บทที่ 815 ดูเหมือนจะยั้งไว้ไม่อยู่
ตี้ฝูอีมองเธออยู่พักหนึ่ง แล้วเอ่ยถาม “เช่นนั้นตอนนี้เจ้าวางแผนไว้อย่างไร? จะรอจนถึงอายุยี่สิบเจ็ดแล้วค่อยครองคู่โบยบินกับเขาเหมือนเดิมหรือ?”
จู่ๆ กู้ซีจิ่วก็รู้สึกว้าวุ่นอยู่บ้าง เธอไม่รู้! เธอยังไม่เคยใคร่ครวญเรื่องพวกนี้เลยจริงๆ
“ข้าคิดว่าอย่างน้อยก็รอให้ข้าสำเร็จการศึกษาจากสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ก่อนแล้วค่อยพูดเรื่องนั้นอีกที”
ตี้ฝูอีกล่าวเรียบๆ ว่า “ตามขั้นตอนปกติแล้ว ถ้าเจ้าต้องการสำเร็จการศึกษาจากสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์ต้องใช้เวลาอย่างน้อยเก้าปี เก้าปีให้หลังเจ้ายังจะทบทวนแผนการที่จะอยู่กับเขาต่อหรือไม่?”
กู้ซีจิ่วนิ่งไปครู่หนึ่ง “อีกเก้าปีให้หลังข้าเพิ่งอายุยี่สิบสี่…”
อายุยี่สิบสี่คือช่วงวัยรุ่งโรจน์ของการก่อร่างสร้างตัว เธอไม่คิดจะก้าวเข้าสู่วังวนการแต่งงานในช่วงวัยนั้น…
“อืม พูดอีกอย่างก็คือ ต่อให้เป็นอีกเก้าปีให้หลังเจ้าก็ไม่ได้วางแผนว่าจะครองคู่โบยบินไปกับเขา อยากจัดการเรื่องราวของตนก่อน เมื่อถึงอายุยี่สิบเจ็ดค่อยใคร่ครวญเรื่องการอยู่ด้วยกันสองคนสินะ?” ตี้ฝูอีกวาดต้อนเข้ามาทีละก้าว
“ข้า…” กู้ซีจิ่วถูกเขาถามจนโง่งมแล้ว
ตี้ฝูอีหลุบตามองเธอ “ตอบไม่ได้หรือ? หรือว่าไม่เคยคิดเรื่องพวกนี้เลย?”
กู้ซีจิ่วพาลโกรธอยู่บ้าง “ตอนนี้ข้าเพิ่งอายุสิบห้า ทำไมต้องขบคิดเรื่องที่ยังห่างไกลเช่นนี้ด้วยเล่า?”
“กู้ซีจิ่ว ปกติเจ้ากระทำการใดล้วนติดนิสัยต้องวางแผนก่อนมิใช่หรือ? เหตุใดจึงไม่วางแผนเรื่องเจ้ากับเขาไว้เล่า?”
“ข้า…วางแผน…” กู้ซีจิ่วไม่ยอมรับ
จู่ๆ ตี้ฝูอีก็จับมือเธอกะทันหัน เธอคล้ายได้รับความตกใจจนตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง คิดจะดิ้นรนตามสัญชาตญาณ ทว่าถูกเขาดึงเข้าไปใกล้ๆ เขาคล้องเอวเธอไว้ทันที บังคับให้เธอเผชิญหน้ากับเขา สบตากับเธอแล้วกล่าวว่า “ซีจิ่ว เจ้าเข้าใจความรู้สึกที่ตนมีต่อเขาผิดไปหรือเปล่า? เจ้าแน่ใจหรือว่าเจ้ารักเขา? หรือว่าชอบเขาแบบพี่ชายกันแน่?”
ร่างกู้ซีจิ่วแข็งทื่อ! สัมผัสได้ว่าบนร่างมีเหงื่อผุดซึม เธอปฏิเสธไปตามสัญชาตญาณ “ไม่ใช่! ข้าไม่ได้เห็นเขาเป็นพี่ชาย ในอดีตข้าไล่ไขว่คว้าเขามาเป็นอีกครึ่งหนึ่งในอนาคตของข้ามาโดยตลอด…”
“กล่าวเช่นนี้ แปลว่าเจ้าวางแผนจะเปลี่ยนให้เขากลายเป็นอีกครั้งหนึ่งของเจ้ามาตลอด มิใช่เพราะเห็นเขาแล้วหักห้ามความรู้สึกไว้ไม่อยู่?”
“นี่…นี่มันต่างกันด้วยหรือ?”
“ย่อมต่างกันแน่นอน!” ตี้ฝูอีดึงเธอเข้าไปใกล้กว่าเดิม ลมหายใจของคนทั้งสองผสมผสานกัน “ซีจิ่ว ชอบกับรักแตกต่างกัน ถ้าเจ้าชอบใครสักคนจะสามารถหักห้ามความรู้สึกไว้ได้ มีเพียงรักเท่านั้นที่จะหักห้ามเอาไว้ไม่ได้!”
เขาอยู่ใกล้เธอยิ่งนัก ริมฝีปากแทบจะสัมผัสใบหน้าเธอ และถ้อยคำที่เขาเอ่ยก็ประหนึ่งสายฟ้าฟาด ผ่าเข้าใส่ศีรษะเธอ ทำให้ความคิดเธอสับสนวุ่นวายไปหมด เถียงเขาไปตามสัญชาตญาณ “ข้า…ข้าเป็นคนที่สุขุมเยือกเย็นกว่าผู้อื่น ข้าหักห้ามใจดะ…”
เธอยังเอ่ยแย้งไม่จบก็ถูกเขาจูบทันที!
จูบของเขารวดเร็วและเร่งร้อนเกินไป เธอแทบไม่ทันตั้งตัวเลย เมื่อริมฝีปากเขาทาบทับริมฝีปากเธอ หัวใจเธอก็เต้นรัวจนแทบกระดอนออกมา!
คนผู้นี้ดูเหมือนอ่อนโยนนุ่มนวลชัดๆ แต่ยามที่จูบเธอกลับรุกเผด็จการอยู่เสมอ รุกรานอย่างดุดัน บ้าคลั่งดั่งพายุฝน ทำให้คนอยากหนีหัวซุกหัวซุน
เธอคิดจะผลักเขาออก แต่แขนข้างหนึ่งของเขารัดเอวเธออยู่ วรยุทธ์ของเขาก็สูงส่งกว่าเธอ ยามที่โอบเธออยู่ก็ใช้ทักษะเสริมด้วยเธอจึงผลักเขาออกไปไม่ได้
เอวเธอถูกเขากอดรัดไว้ ศีรษะก็ถูกแขนอีกข้างของเขาโอบไว้ ทั้งสองคนมิใช่แค่ริมฝีปากที่แนบชิดกันเท่านั้น แม้แต่ร่างกายกันชิดกันแนบแน่น ไม่มีช่วงว่างเลยสักนิด
กู้ซีจิ่วโง่งมโดยสมบูรณ์แล้ว! โลหิตอุ่นร้อนพวยพุ่งสู่กระหม่อม ทำให้เธอไม่สามารถขบคิดได้เช่นปกติ
หัวใจเต้นถี่รุนแรง ราวกับจะทะลุออกมาจากอก ทำให้ทั้งร่างเธออ่อนยวบ หายใจไม่ออก แทบจะยืนไม่อยู่…
จูบนี้ดูเหมือนจะยั้งไว้ไม่อยู่แล้ว…
————————————————————————————-
บทที่ 816 ความรู้สึกที่เลี่ยนเอียน
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดยามที่เขาผละจากเธอ ทั้งสองล้วนหอบหายใจแล้ว
เขาไม่ได้ผละออกจากเธอจริงๆ หน้าผากยังแนบกับหน้าผากเธออยู่ ปลายจมูกแทบจะสัมผัสถูกปลายจมูกเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ซีจิ่ว รักคือการหักห้ามใจไว้ไม่อยู่ ก็เหมือนยามที่ข้าอยู่กับเจ้า ปรารถนาจะโอบกอดเจ้าไว้ตลอด ปรารถนาจะจุมพิตเจ้า ปรารถนาจะกักเจ้าไว้ในอ้อมแขน ปรารถนาจะคุ้มครองอยู่ข้างกายเจ้า ถึงขั้นที่ว่าปรารถนาจะเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแทบใจจะขาด ยามที่ไม่เห็นเจ้าก็อยากพบเจ้ายิ่งนัก หลังจากพบเจ้าก็ไม่อยากปล่อยเจ้าไป รู้อยู่ชัดเจนว่าเจ้าไม่มีข้าอยู่ในใจ ข้าก็ยังคงหาข้ออ้างสารพัดเพื่อมาพบเจ้า…เจ้าว่า ความรู้สึกที่ข้ามีต่อเจ้าคืออะไร? เป็นรัก? หรือว่าชอบ? เจ้ามีความรู้สึกต่อหลงซือเย่เป็นเช่นเดียวกับที่ข้ามีต่อเจ้าหรือไม่? มีไหม?”
เป็นครั้งแรกที่เขาสารภาพรักกับเธอยาวเหยียดถึงเพียงนี้ กู้ซีจิ่วทึ่มทื่อไปทันที เนื่องจากสมองขาดอ็อกซิเจนจึงส่งเสียงดังหึ่งๆ คิดอะไรไม่ออกชั่วขณะ ถึงขั้นลืมผลักเขาออก…
ฝ่ามือร้อนผ่าวของเขาทาบลงเหนือหัวใจเธอ “ซีจิ่ว เจ้าก็มีความรู้สึกต่อข้าเหมือนกัน หัวใจเจ้าเต้นเร็วและแรงมากมิใช่หรือ? ตอนข้าตกอยู่ในอันตรายเจ้าร้อนใจอย่างยิ่ง เจ้ากลัวว่าข้าจะตาย กลัวว่าข้าจะเกิดเรื่อง…ซีจิ่ว ใจเจ้ามีข้าแล้ว…”
ราวกับสิ่งที่อำพรางไว้อย่างดีมาตลอดถูกผู้อื่นเปิดโปงออกมาต่อหน้า เสมือนสะเก็ดแผลที่เรียบเนียนแล้วกลับถูกคนแกะออกอย่างไร้ความปรานี!
ใบหน้าพริ้มเพราของกู้ซีจิ่วซีดขาวก่อนแล้วค่อยแดงก่ำขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากเธอแข็งทื่อไปหลายวินาที จู่ๆ ก็ผลักเขาออกทันที!
เธอยิ้มหยัน “ท่านพูดเหลวไหลอะไร?! ความรู้สึกของข้ากับเจ้าท่านจะมารู้ดีได้ยังไง? ท่านไม่รู้อะไรเลยชัดๆ! ความรู้สึกของข้ากับเขาค่อยๆ เล็กน้อยทว่ายั่งยืน และข้าก็ไม่ได้ถือเขาเป็นพี่ชาย! ในอดีตข้าหมายปองเขาเป็นว่าที่สามีในอนาคตมาตลอด! วิธีจัดการความรู้สึกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ทัศนคติด้านความรักก็แตกต่างกัน วาจาจำพวกไม่พบหน้ากันหนึ่งวันดั่งแยกจากกันสามปีเหล่านั้นของท่านเป็นแค่…เป็นแค่การหลอกลวงผู้อื่น และไม่เหมาะกับตัวข้า…พวกเราเป็นนักฆ่าที่ยกได้วางเป็นมาตลอด ไม่ต้องการความรู้สึกหวานแหววเลี่ยนเอียนพวกนั้น…ดังนั้นวาจารักๆ ใคร่ๆ หรือว่าความรู้สึกชื่นชอบที่ท่านกล่าวมานี้ไปพูดให้เด็กสาวคนอื่นฟังเถิด ข้าไม่สนใจ!”
ในอกคล้ายมีกระแสบางอย่างพวยพุ่งขึ้นมา ทำให้เธอปวดแปลบที่หัวใจ ทำให้เธอคับข้องใจ ทำให้ลำคอเธอตีบตัน ทำให้เธออยากร้องไห้ออกมา เธอฝืนสะกดลงไป เชิดหน้าขึ้น ดั่งนกกระเรียนจองหองตัวหนึ่ง พยายามทำให้ตัวเองสงบนิ่งสุดกำลัง “ส่วนความรู้สึกอะไรที่ท่านว่ามานั้น…ขออภัยด้วย ข้าไม่มี! ข้าเห็นท่านเป็นสหาย ท่านตกอยู่ในอันตรายข้าย่อมกังวล ต่อให้เป็นพวกเจ้าหอยยักษ์ที่ตกอยู่ในอันตรายข้าก็จะกังวลยิ่งนักเช่นหัน! ความกังถึงขั้นมากกว่าที่มีต่อท่านด้วยซ้ำ…ข้าไม่ได้รักท่าน ท่านคิดมากไปแล้ว!”
เธอจะรักเขาได้ยังไงกัน?
คนผู้นี้ลึกลับซับซ้อนเหลือเกิน เดี๋ยวเข้าใกล้เดี๋ยวถอยห่าง เดี๋ยวอบอุ่นเดี๋ยวเย็นชาต่อเธอ บางครั้งคล้ายว่ามีใจบางครั้งก็คล้ายว่าไร้ใจ ซ้ำยังมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับอวิ๋นชิงหลัวด้วย ต่อให้หนก่อนเขารับตัวอวิ๋นชิงหลัวไปเพื่อลงทัณฑ์ ทว่าสุดท้ายแล้วในเทศกาลความรักคืนนั้นเขาก็จู๋จี๋อยู่กับผู้อื่นมิใช่หรือ? เธอเห็นมากับตา!
คืนเทศกาลความรักหวานชื่นอยู่กับผู้อื่น วันต่อมายังเกือบถูกฆ่าเพราะคนผู้นั้นด้วย วินาทีแรกยังอ่อนโยนหวานซึ้งอยู่เลย วินาทีต่อมากลับพลิกโฉมหน้าไร้ปรานี เย็นชาปานน้ำแข็ง
เธอไม่ได้เห็นอกเห็นใจอวิ๋นชิงหลัว ว่ากันตามจริงเธอรำคาญอวิ๋นชิงหลัวมาโดยตลอด แต่จากท่าทีที่เขาปฏิบัติต่ออวิ๋นชิงหลัว ก็สามารถคาดด้วยท่าทีที่เขาจะปฏิบัติต่อกู้ซีจิ่วในวันหน้าได้แล้ว…
เมื่อได้ครองแล้วก็จะเหยียบย่ำตามอำเภอใจ!
เธอยอมรับว่ามีเสน่ห์ยิ่งนัก ยอมรับว่าใจเต้นแรงยามที่ถูกเขาหยอกเย้า แต่แน่ใจว่าไม่ได้รักเขา คนผู้นี้ซับซ้อนเกินไป เป็นคนที่เธอไม่อาจหลงรักได้