บทที่ 1508 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 3
สีหน้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมซีดเทา เขาไม่นึกเลยว่าแผนการที่ตนเตรียมการไว้อย่างรอบคอบจะถูกอีกฝ่ายควบคุมไว้อยู่หมัด ยามนี้เขาแทบนับได้ว่าหมดหนทางแล้ว!
ประกายแสงวาบผ่านนัยน์ตาเขา จู่ๆ เขาก็ส่งสัญญาณอย่างหนึ่งให้คนที่อยู่ด้านหลังทันที
ด้านหลังเขายังคงมีทหารที่ภักดีอยู่หลายสิบคน เรือนกายคนเหล่านี้พลันวูบไหว พุ่งเข้าใส่นักโทษที่ยังอยู่บนเสาเหล่านั้นทันที!
บนร่างนักโทษเหล่านั้นล้วนมีระเบิดเวลาอยู่ ขอเพียงพวกเขาดึงเชือกกุมชะตาบนร่างของนักโทษเหล่านี้สักคราก็สามารถทำให้นักโทษเหล่านี้ระเบิดได้แล้ว เมื่อคนกว่าร้อยคนระเบิดขึ้นพร้อมกัน ก็เพียงพอจะกวาดล้างจัตุรัสนี้ให้ราบเป็นหน้ากลอง คนทั้งหมดล้วนจะถูกกลบฝังไว้ที่นี่…
ขณะที่หน่วยกล้าตายเหล่านั้นลงมือจู่โจม จู่ๆ ฝีเท้าของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมก็ชะงักไป พื้นที่เขาเหยียบย่ำอยู่พลันปริแยก ร่างของเขาร่วงหล่นลงไป!
นี่ก็เป็นสิ่งที่เขาจัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้า เป็นไม้ตายสุดท้ายของเขา
แผนการนี้ของเขาอยู่เหนือความคาดหมาย แม้กระทั่งหน่วยกล้าตายข้างกายเขาเหล่านั้นก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะหลงเหลือเล่ห์กลเช่นนี้อยู่ มองเห็นว่าร่างเขากำลังจะร่วงหล่นลงไปในหลุมที่ปริกแยกออกแห่งนั้น กลับคาดไม่ถึงว่าพลันมีเงาร่างคนแวบขึ้นมาเบื้องหน้า เชือกสีเงินยวงเส้นหนึ่งรัดพันบั้นเอวเขาไว้…
ร่างกายเขาที่เพิ่งจะหล่นลงไปถูกฉุดดึงขึ้นมาทันที โซซัดโซเซอยู่ไม่กี่ก้าวก็ร่วงลงบนพื้น ในเวลาเดียวกันนี้ ชีพจรหลักหลายจุดบนร่างเขาพลันชาหนึบ ยามที่ร่วงลงพื้นก็ยืนไม่อยู่ ล้มคว่ำปานสุนัขกินอาจม แม้แต่หน้ากากก็หลุดหายไปแล้ว…
เขาเงยหน้าขึ้นอย่างจนตรอก มองเห็นเชือกสีเงินยวงที่หดกลับเข้าไปในแขนเสื้อของตี้ฝูอีพอดี
ชัดเจนยิ่งนัก ในช่วงเวลาดุจสายฟ้าแลบนี้ เป็นตี้ฝูอีที่ดึงเขากลับมา ทำให้เขาหลบหนีไม่สำเร็จ
ส่วนหน่วยกล้าตายเหล่านั้นของเขาที่พุ่งเข้าหานักโทษก็ล้มเหลวเช่นกัน พวกเขาถูกคนที่ตี้ฝูอีพามาด้วยขัดขวางไว้! ยามนี้กำลังต่อสู้กันอยู่
ตี้ฝูอียิ้มเยาะ “ละครยังไม่จบก็คิดจะหนีแล้วหรือ? ไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น?!”
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมเงียบงัน
คนที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมพามาด้วยหนนี้มีไม่น้อยเลยจริงๆ มีองครักษ์มีทหารและมีหน่วยกล้าตายด้วย
หน่วยกล้าตายเหล่านั้นต้องปกป้องเขาด้วยชีวิต เนื่องจากชะตาของพวกเขาผูกติดอยู่กับทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมผู้นี้ หนึ่งร่วงทุกคนล่มหนึ่งโรจน์ทุกคนรุ่ง ดังนั้นต่อให้พวกเขาทราบว่าเขาเป็นตัวปลอม ก็ทำได้เพียงปกป้องเขาด้วยชีวิต และเรื่องชั่วร้ายพวกนั้นที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมกระทำก็เป็นผลงานของพวกเขากว่าครึ่ง พวกเขาไม่มีทางถอยแล้ว
ส่วนองครักษ์และทหารที่เหลืออันใดนั้น ทั้งหมดนึกว่าเขาคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย อีกทั้งต้องการแสวงหาลาภยศเงินทอง ดังนั้นจึงทำตามคำสั่งทุกอย่าง คนเหล่านี้ก็เคยกระทำเรื่องชั่วช้าบางส่วนตามคำสั่งเช่นกัน บัดนี้เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ค่อนข้างสับสนอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าควรไปทางไหนดี
มีบางส่วนที่จิตใต้สำนึกยังคงเชื่อฟังคำสั่งของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมอยู่ คิดจะเข้าล้อมโจมตีตี้ฝูอี ถูกกู่ฉานโม่ตวาดเรียกสติคราหนึ่ง “พวกเจ้าปัญญาอ่อนหรือไง?! เขาไม่แยแสความเป็นความตายของพวกเจ้าเลย คิดจะทำให้ทุกคนที่นี่ระเบิดตายไปพร้อมกัน เขาหนีเอาตัวรอดคนเดียว! คนเช่นนี้พวกเจ้ายังคิดจะขายชีวิตให้เขาอีกหรือ?!”
ด้วยเหตุนี้ บรรดาทหารและองครักษ์เหล่านั้นจึงถอยหลังไปทันที!
ดังนั้นผู้ที่ทุ่มเทต่อสู้อย่างสุดชีวิตจึงเป็นหน่วยกล้าตายเหล่านั้น หน่วยกล้าตายพวกนี้ถึงแม้พลังวิญญาณจะสูง แต่ล้วนเป็นผลมาจากโอสถทั้งสิ้น ประสบการณ์ต่อสู้จริงไม่มากถึงเพียงนั้น ไม่มีทางเทียบกับคนของสำนักศึกษาชุมนุมสวรรค์และคนที่ตี้ฝูอีพาออกมาจากเขตหวงห้ามได้ เมื่อต้องเผชิญหน้ากันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาก็ถูกมองจุดอ่อนออกทันที…
หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หน่วยกล้าตายเหล่านี้ก็ถูกจับกุมได้ทีละคน ถูกมัดรวมอยู่ตรงนั้น
มาถึงยามนี้ แผนการของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมถูกทำลายอย่างสมบูรณ์แล้ว หมดหนทางอย่างแท้จริง ไม่มีลูกไม้ใดให้พลิกสถานการณ์ได้อีก
ตี้ฝูอีก้าวเข้าไป ขณะที่ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมกำลังจะทำอะไรบางอย่าง
“แง!” เด็กน้อยที่ยังถูกมัดไว้ร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง
————————————————————————————-
บทที่ 1509 ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว 4
เด็กคนนั้นเพิ่งอายุสามขวบ เชือกเส้นนั้นมัดเขาเจ็บปวดเสียจนเกินรับไหว เดิมทีเขาสลบไปแล้ว ยามนี้เพิ่งรู้สึกตัว ร้องไห้ทันทีที่ตื่นขึ้นมา
เด็กคนนั้นคือหลานชายของกู้เซี่ยเทียน เขาอดไม่ได้ที่จะมองไปทางตี้ฝูอี “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายมีวิธีแก้มัดเชือกเหล่านี้หรือไม่?”
ตี้ฝูอีพยักหน้าเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดจาอันใด พลันหันเรือนกายเหินบินอย่างแผ่วเบา ตรงไปที่ด้านข้างเด็กคนนั้นเพื่อแก้มัดเชือก…
การเคลื่อนไหวเขารวดเร็วปานสายฟ้าฟาด เขาค่อยๆ แก้มัดเชือกที่สร้างขึ้นมาพิเศษทีละชั้นๆ โดยไม่สัมผัสระเบิดเวลาแม้แต่น้อย ฝีมือเชี่ยวชาญเหนือธรรมดา
ฝูงชนชื่นชมเขาจนแทบอยากจะหมอบราบกราบกรานเลยทีเดียว!
สายตานับไม่ถ้วนรวมอยู่บนมือเขา จ้องมองเขาแก้มัดเชือกอย่างสุขตาสุขใจอย่างหาที่เปรียบมิได้
วินาทีที่เชือกถูกแก้มัดออกทั้งหมด เด็กคนนั้นตกลงมาจากเสาอย่างปลอดภัย มารดาที่รออยู่ตรงนั้นรับเขาไว้ในอ้อมอก
ฝูงชนส่งเสียงร้องดีใจอีกคราหนึ่ง
ในขณะที่ความสนใจของทุกคนจดจ่อไปบนร่างของตี้ฝูอี พลันได้ยินคนส่งเสียงกรีดร้อง ‘อ๊า!’ เสียงร้องแหลมและรันทดดึงดูดความสนใจของฝูงชนในพริบตา
ฝูงชนต่างตกตะลึงเมื่อมองตามเสียงกรีดร้อง!
ในมือของเซียนหญิงลี่หวางท่านนั้นถือกระบี่ยาวมันวาวดุจหิมะ ทิ่มแทงกลางอกข้างซ้ายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม!
ฝูงชนนิ่งอึ้ง
ตี้ฝูอีหรี่ตาลงเล็กน้อย
ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมจ้องมองเซียนหญิงลี่หวาง สายตาเปี่ยมด้วยความไม่เชื่อ “เจ้า…เจ้า…”
“ข้าทำไมหรือ? เจ้าคือทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม! ข้าถูกเจ้าต้มเสียจนเปื่อย!” เซียนหญิงลี่หวางหน้าตาถมึงทึงสายตาเต็มเปี่ยมด้วยความเกลียดชัง นางไม่รอให้ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมได้อธิบาย ถือโอกาสพลิกกระบี่ยาว ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอมอ้าปากกว้าง ทว่าไร้ซึ่งซุ่มเสียงที่จะเปล่งออกมาได้ เรือนกายทรุดลงอย่างไร้เรี่ยวแรง
ตี้ฝูอีเลิกคิ้ว “นี่เจ้าทะเลาะกันเองหรือ?”
มืออันอ่อนนุ่มของเซียนหญิงลี่หวางยังเปื้อนคราบเลือดบนตัวของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม นางทอดถอนใจเบาๆ คราหนึ่ง “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย ข้าเพียงแต่ถูกเจ้าคนผู้นี้หลอกลวงก็เท่านั้น ไม่ได้ร่วมมือกับเขา”
“เอ๊ะ?” ตี้ฝูอีเข้าใกล้นางอย่างช้าๆ “แต่ข้าได้ยินว่าเรื่องราวเลวร้ายไร้ซึ่งศีลธรรมของเขาล้วนเป็นเจ้าที่สั่งสอน อย่างเช่นใช้วิชากู่ควบคุมสี่ทูตและสานุศิษย์สวรรค์คนอื่น หรืออย่างเช่นการทำกำแพงวิญญาณอาฆาต…”
เขากวาดตามองหน่วยกล้าตายที่ถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างแวบหนึ่ง “แม้แต่การฝึกฝนวิชาชั่วร้ายของคนเหล่านี้ก็เป็นเจ้าที่สั่งสอน!”
เซียนหญิงลี่หวางกล่าวด้วยสีหน้าดุดัน “ทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกล่าวผิดแล้ว ข้าคือเซียนหญิงที่ดินแดนเบื้องบนส่งลงมา และยังเป็นฮูหยินท่านเทพศักดิ์สิทธิ์ เพียงแต่มีหน้าที่ทำให้โลกใบนี้ผาสุก ไม่มีทางทำเรื่องโหดร้ายไร้คุณธรรมเยี่ยงนี้ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกลอุบายของทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายตัวปลอม ข้าถูกเขาหลอกใช้ รู้สึกเสียใจยิ่งนัก…”
“พูดจาเหลวไหล!” มู่เฟิงลุกขึ้นยืน “เห็นๆ กันอยู่ว่าเจ้าเป็นผู้ใช้วิชาที่ควบคุมพวกข้าด้วยตัวเอง!”
“ใช่แล้ว! พวกข้าถูกเจ้าควบคุมมาตลอด เห็นการกระทำของเจ้าด้วยตัวเอง!” มู่เหลยก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน
เซียนหญิงลี่หวางขบเม้มริมฝีปาก นางทอดถอนใจ “ข้าใช้วิชาเซียนบางอย่างได้จริง ทว่าไม่ใช่วิชาควบคุมคน เป็นวิชาที่เพิ่มพูนพลังวิญญาณของพวกเจ้าได้ ใครจะรู้ว่ากู่ที่เจ้าตัวปลอมผู้นั้นสร้างขึ้นมาเอง เมื่อรวมเข้ากับวิชาเซียนของข้าแล้วกลับกลายเป็นวิธีการควบคุมพวกเจ้าอย่างหนึ่ง ก่อนหน้านี้ข้าก็ไม่ทราบ คิดว่าพวกเจ้ายินยอมพร้อมใจอยู่ข้างกายเขา…เขาไม่ได้พูดเรื่องเหล่านั้นที่เขากระทำกับข้าทั้งหมด ข้าไม่รู้เลยแม้แต่น้อย…”
นางอาศัยการสังหารเจ้าตัวปลอมนั้นแล้วปัดความรับผิดชอบทั้งหมดไปที่เขา “แน่นอนว่า ข้าเห็นว่าเขาทำเกินไปอยู่บ้างในบางเรื่อง ทว่าเขาบอกว่าทำการใหญ่มิควรคิดเล็กคิดน้อย ในเมื่อจุดมุ่งหมายท้ายที่สุดแล้วเพื่อประโยชน์สุขของปวงชน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสังเวยชีวิตผู้คนบ้างเล็กน้อย
————————————————————————————-