บทที่ 1199 น้ำเสียงของเขาราวกับจะฝากฝัง
เพียงแต่เขาเดี๋ยวจริงเดี๋ยวหลอก ทำให้เธอประมาท
วินาทีนี้ในใจราวกับถูกอะไรฉุดรั้งไว้ เธอสูดลมหายใจเข้า เอ่ยถามคำถามออกมาเป็นชุด “ร่างกายของท่านเป็นแบบนี้…เหตุใดไม่รีบบอกเล่า? ตอนนี้รู้สึกอย่างไรบ้าง? เจ็บมากใช่หรือไม่? พลังวิญญาณของท่านถูกทำลายอย่างร้ายแรง? วิชาคาถามากมายที่ท่านใช้ภายในวังใต้พิภพเป็นวิชาต้องห้ามหรือไม่? เป็นชนิดที่อันตรายต่อร่างกาย…”
ตี้ฝูอียิ้ม ยื่นมือไปดึงนางเข้ามากอดไว้ในอ้อมอก “คำถามมากมายอย่างนี้ เจ้าจะให้ข้าตอบคำถามไหนก่อนดี?”
เขาใช้นิ้วมือลูบผมนาง พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “รับปากข้าเรื่องหนึ่ง”
“เรื่องอะไร?” น้ำเสียงของเขาราวกับจะฝากฝัง กู้ซีจิ่วรู้สึกตึงเครียดขึ้นมา
“ผมสั้นนี้ช่าง…มีผลต่อความงามเหลือเกิน ต่อไปอย่าตัดอีกนะ เลี้ยงมันไว้”
กู้ซีจิ่วนิ่งอึ้ง
เธอหยุดนิ่ง “ข้าว่าไม่ต้องเลี้ยงมันไว้อีกแล้ว ข้าอยากสลับกลับไปร่างของตัวเอง”
ภายในร่างนี้มีอุปกรณ์บอกตำแหน่งอยู่ และยังซ่อนไว้ในห้องหัวใจของเธอ หากคิดจะเอาออกก็ต้องผ่าตัดเท่านั้น อีกทั้งการผ่าตัดชนิดนี้ต้องเปลือยทั้งร่างกายและต้องดมยาสลบ คงมีเพียงหลงซือเย่เท่านั้นที่ทำงานนี้ได้…
ร่างนี้เป็นร่างที่หลงฟั่นโคลนนิ่งออกมา ไม่รู้ว่าด้านในมีสิ่งแปลกปลอมอีกเท่าใดแอบซ่อนอยู่ กู้ซีจิ่วอยู่ในร่างนี้มักจะรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนระเบิดเวลา ดังนั้นเพื่อประโยชน์ส่วนตัวและส่วนรวม เธอควรจะกลับเข้าร่างของตัวเองร่างนั้น
ตอนนี้ร่างเดิมของเธอบรรลุขั้นแปดแล้ว แต่ร่างโคลนนิ่งนี้เพิ่งขั้นหกกว่า หากไม่สลับกลับเธอขาดทุนแย่?!
อีกทั้งหยกนภากับกำไลคู่บุพเพต่างอยู่ที่ร่างนั้น กู้ซีจิ่วไม่อยากกลายเป็นคนนอก!
ตี้ฝูอีกลับไม่ได้เก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ “ร่างนี้ของเจ้าไม่เลวทีเดียว เป็นอัจฉริยะการฝึกฝน กายจิตของเจ้าบรรลุพลังวิญญาณขั้นแปดแล้ว ขอแค่ขยันฝึกฝน ภายในครึ่งปี ร่างนี้ของเจ้าจะต้องบรรลุขั้นแปดหรือมากกว่านั้นได้…”
“ไม่! ร่างนี้ของข้ามีอุปกรณ์บอกตำแหน่งที่หลงฟั่นติดตั้งไว้อยู่ และหลงฟั่นก็ยังไม่ตาย…”
“ข้าเอามันออกมาให้เจ้าได้”
“เอาออกมาไม่ได้ ของสิ่งนั้นติดตั้งไว้ภายในหัวใจข้า หากจะเอาออกต้องผ่าตัดเท่านั้น การผ่าตัดนี้…” กู้ซีจิ่วบอกอุปสรรคของการผ่าตัดชนิดนี้
จุดสำคัญอยู่ที่ต้องเปลือยกายและมีเพียงหลงซือเย่เท่านั้นที่ทำให้เธอได้…เธอรู้ดีว่าตี้ฝูอีเป็นคนรักสะอาด และไม่มีทางอนุญาตให้หลงซือเย่มาทำการผ่าตัดนี้ได้
ตี้ฝูอีนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เอานิ้วมือจับชีพจรนาง เริ่มสำรวจหา ‘อุปกรณ์บอกตำแหน่ง’ นั้น และถือโอกาสตรวจดูภายในร่างกายนี้ว่ายังมีตรงไหนผิดปกติหรือไม่
ครู่หนึ่ง เขาลืมตาขึ้น “ของสิ่งนี้ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดอันใด ข้าสอนวรยุทธ์ให้เจ้าอย่างหนึ่ง เจ้าสามารถใช้วรยุทธ์จัดการอุปกรณ์หาตำแหน่งนั้นได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป”
“แต่กำไลคู่บุพเพยังอยู่ที่ร่างนั้นนี่!” นี่คือสิ่งที่เธอให้ความสำคัญที่สุด
ตี้ฝูอีลูบผมของนางเล็กน้อย “เด็กโง่ ของเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งของนอกกาย เหตุใดต้องคิดเล็กคิดน้อยเยี่ยงนี้?”
กู้ซีจิ่วนิ่งงันไปครู่หนึ่ง มองเขาด้วยความสงสัย “ท่านเหมือนไม่หวังให้ข้าสลับคืนร่างของตัวเอง? เพราะอะไร?”
ตี้ฝูอียิ้ม “ร่างกายก็เป็นเพียงแค่เนื้อหนังมังสาที่ห่อหุ้มจิตวิญญาณ ตราบใดที่เป็นกายจิตเดียวกัน ความจริงแล้ว เนื้อหนังมังสาก็เป็นสิ่งของนอกกาย ข้ารู้สึกว่าร่างนี้ของเจ้ามีความสามารถที่หาได้ยากยิ่ง ดีกว่าร่างเดิมของเจ้ามาก ข้าตรวจดูร่างกายเจ้าแล้ว นอกจากอุปกรณ์บอกตำแหน่งแล้ว ไม่มีสิ่งอื่นใด และร่างนี้ก็ใกล้เคียงกับอายุจริงของเจ้ามากกว่าไม่ใช่หรือ? ส่วนเรื่องหยกนภา ข้าเชื่อว่าขอแค่มันเห็นเจ้า มันจะต้องกลับมาอยู่ข้างกายเจ้า”
—————————————————–
บทที่ 1200 สวรรค์มีตารู้ว่าเธอรังเกียจร่างโคลนนิ่งขนาดไหน…
“แล้วกำไลคู่บุพเพเล่า? มันจะกลับมาอยู่กับร่างนี้ของข้าไหม?”
ตี้ฝูอีอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ “มันก็แค่กำไลวงเดียวเท่านั้นเอง หากเจ้าชอบ เดี๋ยวข้าหาอันใหม่ที่ดีกว่าให้เจ้า งดงามกว่ากำไลวงนั้นแน่นอน”
มันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร? กำไลนั้นเป็นกำไลคู่บุพเพ มีความหมายลึกซึ้งยิ่งกว่าแหวนหมั้นเสียอีก!
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่แก้ว แต่ภายในใจของกู้ซีจิ่ว ไม่มีกำไลวงไหนมาแทนที่ได้!
“ไม่รู้แหละ! ไม่ว่าอย่างไรข้าก็อยากกลับไปในร่างนั้น ร่างที่เป็นของตัวข้าเอง…”
“ซีจิ่ว เจ้าและข้าต่างรู้ดี นั่นไม่ใช่ร่างของเจ้า…” ตี้ฝูอีพูดอย่างช้าๆ “มันเป็นของลูกสาวจวนแม่ทัพ”
กู้ซีจิ่วชะงักไปครู่หนึ่ง “แต่นางตายไปแล้วนะ หยกนภาบอกว่า หลังจากที่ข้าแก้แค้นให้นาง ทำให้ความโกรธของนางสงบลง มันก็จะกลายเป็นของข้าอย่างแท้จริง…”
ตี้ฝูอีทอดถอนใจ “คำที่หยกนภาพูดไม่อาจเชื่อได้ทั้งหมด ความจริงแล้ว การเกิดมาเป็นคนธรรมดา หนึ่งกายจิต ต่อหนึ่งร่างกาย ร่างกายที่มีเจ้าของมาก่อน ถึงแม้เจ้ายึดครองมาได้ แต่ก็มีผลเสียต่อกายจิตของเจ้า และไม่มีทางใช้การสังขารนั้นได้อย่างแคล่วคล่องสมบูรณ์ อย่างเช่นโม่เจ้า เขาเคยใช้วิธีไม่ถูกต้องเพื่อครอบครองสังขารของหรงเช่อ ท้ายที่สุด ถึงแม้จะครอบครองได้สำเร็จ แต่ถึงอย่างไรการฝึกฝนพลังวิญญาณก็บรรลุได้เพียงขั้นห้าครึ่ง ตอนแรกกายจิตของเขาถูกจองจำไว้ด้านใน พลังวิญญาณไม่เพิ่มขึ้นแต่กลับลดลง นั่นคือสาเหตุที่เขาเร่งรัดให้หลงฟั่นสร้างสังขารใหม่ให้เขา”
กู้ซีจิ่วไม่ทันได้คิดว่ากายจิตนี้ยังมีความซับซ้อนมากมายภายใน ลึกลับและลึกซึ้ง เธอขมวดคิ้ว “แต่ข้าใช้ร่างนั้นได้ดีมากเลยนะ ไม่มีความรู้สึกแปลกอันใด ซ้ำยังเปลี่ยนร่างสวะไร้ค่าให้กลายเป็นอัจฉริยะ…”
“นั่นก็เป็นเพราะกายจิตของเจ้าแข็งแกร่ง ซีจิ่ว หากเจ้าใช้ร่างนี้มาตั้งนานแล้ว บางทีเจ้าอาจจะบรรลุถึงขั้นเก้าแล้วก็ได้”
สัญชาตญาณของกู้ซีจิ่วบอกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่กลับไม่สามารถบอกได้ว่าอะไรที่ไม่ถูกต้อง “แต่ว่า…” อึกอักอยู่ช่วงหนึ่งในที่สุดก็คิดถึงจุดนี้ออก “ร่างนี้ก็ไม่อาจนับได้ว่าเป็นของข้า เป็นร่างที่หลงฟั่นโคลนนิ่งออกมา…”
“ไม่ มันเป็นของเจ้า กลิ่นอายของร่างนี้กับกลิ่นอายของกายจิตเจ้าเหมือนกันทุกประการ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเจ้าโดยเฉพาะ เจ้าของคนแรกของมันก็คือเจ้า หากมองจากจุดนี้ มันไม่ต่างอะไรกับการเกิดของเด็กธรรมดาเลย…”
กู้ซีจิ่วฝืนยิ้ม “ความหมายของเจ้าก็คือ เดิมทีข้าก็เป็นมนุษย์โคลนนิ่ง ดังนั้น ใช้ร่างโคลนนิ่งเหมาะสมที่สุด?”
สวรรค์มีตารู้ว่าเธอรังเกียจร่างโคลนนิ่งขนาดไหน…
สวรรค์มีตารู้ว่าเธออยากมีสังขารที่เป็นของตัวเองขนาดไหน สังขารของมนุษย์ ร่างที่เกิดจากพ่อแม่ ไม่ใช่ร่างโคลนนิ่ง…
ตี้ฝูอีเหมือนรู้ว่าคำพูดเหล่านี้ทำให้นางเจ็บปวด เอื้อมมือดึงนางมาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง “อย่าใส่ใจมากขนาดนั้น ร่างโคลนนิ่งก็ดี ร่างกายธรรมดาก็เถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่เพียงสังขารหนึ่งเท่านั้น ยากยิ่งนักที่เจ้าจะมีโอกาสเลือกสองทาง เจ้าควรรู้สึกดีใจถึงจะถูก”
กู้ซีจิ่วยกมือขึ้นนวดหว่างคิ้ว รู้สึกว่าโลกใบนี้ช่างแฟนตาซีเหลือเกิน
ตอนเป็นนักฆ่าก่อนทะลุมิติมายังเป็นคนไม่เชื่อในพระเจ้า คาดไม่ถึงว่าทะลุมิติมายังไม่ครบปี เธอก็เริ่มตามหาสังขารที่เหมาะสมให้กับกายจิตตัวเองแล้ว นั่นคือเหตุผลที่พุทธศาสนาสอนไว้ว่าร่างกายก็เป็นเพียงถุงเนื้อหนัง เป็นเพียงสื่อนำกายจิต ยามนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว!
แต่ว่า…แต่ว่า บางทีเธออาจไม่ได้ตรัสรู้ในพุทธศาสนากระมัง เธอยังปล่อยวางไม่ได้ ยังอยากได้สังขารนั้นกลับคืนมาเหลือเกิน
เธอรู้สึกว่าสังขารนั้นเป็นสังขารที่เหมาะสมกับเธอที่สุด เหมาะสมมากกว่าร่างโคลนนิ่งนักฆ่าชาติก่อนนั้นอีก…
———————————————————-