บทที่ 883 ใครใช้ให้เจ้าโดดเรียนวิชาข้ากันล่ะ?
กล่าวมาถึงตรงนี้เบ้าตาเธอก็แดงระเรื่อ ถึงแม้การแสดงออกของเธอในยามนั้นจะน่าทึ่ง แต่ตอนนั้นความจริงแล้วเธอฝืนทำเป็นสงบเยือกเย็น บังคับตัวเองให้หยิ่งทะนง ร่วงลงมาก็ต้องกัดฟันกล้ำกลืนน้ำตาไว้ สงบนิ่งจนผู้อื่นดูไม่ออกว่าตนผิดหวังและเสียใจ…
สุดท้ายก็ยังคงได้รับความอยุติธรรม เพียงแต่เมื่อก่อนแค่ฝืนทำเป็นว่าตนไม่ได้รับความอยุติธรรมเลยก็เท่านั้น…
“ขอโทษด้วย ข้า…” ตี้ฝูอีกุมมือเธอ
กู้ซีจิ่วชักมือตนกลับทันที มุมปากเธอโค้งขึ้นนิดๆ หมายจะยกยิ้มอย่างไม่ใส่ใจออกมา แต่ไม่สำเร็จ ขอบตากลับแดงก่ำ
เธอไม่ได้พูดอะไร บาดแผลบางอย่างไม่ใช่แค่ขอโทษลอยๆ ประโยคเดียวก็สามารถกลบเกลื่อนได้…
ตี้ฝูอีทอดถอนใจ “ซีจิ่ว ข้าก็คาดไม่ถึงเช่นกันว่าวันนั้นเจ้าจะขึ้นมาไม่ได้…”
“ท่านคาดไม่ถึง?” น้ำเสียงกู้ซีจิ่วเชือดเฉือนเล็กน้อย “โกหก! ท่านจะคาดไม่ถึงได้อย่างไร?! ท่านรู้สภาพระดับพลังวิญญาณของข้าชัดๆ ทราบชัดเจนว่าวิชาเหินหาวนี้ต้องบรรลุพลังวิญญาณขั้นหกตอนกลางขึ้นไปถึงจะฝึกฝนได้…”
“ไม่ใช่ วิชาเหินหาวนี้สำหรับศิษย์ที่มีพลังวิญญาณทั่วไป จำเป็นต้องบรรลุขั้นหหกตอนกลางขึ้นไป แต่เจ้าคือผู้ฝึกฝนธาตุลม ผู้ที่ฝึกฝนพลังวิญญาณธาตุนี้บรรลุขั้นหกก็สามารถฝึกฝนได้แล้ว…”
กู้ซีจิ่วตกตะลึง แล้วทำไมวันนั้นเธอพยายามแทบตายก็เหาะไม่ขึ้นล่ะ?
“ซีจิ่ว วันนั้นหากว่าเจ้าไม่ได้อดนอนทั้งคืน ถ้าหากเจ้าไม่กล่อมประสาทตัวเองว่าไม่บรรลุพลังวิญญาณขั้นหกตอนกลางก็ขึ้นไปไม่ได้ เจ้าคงขึ้นไปได้แล้ว ตามที่ข้าคาดการณ์ไว้ เจ้าสมควรเหาะขึ้นมาได้ภายในครั้งที่สอง เพียงแต่ข้าคาดไม่ถึงว่าตอนนั้นเจ้าไม่ได้พักผ่อนมาหนึ่งวันหน่งคืนแล้ว ปราณหยางในร่างไม่เพียงพอ เลือดลมติดขัด ประกอบกับเจ้าโดดเรียนวิชาของข้าไปหนึ่งคาบ เนื้อหาทั้งหมดที่บรรยายในคาบนั้นเป็นเนื้อหาภาคปฏิบัติพอดี ขอเพียงอ่านบันทึกของศิษย์ชั้นหัวกะทิย่อมไม่มีทางพลาด”
ตี้ฝูอีกล่าวต่อไปอีกว่า “ข้าคาดการณ์ไว้เพียงว่าเจ้าจะไม่ได้ที่หนึ่ง คะแนนล้าหลัง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะขึ้นมาไม่ได้ ครั้งนั้นเจ้าอยู่เหนือความคาดหมายของข้า”
กู้ซีจิ่วสีหน้าทะมึน ดูเหมือนเรื่องราวของเธออยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาเสมอ เพียงแต่หนนี้เป็น ‘โง่เกินความคาดหมายของเขา’
เพียงแต่เมื่อตี้ฝูอีอธิบายออกมาเช่นนี้ ก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ความอยุติธรรมคับข้องนั้นจางลงเล็กน้อย
เธอเลิกคิ้วเอ่ยขึ้นว่า “ต่อให้เรื่องที่ท่านพูดเป็นความจริง เช่นนั้นคะแนนข้าล้าหลังแล้วมีผลดีอันใดต่อท่านเล่า?”
ตี้ฝูอีเหลือบมองเธอแวบหนึ่งแล้วพูด “ใครใช้ให้เจ้าโดดเรียนวิชาข้ากันล่ะ? ต้องให้บทเรียนเจ้าซะบ้าง นไม่ให้เจ้าโดดเรียนจนติดเป็นนิสัย…”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน อาจารย์จอมจู้จี้!
เธอเชิดหน้าจิบสุราอีกหนึ่งอึก สุรานั้นถึงแม้จะหอมสดชื่นแต่ก็ค่อนข้างเผ็ดร้อน เธอรู้สึกว่าลำคอร้อนผ่าวอยู่บ้าง จึงหยิบน่องนกตรงหน้าขึ้นมาแทะสองคำ
ตี้ฝูอีหยิบน้ำเต้าสุราไปจากมือเธอ “ที่ข้าจัดคาบเรียนภาคปฏิบัติขึ้นมีจุดประสงค์อยู่อีกอย่าง เจ้าอยากฟังไหม?”
กู้ซีจิ่วช้อนตามมองเขา “จุดประสงค์ใด?”
ตี้ฝูอีดื่มสุราอย่างไม่อนาทรร้อนใจอึกหนึ่ง จากนั้นก็หยิบผ้าเช็ดหน้าไหมผืนหนึ่งออกมาเช็ดมือและปากที่มันย่องของเธอ ความสนใจของเธอล้อนอยู่ที่ ‘จุดประสงค์’ ของเขา จึงไม่ได้ใส่ใจการกระทำเหล่านี้ของเขา
ตี้ฝูอีกล่าวว่า “ข้าวางแผนไว้ว่าถ้าคะแนนของเจ้าล้าหลัง ด้วยนิสัยของเจ้าแล้วเจ้าต้องไม่พอใจอย่างยิ่ง จะมุมานะฝึกฝนยิ่งกว่าเดิม ไม่โดดเรียนวิชาข้าอีก แถมข้ายังสามารถใช้โอกาสนี้ไปหาเจ้าเพื่อสอนเสริมให้เจ้าได้อีกด้วย…”
ยามนั้นตี้ฝูอีวางแผนไว้ดีมาก เขาถึงขั้นคิดไว้ล่วงหน้าว่าจะไปที่เรือนกู้ซีจิ่วอย่างเปิดเผยคิดบทพูดปิดช่องนาง ทำให้นางปฏิเสธคาบเรียนเสริมของเขาไม่ได้ แบบนั้นทั้งสองคนก็จะมีโอกาสใกล้ชิดกันแน่นอน…
————————————————————————————-
บทที่ 884 หนีจากเงื้อมมือเขาไม่พ้น
ไหนเลยจะทราบว่าแผนการที่วางจะพลิกผัน สาวน้อยผู้นี้ขึ้นมาไม่ได้จริงๆ อับอายขายหน้าไปถึงไหนต่อไหน เป็นชนวนให้ชิงชังเขา แถมยังคิดจะย้ายห้องเพื่อหลีกหนีเขาโดยสมบูรณ์…
กู้ซีจิ่วก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง เมื่อฟังถ้อยคำเหล่านี้ของเขาก็เข้าใจแผนการของเขา รู้สึกหมดคำจะพูดอยู่บ้าง และรู้สึกซาบซึ้งนิดๆ
เจ้าคนผู้นี้ดูเหมือนจะวางแผนไว้รอบด้านเลย ทุ่มเทมากเช่นกัน
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ต่อให้ไล่ตามคนผู้หนึ่งก็ยังไล่ตามได้พิสดารแยบคายถึงเพียงนี้ ทำให้คนชิงชังจนกัดฟันกรอดๆ นี่ทำให้กู้ซีจิ่วไม่รู้ว่าควรจะวิจารณ์พฤติกรรมเหล่านี้ของเขาอย่างไรดี
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง กระแอมแล้วเอ่ยว่า “ต่อไปข้าไม่จำเป็นต้องโดดเรียนวิชาของท่านแล้ว พอข้าย้ายห้องไปก็ไม่ต้องเข้าเรียนคาบท่านอีกแล้ว…”
ตี้ฝูอียิ้มแวบหนึ่ง “เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร เจ้าไม่มาเรียน ข้าไปสอนเสริมให้เจ้าทุกวันก็ได้ เป็นอาจารย์หนึ่งวัน คือผู้สอนสั่งไปชั่วชีวิต ในเมื่อเจ้าเรียนวิชาของข้าแล้ว จะอย่างไรก็ต้องให้เจ้าเรียนรู้ตั้งแต่ต้นจนจบถึงจะดี”
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
เธอไม่รู้ว่าควรร้องไห้หรือว่าหัวเราะดี จึงเชิดหน้ากล่าว “หากว่าข้าไม่อยากให้ท่านเสริมให้เล่า? วิชานี้อาจไม่เหมาะกับข้า…”
มันเหมาะกับเจ้า!” ตี้ฝูอีเอ่ยขัดเธอ “เจ้าเป็นผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณธาตุลม เมื่อเจ้าเชี่ยวชาญวิชาเหินหาวอย่างแท้จริง อานุภาพกระบวนท่าธาตุลมของเจ้าจะยกระดับขึ้นเป็นเท่าตัว! ความเร็วของเจ้าก็จะว่องไวกว่าตอนนี้อีกเท่าตัว!”
กู้ซีจิ่วพลันใจเต้นแรง เอ่ยโพล่งออกมาประโยคหนึ่ง “ท่านเปิดสอนวิชาเหินหาวนี้เพื่อข้าโดยเฉพาะหรือ…” เอ่ยมาถึงตรงนี้ก็หยุดลง นี่เธอหลงตัวเองเกินไปหรือเปล่า?
ตี้ฝูอีถอนหายใจ “ในที่สุดเจ้าก็เข้าใจ! วิชานี้เปิดขึ้นก็เพื่อเจ้า ศิษย์คนอื่นๆ ก็แค่พึ่งใบบุญของเจ้าเท่านั้น”
เคล็ดวิชานี้เขามุ่งหมายนำมาสอนเพื่อสุขภาพของนางโดยเฉพาะ เพื่อให้วรยุทธ์ของนางพัฒนาขึ้นภายในระยะเวลาสั้นๆ
ผู้บงการอยู่เบื้องหลังคนนั้นแข็งแกร่งนัก เขาหวังให้นางมีกำลังพอปกป้องตนเอง หากว่าเขาไม่อยู่ข้างกายนาง นางจะได้ไม่ถึงกับถูกผู้อื่นข่มเหงได้ทันที
กู้ซีจิ่วนึกไม่ถึงเลยว่าความจริงจะเป็นเช่นนี้ ความอึดอัดคับ้องในใจเหล่านั้นเจือจางไปเล็กน้อยอีกครั้ง กลับมีความรู้สึกอบอุ่นผุดขึ้นมาในหัวใจ
เธอนั่งครุ่นคิดเรื่องราวอยู่ตรงนั้นเงียบๆ นำสิ่งที่ประสบในหลายวันนี้มาวิเคราะห์แยกแยะอีกรอบหนึ่ง เมื่อนำมาปะติดปะต่อเข้าด้วยกัน กพบว่าสิ่งที่ตี้ฝูอีพูดน่าจะเป็นความจริง
อันที่จริงตัวเธอเกลี้ยกล่อมง่ายมาก พอขบคิดเข้าใจแล้วก็ไม่ดื้อแพ่งอันใดอีกต่อไป เพียงแต่ถึงอย่างไรก็ได้รับความอยุติธรรมนานถึงเพียงนั้น เพลิงลุกไหม้มาถึงขนาดนี้แล้ว ถึงแม้จะเข้าใจภาพรวมทั้งหมดแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ยังปลงไม่ลงอยู่บ้าง จงใจเอ่ยขึ้นว่า “แต่ข้าย้ายห้องแล้ว อาจารย์ใหญ่กู่ก็รับปากข้าแล้ว ข้าไม่เข้าเรียนวิชาท่านกลับเป็นท่านมาสอนเสริมให้ข้า ศิษย์คนอื่นจะคิดเห็นอย่างไร…”
ตี้ฝูอีพลันเลิกคิ้ว “ความคิดเห็นของพวกเขาเกี่ยวอะไรกับข้า?” แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยใส่ใจสายตาของผู้อื่น
เพียงแต่เขาสามารถไม่คิดหยุมหยิมได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ากู้ซีจิ่วจะไม่คิด ดังนั้นเขาจึงนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้นก็ง่ายดายยิ่ง อย่างมากข้าก็แค่เพิ่มคาบเรียให้ห้องสองด้วย”
กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก…
ตี้ฝูอีแย้มยิ้มมองนาง แววตาแน่วแน่ยิ่งนัก “เสี่ยวซีจิ่ว วิชาของข้ามิใช่เจ้าคิดจะโดดก็สามารถโดดได้ ต่อให้เจ้าหนีไปสุดขอบฟ้า ข้าก็ยังหาทางไปจับเจ้ากลับมาเรียนต่อให้ได้ แค่เสียเวลาเล็กน้อยเท่านั้น” วิชาเหินหาวนี้เป็นวิชาที่เขานำมาสอนนางโดยเฉพาะ นางจะไม่เรียนได้อย่างไร? เช่นนั้นที่เขาพินิจพิเคราะห์อดหลับอดนอนหลายวันอยู่หลายวันมิเสียเปล่าหรอกหรือ?
เส้นเลือดตรงขมับกู้ซีจิ่วเต้นตุบๆ ทราบว่าเขาพูดจริงทำจริง
เธอกระแอมไอคราหนึ่ง “ท่านบอกว่าข้าแค่ลุ่มหลงยึดติดหลงซือเย่เท่านั้น ท่านก็ดูเหมือนจะลุ่มหลงยึดติดข้าเช่นกัน…”
————————————————————————————-