บทที่ 1416 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (2)
ในหมู่ปรมาจารย์หลอมโอสถผู้ที่เลื่องชื่อที่สุดย่อมเป็นหงซือเย่ ปรมาจารย์หลอมโอสถที่เขารู้จักก็มีมากมาย ยิ่งไปกว่านั้นคือปรมาจารย์หลอมโอสถระดับหกขึ้นกว่าครึ่งของโลกนี้ล้วนมาจากสำนักถามสวรรค์ การให้เขารวบรวมมาจะเป็นการลงแรงน้อยทว่าได้ผลมาก จำเป็นต้องเชื้อเชิญเขาให้ออกโรง
กู้ซีจิ่วตัดสินใจได้ในทันใด เคลื่อนร่างไปเบื้องหน้า สั่นกระดิ่งเงินใบนั้น
หลงซือเย่ติดตั้งเขตแดนเล็กๆ ไว้ที่นี่ สามารถยับยั้งวิชาเคลื่อนย้ายของกู้ซีจิ่วได้ ถ้าเธออยากเข้าไปข้างในก็ต้องได้รับความเห็นชอบจากคนที่อยู่ด้านใน
เมื่อครู่ยามที่พวกกู่ซีซีทั้งสองคนสั่นกระดิ่งกู้ซีจิ่วได้จดจำจังหวะไว้แล้ว เธอสั่นเป็นจังหวะแบบเดียวกัน ยาวสามสั้นสี่
ผ่านไปครู่หนึ่ง กระดิ่งเงินก็มีเสียงตอบรับ บานประตูที่เดิมทีมีไอหมอกทึบบดบังเผยตัวออกมาอีกครั้ง
กู้ซีจิ่วผลักประตูเข้าไป
การตกแต่งภายในเรือนทำให้ฝีเท้าเธอชะงักไปเล็กน้อย ต้นปะการัง กอหญ้ายาว ผนังกระดองเต่า…การตกแต่งของที่นี่ค่อนข้างคล้ายกับวังเจ้าสมุทรในตำนานยิ่งนัก
ที่สำคัญกว่านั้นคือ การตกแต่งเช่นนี้สำหรับกู้ซีจิ่วแล้วค่อนข้างคุ้นตา ใกล้เคียงกับรูปแบบในอดีตที่เธอเคยออกแบบไว้ให้ที่พักซอมซ่อของตนสมัยที่พำนักอยู่ในสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์…
ภายในเรือนมีคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ใต้ต้นปะการัง กำลังชงชาด้วยท่าทีสบายๆ สวมชุดอยู่บ้านสีเขียวอ่อน ไม่รวบผม ทั้งหมดปล่อยสยายคลุมไหล่ รูปโฉมงามสง่าเยือกเย็น ดูคล้ายการพักผ่อนหย่อนใจของลูกหลานชนชั้นสูงในยุคเว่ยจิ้นยิ่งนัก
คนผู้นี้ย่อมเป็นหลงซือเย่ ไม่ได้พบกันแปดปี เขายังคงเป็นเช่นนั้นอยู่ กาลเวลาไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนหน้าเขาเลยสักนิด
“กลับมาอีกทำไม?” หลงซือเย่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เพียงเอ่ยถามเรียบๆ ประโยคหนึ่ง เห็นได้ชัดว่านึกว่าเป็นกู่ซีซีที่กลับมา
กู้ซีจิ่วอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ครูฝึกหลง จะพบคุณนี้ยากเย็นจริงๆ เลยนะ”
มือของหลงซือเย่ที่กำลังรินชาอยู่พลันแข็งทื่อ น้ำชาล้นปรี่ออกมาเขาก็ไม่สังเกตเห็นเลย ค่อยเงยหน้ามองมาที่กู้ซีจิ่ว
ยามนี้กู้ซีจิ่วยังแปลงโฉมอยู่ ยังอยู่ในรูปลักษณ์ของศิษย์ระดับล่างคนนั้น ดังนั้นหลงซือเย่จึงทึ่มทื่อไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาดำขลับคู่นั้นเพ่งพิศกู้ซีจิ่วตั้งแต่หัวจรดเท้าอยู่สองครา “เจ้า…เจ้าคือ?”
กู้ซีจิ่วแย้มยิ้มอีกครั้ง “แค่ฉันแปลงโฉมคุณก็จำฉันไม่ได้ซะแล้วเหรอ?”
จากนั้นก็ใช้วิชาชำระล้างกับร่างกายตน เผยโฉมหน้าดั้งเดิมออกมา
กาน้ำชาในมือหลงซือเย่หลุดมือร่วงลงพื้น “ซีจิ่ว!”
….
รินชาที่ดีที่สุดแล้ว จัดวางของว่างที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว
กู้ซีจิ่วกับหลงซือเย่นั่งอยู่คนละฟากโต๊ะ ดื่มชาพูดคุย หลงซือเย่เอ่ยถามออกมาเป็นพรวน “ซีจิ่ว หลายปีนี้สรุปแล้วเธอไปอยู่ที่ไหนมา? เธอรู้ไหมว่าคนข้างนอกตามหาเธอจนแทบบ้าแล้ว? เธอได้พบตี้ฝูอีหรือยัง?”
กู้ซีจิ่วค่อยๆ จิบชาอึกหนึ่ง เรื่องราวในตาค่ายเป็นความลับใหญ่หลวง ตี้ฝูอีเคยเน้นย้ำกำชับกำชาเธอไว้ ห้ามแพร่งพรายเรื่องของตาค่ายแก่ภายนอกเด็ดขาด ดังนั้นสำหรับคำถามนี้ กู้ซีจิ่วจึงตอบอย่าคลุมเครือเท่านั้น “ปีนั้นฉันหลงเข้าไปในแดนต้องห้ามไม่ทราบชื่อแห่งหนึ่ง ติดอยู่ด้านใน เพิ่งออกมาได้ไม่นาน หลังจากฉันออกมาได้ก็พบเรื่องราวบางอย่าง มีคนตามหาฉันไม่น้อยเลยจริงๆ…ส่วนตี้ฝูอี หลายปีมานี้ฉันอยู่กับเขามาตลอด”
มือของหลงซือเย่ที่กุมถ้วยชาอยู่แข็งทื่อเล็กน้อย เลิกคิ้ว “ตี้ฝูอีอยู่กับเธอตลอดเหรอ? ไม่เห็นเขาเข้าไปในแดนต้องห้ามอะไรเลยนะ แถมเขายังส่งคนค้นหาตัวเธออยู่ตลอด…”
กู้ซีจิ่วหมุนคลึงถ้วยชาในมือ มองเขาอย่างสงบ “ครูฝึกหลง หรือว่าคุณดูไม่ออกจริงๆ ว่าคนที่เรียกว่าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายในตอนนี้เป็นตัวปลอม?”
——————————————————–
บทที่ 1416 พวกเราแต่งงานกันแล้ว (3)
หลงซือเย่ชะงักไปครู่หนึ่ง คิ้วขมวดมุ่นเล็กน้อย “ตัวปลอม?”
“ใช่แล้ว! หลายปีมานี้ฝูอีอยู่กับฉันตลอด ถูกขังไว้ที่เดียวกัน พวกเราเพิ่งฝ่าออกมาได้เมื่อไม่กี่วันก่อน แต่เจ้าตัวปลอมคนนั้นกลับทำลายล้างโลกมาสองปีแล้ว คุณฉลาดขนาดนี้มองไม่ออกจริงๆ เหรอว่าพฤติกรรมของเขาเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนมาก?”
หลงซือเย่ทึ่มทื่อไปครู่หนึ่ง ถอนหายใจแล้วเอ่ยตอบ “เขาเปลี่ยนไปจริงๆ นั่นแหละ เพียงแต่ฉันนึกว่าเขาได้รับความกระทบกระเทือนอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้นิสัยจึงเปลี่ยนแปลงไปมาก…นึกไม่ถึงเลยว่าจะ…”
กู้ซีจิ่วมองเขา “เมื่อก่อนคุณไม่นึกสงสัยเขาสักนิดเลยเหรอ? เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเรื่องเหล่านั้นที่เขากระทำอุกอาจยิ่งนัก ฝูอีไม่มีทางทำเรื่องพวกนั้นหรอกนะ!”
หลงซือเย่ถอนหายใจอีกครั้ง “ซีจิ่ว อันที่จริงเธอยังรู้จักตี้ฝูอีไม่มากพอ เขาตอนอยู่ต่อหน้าเธอสุภาพอ่อนโยน เป็นสุภาพชนที่กระฉับกรเฉงมากใช่ไหม? ถ้างั้นเธอรู้หรือเปล่าว่าร้อยปีก่อนเขาเคยสังหารคนไปร้อยคนด้วยความเดือดดาล? เคยมีประกาศิตสังหารครั้งใหญ่เพื่อหนุนให้จักรพรรดิอาณาจักรเฟยซิงขึ้นครองราชย์ โลหิตหลั่งไหลดั่งสายธาร หกสิบปีก่อนเขาเคยเป็นตัวตั้งตัวตีในสงครามยุทธการฉากหนึ่ง ไฟสงครามลุกลามไปหลายสิบลี้ คนหลายพันคนถูกเผาทั้งเป็นในสงครามครั้งนั้น…”
กู้ซีจิ่วนิ่งงัน
หลงซือเย่ถอนหายใจแล้วเอ่ยต่อ “ซีจิ่ว ตี้ฝูอีคนนี้ไม่ใช่พระโพธิสัตว์ เขาควบคุมใต้หล้า บางครั้งเพื่อความสงบสุขในระยะยาว เขาก็ต้องยอมสละคนบางส่วนเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน เธอเคยเรียนประวัติศาสตร์มาก็น่าจะรู้นี่ ใต้หล้านี้แยกนานเข้าก็ต้องรวม รวมนานแล้วก็ต้องแยก แผ่นดินนี้แยกเป็นสามอาณาจักรมานานพอแล้ว ดังนั้นครั้งนี้เขาจึงก่อเรื่องมากมายถึงเพียงนี้ขึ้น ทำให้สามอาณาจักรนี้สู้รบกัน ฉันนึกมาตลอดว่าเขารู้สึกว่าใต้หล้าแบ่งเป็นสามก๊กมานานพอแล้ว ต้องการรวมใต้หล้าให้เป็นปึกแผ่น ฉันไม่คิดจะเข้าร่วมและไม่คิดจะแทรกแซง ดังนั้นถึงเลือกเอาตัวรอดปลีกวิเวกเสีย ไหนเลยจะนึกถึงว่ามีคนแอบอ้าง…”
กู้ซีจิ่วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “การเมืองไม่มีผิดถูก เขาควบคุมใต้หล้าจำเป็นต้องให้วิธีการเลือดเย็นอำมหิตบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่เขาไม่มีทางเห็นชีวิตคนเป็นของเล่น ใช้วิญญาณอาฆาตอันใดมาควบคุมบงการคนเด็ดขาด และไม่มีทางเข่นฆ่าล้างบางอย่างไม่มีเหตุผล…”
หลงซือเย่เลิกคิ้วขึ้น “ไอวิญญาณอาฆาต? หมายความว่ายังไง?”
กู้ซีจิ่วก็มองเขาเหมือนกัน “คุณคงไม่คิดจะบอกฉันว่า คุณไม่รู้เรื่องที่ตัวปลอมคนนั้นสร้างกำแผงวิญญาณอาฆาตขึ้นมาใช่ไหม? เขาเกณฑ์ช่างฝีมือหนึ่งแสนคนไปสร้างคฤหาสน์ให้เขา หลังเสร็จเรื่องช่างฝีมือพวกนั้นถูกสังหารด้วยวิธีพิเศษ เอาพวกเขาไปหลอมเป็นวิญญาณอาฆาตเพื่อสร้างกำแพงเรือนปกป้องเขา…”
คิ้วหลงซือเย่ขมวดแน่น “เรื่องนี้ฉันไม่รู้เลย ฉันไม่อยากเข้าร่วมสงครามการเมืองพวกนี้ อุดมการณ์แตกต่างไม่อาจร่วมทางได้ เรื่องทั้งหมดที่เขาทำถึงแม้ฉันจะไม่เห็นด้วย แต่เขามีท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หนุนหลังฉันเลยทำอะไรเขาไม่ได้ จึงไม่ถามไถ่ไม่รับฟังเรื่องของเขาเสียเลย หลงนึกว่าเขาจะใช้กลสงครามบางอย่างเหมือนเมื่อหลายปีก่อนมารวมแผ่นดินให้เป็นหนึ่งเสียอีก ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำเรื่องที่ชั่วช้าสามานย์ขนาดนี้ด้วย! ถ้ารู้แบบนี้แต่แรก ฉันคงเข้าไปแทรกแซงแต่แรกแล้ว!”
กู้ซีจิ่วเคยได้ยินหลีเมิ่งซย่าบอกว่า สองปีมานี้หลงซือเย่แทบไม่ออกสู่โลกภายนอกเลย เร้นกายอยู่ในเขาถามสวรรค์ตลอดมา ดังนั้นการที่เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้ก็ปกติยิ่งนัก ดวงตาของเธอจ้องมองหลงซือเย่ “ครูฝึกหลง ถ้างั้นครั้งนี้คุณจะลงเขาไปช่วยพวกเราได้ไหม?”
หลงซือเย่ชะงักไปเล็กน้อย “พวกเรา? ซีจิ่ว เธอกับเขา…”
“พวกเราแต่งงานกันแล้ว” กู้ซีจิ่วไม่ปิดบัง “ไอ้ตัวปลอมนั่นทำลายชื่อเสียงเขาจนย่อยยับป่นปี้ ทวีปนี้ถูกเขาครอบงำแล้ว ดังนั้นทุกคนจำเป็นต้องร่วมมือกัน ถึงจะกอบกู้สถานการณ์กลับมา คืนความยุติธรรมและความสงบสุขให้ปวงชนได้”
ปลายนิ้วของหลงซือเย่แข็งทื่อไปชั่วขณะ ฝืนยิ้มแวบหนึ่ง “ซีจิ่ว ไม่คิดเลยนะว่าเธอก็มีวันที่วิ่งเต้นเพื่อใต้หล้านี้เหมือนกัน เมื่อก่อเธอไม่สนใจเรื่องวุ่นวายพวกนี้เลย”
กู้ซีจิ่วหลุบตาหัวเราะเบาๆ “คนเราเปลี่ยนกันได้”
เมื่อก่อนเธอแค่ต้องการกุมกระบี่พิทักษ์คนรอบกาย ให้ตัวเองสามารถใช้ชีวิตอย่างราบรื่นสงบสุขได้
ทว่ายามนี้เธอคิดจะร่วมหัวจมท้ายปกป้องแผ่นดินนี้ไปกับตี้ฝูอี เพื่อให้แบ่งเบาภาระของเขาได้บ้าง ยิ่งไปกว่านั้นคือไอ้ตัวปลอมนั่นทำลายชื่อเสียงของตี้ฝูอีจนย่อยยับ เรื่องนี้เธอทนไม่ได้ที่สุด!
————————————————————————————-