ลำนำบุปผาพิษ – บทที่ 1504.2 (2)

บทที่ 1504 (2)

 

บทที่ 1504 ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงตัวปลอม (2)

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมนิ่งอึ้ง

นัยน์ตาเขาแปรเปลี่ยน สรรหาถ้อยคำมาโต้เถียงไม่ได้ไปชั่วขณะ เซียนหญิงลี่หวางข้างกายเขาเอ่ยปากอย่างเยือกเย็น “กู่ฉานโม่ ข้าคือฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ มีจิตเมตตากรุณา เพียงต้องการให้โลกใบนี้ข้ามผ่านภยันตรายไปให้ได้ เหตุใดจะช่วยคนเลวก่อกรรมทำชั่วบิดเบือนไออาฆาตเป็นไอเซียนได้อย่างไรเล่า ท่านพูดเยี่ยงนี้ ไม่เพียงดูหมิ่นข้า ยังดูหมิ่นเทพศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย!”

กู่ฉานโม่เหลือบมองนางแวบหนึ่ง “เจ้ากล่าวเรียกตัวเองว่าเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์อยู่ตลอดเวลา มีหลักฐานยืนยันหรือไม่?”

เซียนหญิงลี่หวางกล่าวอย่างเรียบเฉย “ข้ามาจากดินแดนเบื้องบน ความเป็นเซียนอยู่ตรงนี้ หากไม่ได้มีสัมพันธ์อันใดกับเทพศักดิ์สิทธิ์ ย่อมไม่มีทางเรียกตัวเองว่าฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ หากข้าไม่ใช่ฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ เนิ่นนานป่านนี้แล้ว เหตุใดเทพศักดิ์สิทธิ์จึงไม่ปรากฏกายออกมาบอกว่าข้าแอบอ้างเล่า? นี่ยังต้องการหลักฐานอันใดอีก?

กู่ฉานโม่ยิ้ม “ไม่ได้ปฏิเสธแสดงว่าเป็นความจริงอย่างงั้นรึ? เดิมทีเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ข้องเกี่ยวอันใดเรื่องราวโลกมนุษย์ หากบนโลกใบนี้มีผู้คนมากมายแอบอ้างเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าเขาต้องออกมาเป็นพยานให้ทีละคนเลยอย่างงั้นรึ? บางทีเขาอาจกำลังกักตน หรืออาจจะไม่เห็นเจ้าอยู่ในสายตา บุคคลเยี่ยงเทพศักดิ์สิทธิ์ หากเขาจะแต่งงาน ย่อมต้องประกาศต่อใต้หล้า และจะเปิดเผยฐานะฮูหยินของเขาอย่างบริสุทธิ์ผุดผ่อง จะให้หลักฐานพิสูจน์นาง จะปกป้องนางไว้ข้างกาย จะให้เป็นแบบเจ้าเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ตัวเองปรากฏกายออกมาบอกว่าเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ได้แล้วหรือ? หากเจ้าเป็นฮูหยินของเขาจริง เขาจะให้เจ้ามาอยู่กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายทั้งวันอย่างคลุมเครือเยี่ยงนี้หรือ? และให้เจ้าก่อกรรมทำชั่วมาสองปีโดยไม่ควบคุมความประพฤติเจ้าอย่างงั้นเชียวหรือ?”

เมื่อพูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ฝูงชนต่างทยอยพยักหน้า

สีหน้าเซียนหญิงลี่หวางเปลี่ยนไป กล่าวด้วยความโมโห “เจ้าเถียงข้างๆ คูๆ! หากข้าเป็นตัวปลอม ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้มิอาจให้อภัยข้า! เขาเป็นคนของเทพศักดิ์สิทธิ์ สนิทสนมกับเทพศักดิ์สิทธิ์ หากข้าเป็นตัวปลอม ต่อให้ปิดบังฝูงชนได้ ทว่าไม่อาจปิดบังเขาได้อย่างแน่นอน เขาก็ต้องพิสูจน์ข้าเช่นกัน…”

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมรีบเอ่ยในทันที “ข้าย่อมเป็นพยานให้นางได้ นางเป็นฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์จริง ข้าเคยขอหลักฐานต่อเทพศักดิ์สิทธิ์ด้วยตัวเอง…”

ดวงตากู่ฉานโม่ทั้งคู่พลันเย็นเยือก ส่งเสียงยิ้มเย็นชา “เขาย่อมเป็นพยานให้เจ้าเพราะเดิมทีพวกเจ้าก็ตะเภาเดียวกัน! ไม่เพียงแต่ฮูหยินเทพศักดิ์สิทธิ์อย่างเจ้าเป็นตัวปลอม ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายอย่างเขาก็เป็นตัวปลอม! เขาไม่ใช่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตี้ฝูอี!”

สวรรค์สั่นสะท้าน!

ฝูงชนด้านล่างต่างนิ่งอึ้ง

ซุ่มเสียงของกู่ฉานโม่สั่นสะท้าน ทำให้ทุกคนตกตะลึงกันหมด!

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเย้ยยิ้มขึ้นมาภายใต้ความแข็งทื่อ “เจ้าเป็นสุนัขวิปริตหรือไง? แว้งกัดคนอื่นไปทั่ว! ในคำพูดเจ้าข้ากลับกลายเป็นตัวปลอมไปด้วยแล้ว…”

กู่ฉานโม่เอ่ย “เดิมทีเจ้าก็เป็นตัวปลอม! เนื่องจากแปดปีก่อนทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวจริงมีเรื่องต้องไปสะสางในเขตหวงห้ามแห่งหนึ่ง ไม่ได้ออกมาในระยะเวลาแปดปีมานี้! และก็เพราะเขาไม่ได้ออกมา ทำให้ตัวปลอมอย่างเจ้าฉกฉวยโอกาสแอบอ้างฐานะของเขากระทำความผิดอย่างเหิมเกริม…”

เขากวาดตามองฝูงชนที่รายล้อมอยู่ด้านล่าง “ทุกคนลองคิดดู ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเมื่อแปดปีก่อนมีอุปนิสัยอย่างไร มีพฤติกรรมอย่างไร กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมสองปีมานี้มีท่าทีอย่างไร นอกจากเนื้อหนังมังสาที่เหมือนกันนี้แล้ว มีสิ่งอื่นใดเหมือนกันอีกบ้างรึ?!”

ความจริงไม่ต้องครุ่นคิด สองปีมานี้พฤติกรรมของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายแปรเปลี่ยนไปเป็นอีกคนจริงๆ…

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะพยักหน้า บางคนใจกล้าก็ร้องตะโกนออกมา “ไม่เหมือนจริงๆ! เขาในตอนนี้กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเมื่อแปดปีก่อนเหมือนกับเป็นคนละคนกัน”

“ใช่! ถูกต้อง เป็นเช่นนี้จริงๆ!”

อ่านนิยาย

“หรือว่าเขาเป็นตัวปลอมจริงๆ?”

ทุกคนนิ่งงัน

ชาวบ้านด้านล่างเริ่มแสดงความคิดเห็น สายตาฉงนมากมายนับไม่ถ้วนมองไปที่ ‘ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย’ ด้านบนแท่น

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมพลันเชิดหน้าเย้ยยิ้ม “กู่ฉานโม่ นึกไม่ถึงว่าเจ้าปลุกระดมจิตใจคนเก่งกาจยิ่งนัก แต่เจ้าหลงลืมไปจุดหนึ่ง หากข้าเป็นตัวปลอม เหตุใดพวกมู่เฟิงทั้งสี่จึงแยกแยะไม่ออกเล่า? หากข้าเป็นตัวปลอม เหตุใดสานุศิษย์สวรรค์คนอื่นๆ ถึงดูไม่ออกเล่า? คนอื่นอาจไม่ได้เคยคลุกคลีกับข้า ทว่าคนเหล่านี้อยู่กับข้าทั้งวันทั้งคืน หากข้าไม่ใช่ตัวจริง พวกเขาคงดูออกไปนานแล้ว! เหตุใดจึงจงรักภักดีอยู่ข้างกายข้าอยู่เล่า?”

เขามองสี่ทูตที่เงียบสงบอยู่รอบกายอย่างพึงพอใจ “หรือเจ้าจะบอกว่าพวกเขาก็เป็นตัวปลอม? พวกเจ้าสี่คนมานี่ ก้าวออกมาพูดกับทุกคนหน่อยว่าข้าเป็นตัวปลอมหรือไม่?”

มู่เฟิงหลุบตาลง “ขอรับ!”

เขาก้าวไปด้านหน้า ยืนด้านหลังฝั่งซ้ายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม เอ่ยปากทีละคำ ทีละตัวอักษร “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้เป็นตัวปลอม…”

ลำแสงสี่สายเปล่งประกายขึ้นจากมือของพวกมู่เฟิงทั้งสี่หลังจากคำพูดนี้ ตัดผ่านลงไปที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมท่านนี้!

นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจยิ่งนัก ไม่เพียงทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมนึกไม่ถึง แม้แต่เซียนหญิงลี่หวางกับผู้คุ้มกันคนอื่นข้างกายพวกเขาก็นึกไม่ถึงเลยจริงๆ!

ครานี้ระยะทางกระชั้นชิดยิ่งนัก และทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้ก็แทบจะไม่ได้เตรียมการไว้…

ลำแสงเยือกเย็นสองสายตัดเข้าใต้ซี่โครงเขา ลำแสงเยือกเย็นอีกสองสายตัดเข้าหัวไหล่เขา! ทำให้เขาแทบจะแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น!

สมแล้วที่เขาเป็นบุคคลน่าเกรงขาม ภายใต้สถานการณ์อันตราย เขากลับไม่สนใจลำแสงเยือกเย็นทั้งสี่ ก้าวไปด้านหน้าในทันใด…

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ทุกการเคลื่อนไหวเกิดขึ้นในพริบตา เมื่อฝูงชนได้สติ ซี่โครงกับหัวไหล่ทั้งสองของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายท่านนี้ก็มีเลือดไหลพราก

ลำแสงเยือกเย็นที่ทั้งสี่ผู้พิทักษ์ปล่อยออกมาเห็นได้ชัดว่าได้ผล หลังจากที่ถูกเล่นงาน ไม่เพียงแต่เจ็บปวดแผลจนทนไม่ไหว ยังรู้สึกว่าพลังวิญญาณทั้งหมดของร่างกายรั่วไหลตามหยาดเลือดอย่างรวดเร็ว…

คลิก

หน่วยกล้าตายข้างกายเขาเพิ่งจะรู้สึกตัวในเวลานี้ รีบรุดเข้ามาปกป้องเขาไว้ตรงกลาง

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเบิกตาจ้องมองพวกมู่เฟิง “พวกเจ้า…”

มู่เฟิงยิ้มเย้ยหยัน “พวกข้าทำไมหรือ? เจ้าตัวปลอมอย่างเจ้าคิดจะใช้วิชาชั่วร้ายควบคุมพวกข้าไปได้ตลอดชีวิตงั้นรึ?!”

บัดนี้ไม่เพียงแต่สีหน้าทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเปลี่ยนไป แม้แต่สีหน้าเซียนหญิงลี่หวางก็เปลี่ยนไปเช่นกัน นางใช้วิชาควบคุมจิตใจบนร่างของพวกมู่เฟิงในทันที คิดจะทำให้กู่ในร่างกายของพวกเขากำเริบขึ้น ทว่านางสิ้นเปลืองพลังวิญญาณอยู่นาน ทั้งสี่คนนั้นก็ไม่มีการตอบสนองอันใดเลย

นิ้วมือของเซียนหญิงลี่หวางกระชับแน่น!

นางสัมผัสถึงกู่บนร่างของมู่เฟิงและสี่ทูตไม่ได้จริงๆ!

ถึงแม้กู่นี้เป็นของนาง ทว่าตอนที่นางอยากสัมผัสสิ้นเปลืองพลังวิญญาณยิ่งนัก ดังนั้นโดยปกตินางไม่มีทางที่จะทดสอบง่ายๆ ยิ่งไปกว่านั้นมู่เฟิงและสี่ทูตเชื่อฟังมาสองปีแล้ว ไม่เห็นการตอบสนองใดที่หลุดจากการควบคุมมาโดยตลอด…

ชาวบ้านด้านล่างนึกไม่ถึงว่าที่มาในวันนี้จะได้ดูละครที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ ทุกคนล้วนตกตะลึงไปชั่วขณะ

เดิมทีสี่ทูตถูกควบคุมไว้แล้ว ยามนี้กลับมาเป็นปกติแล้วงั้นหรือ? หรือว่าสี่ทูตไม่พอใจพฤติกรรมคิดคดของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย?

ทุกคนเกิดความสงสัยขึ้นในจิตใจ

“พวกเจ้าเป็นกบฏ!” ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายเอ็ดตะโรขึ้นมา “จับกุมพวกเขา!”

คนข้างกายเขามากมายยิ่งนัก ผู้มีพลังวิญญาณขั้นเก้าก็มีสิบกว่าคน คนเหล่านี้อาศัย ‘โอสถวิญญาณ’ ของเขาเลื่อนขั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ในอนาคตยังต้องอาศัยโอสถวิญญาณของเขาฝึกฝนต่อ ดังนั้น พวกเขาไม่สนใจว่านายท่านในตอนนี้เป็นทูตสวรรค์ตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่ มีแต่ต้องปกป้องเขาด้วยชีวิต

ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมส่งเสียงออกคำสั่ง คนเหล่านี้ปิดล้อมคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์กับสี่ทูตดังตุบๆ ตับๆ

ไม่เพียงแต่พวกเขาเดินหน้าปิดล้อม แม้แต่ในหมู่ชาวบ้านด้านล่างแท่นก็มีผู้คุ้มกันซ่อนตัวอยู่ บัดนี้จึงส่งเสียงตะโกน พุ่งตัวออกมา…

——————————————————————————

ลำนำบุปผาพิษ

ลำนำบุปผาพิษ

เธอคือนักฆ่าสาวผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการมืด แต่ดันตายเพราะโดนคนที่เชื่อใจตลบหลัง! ไม่รู้ว่านรกชังหรือสวรรค์เป็นใจ เธอถึงตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างเด็กสาวอัปลักษณ์ที่ถูกลวงให้เอาชีวิตมาทิ้ง ผู้คนในโลกนี้ยึดถือในเรื่องของพลังวิญญาณ ทว่าร่างนี้ไม่มีพลังวิญญาณอยู่เลยสักนิด เป็นสวะไร้ค่าชิ้นใหญ่ที่พบเจอได้ยากยิ่ง!! แต่ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่เห็นเป็นไร ร่างนี้มีเธอมารับช่วงต่อแล้ว เธอจะทวงคืนทุกอย่างแทนเจ้าของร่างเดิม ทวงเอาทุกสิ่งที่ควรมีกลับมา!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset