บทที่ 1095 ข้าอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย
“แม่นางกู้พูดขอความเมตตาให้เจ้า เจ้าจะไม่ขอบคุณหน่อยหรือ?” ท่านเจ้าผมเงินเดินไปตรงหน้าหลงซือเย่
หลงซือเย่ตอบน้ำเสียงเย็นชา “ข้าไม่ได้ให้นางขอความเมตตา”
เขายอมให้เธอเกลียดเขาเข้ากระดูกดำ ดีกว่าปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนอื่นแบบนี้ เขาไม่อยากให้เธอเห็นสภาพจนตรอกของเขา!
เขาทรยศเธอถึงสองครั้งสองครา ด้วยอุปนิสัยใจคอของเธอ ก็ควรฉวยโอกาสนี้ปลิดชีพเขาเพื่อแก้แค้น แต่นึกไม่ถึง…
เธอไม่ได้มีนิสัยแม่พระผู้เมตตา บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
หากมีความทรงจำ เช่นนั้นเธอต้องจำเขาได้และหาโอกาสแก้แค้นแน่นอน ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเธอจำเขาไม่ได้ แค่เห็นเขาเป็นผลงานโคลนนิ่งที่ล้มเหลวชิ้นหนึ่ง ถึงได้ใจกว้างเช่นนี้ ดูเหมือนเธอสูญเสียความทรงจำในชาตินี้ไปแล้วจริงๆ!
นี่คือสิ่งที่เขาเคยหวังไว้ และตอนนี้ก็เป็นจริงแล้วในที่สุด แต่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้…
สายตาที่เธอมองเขาราวกับมองผลงานโคลนนิ่งชั้นสองที่ล้มเหลว ไม่มีความรักก็ช่างเถิด ตอนนี้กลับไม่มีแม้แต่ความชัง เขาถูกลบออกจากชีวิตเธอไปหมดสิ้น ไม่เหลือร่องรอยสักเพียงนิด
เขาหมอบอยู่ตรงนั้น ลุกขึ้นมาไม่ไหว ความโศกเศร้าในใจประเดประดังเข้ามา
เห็นได้ชัดว่ากู้ซีจิ่วไม่สนใจเขาเลย หันกายเดินออกจากห้องคุมขังนี้ไป ไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะหันกลับมามอง
บ้าเอ้ย หยั่งเชิงอีกแล้ว! ท่านเจ้าผมเงินผู้นี้ใช้อุบายมากมายเพื่อหยั่งเชิงเธอ ขอแค่เธอผ่อนคลายเล็กน้อยไม่แน่ก็อาจคล้อยตามคำพูดเขาไปแล้ว!
เธอรู้สึกถึงสายตาของหลงซือเย่ที่มองตามเธอตลอดเวลา แววตานั้นดังเปลวเพลิง แต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกใดอีกต่อไป…
……
“ข้าอยากออกไปเดินเล่นสักหน่อย!” กู้ซีจิ่วพูดเช่นนี้รอบที่แปด
เธอขลุกตัวอยู่ในวังใต้พิภพนี้มาสามวันแล้ว สามวันนี้ เธอเดินไปทั่วทุกซอกทุกมุมของวังใต้พิภพ เว้นแต่บางห้องที่เข้าไม่ได้ ห้องที่เข้าไปได้เธอก็เข้าไปเดินจนทั่วแล้ว
ข้อเรียกร้องที่เธอขอนี้ไม่มากเกินไป อย่าว่าแต่เธอมีอิสระเสรีดังสายลมมาตลอดเลย ต่อให้เป็นเด็กสาวทั่วไปที่ทะลุมิติมา ก็ต้องอยากออกไปดูด้านนอก อย่างน้อยก็อยากออกไปดูว่าโลกภายนอกนั้นเป็นอย่างไร
“ซีจิ่ว ด้านนอกไม่ค่อยสงบนัก วรยุทธ์ของเจ้ายังอ่อนหัดเกินไป หากออกไปจะเป็นอันตรายได้ง่าย อยู่ที่นี่อย่างเชื่อฟังจะดีกว่า ฝึกฝนวิชาที่ข้าสอนให้เจ้า รอให้เจ้าฝึกฝนสำเร็จเมื่อใดค่อยออกไปก็ไม่สาย” ท่านเจ้าผมเงินกล่าวเช่นนี้
สองวันมานี้ เขาถ่ายทอดวรยุทธ์ให้กับกู้ซีจิ่ว วิชาของเขาแตกต่างจากแนวทางของตี้ฝูอีโดยสิ้นเชิง
สามารถใช้คำสี่คำอธิบายได้ว่า…ริเริ่มสร้างสรรค์!
ตี้ฝูอีผู้นี้ถึงแม้ปกติจะดูพิลึกพิลั่น แต่วิธีการฝึกฝนที่ถ่ายทอดให้กับกู้ซีจิ่วนับว่ามาถูกทาง สามารถพัฒนาได้ตามลำดับ ให้เธอก้าวหน้าขึ้นไปทีละขั้นอย่างมั่นคง หากวันใดขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดจะได้ไม่พลาดพลั้งลงมาอีก
แต่วิชาที่ท่านเจ้าผมเงินถ่ายทอดให้นั้นเฉกเช่นการเดินไต่ลวด ถึงแม้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ง่ายดาย แต่ก็พลาดพลั้งได้อย่างง่ายดายเช่นกัน ไม่ระวังแม้เพียงน้อยก็ธาตุไฟเข้าแทรกได้ แน่นอนว่าผลลัพธ์ย่อมรวดเร็วเช่นกัน กู้ซีจิ่วฝึกฝนกับเขาแค่สองวัน ก็ใช้หลายวิชาได้อย่างคล่องแคล่วแล้ว
เมื่อที่กู้ซีจิ่วเพิ่งมา ยังเข้าใจผิดว่าท่านเจ้าผมเงินผู้นี้จะใช้เธอเป็นไพ่ตายใบสุดท้ายเพื่อควบคุมตี้ฝูอี
บัดนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นเช่นนั้น เขาเหมือนเห็นเธอเป็นสมบัติของตน ต้องการให้เธอเติบโตไปในทางที่เขาอยากจะให้เป็น
คนผู้นี้ช่างแข็งกร้าวนัก เกือบถึงขั้นบังคับให้กู้ซีจิ่วเรียนกับเขา แต่ด้วยความคิดของกู้ซีจิ่วที่ว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง จึงแบ่งรับแบ่งสู้เรียนมาสักสองสามกระบวน
แน่นอน ท่านเจ้าผมเงินผู้นี้สับปลับยิ่งนัก กู้ซีจิ่วก็เกรงว่าเขาจะวางอุบายไว้ในวิชาเหล่านี้ อย่างเช่นอวิชชาดูดดาว ประเภทนั้น หากฝึกฝนแล้วเกิดหยุดไม่ได้ มีแต่จะถลำลึกลงไปในทางสายมาร ไม่อาจหวนคืนกลับมาได้อีก
ดังนั้นเมื่อฝึกฝนเธอจึงระมัดระวังมาก ไม่หลับหูหลับตาฝึกเด็ดขาด
————————————————————————————-
บทที่ 1096 เขาเป็นอย่างไรบ้าง?
จากการคลุกคลีกันในสองวันนี้ ในที่สุดกู้ซีจิ่วก็รู้ชื่อของท่านเจ้าผู้นี้…โม่เจ้า
แน่นอนว่าเกือบสิบส่วนอาจเป็นชื่อปลอมที่เขาตั้งขึ้นมาชั่วคราว แต่ดูจากชื่อนี้ กู้ซีจิ่วก็รับรู้ได้ถึงความทะเยอทะยานของเขา
ตะวันจันทรากลางฟ้าสาดส่องทั่วหล้า สิ่งที่คนผู้นี้ต้องการปกครองคือทั้งแผ่นดิน เขาเป็นมารสวรรค์ ความหมายแผลงของชื่อนี้คือมารปกครองทั่วหล้าไม่ใช่หรือ?
……
กู้ซีจิ่วเห็นทางเดินเข้าออกวังใต้พิภพแห่งนี้ในที่สุด ความจริงแล้วนั่นไม่ใช่ทางเดิน แต่เป็นรถยนต์คันหนึ่ง ทำจากวัสดุฉนวนความร้อนทั้งหมด รูปทรงกลมรี ลักษณะคล้ายจานบินที่ปิดตายอยู่บ้าง รถประเภทนี้นั่งเรียงหน้ากระดานได้ห้าคน และเข้าออกลาวาได้อย่างอิสระ
ภายในลานกว้างของวังใต้พิภพมีสระลาวาลับซ่อนอยู่ ทุกครั้งที่รถยนต์ชนิดนี้เข้ามา พื้นดินของลานกว้างจะแยกออกจากกัน เผยให้เห็นลาวาที่เดือดพล่านเบื้องล่าง จากนั้นรถยนต์คันนี้ก็จะทะลวงออกจากด้านใน มาหยุดอยู่ใกล้ริมสระ และมีคนทยอยขึ้นลงจากรถ
ก่อตั้งอาณาจักรที่ทันสมัยแห่งหนึ่งในยุคนี้ได้ ต้องบอกเลยว่าหลงฟั่นมีความสามารถมากมายจริงๆ
ไม่แปลกใจที่คนที่นี่ให้ความเคารพหลงฟั่นเป็นพิเศษ มองเขาเป็นดั่งเทพผู้สร้างสรรพสิ่ง เป็นบุคคลมากความสามารถอย่างที่คาดไว้
ยามนี้หลงฟั่นผู้เยี่ยมยอดกำลังง่วนอยู่กับโลงแก้วผลึกขนาดใหญ่ใบหนึ่ง
โลงแก้วผลึกใบนี้ใหญ่มาก ใหญ่กว่ายามกู้ซีจิ่วตื่นขึ้นมาเป็นเท่าตัว ด้านในมีน้ำโอสถจำนวนมาก เครื่องมือวิทยาศาสตร์โดยรอบก็ซับซ้อนยิ่ง
มีคนผู้หนึ่งนอนอยู่ในโลงแก้วผลึก รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา สวมเสื้อคลุมบางๆ นอนหลับตาอย่างสงบอยู่ในโลงแก้วผลึกที่เต็มไปด้วยน้ำโอสถ ไม่มีลมหายใจ ไม่มีการเต้นของหัวใจ ทว่าผิวพรรณเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ราวกับแค่กำลังหลับใหล
นี่ก็คือร่างโคลนนิ่งที่หลงฟั่นสร้างให้โม่เจ้า ซ้ำยังเป็นร่างโคลนนิ่งที่สมบูรณ์แบบ หากสำเร็จเมื่อใด ขอเพียงโม่เจ้าเข้าสิงสู่ในร่าง เขาก็จะได้ครอบครองร่างกายที่เป็นของเขาจริงๆ
บัดนี้ โม่เจ้ายืนอยู่หน้าโลงแก้วผลึก มองดูร่างโคลนนิ่งที่เหมือนร่างวิญญาณของตนอย่างไร้ที่ติด้านใน พลางถอนหายใจเบาๆ เขาพอใจกับร่างนี้มาก!
ปีนั้นเขาฝึกฝนอย่างกระหายในความสำเร็จมากเกินไป ทำให้ธาตุไฟเข้าแทรก ทำลายร่างดั้งเดิมจนต้องไปใช้ร่างของคนอื่น หนึ่งร้อยกว่าปีที่ผ่านมานี้ เขาสิงสู่ในร่างผู้คนมากมาย หรงเช่อเป็นเพียงแค่หนึ่งในนั้น เนื่องจากข้อจำกัดทางกาย เขาจึงไม่อาจสำแดงวรยุทธ์ดั้งเดิมหลายอย่างออกมาได้ ไม่มีทางไปถึงจุดที่แข็งแกร่งที่สุด ถึงขนาดตั้งตัวไม่ได้อยู่นาน
ตอนนี้ดีนัก ร่างที่หลงฟั่นเตรียมไว้ให้เขาผ่านการทดสอบแล้ว เป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมด้านการฝึกฝนพลังวิญญาณ พลังวิญญาณเริ่มต้นไปได้ถึงขึ้นเก้า!
ขั้นเก้า ระดับขั้นใหม่ที่คนมากมายฝึกฝนกี่ภพชาติก็ไม่มีวันไปถึง ขอเพียงเขาเข้าสิงสู่สำเร็จก็จะใช้ทักษะหลักบางอย่างของตนในตอนนั้นได้ หากใช้กลอุบายอีกเล็กน้อย ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องประมือกับสานุศิษย์สวรรค์ทั้งห้า วันที่จะกำจัดเทพศักดิ์สิทธิ์ให้พ้นทางและเข้าแทนที่จะเป็นจริงได้ในไม่ช้า…
เขายิ่งมองยิ่งชื่นชอบร่างนี้ ขณะมองจนเหม่อลอย ในหัวก็มีเสียงของอู๋เหยียนดังมา “นายท่าน ข้าน้อยมีเรื่องสำคัญรายงาน!”
“ว่ามา!”
อู๋เหยียนนิ่งชะงัก ก่อนถามในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้อง “เจ้าสำนักหลงเป็นอย่างไรบ้าง?”
ชื่อเต็มของอู๋เหยียนคืออูอู๋เหยียน เป็นลูกสมุนของโม่เจ้า เดิมทีสตรีผู้นี้ไม่โดดเด่น วรยุทธ์ไม่ถือว่าสูงส่งนัก แต่ต่อมานางค้นพบความสามารถพิเศษของตัวเองอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือนางเข้าสิงสู่ร่างของผู้ใดก็ได้ ถึงขั้นชิงร่างมาได้ด้วย
นับจากค้นพบความสามารถนี้ นางกลายเป็นสายข่าวที่โม่เจ้าส่งออกไป มักใช้ร่างใครบางคนเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่โม่เจ้าต้องการอยู่บ่อยครั้ง
————————————————————————————-