ลำนำบุปผาพิษ – ตอนที่ 889-890

บทที่ 889+890

บทที่ 889 เต้นรูดเสา

ขอเพียงเธอปฏิบัติตามวิธีที่เขาสอนอย่างถูกต้อง จากนั้นเมื่อกระตุ้นศักยภาพสูงสุดของพลังวิญญาณออกมา ก็เหาะขึ้นไปได้จริงๆ

ยามที่เธออาศัยพละกำลังของตนจนเหาะขึ้นมาถึงปลายหน้าผาแห่งนี้ได้เป็นครั้งแรก เธอรู้สึกปลอดโปร่งผ่อนคลาย กาศหลังฝนตกบริสุทธิ์สดชื่นปานได้อาบน้ำ ทำให้เธอรู้สึกปรอดโปร่งไปทั่วทั้งปอด

“ดีใจไหม?” ตี้ฝูอียื่นมือมาเช็ดเหงื่อบนหน้าผากให้นาง “ทำได้ดีมาก!”

เขายังนึกว่าอย่างไรเสียนางคงจะล้มเหลวสักแปดครั้งสิบครั้ง นึกไม่ถึงว่านางล้มเหลวเพียงสองครั้งก็เหาะขึ้นมาได้แล้ว

“ดีใจสิ” กู้ซีจิ่วแทบอยากหมุนตัวเป็นวง

เธอสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด ตามสถานการณ์ปกติ ดีใจแค่ไหนก็ไม่เคยฉีกยิ้มกว้างเลย ยามอยู่ต่อหน้าผู้อื่นจะสงบเยือกเย็นเสมอ มีเพียงกลับไปถึงเรือนตนเท่านั้นเธอถึงจะกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง

แต่ตอนนี้เธอดีใจจนอยากหมุนตัวไปรอบๆ แล้ว

ดูเหมือนตี้ฝูอีจะไม่ได้โกหกเธอเลยสักนิดจริงๆ ขอเพียงเธอปฏิบัติตามวิธีที่ถูกต้อง ก็สามารถเหาะขึ้นหน้าผาแห่งนั้นได้ ไม่ถึงกับต้องอับอายขายหน้า

ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่เธอโดดเรียน ต้องโทษที่เธออดนอนทั้งคืน…

ตี้ฝูอีมองดวงที่หยีโค้งของนาง ยิ้มออกมาเช่นกัน “ดีใจจนอยากกระโดดโลดเต้นเลยใช่หรือไม่?”

“อื้อ” กู้ซีจิ่วปรารถนาจะกระโดดโลดเต้นจริงๆ

ตี้ฝูอีโบกแขนเสื้อพรึ่บ เสาเหล็กสูงตระหง่านเล่มหนึ่งโผล่ขึ้นมาจากความว่างเปล่า ตี้ฝูอีเสนอแนะอย่างจริงจัง “มิสู้ลองเต้นรูดเสาดูสักรอบ?”

กู้ซีจิ่วตะลึงงัน

ตี้ฝูอีค่อยๆ ตะล่อม “เจ้าบอกไว้มิใช่หรือว่าเจ้าเต้นรำประเภทนี้ได้ยอดเยี่ยมนัก หนก่อนยังคิดจะใช้ร่างข้าเต้นอยู่เลยนี่? ข้าอยากรู้มาตลอดว่าที่แท้มันเป็นการเต้นอย่างไร ยามนี้มิสู้ลองเต้นดูสักรอบ”

กู้ซีจิ่วไม่อยากเต้น เธอกลัวว่าพอเธอเต้นจบสัญชาตญาณดิบของเขาจะโผล่ออกมา

เธอกระแอมคราหนึ่ง “ยามนี้มืดค่ำแล้ว ไม่เหมาะจะเต้นรำเช่นนั้น ข้ายังต้องเหาะขึ้นหน้าผาอีกเก้ารอบนะ ต้องรักษากำลังไว้ ข้าไปเหาะขึ้นมาอีกรอบก่อนนะ” พลางหันหลังหมายจะกระโจนลงไป

“หากเจ้าเต้นได้ดี ข้าจะลดโทษนั้นให้กึ่งหนึ่ง” ตี้ฝูอียื่นมือยุดเธอไว้

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้น “บทลงโทษขอท่านไม่เคยลดหย่อนผ่อนผันมิใช่หรือ?”

“อืม หากเจ้าเต้นรำได้ดี ข้าจะเมตตาให้เป็นกรณีพิเศษ”

ชิ หลอกต้มเธอนี่นา! อย่างไรถึงเรียกว่าเต้นได้ดีเล่า? หากว่าเธอเต้นเสร็จแล้วเขาบอกว่าไม่ดี เธอมิเต้นอย่างเสียเปล่าหรอกหรือ? เธอไม่หลงกลหรอก!

“การเต้นรำประเภทนั้นต้องมีเสื้อผ้าเฉพาะ ซ้ำยังต้องมีดนตรีที่กระตุ้นอารมณ์ได้จริงๆ ด้วย…” กู้ซีจิ่วเริ่มหาเหตุผลมาบ่ายเบี่ยง

ยิ่งเธอพูดเช่นนี้ ตี้ฝูอีก็อยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น “เจ้าต้องการเสื้อผ้าแบบไหน? ไม่แน่ที่ข้าอาจจะมีเตรียมไว้ ส่วนดนตรีกระตุ้นอารมณ์อะไรนั่น…ข้าสามารถใช้พิณบรรเลงให้เจ้าได้”

จะเป็นไปได้ยังไงที่เขาจะเตรียมสิ่งนี้ไว้?

กู้ซีจิ่วบอกเสื้อผ้าที่ต้องใช้ในการเต้นนั้นออกมาก่อน ต้องเป็นเสื้อแขนกุดตัวเล็กรัดรูปกับกางเกงขาสั้นแนบเนื้อ ถ้ามีกระโปรงหญ้าถักตัวเล็กๆ ด้วยจะดีที่สุด…

ตี้ฝูอีฟังได้ครู่หนึ่ง ก็มองดูเธอสักพักแล้วเอ่ยถาม “เสื้อผ้าเช่นนั้น…ใส่ได้ด้วยหรือ?”

กู้ซีจิ่วถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอก็รู้ว่าเขาไม่มี ดังนั้นจึงหลอกล่อเขาว่า “การเต้นรำนี้ต้องสวมเสื้อผ้าเช่นนั้นถึงจะได้ผล มิฉะนั้นจะไม่มีความหมายอะไร ตอนนี้ไม่มีชุดแบบนั้น ดังนั้นยังไม่อาจเต้นไปก่อน…”

พูดยังไม่จบเธอก็ชะงักไป ตี้ฝูอีหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งออกมาจากมิติเก็บของของเขา เสื้อผ้าชุดนั้นมีความยืดหยุ่นสูงยิ่งนัก เมื่อหยิบออกมาภายใต้แสงจันทร์ดูเปล่งประกายราวกับเกล็ดปลาก็มิปาน

เขาชูสองนิ้วทำท่าตัดฉับๆ มองเธอด้วยสายตาสดใส “อยากตัดเป็นแบบไหน?” จากนั้นก็ยื่นกระดาษกับพู่กันชุดหนึ่งให้เธอ “มาสิ วาดแบบออกมาหน่อย”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก เธอรู้สึกหลอนราวกับยกหินมาทับเท้าตัวเอง

————————————————————————————-

 บทที่ 890 เจ้า

เธอสูดหายใจนิดๆ ยิ้มละไมแล้วต่อรองกับเขา “พวกเราอย่าเต้นอันนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นด้านอุปกรณ์หรือภูมิปัญญาพวกเราล้วนตามไม่ทันทั้งสิ้น ต่อให้ท่านสามารถจัดเตรียมเสื้อผ้าชุดนี้ออกมาได้ แต่ที่นี่ก็ไม่มีรองเท้าส้นสูงอยู่ดี วันหน้าข้าจะทำรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งแล้วค่อยมาเต้นให้ท่านดูแล้วกัน ข้าสามารถเต้นรำประเภทอื่นให้ท่านชมได้…”

ยิ่งนางไม่เต้นเขาก้ยิ่งสนใจ ถึงแม้จะไม่เข้าใจบางคำที่นางพูด แต่เขาถามได้ยอดเยี่ยมนัก “เจ้าก็วาดรองเท้าส้นสูงอะไรนั่นออกมาด้วยสิ ข้าเห็นแล้วอาจจะช่วยเจ้าสร้างออกมาสักคู่ได้”

กู้ซีจิ่วไม่เชื่อว่าเขาจะเสกรองเท้าขึ้นมาจากอากาศได้ ดังนั้นเธอตัดสินใจวาดรองเท้าคู่หนึ่งลงไปบนกระดาษจริงๆ อีกทั้งอธิบายเรื่องความอ่อนความแข็งของมันและขนาดที่ต้องการอย่างชัดเจน แถมยังวาดรูปแบบของเสื้อผ้าที่ต้องการด้วย

ตี้ฝูอีเพ่งพิศภาพที่เธอวาดอยู่พักใหญ่ ถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “สิ่งนี้สร้างไม่ง่ายเลยจริงๆ”

กู้ซีจิ่งรู้สึกโล่งอก “ใช่แล้วๆ ดังนั้นแล้วไปเถอะ”

นึกไม่ถึงว่าตี้ฝูอียงมีประโยคถัดไปด้วย “เพียงแต่กลับไม่ยากเกินความสามารถของข้า”

ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงได้ชมท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแสดงฉากเสกรองเท้าส้นสูง

เขาแบมือออก มีลำแสงเกาะกลุ่มหมุนวนอยู่กลางฝ่ามือ ราวกับกำลังจับสสารที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ กลางฝ่ามือเขามีรองเท้าส้นสูงคู่หนึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้นมา…

กู้ซีจิ่วเบิกตากว้างมองดูเขา เธอทราบว่าหากคนผู้หนึ่งมีพลังวิญญาณสูง จะสามารถคว้าจับสสารทุกอย่างที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมาประกอบเป็นสิ่งที่ตนต้องการได้ แต่สสารที่ถูกเก็บเกี่ยวส่วนใหญ่จะเป็นธาตุดินไฟไม้น้ำทอง และไม่ว่าาทุกคนจะประกอบสิ่งออกมาล้วนเกี่ยวข้องกับการฝึกฝนพลังยุทธ์ทั้งสิ้น ส่วนมากล้วนเป็นศาสตราอาวุธ

แต่อย่างตี้ฝูอีนี้ สสารที่เขาคว้าจับน่าจะเป็นสิ่งที่มีคุณสมบัติคล้ายกับยางพารา แถมสิ่งที่เขาสิ้นเปลืองจิตวิญญาณไปมากมายเพื่อประกอบออกมาก็เป็นเพียงรองเท้าคู่หนึ่ง…

ดูเหมือนเขาจะยึดติดกับการเต้นรูดเสาของเธอ

ขณะที่เธอกำลังรันทดหดหู่อยู่ในใจ ตี้ฝูอีก็จัดการเสื้อผ้าให้เธอตามขนาดที่เธอบอกเรียบร้อยแล้ว จึงผลักไปให้เธอ “เสร็จแล้ว เจ้าลองสวมให้ข้าดูหน่อยสิ”

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าตนขุดหลุมดักตัวเองเสียแล้ว เธอยังคิดจะสู้ดูอีกสักตั้ง “ไม่มีดนตรีกระต้นอารมณ์นี่นา พิณใช้ไม่ได้ ดูสูงส่งเลิศล้ำเกินไป เนื่องจากดนตรีต้องมีจังหวะเร้าใจ…”

ตี้ฝูอีตัดบทเธอ “เจ้าร้องเพลงที่เจ้าต้องการมาก่อน แล้วข้าจะเลือกเครื่องดนตรี”

กู้ซีจิ่วตัดสินใจในทันใด ร้องเพลงที่ค่อนข้างเหมาะกับการเต้นรูดเสาออกมาเพลงหนึ่ง เพลงที่เธอร้องคือเพลง Hypnotic[1]

ความสามารถในการลอกเลียนแบบของเธอเก่งกาจยิ่ง ร้องเพลงนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าเล็กน้อย ดูลึกลับและกระตุ้นอารมณ์อย่างยิ่ง

ตี้ฝูอีฟังอยู่เงียบๆ รอจนเธอร้องจบ เขาก็ยิ้มแล้วเอ่ยว่า “จับคู่เครื่องดนตรีได้ไม่ยากเลย…” เขาเรียกพิณและกลองลูกหนึ่งออกมา “สองอย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว”

กู้ซีจิ่วมองเขาอยู่พักหนึ่ง “มีสิ่งใดที่ท่านเอาออกมาไม่ได้บ้างไหม?”

มีมิคเก็บของช่างดีเหลือเกิน เสมือนมีคลังสินค้าขนาดใหญ่ติดตัว! มีเพียงสิ่งที่เธอนึกไม่ออกเท่านั้น ไม่มีสิ่งที่เขานำออกมาไม่ได้

ตี้ฝูอีตอบอย่างรวดเร็ว “เจ้า”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน

เธอยิ้มออกมาอย่างอดไว้ไม่อยู่ “นั่นง่ายดายยิ่ง ฝีมือท่านล้ำเลิศถึงเพียงนี้ สามารถโคลนนิ่งข้าอีกคนได้…เช่นเดียวกับปรมาจารย์กู่ผู้นั้น เขาก็สามารถโคลนนิ่งมนุษย์ออกมาได้ เหมือนกันทุกประการ แม้แต่ไฝฝ้าบนร่างก็ไม่ต่างกันเลย”

ตี้ฝูอีเลิกคิ้วมองเธอ “เช่นนั้นวิญญาณจะเป็นดวงเดียวกันหรือไม่?”

กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง ส่ายศีรษะ “ย่อมไม่ใช่” อย่างน้อยเธอกับเย่หงเฟิงก็ไม่ใช่ดวงเดียวกัน

ตี้ฝูอีจึงกล่าวว่า “เช่นนั้นข้าจะสร้างสังขารขึ้นมาทำไม? ในโลกโลกีย์สังขารเป็นเพียงถุงหนังเท่านั้น วิญญาณข้างในสิถึงจะเป็นหนึ่งไม่มีสอง”

หัวใจกู้ซีจิ่วอุ่นวาบ ตี้ฝูอีพอพูดจาหวานซึ้งขึ้นมาช่างอันตรายยิ่งนัก

————————————————————————————-

[1]  Hypnotic เป็นเพลงที่ขับร้องโดย Zella Day เป็นเพลงที่มีทำนองลึกลับเย้ายวน เนื้อหาสื่อถึงการหลงรักคลั่งไคล้จนเหมือนถูกสะกดจิต

 

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset