บทที่ 1327 แม้แต่น้ำแกงปลาชามเดียวก็ยังฉกไป!
ตี้ฝูอีมองแขนที่บาดเจ็บของเขา “เจ็บมากรึ?”
ไป๋หลี่เช่อร้องเหอะคราหนึ่ง เอ่ยอย่างเย็นชา “เป็นความชอบของท่านอย่างไรเล่า!” หากมิใช่เพราะกู้ซีจิ่วรีบร้อนไปช่วยเหลือท่านเทพใหญ่ผู้นี้ ยามนี้แขนที่บาดเจ็บของเขาจะมีสภาพเช่นนี้ได้อย่างไร?
เดิมทีตี้ฝูอีคิดจะทำอะไรบางอย่าง เมื่อได้ฟังประโยคนี้ของเขา เขาก็ลดมือลง กล่าวอย่างไม่อินังขังขอบ “นางเป็นคู่มั้นของข้า ย่อมต้องวางข้าไว้เป็นอันดับหนึ่งอยู่แล้ว”
ไป๋หลี่เช่อหรี่ตาเล็กน้อย “คู่หมั้น? ไม่น่าใช่กระมัง? ซีจิ่วไม่เคยยอมรับ! นางแค่เห็นว่าอาการบาดเจ็บของท่านหนักหนากว่า ดังนั้นจึงไปช่วยท่านก่อนก็เท่านั้น”
เดิมทีตี้ฝูอีกลัวว่าการที่อาการของไป๋หลี่เช่อล่าช้า จะทำให้กู้ซีจิ่วรู้สึกผิด ดังนั้นเขาจึงคิดจะมอบโอสถให้สักเม็ด กลับคาดไม่ถึงว่าไอ้เด็กนี่พอเห็นเขาก็ทำตัวทิ่มแทงราวกับเม่น…
อืม เช่นนี้ก็ให้เขาเจ็บไปก่อนแล้วกัน! อย่างมากก็ทนทรมานสักหน่อยเท่านั้น ไม่ถึงตายหรอก
ดังนั้นตี้ฝูอีจึงหันหลังหมายจะจากไป จู่ๆ ไป๋หลี่เช่อก็เอ่ยขึ้นมา “ซีจิ่วไม่เคยยอกรับว่าท่านกับนางมีสัญญาหมั้นหมายอันใด เมื่อครู่ตอนนางมาข้าถามดูแล้ว นางไม่ได้ยอมรับ กล่าวเพียงว่าท่านเป็นสหายของนาง เป็นสหายที่ดีมาก ถึงแม้นางจะรักษาให้ข้าไปครึ่งหนึ่งแล้ว แต่ในใจนางยังคงรู้สึกผิด ตอนนี้จึงออกไปเก็บสมุนไพรมาให้ข้าอีก กล่าวว่าจะหลอมโอสถล้ำค่าชนิดหนึ่ง ทำให้แขนของข้าดีขึ้นอย่างสมบูรณ์…”
ฝีเท้าของตี้ฝูอีชะงัก “เมื่อครู่นางมาเยี่ยมเจ้าหรือ?”
ไป๋หลี่เช่อกล่าวอย่างภูมิใจ “แน่นอน ซ้ำยงนำอาหารเลิศบางอย่างมาให้ข้าด้วย เห็นน้ำแกงปลาที่อยู่บนโต๊ะชามนั้นไหม นางปรุงมาส่งให้ด้วยตัวเองเลยนะ”
ตี้ฝูอีเหลือบมองน้ำแกงปลาที่ยังมีไอร้อนกรุ่นชามนั้นแวบหนึ่ง ดมเล็กน้อย คล้ายว่าจะเป็นฝีมือของนางจริงๆ
ดูท่านางคงจะรู้สึกผิดต่อไป๋หลี่เช่อผู้นี้ไม่น้อย ถึงกับทำน้ำแกงมาให้ผู้อื่นเป็นการไถ่โทษ!
เขาหลงนึกว่านางยังคงพักผ่อนอยู่ ยามนี้เห็นทีว่าจะตื่นขึ้นมานานแล้ว
เขาหยิบน้ำแกงปลาชามนั้นแล้วหันหลังก้าวออกไป ไป๋หลี่เช่อตะลึงร้องออกมา “ท่านจะทำอะไร?! นี่เป็นอาหารที่นางปรุงให้ข้านะ!” เนื่องจากร้อนเกินไปดังนั้นเขาจึงวางไว้ตรงนั้นก่อน กะไว้ว่าอีกสักครู่จะดื่ม
ตี้ฝูอีกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้าเป็นแผลอักเสบ อาการบาดเจ็บประเภทนี้การกินของแสลงเป็นสิ่งต้องห้ามที่สุด ปลาและกุ้งเป็นของแสลง ถ้าเจ้าดื่มน้ำแกงชามนี้แขนจะบวมกว่าเดิม!”
ไป๋หลี่เช่อพูดไม่ออก
คล้ายว่าจะมีเรื่องเช่นนี้อยู่จริงๆ
เอ๊ะ ไม่ถูกสิ!
ไป๋หลี่เช่อเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “เท่าที่ข้าทราบมา ท่านก็เป็นแผลอักเสบเหมือนกันกระมัง? น้ำแกงชามนี้ท่านก็ดื่มไม่ได้เหมือนกัน!”
“ข้าจะเหมือนเจ้าได้อย่างไร?” ตี้ฝูอีทิ้งประโยคเช่นนี้ไว้ แล้วหมุนกายจากไป
ไป๋หลี่เช่อโมโหนัก ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดที่แขน กระโจนลงจากเตียงหมายจะไล่ตามไป ถึงแขนเขาจะบาดเจ็บแต่ว่าขาไม่ได้บาดเจ็บด้วย…
กลับนึกไม่ถึงว่าเพิ่งจะไล่ตามได้สองก้าว อีกฝ่ายก็โบกแขนเสื้อพรึบโดยที่ไม่หันกลับมา สองขาเขาพลันชาหนึบ คุกเข่าลงเสียงดังตึง เสมือนกำลังคุกเข่าส่งท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ออกประตู
ไป๋หลี่เช่อตะลึงงันทันที
นี่คือท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้สู่งส่งไม่แปดเปื้อนโลกีย์คนนั้นจริงๆ น่ะหรือ?
เวรเอ้ย แม้แต่น้ำแกงปลาชามเดียวก็ยังฉกไป!
ปลานี้ยังคงเป็นเขาที่ตกมาจากภูเขาด้านหลังเอง เลี้ยงไว้ในเรือนตลอดมา ต่อมาได้ส่งให้กู้ซีจิ่วไว้ดูเล่น แถมยังสร้างตู้ปลาให้นางอีกด้วย
ผลคือพอหนนี้ได้รับบาดเจ็บ กู้ซีจิ่วก็เอาปลามาตุ๋นแล้วมอบให้เขาเสียเลย ให้เขาบำรุงร่างกาย
ปลาและกุ้งเป็นของแสลงจริงๆ แผลอักเสบไม่ควรกิน เพียงแต่เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้กู้ซีจิ่วก็คงรู้กระมัง ในเมื่อนางกล้ามอบให้เขาดื่ม นั่นพิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลเสีย…
ถ้ารู้เช่นนี้แต่แรก เมื่อกี้เขาควรจะดื่มให้หมดซะ! จะได้ไม่เสียเปรียบผู้อื่น
ไป๋หลี่เช่อสำนึกเสียใจจนลำไส้เขียวคล้ำหมดแล้ว เขาอยากตามไปชิงน้ำแกงชามนั้นกลับมาอีกครั้งยิ่งนัก เสียแต่ว่าแข้งขายังคงปวดเหมือนเป็นตะคริวอยู่ตลอด เขาลุกขึ้นไม่ได้ชั่วขณะ
————————————————————
บทที่ 1328 จะต้องทำจริงๆ แน่!
จะอย่างไรหลัวจั่นอวี่ก็นึกไม่ถึงเลย ตนเพียงออกไปจัดการธุระในหมู่บ้านพักเดียว ผลคือไป๋หลี่เช่อมมาร้องทุกข์ บอกว่าน้ำแกงปลาของตนถูกทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแย่งไป
หลัวจั่นอวี่ไม่กล้าเชื่อเลย เมื่อเขาวิ่งไปดูตี้ฝูอีที่ห้องพัก ตี้ฝูอีกลับไม่อยู่ในห้อง แต่ชามน้ำแกงปลาชามนั้นกลับวางอยู่ที่นั่นจริงๆ เห็นได้ชัดเจนยิ่งว่าน้ำแกงปลาถูกท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายดื่มไปแล้ว…
อันที่จริงน้ำแกงปลาไม่สำคัญเลย หลักๆ คือหลัวจั่นอวี่เกรงว่าตี้ฝูอีจะลากสังขารที่บาดเจ็บเช่นนี้ออกไปก่อเหตุเหนือความคาดหมายอันใดเข้า อย่างไรเสียผู้คนที่นี่ก็ค่อนข้างเป็นปฏิปักษ์กับเขาทั้งสิ้น หากไปในสถานที่ลับตาแล้วถูกลอบทำร้ายเข้า เขาก็ไม่มีวิธีอธิบายกับน้องสาวแล้ว!
หลัวจั่นอวี่รีบออกไปตามหารอบหนึ่ง ผลคือหาคนไม่พบ ในใจเขาร้อนรนนัก
คงไม่เกิดอุบัติเหตุอันใดขึ้นกระมัง?!
เขาทราบว่ากู้ซีจิ่วออกไปเก็บสมุนไพร เพียงแต่ไม่ได้บอกตี้ฝูอีเท่านั้น หนึ่งคือเขารู้สึกว่าไม่จำเป็น สองคือท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ลวดลายมากนัก ถ้าเขาทราบไม่รู้ว่าจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมา
ผลคือสุดท้ายเขาก็รู้เข้าจนได้!
หรือว่าเขาจะไปตามหากู้ซีจิ่วที่ภูเขาด้านหลังอีกแล้ว?
เวรเอ้ย ด้วยนิสัยพิเรนทร์ที่ไม่อาจอ้างอิงตามสามัญสำนึกได้ของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ จะต้องทำจริงๆ แน่!
หลัวจั่นอวี่รู้สึกเพียงว่าเส้นเลือดตรงหน้าผากดีดตุบๆ ขณะที่กำลังจะไปตามหาเจ้าหอยยักษ์ ให้มันติดตามร่องรอยของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นี้ นึกไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงก็พบกู้ซีจิ่วที่หน้าเรือนพอดี เงาร่างแวบขึ้นมาจากที่ไกลๆ กู้ซีจิ่วที่ปรากฏตัวขึ้นจากความว่างเปล่าเอ่ยทัก “พี่ ทำไมท่านอยู่ที่นี่ล่ะ?”
หลัวจั่นอวี่ชะงักไป “ข้ามาหาเจ้าหอยยักษ์ของบ้านเจ้า”
“เจ้าตัวนั้นคงนอนอยู่ในบ้านกระมัง? ข้าจะไปเรียกมันออกมาให้ ใช่แล้ว ท่านหามันทำไม? อยากให้มันตามท่านไปล่าสัตว์หรือ? ค่ำขนาดนี้แล้ว…”
ใช่แล้ว ค่ำมากแล้ว
สรุปแล้วท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายผู้นั้นวิ่งไปที่ใดกันแน่?
ทุกซอกหลืบในหมู่บ้านเขาเคยค้นหาจนทั่วแล้ว ไม่พบเงาของท่านทูตสวรรค์ฝ่ายผู้นี้เลยสักนิด
หลัวจั่นอวี่ชะงักไปอีกครั้ง กู้ซีจิ่วมองอาการละล้าละลังของเขาออก ใจหายวาบทันที “พี่ ท่านมีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าใช่ไหม? หรือว่าอาการของเขาจะแย่ลงอีกแล้ว…”
หลัวจั่นอวี่ตัดสินใจบอก “อาการของเขาไม่ได้แย่ลง เพียงแต่เกิดเหตุเหนือความคาดหมายกับเขาเล็กน้อย”
“เหตุเหนือความคาดหมายอันใด?”
“เขาหายไป ข้าตามหาทั่วหมู่บ้านแล้วล้วนไม่พบเงาของเขาเลย ข้าสงสัยว่าเขาจะเข้าภูเขาไปตามหาเจ้า ดังนั้นจึงคิดจะให้เจ้าหอยยักษ์สืบหาร่องรอยดู”
สีหน้ากู้ซีจิ่วซีดลงเล็กน้อย เธอแข็งทื่อไปครู่หนึ่ง “เขารู้ได้ยังไงว่าข้าเข้าเขาไปเก็บสมุนไพร?”
หลัวจั่นอวี่ถอนหายใจแล้วกล่าว “ไม่อาจโทษน้ำแกงปลาชามนั้นได้…” พลางเล่าเรื่องที่ไป๋หลี่เช่อถูกแย่งน้ำแกงปลา
กู้ซีจิ่วเงียบงัน
เธอนวดคลึงหว่างคิ้ว เขาโกรธแล้วใช่ไหม?
อันที่จริงเธอไม่ได้คิดจะหลบเลี่ยงเขาเลยจริงๆ อยากจะคุยกับเขาดีๆ แต่เมื่อนึกถึงว่าเขาบาดเจ็บสาหัสอยู่ คุยเรื่องบุญคุณความแค้นเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะสม ดังนั้นจึงไม่ได้ถามออกไปเลย คิดว่ารอให้เขาดีขึ้นแล้วค่อยคุยกันทีหลัง
และบางทีอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณของเธอต้องการหลีกเลี่ยงไปชั่วขณะ หวาดหวั่นว่าความจริงที่เขาพูดจะทำให้หัวใจเธอเกิดปม
ดังนั้นรุ่งเช้าเธอจึงกำชับพี่ชายตัวเองให้ช่วยดูแลตี้ฝูอี ตัวเธอเองจะกลับไปนอนที่เรือนตนสักตื่นหนึ่ง หลับไปจนตะวันคล้อยไปทางทิศตะวันตก เมื่อตื่นความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาคืออยากไปดูเขา แต่ตอนที่เดินผ่านเรือนพันสมานจู่ๆ ก็นึกถึงไป๋หลี่เช่อขึ้นได้ ดูเหมือนว่าเธอจะผ่าตัดให้ผู้อื่นไปแค่ครึ่งเดียว จากนั้นก็โยนอุปกรณ์ผ่าตัดทิ้งแล้วหนีไป…
ดังนั้นเธอจึงเบี่ยงฝีเท้า ไปเยี่ยมไป๋หลี่เช่อก่อน ผลคือพบว่าแขนของเขาอักเสบอย่างรุนแรง กำลังปวดจนหยาดเหงื่อเย็นเฉียบผุดเต็มหน้า ฝืนอดทนอยู่ตรงนั้น
ท้ายที่สุดแล้วกู้ซีจิ่วยังค่อนข้างรู้สึกผิดกับเขาอยู่ ดังนั้นจึงตรวจสอบบาดแผลที่แขนเขาดู
—————————————————