนร่างเขามีกลิ่นสุรา ถ้อยคำที่กล่าวออกมาก็รุนแรงร้ายกาจอย่างที่ไม่เคยป็นมาก่อน “เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอจะหัวเราะเยาะข้า!”
คนชุดฟ้าผู้นั้นถอนหายใจเบาๆ “ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้มาหัวเราะเยาะท่าน อันที่จริงข้าน่าสงสารกว่าท่านเสียอีก ตัวท่านดีร้ายอย่างไรก็ยังเป็นเจ้าสำนักถามสวรรค์ ได้รับการสนับสนุนจากคนนับหมื่น ทว่าข้ากลับเป็นหุ่นเชิดตัวแทนที่ไม่เคยได้พบเห็นแสงสว่าง ไม่เคยมีใครทราบถึงการมีอยู่ของข้าเลย…ข้าชิงชังเขายิ่งกว่าท่านเสียอีก!”
หลงซือเย่จ้องมองเขาด้วยสงสัยอยู่เงียบๆ
คนผู้นั้นกล่าวต่อว่า “ตอนนี้ท่านสนใจฟังวิธีของข้าหรือยังล่ะ?”
สีหน้าหลงซือเย่ยังคงยโสเช่นเดิม ทว่าน้ำเสียงกลับอ่อนลง “เจ้าลองว่ามาสิ”
คนผู้นั้นกล่าวถึงวิธีการของเขา…
วิธีของเขาอันที่จริงไม่ซับซ้อนเลย
ด้านนอกสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์มีเขตแดนอันร้ายกาจโอบล้อมอยู่ มีเพียงคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ถึงสามารถเข้าออกอย่างอิสระได้ แน่นอน สานุศิษย์สวรรค์ทั้งหมดก็สามารถเข้าออกได้อย่างอิสระเช่นกัน หากเขตแดนนี้ไม่พังทลาย คนนอกคิดจะบุกโจมตีสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก็ยากเย็นเข็ญใจนัก
และภารกิจที่คนผู้นี้มอบหมายให้หลงซือเย่ก็คือหาโอกาสที่เหมาะสมทำลายเขตแดนนี้เสีย ปล่อยให้คนด้านนอกจู่โจมเข้ามาแล้วนอกในตีขนาบประสานกัน…
ถือโอกาสกำจัดหลงซือเย่ไปในคราวเดียวกัน!
เมื่อฟังจบหลงซือเย่ก็เอ่ยปฏิเสธอย่างเฉียบขาด “ข้าเป็นสานุศิษย์สวรรค์ และสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์คือหยาดเหงื่อแรงใจของท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ ข้าไม่มีทางทำลายสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ทั้งสำนักเพื่อประโยชน์ของตนเด็ดขาด!”
ดูเหมือนคนผู้นั้นจะเดาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเขาจะเป็นเช่นนี้ พลันถอนหายใจเบาๆ “วางใจเถิด พวกเราก็ไม่มีเจตนาจะทำอะไรคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์เหมือนกัน เป้าหมายคือทำลายทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเท่านั้น!”
หลงซือเย่ดูคล้ายจะหวั่นไหวแล้ว แต่ยังไม่เชื่อถือเท่าไหร่ “สรุปแล้วพวกเจ้าคือผู้ใด? ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่เจ้าพูดเป็นจริงหรือเท็จ? พอพวกเจ้าบุกโจมตีเข้ามาจริงๆ แล้วฉวยโอกาสโจมตีสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ด้วยจะทำอย่างไร? ข้าไม่คิดจะผลาญหยกล้างศิลา[1]หรอกนะ!”
คนผู้นั้นกล่าวว่า “เรื่องนี้ง่ายมาก อีกสามวันข้างหน้าบรรดาศิษย์ของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ต้องออกไปล่าสัตว์ครั้งใหญ่ เมื่อถึงเวลาส่วนใหญ่ทุกกลุ่มจะถูกส่งออกไปทำภารกิจ น่าจะเหลือคนอยู่ไม่มากนัก เมื่อถึงเวลานั้นพวกเราค่อยลงมือกัน!”
หลงซือเย่เอ่ยขึ้น “…พวกเจ้าทราบเรื่องของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์กระจ่างแจ้งเหลือเกินนะ!”
สำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จัดจัดกิจกรรมล่าสัตว์ครั้งใหญ่ขึ้นทุกปีจริงๆ ถือว่าเป็นการฝึกฝนเหล่าศิษย์
เมื่อถึงวันนั้น ศิษย์เกือบทั้งหมดของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ล้วนต้องออกไปล่าสัตว์ในสถานที่ที่กำหนดไว้ สถานที่ไม่ตายตัว ล้วนแตกต่างกันไปทุกปี
แน่นอน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ คณะอาจารย์ทั้งหมดก็ต้องไปด้วยเช่นกัน เมื่อถึงวันนั้นปกติแล้วสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์จะกลายเป็นเมื่องร้าง…
เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับโจมตีจริงๆ!
เพียงแต่หลงซือเย่ยังคงกังวลอยู่ “หากตี้ฝูอีก็ตามไปด้วยเล่า?”
คนผู้นั้นยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง “ไม่มีทาง! กู้ซีจิ่วยังบาดเจ็บอยู่ อวิ๋นชิงหลัวก็บาดเจ็บอยู่ พวกนางคนหนึ่งเป็นสานุศิษย์สวรรค์ คนหนึ่งเป็นศิษย์เทพศักดิ์สิทธิ์ ตี้ฝูอีไม่อาจปล่อยปละละเลยพวกนางได้”
หลงซือเย่เงียบไปครู่หนึ่ง “เจ้าแค่อยากกำจัดตี้ฝูอีใช่ไหม? จะไม่ทำอันตรายผู้บริสุทธิ์ใช่หรือไม่? ข้าไม่ต้องการให้กู้ซีจิ่วเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย!”
คนผู้นั้นยิ้มอย่างมีเลศนัยแวบหนึ่ง “ไม่ต้องห่วง จะไม่ทำให้แม่นางกู้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายเด็ดขาด ท่านวางใจได้เลย!”
————————————————————————————-
บทที่ 804 มิคล้ายเป็นวิสัยของนาง
หลงซือเย่ไม่พูดอะไรอีก คนผู้นั้นมองเขาแวบหนึ่ง “ท่านยังมีข้อกังวลอื่นอีกหรือไม่?”
คิ้วคมของหลงซือเย่ขมวดแน่น “ลูกน้องทั้งสี่ของเขาร้ายกาจนัก ต้านทานกองกำลังเรือนพันเรือนหมื่นได้…”
คนผู้นั้นหัวเราะเบาๆ “วางใจเถิด เจ้านายของบ้านข้ามีวิธีกันพวกเขาออกไป…”
….
ราตรีฤดูใบไม้ร่วงเยือกเย็นดั่งสายน้ำ
กู้ซีจิ่วโอบเอวตี้ฝูอีก้าวเข้าประตูเรือน (ตอนทั้งสองคนยังไม่ได้สลับร่างคืน ย่อมเป็นบุรุษโอบสตรี)
เมื่อประตูปิดลง กู้ซีจิ่วก็รีบชักแขนตัวเองกลับทันที สาวเท้าก้าวไปด้านหน้า
ความหม่นหมองพาดผ่านดวงตาของตี้ฝูอีแวบหนึ่ง ผ่านไปหลายวันแล้ว สถานการณ์ของนางและเขาดำเนินมาเช่นนี้หลายวันแล้ว!
เขานึกว่าผ่านไปวันสองวันนางจะคลายอารมณ์แล้ว เขาจะคุยเล่นเป็นกันเองกับนางได้อีกครั้ง ทั้งสองสมัครสมานกันเหมือนก่อนหน้านี้
นางตั้งใจทำหน้าที่มากจริงๆ เพื่อแผนการใหญ่ต่อหน้าผู้อื่นนางก็ร่วมมือเล่นละครแสร้งว่ารักใคร่เมตตาเขา แถมยังเล่นได้สมจริงยิ่งนัก ทำให้เขาเกือบเข้าใจผิดว่านางหลงรักตัวเองจริงๆ
แต่พอกลับถึงเรือนนี้ นางก็เหมือนนักแสดงที่ลบเครื่องประทินโฉมออก อารมณ์กลับสู่ภาพปกติอย่างยิ่ง
ก็ไม่ใช่ว่านางจะหมางเมินไม่หยอกล้อเย้าแย่อะไรเขาเลย นางก็สนใจอยู่ ถึงขั้นสามารถคุยเล่นกับเขาได้ด้วยซ้ำ อยู่ร่วมกันเหมือนสหายธรรมดา
มองออกเลยว่านางพยายามผลักไสเขาให้ออกห่างจากนาง
ตี้ฝูอีเคยใช้หลากหลายวิธีเพื่อกระชับความสัมพันธ์นี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาตามตื้อเด็กสาวผู้หนึ่ง เขาไม่มีประสบการณ์อันใดเลย
เขารอบรู้สารพัด สติปัญญาปราดเปรื่อง เพียงแต่ไขว่คว้าหัวใจสตรีไม่เป็น…
ในบรรดาสี่ทูตมู่อวิ๋นมีเสน่ห์ดึงดูดที่สุด และเรียกความนิยมจากหญิงสาวได้มากที่สุด ยามที่เจ้าคนผู้นี้ปะปนอยู่ด้านนอกจะมีฉายาว่าคุณชายหน้าหยก หญิงสาวที่เขาหมายตายังไม่มีคนใดที่ไขว่คว้ามาครองไม่ได้ นับยอดได้เป็นหมื่นคนแล้ว
ตี้ฝูอีเคยศึกษาจากเขาทั้งทางตรงทางอ้อม เขามีทฤษฎีตามตื้อสตรีบางอย่างที่มีประโยชน์มากจริงๆ
ในเมื่อผู้เป็นนายขอคำชี้แนะ มู่อวิ๋นย่อมถ่ายทอดให้อย่างไม่หวงวิชา เล่าสารพัดวิธีออกมาจนหมดเปลือก
ยกตัวอย่างเช่นสตรีดีงามจะหวั่นเกรงการพัวพันตอแย สตรีล้วนปากไม่ตรงกับใจ ไม่ถือสาที่จะพัวพันข้างกายนางก็มี
ตี้ฝูอีรู้สึกว่าข้อนี้ใช้ไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันนี้เขากับนางตัวติดกันแทบจะสิบสองชั่วยามแล้ว พัวพันจนไม่อาจพัวพันมากไปกว่านี้ได้แล้ว แต่ก็ไม่เห็นนางจะหวั่นไหวเลยสักนิด!
หรืออย่างเช่นสตรีล้วนชมชอบความอ่อนหวาน ชอบให้คนรักมอบดอกไม้ให้อะไรเช่นนั้น ตี้ฝูอีปฏิบัติตามข้อนี้ ยามที่ชมดอกไม้ในสวนดอกไม้หายากของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ เขาเก็บดอกไม้ช่อใหญ่มามอบให้นาง ผลคือนางมองเขาด้วยสายตาที่ใช้มองตัวประหลาด ถามว่าเขาแค้นเคืองอันใดดอกไม้เหล่านี้ เหตุใดต้องลงมือทำลายดอกไม้อย่างโหดเหี้ยมด้วย? ดังนั้นข้อนี้จึงล้มเหลว ทิ้งมันไปซะ!
หรืออย่างเช่นคือสตรีมีความรู้สึกลึกล้ำต่อความสัมพันธ์ครั้งแรก ขอเพียงได้รับครั้งแรกของนาง โดยทั่วไปแล้วนางจะยินยอมพร้อมใจติดตามท่าน
ข้อนี้ถูกตี้ฝูอีปัดทิ้งไปทันที ตอนนี้เขากับนางสลับร่างกันอยู่ เขาคงไม่อาจทำให้กู้ซีจิ่วข่มเหงเขาได้กระมัง?
ถึงแม้เขาจะทำเรื่องไร้ขีดจำกัดล่างไปบ้าง แต่การต้องใช้ร่างสตรีที่เห็นอยู่ทนโท่ไปข่มเหงร่างของเขา ในใจเขาค่อนข้างมีเงามืดอยู่บ้าง ไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคด้านร่างกายได้
อีกอย่างเขาก็ไม่เชื่อว่ากู้ซีจิ่วจะเป็นสตรีประเภทนี้ ถูกผู้ใดครอบครองก็จะมอบกายถวายใจติดตามคนผู้นั้น นี่มิคล้ายเป็นวิสัยของนาง
อีกตัวอย่างกล่าวได้ว่าต้องเล่นบทจูบให้มากหน่อย สตรีบางคนเมื่อถูกจูบบ่อยเข้า ก็จะมีใจต่อท่านเอง…
ตี้ฝูอีรู้สึกว่าข้อนี้ก็ใช้งานไม่ค่อยได้เช่นกัน เนื่องตอนนี้กู้ซีจิ่วอยู่ในร่างของเขา พลังยุทธ์ก็ฟื้นฟูกลับมาแข็งแกร่งมากแล้ว ถึงแม้นางจะใช้วิชาของเขาไม่ได้เท่าไหร่ แต่ยังคงมีพละกำลังมากนัก หากเขาทะเล่อทะล่าเข้าไปจูบนาง มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูงที่จะถูกนางต่อยจนชะงัก
————————————————————————————-
[1] ผลาญหยกล้างศิลา อุปมาถึง ทำลายทุกอย่างจนย่อยยับไปพร้อมกันโดยไม่แยกแยะดีชั่ว