ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1356 (2)+(3)

บทที่ 1356 (2)+(3)

บทที่ 1356 คืนแห่งความสุขมักแสนสั้น นี่คือความรู้สึกของตี้ฝูอี (2)

ตี้ฝูอีถอนหายใจ “เจ้าเห็นห้องหอนั้นแล้ว เจ้าลืมไปแล้วหรือ เจ้าระเบิดอารมณ์ใส่ข้าแล้วหนีไป? หากข้าไม่ได้เห็นเจ้าในห้องหอนั้น ข้าก็ยังตามหาที่นี่ไม่พบ”

กู้ซีจิ่วเงยหน้าอย่างประหลาดใจ “นั่นข้าฝันไปชัดๆ…”

ตี้ฝูอีลูบผมนาง “เจ้ายังคิดถึงข้า จึงไปหาข้าในฝัน”

นั่นเป็นเรื่องจริง

กู้ซีจิ่วนึกถึงห้องหอที่สวยสดงดงาม การตกแต่งทุกอย่างล้วนเป็นสิ่งที่เธอชอบ

“การตกแต่งในห้องหอนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลงกระมัง? ข้าชอบมันมากจริงๆ”

“รื้อแล้ว” ตี้ฝูอีตอบกลับเพียงสองคำ

กู้ซีจิ่วอึ้งงัน

เธอสูดลมหายใจเข้าเบาๆ “ท่านกลับหักใจทำได้ลง!”

เธอพ่นลมหายใจหอมกรุ่นดั่งดอกกล้วยไม้รดหน้าอกเขา น้ำเสียงของตี้ฝูอีแอบตึงเครียดอยู่บ้าง “เจ้าสาวหนีไปแล้ว ห้องหอย่อมต้องหนีตามไปด้วย…”

กู้ซีจิ่วโมโห “ข้าหนีมาท่านก็ไม่คิดจะแต่งกับข้าแล้ว?”

คำพูดนี้ค่อนข้างไร้เหตุผล ทว่าระหว่างคนรักกัน เดิมทีฝ่ายหญิงก็ชอบโวยวายไม่มีเหตุผล โดยเฉพาะตอนทะเลาะกันเล็กๆ น้อยๆ แม้แต่กู้ซีจิ่วก็ไม่มีข้อยกเว้น

ตี้ฝูอีกอดนางไว้แน่น “แต่ง! ต้องแต่งสิ! หากไม่อยากแต่งข้าไม่เสี่ยงชีวิตเข้ามาถึงที่นี่หรอก?”

เขาพูดไป นิ้วมือก็พลางลูบบนเสื้อผ้าของนาง ทำให้เสื้อผ้าที่เปียกชื้นหลุดลงจากหัวไหล่ ลำคอระหงสง่างาม กระดูกไหปลาร้างามประณีต หัวไหล่กลมเกลี้ยง หน้าอกเล็กกระจุ๋มกระจิ๋ม ปรากฏให้เห็นตามลำดับ…

เมื่อกู้ซีจิ่วรู้สึกตัว เสื้อผ้าของเธอก็หายไปแล้ว

ผิวของทั้งสองคนแนบชิดในน้ำ ไม่มีช่องว่างกางกั้น สัมผัสถึงลมหายใจของกันและกันได้ มีเพียงสามีภรรยาหรือคนรักเท่านั้นถึงทำท่าทางเช่นนี้ได้…

ภายในห้องเงียบสงัด ความคลุมเครืออันร้อนแรงพลันเพิ่มพูนขึ้นเป็นเท่าทวี

กู้ซีจิ่วรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงของร่างกายเขาอย่างฉับไว หัวใจเต้นรัวเหมือนตีกลอง ตี้ฝูอีเอนศีรษะแนบชิดใบหูเธอ “เด็กน้อย ข้าทนไม่ไหวแล้ว คืนนี้ถือเสียว่าเป็นคืนส่งตัวเข้าหอของพวกเราดีหรือไม่? ข้าต้องการเจ้า!”

ลมหายใจร้อนของเขารินรดติ่งหูเธอ ทำให้ทั่วทั้งใบหูของเธอร้อนผ่าวราวกับฉาบด้วยพริกแสบร้อน

น้ำเสียงของเขาเปี่ยมด้วยความปรารถนา เธอแทบไม่กล้าจะเงยหน้าขึ้น เธอที่กล้าหาญชาญชัยมาโดยตลอดยามนี้ก็ขวยอายเหมือนเด็กสาวทั่วไป ตื่นตระหนกคล้ายไม่เป็นตัวของตัวเอง “ทะ…ที่นี่หยาบกระด้างถึงเพียงนี้ ท่าน…ท่านคุ้นชินหรือ…”

ถึงแม้พื้นที่ในกระท่อมหลังนี้ของเธอไม่คับแคบ ทว่าเครื่องเรือนภายในมีน้อยนัก ล้วนเป็นของใช้จำเป็น หากใช้เป็นห้องหอก็ค่อนข้างน่าอับอาย

คนผู้นี้ไม่ได้ชอบความสมบูรณ์แบบหรืออย่างไร? สภาพแวดล้อมเช่นนี้เขารับได้หรือ?

เธอถึงขั้นเริ่มรู้สึกเสียใจ หากรู้เช่นนี้แต่แรก เธอจะเก็บกวาดกระท่อมหลังน้อยของตนให้ดี ตอนนี้ดูไม่ค่อยเหมือนที่อยู่ของสตรีสักเท่าใด

ตี้ฝูอียิ้มบางๆ มองติ่งหูนางที่แดงจนเกือบมีเลือดหลั่งรินได้ “ทุกที่ที่มีเจ้าล้วนเป็นสรวงสวรรค์”

คำพูดนี้หวานเลี่ยนเกินทานทน คนผู้นี้ไม่เคยเอ่ยคำหวาน เมื่อใดเอื้อนเอ่ยก็น่ากลัวเป็นที่สุด

ในใจของกู้ซีจิ่วเริ่มมีฟองอากาศสีชมพู รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลอยล่องไป

มือข้างหนึ่งของตี้ฝูอีดึงเธอไว้ มืออีกข้างหนึ่งไม่รู้ไปเอากาสุราหยกสีครามกับจอกเหล้าสองใบมาจากที่ใด จากนั้นรินสุราจนเต็ม “เด็กน้อย รับไป”

กู้ซีจิ่วเงยหน้า รับจอกสุรานั้นไป ใบหน้าแดงระเรื่อ ในสมองมีเสียงดังหึ่งๆ ไม่ทันตอบสนองไปชั่วขณะว่านี่คือสุราอะไร กล่าวออกไปโดยสัญชาตญาณว่า “ท่านยังจะดื่มอีกหรือ?”

“สุรานี้ไม่เหมือนกัน เจ้าต้องชอบแน่นอน” สุ้มเสียงของตี้ฝูอีแฝงความแหบพร่าน่าดึงดูดไว้ ประหนึ่งตะขอเล็กที่เกี่ยวหัวใจของกู้ซีจิ่ว

กู้ซีจิ่วก้มหน้ามองสุรานั้น สุราเป็นสีชมพูดั่งกลีบดอกท้อโปร่งใส มีกลิ่นหอมจางๆ เป็นเอกลักษณ์ เธอเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “นี่คือ…เหล้าบ๊วยหิมะ?”

สุรานี้เหมือนกับสุราที่ตี้ฝูอีถืออยู่ในห้องหอภายในฝันของเธอไม่มีผิด

ตี้ฝูอีกล่าว “ดูเหมือนเจ้ามีความประทับใจอันลึกซึ้งยิ่งนักต่อสุรานี้”

แน่นอนอยู่แล้ว สุราที่มีเอกลักษณ์เช่นนี้เธอย่อมประทับใจอย่างลึกซึ้ง ตอนนั้นที่มองเห็นสุราจอกนี้ยังรู้สึกเสียใจที่หนีงานแต่งมาอยู่เลย

“นึกไม่ถึงว่าท่านพกมันเข้ามาด้วย” กู้ซีจิ่วดอมดมกลิ่นหอมของสุรา สุราไม่ทำให้คนเมามาย มีแต่คนมอมเมาตัวเอง

ตี้ฝูอีตอบ “แน่นอน”

————————————————————————————-

บทที่ 1356 คืนแห่งความสุขมักแสนสั้น นี่คือความรู้สึกของตี้ฝูอี (3)

พอเขาเข้ามาก็วางแผนจะจัดคืนวันส่งตัวเข้าหอกับนางใหม่ ย่อมต้องเตรียมตัวรอบคอบ นี่เป็นครั้งแรกของเขาและนาง ถึงแม้เขาเคยอ่านหนังสือทำนองนี้มาบ้าง ทว่าไม่เคยมีประสบการณ์จริง เกรงว่าหากไม่ระวังจะทำให้นางเจ็บปวดและทิ้งเงามืดฝังใจ จนทำให้นางต่อต้านเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงต้องสร้างประสบการณ์ดีที่สุดไว้ให้นาง สุรานี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น

“มา พวกเรามาดื่มกัน” ตี้ฝูอียกจอกสุราไปทางนาง

ถึงแม้ใบหน้ากู้ซีจิ่วแดงก่ำ แต่กลับไม่เหนียมอาย ยกจอกสุราในมือขึ้นเช่นกัน เธออดไม่ได้หัวเราะออกมา “คนอื่นคล้องแขนดื่มสุรากันที่โต๊ะ พวกเราดื่มกันในอ่างอาบน้ำ”

ถึงแม้อ่างอาบน้ำไม่ใหญ่มาก แต่เธออยู่ในอ้อมกอดเขา ย่อมไม่รู้สึกอึดอัดเบียดเสียดเป็นธรรมดา

ตี้ฝูอีมองใบหน้าดั่งอาบแสงตะวันแรกของนาง เขาต้องการนางขนาดนี้ทั้งที่อยู่ในน้ำ!

ทว่าราตรีนี้ยังอีกยาวไกล เขาไม่อาจรีบร้อนเกินไป จึงฝืนข่มจิตใจไม่ให้ฟุ้งซ่าน อุ้มนางลุกขึ้นยืนในทันใด เรือนกายพลันวูบไหวมาอยู่นอกอ่างอาบน้ำ

กู้ซีจิ่วขึ้นจากน้ำกะทันหัน ร่างกายหนาวเหน็บ สะดุ้งส่งเสียงแผ่วเบา แต่ยังคงถือจอกสุราไว้อย่างดี สุราสักหยดก็ไม่มีกระฉอกออกมา

“เด็กน้อย ข้ามีบางสิ่งให้เจ้าประหลาดใจ หลับตาลงก่อน” ตี้ฝูอีแทบจะกัดหูของนางแล้ว

ยังมีอะไรให้แปลกใจอีกหรือ?

กู้ซีจิ่วหลับตาลงตามคาด รู้สึกว่าเขาเคลื่อนไหวเล็กน้อย ดูจากระยะทางแล้ว เขาน่าจะเคลื่อนย้ายจากด้านในผ้าม่านไปด้านนอกผ้าม่าน

“ลืมตาดูสิ”

เธอลืมตาขึ้นช้าๆ จากนั้นก็ตกตะลึง!

ในช่วงเวลาอันน้อยนิด กระท่อมหลังนี้ของเธอเปลี่ยนแปลงไปมาก!

ภายในห้องเต็มไปด้วยสีแดงสวยสด เครื่องเรือนเรียบง่ายสง่างาม ฉากกั้นลมประหนึ่งขุนเขาสายธารงดงาม พรมประหนึ่งเมฆาแดง และเปลือกหอยแก้วผลึก ภายในมีมุกราตรีสีชมพูอ่อน

ม่านเตียงสีแดงเข้ม เตียงหยกสีชมพูอ่อนฉลุลายเมฆา…

ทั้งหมดทั้งมวลนี้กู้ซีจิ่วไม่รู้สึกแปลกตา เธอเคยเห็นห้องหอทั้งหมดนี้แล้วในความฝัน!

ที่แท้เขารื้อของทั้งหมดในห้องหอมาใส่มิติเก็บของ แล้วนำมาตกแต่งในห้องของเธอยามนี้ ทำให้กระท่อมของเธอที่เดิมทีแสนธรรมดายกระดับขึ้นไปมากทันที!

ตี้ฝูอีอุ้มเธอเดินไปทางเตียงหลังนั้น…

กู้ซีจิ่วตื่นตระหนก มือยังถือสุราจอกนั้นไว้ “นี่ พวกเรายังไม่ได้คล้องแขนดื่มสุรา…”

“เดี๋ยวค่อยดื่ม” ตี้ฝูอีหยิบจอกเหล้าออกจากมือเธอ

เธอถูกวางไว้บนเตียง นั่งอยู่บนเครื่องนอนอ่อนนุ่ม เธอในตอนนี้เสมือนทารกแรกเกิด ไม่มีผ้าสักชิ้นห่อหุ้มกาย ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก เมื่อถึงเตียงเธอจึงดึงผ้าห่มมาห่มตัวทันที

ตี้ฝูอีหยุดนาง “ช้าก่อน”

กู้ซีจิ่วเงยหน้ามองเขา กำลังจะปริปากพูดบางอย่างก็ต้องตกตะลึง

ตี้ฝูอีที่เดิมทีควรจะเปลือยเปล่าอยู่เช่นกัน ยามนี้กลับแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว!

เขาสวมชุดแต่งงานแบบเดียวกันกับที่เขาสวมในห้องหอวันนั้น

เขาเพิ่งอาบน้ำ ชุดสีแดงเข้มดูกลมกลืนสมบูรณ์แบบเป็นพิเศษบนตัวเขา ขับให้ใบหน้าราวกับหยก ดวงตาดั่งดวงดารา เมื่อทั้งสองสบตากัน เธอแทบไม่อาจละสายตาได้

แม้แต่ชุดแต่งงานเขาก็เอามาด้วย!

กู้ซีจิ่วหลุบตาลงด้วยความเสียใจ น่าเสียดายที่เธอไม่ได้เอาชุดเจ้าสาวมา เดิมทีตี้ฝูอีเป็นคนจัดเตรียม เมื่อเธอกลับจวนแม่ทัพกู้จึงนำกลับไปด้วย หลังจากหนีมาแม้แต่ชุดเจ้าสาวชุดนั้นก็วางทิ้งไว้บนเตียง…

“ซีจิ่ว ความจริงข้าอยากเห็นเจ้าสวมชุดแต่งงานมาโดยตลอด สวมให้ข้าดูหน่อยได้หรือไม่?”

ตี้ฝูอีหมุนปลายนิ้ว ชุดแต่งงานที่พับอยู่ปรากฏขึ้นบนฝ่ามือเขา ก่อนวางลงข้างกายเธอ

หัวใจกู้ซีจิ่วพลันเต้นตึกตัก มองแวบเดียวก็ดูออกว่านี่คือชุดแต่งงานของเธอ ดูเหมือนคนผู้นี้ไตร่ตรองทุกเรื่องมาเป็นอย่างดี

ความจริงเธอเคยแอบลองชุดนี้แล้ว ซ้ำยังหมุนอยู่หน้ากระจกหลายรอบ หัวใจเต็มเปี่ยมด้วยความเฝ้ารอคอยพิธีแต่งงาน

นี่ไม่เหมือนชุดเจ้าสาวทั่วไปสมัยนี้ที่ไม่เผยให้เห็นทรวดทรงองเอว เผยให้เห็นเพียงความมั่งคั่ง ทั้งชุดทอจากไหมเงือก เนื้อเนียนเข้ารูป เมื่อสวมใส่แลดูเอวบาง อรชรอ้อนแอ้น พลิ้วไหวดังลอยล่อง

ตอนเธอลองใส่ก็ไม่คิดจะถอดออก ตอนนั้นที่วางมันลงแล้วจากไปคือวันที่เธอคิดว่าจะไม่ได้สวมใส่มันอีก นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้สวมอีกครั้ง

ในใจตื่นเต้นยิ่งนัก เธอยกมือกำลังจะสวมมัน ตี้ฝูอีกลับหยุดไว้ “ข้าสวมให้”

————————————————————————————-

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset