บทที่ 1163 แคลงใจ 2
กินโอสถระดับสามเม็ดนั้นเข้าไปก่อน โคจรพลังอยู่ครึ่งชั่วโมง หลังจากรู้สึกว่าได้ผล ก็กินโอสถระดับห้าเม็ดนั้นเข้าไปอีก ผลคือหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาตอบสนองที่ตรงต่อความเป็นจริงที่สุด มีกระโจมค่อยๆ ตั้งโด่ขึ้นมา…
เขาปรีดานัก ในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้พบกู้ซีจิ่วมาหนึ่งวันแล้ว เขาไปดูที่ห้องสังเกตการณ์ก่อน ดวงตาพลันหรี่ลงในทันใด!
หลงฟั่นอยู่ในห้องของกู้ซีจิ่ว!
หลงฟั่นกำลังกล่อมให้กู้ซีจิ่วกินยาบางอย่างอยู่ ยานั้นมีสีฟ้าอ่อน ทว่ามิใช่ลูกกลอนสุรภีที่ต้องหนึ่งเม็ดทุกสามวัน ย่าสีฟ้าอ่อนนี้โม่เจ้าไม่เคยเห็นมาก่อน
อีกอย่างปกติแล้วลูกกลอนสุรภีจะละลายลงในน้ำเปล่าแล้วหลอกให้กู้ซีจิ่วดื่มลงไป ส่วนยาเหล่านั้นที่ลบความทรงจำของนางไป ใช้ครั้งเดียวก็พอแล้ว ให้นางกินอีกเป็นที่สองไม่ได้เด็ดขาด
เช่นนั้นเม็ดยาสีฟ้าอ่อนในยามนี้คืออะไร? หลงฟั่นมีจุดประสงค์อะไรอีก?
เงามืดพาดผ่านนัยน์ตาของโม่เจ้าแวบหนึ่ง ดูอยู่เงียบๆ
เนื่องจากกู้ซีจิ่วได้กลิ่นเหม็นเน่าศพจากหลงฟั่น ดังนั้นเธอจึงเว้นระยะห่างจากเขายิ่งนัก ระแวดระวังหลงฟั่นเป็นพิเศษ และต่อต้านเม็ดยาสีฟ้าอ่อนนั้นยิ่ง “ข้าไม่อยากกิน! ยาเม็ดนี้เหม็นมาก! เหมือนซากศพเน่าเปื่อย! แล้วข้าก็ไม่ได้ป่วยทำไมต้องกินยาด้วย?”
หลงฟั่นจึงตะล่อมเธอ “มิใช่ว่าเจ้าจำอะไรไม่ได้เลยหรอกหรือ? ถ้ากินยาเม็ดนี้บางทีเจ้าอาจจะนึกบางอย่างออกก็ได้นะ”
กู้ซีจิ่วตะลึงงัน เอียงคอมองเขา “ท่านบอกว่าเป็นร่างที่โคลนนิ่งขึ้นมามิใช่หรือ ไม่มีความทรงอะไรทั้งนั้นนี่?”
หลงฟั่นชะงักไปเล็กน้อย “อันที่จริงเจ้ามีความทรงจำอยู่นิดหน่อย…เจ้ากินยานี้เข้าไปเถอะ รอจนยาออกฤทธิ์เจ้าก็รู้เอง”
กู้ซีจิ่วปรารถนาจะฟื้นฟูความทรงจำยิ่งนัก แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่จะติดกับได้ง่ายๆ “ยานี้ดีถึงเพียงนั้นเชียว? แล้วเหตุใดพี่โม่ถึงไม่มอบให้ข้ากินเล่า?”
หลงฟั่นตัดสินใจเอ่ยว่า “ก็เป็นพี่โม่ของเจ้านั่นแหละที่ให้ข้าเอามาให้เจ้ากิน เจ้ากินมันเข้าไปเถอะ กินมันลงไปแล้วเจ้าก็จะรู้ถึงผลลัพธ์อันยอดเยี่ยมของมัน ข้าเองก็นับว่าเป็นบิดาเจ้า ไม่ทำร้ายเจ้าแน่นอนใช่หรือไม่?”
กู้ซีจิ่วดูเหมือนจะหวั่นไหวบ้างแล้ว ทว่าคิ้วยังคงขมวดอยู่ “แต่ว่า…แต่ว่าทำไมพี่โม่ถึงไม่เอามาให้ข้าด้วยตัวเองล่ะ?”
“เขากำลังยุ่ง…ไม่ว่าจะเป็นเขาเอามาให้หรือข้าเอามาให้ ผลลัพธ์ก็ไม่ต่างกัน” หลงฟั่นก้าวเข้าไป เขาค่อนข้างไม่ความอดทน เตรียมจะใช้วิธีบังคับแล้ว…
ยังไม่ทันได้ลงมือ น้ำเสียงเย็นชาสายหนึ่งก็ดังขึ้นตรงปากประตู “ข้ายุ่งอันใดอยู่หรือ?”
โม่เจ้าปรากฏตัวขึ้นที่ทันที เขาตวัดแขนเสื้อคราหนึ่ง ม้วนเอาเม็ดยาในมือของหลงฟั่นไป
สีหน้าหลงฟั่นแปรเปลี่ยนเล็กน้อย กู้ซีจิ่วร้องไชโยคราหนึ่ง วิ่งอยู่ด้านหลังโม่เจ้าแล้วถือโอกาสฟ้อง “พี่โม่ เขาจะบังคับให้ข้ากินยาเหม็นๆ นี่! แถมยังบอกว่าท่านให้เขาเอามาให้! อาหารที่เขาส่งมาก่อนหน้านี้ก็มีกลิ่นแบบนี้เหมือนกัน เขาต้องผสมยานี่ลงในอาหารก่อนแล้วแน่ๆ ทำให้ข้าเหม็นจนแทบอาเจียนแล้ว”
โม่เจ้ามองยูกกลอนเม็ดนั้น เป็นสีฟ้าวาววาวราวกับประกายแสงล่องลอยอยู่ เป็นโอสถระดับห้าจริงๆ กลิ่นก็ฉุนเสียดจมูกจริงๆ ด้วย
เขาตบมือน้อยของกู้ซีจิ่วเบาๆ “ผู้อาวุโสหลงแกล้งเจ้าเล่นเท่านั้น เขาคงกลัวว่าเจ้าจะไปกินยาของผู้อื่นมั่วซั่ว ดังนั้นถึงได้ทดสอบเจ้าดู”
“ข้าจะไม่กินยาของคนอื่นมั่วซั่ว!” กู้ซีจิ่วเชิดดวงหน้าน้อยๆ ขึ้นอย่างทระนง
“อืม ซีจิ่วฉลาดที่สุด เอาล่ะ เจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้เป็นเจ้าสาวที่งดงาม”
“อื้อ” กู้ซีจิ่วยังคงเชื่อฟังเขายิ่งนักตอบรับคราหนึ่งแล้วเข้าห้องนอนไป
โม่เจ้าชั่งน้ำหนักเม็ดยาในมือดู แล้วเหลือบมองหลงฟั่นอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง “เจ้าตามข้ามา!”
หลงฟั่นลังเลครู่หนึ่ง ยังคงตามไปอยู่ดี
หลงฟั่นอธิบายสรรพคุณของโอสถสีฟ้าเม็ดนี้ให้โม่เจ้าฟังอย่างชัดเจน
————————————————————————————-
บทที่ 1164 แคลงใจ 3
นี่เป็นยาที่หลงฟั่นวิจัยออกมา สามารถสลายพิษของลูกกลอนสุรภีได้เล็กน้อย อย่างน้อยก็ทำให้กู้ซีจิ่วไม่ได้กลิ่นเหม็นของซากศพจากตัวหลงฟั่นอีก
หลงฟั่นอธิบายมากมายนัก “ท่านเจ้า หลังจากนางกินโอสถเม็ดนี้เข้าไป จะทำให้สติปัญญาของนางเพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีกอย่างถึงอย่างไรข้าน้อยก็เป็นผู้ที่สร้างนางขึ้น นางได้กลิ่นข้าน้อยเป็นกลิ่นศพอยู่ตลอดก็ไม่ดีเท่าไหร่ ท่านเจ้าวางใจเถอะขอรับ หลังจากนางกินโอสถเม็ดนี้เข้าไป กลิ่นของชายอื่นที่ควรเป็นอย่างไรก็ยังคนเป็นอย่างนั้น ไม่เกิดผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวมท่านเจ้าแน่นอน นางยังคงชมชอบเพียงท่านเจ้าเท่านั้น”
โม่เจ้าโยนยาเม็ดนั้นเล่น จู่ๆ ก็เอ่ยประโยคที่น่าตกใจออกมา “หลงฟั่น เจ้าก็ชอบนางเหมือนกันใช่ไหม?”
สีหน้าหลงฟั่นพลันแปรเปลี่ยน ทว่ายังคงตอบอย่างสุขุม “นางเป็นผลงานที่ข้าน้อยภาคภูมิใจที่สุด ข้าน้อยย่อมชอบนาง…”
“ชอบแบบชายหญิงหรือ?” หลงฟั่นจี้ถามอีกประโยค
หลงฟั่นตัวแข็งทื่อ “นี่…ไม่ใช่ขอรับ เป็น…ความชอบแบบพ่อลูก…” ยามที่กล่าวประโยคนี้น้ำเสียงของเขาไม่มั่นคงนัก
โม่เจ้าเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง น้ำเสียงเยียบเย็นนิดๆ “เป็นเช่นนี้ดีที่สุดแล้ว หลงฟั่น ถึงแม้นางจะเป็นสิ่งที่จ้าสร้างขึ้นมา แต่ภายหน้านางจะเป็นภรรยาของข้า และถือว่าเป็นนายหญิงของเจ้า ต่อให้นางได้กลิ่นเจ้าเหม็นเหมือนศพก็ไม่นับว่าเป็นกระไร หลังจากนั้นเจ้าติดต่อกับนางให้น้อยหน่อย ต่อไปยามเจ้ามีธุระต้องไปหานางก็ให้ข้าไปกับเจ้าด้วย มีข้าอยู่บัญชาการข้างๆ นางจะได้เชื่อฟังเจ้า ส่วนยาเม็ดนี้ อันที่จริงข้ารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องให้นางกินหรอก” เขาพลันขยี้นิ้วคราหนึ่ง ยาลูกกลอนสีฟ้าวาววามเม็ดนั้นแหลกเป็นผงแล้วหายไปทันที
ในใจหลงฟั่นหนาวยะเยือกยิ่งกว่าเดิม โม่เจ้าไม่ซ่อนเร้นความแคลงใจที่มีต่อเขาไว้แล้ว!
เขาทราบว่ายามนี้ตนไม่อาจพูดอะไรได้ จึงหลุบตาตอบรับ
โม่เจ้าก็เกรงว่าเขาหวั่นวิตกจนเกินไป ตบไหล่เขาเบาๆ “หลงฟั่น เจ้าเป็นลูกน้องที่ซื่อสัตย์และน่าไว้ใจที่สุดของข้ามาโดยตลอด ข้าหวังว่าเราสองคนจะไม่ระแวงแคลงใจซึ่งกันและกันนะ เจ้าทำหน้าที่ให้ดี ข้าก็จะไม่ปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไม่เป็นธรรม”
“ขอรับ” โม่เจ้าตอบรับอีกครั้ง ทว่าเยาะหยันอยู่ในใจ คนที่ระแวงแคลงใจอยู่ตลอดเป็นเขามากกว่ากระมัง?
ฉากโหมโรงตอนเล็กๆ จึงผ่านไปเช่นนี้แล
เดิมทีโม่เจ้าคิดจะไปสนทนากับกู้ซีจิ่วต่อ แต่เมื่อเห็น ‘กระโจม’ ของตนที่อ่อนยวบลงนานแล้วก็หมดอารมณ์อีกครั้ง
หนนี้ถึงแม้จะใช้การได้แล้ว แต่ก็ผงาดได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ…
ถ้าลงสนามเข้าจริงๆ เขาจะเสร็จกิจเร็วยิ่งกว่าล่มปากอ่าวเสียอีก! ดังนั้นคงใช้การไม่ได้ ยังต้องกินโอสถนั้นอีก
ตามที่หมอหลี่คนนั้นกล่าวไว้ หลังจากกินเข้าไปแล้ว ต่อให้มีปฏิกิริยาก็ไม่อาจหาสตรีมาคลายกำหนัดได้ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า ต้องกินโอสถระดับห้าสามเม็ดขึ้นไป ทำให้ผงาดได้เกินเศษหนึ่งส่วนสี่ชั่วยามแล้วค่อยลงสนามจริง เช่นนั้นถึงจะหายขาดอย่างสมบูรณ์…
เขาจึงไปที่ห้องหลอมโอสถของหมอหลี่ จับตามองการหลอมโอสถ
หลงฟั่นยิ้มมุมปากอย่างเย็นชาแวบหนึ่ง เขาเป็นหมอเทวดา ต่อให้ไม่ทราบว่าโม่เจ้ายืมห้องหลอมโอสถของเขาไปหลอมกลั่นสิ่งใด แต่เมื่อเห็นสีหน้าของท่านเจ้าผู้นี้ก็มองออกเกือบหมดแล้ว
ลูกกลอนสามหยาง! ท่านเจ้ากำลังกินลูกกลอนสามหยาง!
ยานี้เป็นเป็นโอสถบำรุงหยางที่ยอดเยี่ยมที่สุดจริงๆ และหายากยิ่งนัก หากว่าเป็นบุรุษธรรมดากินมันเข้าไป จะทำให้คึกคักฮึกเหิม ร่วมอภิรมย์กับสตรีสามนางภายในคืนเดียวก็ไม่มีปัญหาเลย แต่อาการป่วยชนิดนี้ของโม่เจ้า กินยานี้เข้าไปกลับจะเลวร้ายยิ่งกว่าขึ้น มันจะทำลายสมรรถภาพทางด้านนี้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ร่างโคลนนิ่งร่างนี้ของเขาไม่อาจฟื้นฟูสู่สภาพเดิมได้อีกต่อไป…
เดิมทีตอนที่ตี้ฝูอีเอ่ยชื่อสมุนไพรสามชนิดนี้ออกมา หลงฟั่นไม่ได้เก็บมาใส่ใจเลย และไม่คิดจะอธิบายให้โม่เจ้าเข้าใจด้วย เนื่องจากเขารู้สึกว่าโม่เจ้าคงไม่เชื่อถือคำพูดใดๆ ของศัตรู กลับคาดไม่ถึงว่า…
เดิมทีหลงฟั่นกำลังทุ่มเทวิจัยตัวยาที่รักษาอาการป่วยนี้ของเขาอยู่
————————————————————————————-