บทที่ 1694 กู้ซีจิ่วหายตัวไป 2
ตี้ฝูอีตกตะลึง จู่ๆ ก็ยกมือขึ้น ปล่อยระลอกแสงสายหนึ่งออกจากฝ่ามือ พุ่งตรงไปยังโซ่ที่ยึดร่างหลานไว่หู…
เสียง “พรึ่บ!” ดังขึ้น หลานไว่หูส่งเสียงกรีดร้อง โซ่เล็กสองเส้นที่ไหล่นางถูกดึงออกมาอย่างโหดเหี้ยม! นางร่วงลงมาทันใด
กู้ซีจิ่วตื่นตระหนก เหินไปรับนางไว้ จิ้งจอกน้อยเจ็บปวดจนสลบไปแล้ว โลหิตที่ไหล่ทั้งสองข้างไหลดุจกระแสน้ำ
กู้ซีจิ่วรีบกดจุดบนหัวไหล่นางเพื่อหยุดการไหลเวียนโลหิต
ตี้ฝูอียกมือดีดขวดหยกขาวพิสุทธิ์ขวดหนึ่งไปให้ “ใช้สิ่งนี้กับนาง” นี่คือยาสมานแผลที่ดีที่สุดของเขา มีประสิทธิภาพอันน่าอัศจรรย์ในการห้ามเลือดและรักษาบาดแผล
กู้ซีจิ่วยกฝ่ามือขึ้นแล้วปัดกลับไปให้เขา “ไม่จำเป็น!”
ตี้ฝูอีทำได้แค่เพียงพูดต่อ “กู้ซีจิ่ว บางครั้งก็ต้องเห็นแก่ส่วนรวมเป็นหลัก อย่าใช้อารมณ์…”
กู้ซีจิ้วเย้ยยิ้ม “วางใจเถอะ ข้าไม่มาทางเอาความปลอดภัยของสหายมาเป็นอารมณ์หรอก!”
ตี้ฝูอีมองดวงหน้าพริ้มเพราที่ซีดขาวของนางแล้วมุ่นคิ้ว “บาดแผลนี้ของนางจำเป็นต้องใช้ยาสมานแผลที่ดีที่สุดในการรักษาบาดแผล มิเช่นนั้น ต่อให้นางไม่มีอันตรายถึงชีวิต พลังวิญญาณในร่างกายนี้ก็จะสูญสิ้นไปได้…”
“พี่หวง คนเขาไม่รับน้ำใจ…ก็ช่างเถิด…ในใจนาง ความปลอดภัยของสหายนางผู้นี้ไม่สำคัญเท่าศักดิ์ศรีนางหรอก…” หลานจิ้งอี๋เอ่ยปากระหว่างนั่งสมาธิ เห็นได้ชัดว่านางยังฟังการเคลื่อนไหวด้านนอกอยู่ตลอด ไม่ได้ตั้งใจฝึกฝนแม้แต่น้อย
ทว่าวาจาด้านหลังของนางไม่ได้พูดต่อไป เนื่องจากกู้ซีจิ่วหยิบยาสมานแผลของตัวเองที่ติดตัวออกมาทาให้หลานไว่หูอย่างรวดเร็ว
ยาสมานแผลของเธอมีประสิทธิภาพที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทาลงไปเพียงครู่หนึ่งโลหิตที่ไหลพรากก็หยุดในทันที ประสิทธิภาพดีกว่ายาสมานแผลที่เมื่อสักครู่ตี้ฝูอีโยนมาให้เสียอีก!
หลานจิ้งอี๋พูดจาอันใดไม่ออก
นางยังไม่ได้เห็นเรื่องน่าขบขัน ย่อมหงุดหงิดใจบ้างอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง สายตานางร่อนลงบนยาสมานแผลในมือกู้ซีจิ่ว “นี่ก็เป็นยาของพี่หวงกระมัง…” มีเพียงพี่หวงของนางเท่านั้นถึงจะมีความสามารถคิดค้นยาวิเศษเช่นนี้ได้
กู้ซีจิ่วมองตี้ฝูอีด้วยสายตาเย็นชา “เจ้าถามพี่หวงของเจ้าดูก็ได้ ว่ายานี้เป็นของเขาหรือไม่?!”
ยานี้เป็นยาที่นางเพิ่งพัฒนาสำเร็จได้ไม่นาน ไม่เกี่ยวข้องอันใดกับตี้ฝูอีเลย!
เธอก็ใช่ว่าต้องด้อยกว่าตี้ฝูอีไปเสียทุกเรื่อง อย่างน้อยก็ความสามารถด้านโอสถ เธอพอมีฝีมือเทียบเท่ากับเขาได้แล้ว!
หลานจิ้งอี๋ยังต้องการจะพูดอีก จู่ๆ เขตแดนด้านล่างก็สั่นสะเทือน สั่นจนนางพลิกกลิ้งไปหลายรอบ!
บาดแผลบนตัวนางไม่น้อย เมื่อเกลือกกลิ้งไปมาก็สัมผัสถูกบาดแผล เจ็บปวดจนนางส่งเสียงร้อง ร่างกายพลันสั่นเทา
ตี้ฝูอีเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “หากเจ้าว่างมาก ข้าก็จะไม่ไยดีโยนเจ้าทิ้งไว้ที่นี่!”
สีหน้าหลานจิ้งอี๋แปรเปลี่ยน รีบเอ่ยขึ้น “ไม่…ไม่นะ จิ้งอี๋…จิ้งอี๋รู้ความผิดแล้ว พี่หวง เห็นแก่ที่ข้าก็เป็นสานุศิษย์สวรรค์ อย่าโยนข้าทิ้งเลย…”
ตี้ฝูอีเหลือบมองนาง ไม่พูดจาอะไร
หลานจิ้งอี๋ก็ไม่กล้าปริปากอีก
สานุศิษย์สวรรค์? หลานจิ้งอี๋ผู้นี้เป็นสานุศิษย์สวรรค์แล้วหรือ? ก่อนหน้านี้นางยังไม่ได้เป็นเลย เพิ่งเป็นงั้นหรือ?
กู้ซีจิ่วรู้ว่าพลังวิญญาณที่หลานจิ้งอี๋ฝึกฝนคือพลังวิญญาณธาตุไม้ เช่นเดียวกับหลงซือเย่…
หรือว่าหลังจากตี้ฝูอีปลดสานุศิษย์สวรรค์พลังวิญญาณธาตุไม้อย่างหลงซือเย่ออก ก็เลยยกตำแหน่งว่างให้กับหลานจิ้งอี๋?
เธอเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “นางเป็นสานุศิษย์สวรรค์หรือ? ตั้งแต่เมื่อใด?”
อย่างไรเสียเธอก็เป็นผู้ทดสอบสานุศิษย์สวรรค์ มีสิทธิที่จะรับรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง
ตี้ฝูอีกล่าวอย่างเรียบเฉย “ก่อนหน้าไม่นาน”
หลานจิ้งอี๋มองตี้ฝูอี แล้วมองกู้ซีจิ่ว อดไม่ได้ที่จะสอดปาก “สองเดือนก่อนอย่างไร สองเดือนก่อนข้าได้รับบาดเจ็บ เลือดแทบจะไหลไม่หยุดอีกครั้ง”
————————————————————————-
บทที่ 1695 กู้ซีจิ่วหายตัวไป 3
“สองเดือนก่อนอย่างไร สองเดือนก่อนข้าได้รับบาดเจ็บ เลือดแทบจะไหลไม่หยุดอีกครั้ง เป็นพี่หวงที่บอกว่าหากมีโลหิตของสานุศิษย์สวรรค์ก็สามารถรักษาโรคประหลาดนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงหาวิธีให้ข้าได้เป็นสานุศิษย์สวรรค์ที่มีพลังวิญญาณธาตุไม้ ไม่ต้องทนทุกข์กับโรคภัยอีก…”
เล็บมือของกู้ซีจิ่วที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อจิกเข้าไปในฝ่ามือแล้ว
สองเดือนก่อนก็เป็นช่วงเวลาที่หลงซือเย่ถูกปลดพอดี เห็นทีว่าหลงซือเย่ถูกปลดได้ไม่นาน หลานจิ้งอี๋ก็เข้าแทนที่ตำแหน่งของเขาเลย
ดูเหมือนเขาวางแผนนี้มานานแล้ว นับว่าสิ้นเปลืองกายใจไปมากมายเพื่อหลานจิ้งอี๋ผู้นี้…
น่าขันที่เธอยังขบคิดอยู่ตลอดว่าจะคืนฐานะสานุศิษย์สวรรค์ให้หลงซือเย่ได้ยังไง ในเมื่อปลดได้ เช่นนั้นก็น่าจะมีวิธีคืนฐานะได้
ดังนั้นระยะนี้เธอจึงก่อกวนวอแวหยกนภายิ่งนัก และพลิกตำราทั้งหมดเท่าที่จะหาได้แล้ว…
ตอนนี้เห็นทีว่าเธอคงจะโลกสวยเกินไป!
ตี้ฝูอีกระทำการไร้ขีดจำกัดล่าง ยามที่เขาใส่ใจคนผู้หนึ่ง แม้แต่วิถีสวรรค์ก็ยังฝ่าฝืนได้
สานุศิษย์สวรรค์ สานุศิษย์สวรรค์ มิใช่สมควรให้สวรรค์มาจัดสรรหรอกหรือ? เขาเข้ามาแทรกแซงเช่นนี้ไม่เกรงว่าสวรรค์จะประณามบ้างหรือ?!
เขาเป็นเทพของแผ่นดินนี้ ดังนั้นจึงใช้ผู้อื่นต่างตัวเบี้ยได้ตามใจปรารถนาใช่ไหม?!
หงายมือก่อเมฆคว่ำมือก่อฝน…
ความโศกเศร้าในใจถาโถมขึ้นมาเป็นชั้นๆ สีหน้าเธอซีดเซียวอย่างยิ่ง
บอกตัวเองว่าอย่าได้ถูกเขาทำร้ายได้อีก อย่าได้เสียใจเพราะเขาอีก แต่ความรู้สึกกลับไม่เชื่อฟังการควบคุมของสติและเหตุผลอย่างสิ้นเชิง หัวใจเธอยังคงเจ็บปวดอยู่!
เธอไม่พูดอะไรอีก พันแผลให้จิ้งจอกน้อยอย่างรวดเร็ว เนื่องจากฝืนข่มความโกรธเกรี้ยวในใจเอาไว้ตลอด นิ้วมือเธอจึงสั่นระริกอยู่บ้าง
“ออกไปข้างนอกแล้วค่อยทำการรักษาให้พวกนางเถอะ ที่นี่ไม่ควรรั้งอยู่นาน พวกเรารีบออกไปดีกว่า” ตี้ฝูอียื่นมือไปจับมุมชุดของนาง “ใช้วิชาเคลื่อนย้ายเถอะ!”
เกิดเสียงดังแควกขึ้นเบาๆ มุมชุดของกู้ซีจิ่วขาดออก เธอเอ่ยอย่างเยียบเย็น “ต่างคนต่างไป!”
กู้ซีจิ่วอุ้มจิ้งจอกน้อยไว้แล้วทำการเคลื่อนย้าย หายลับไปทันที
ตี้ฝูอีนิ่งงัน
….
วิชาเคลื่อนย้ายของกู้ซีจิ่วร้ายกาจยิ่ง เคลื่อนย้ายออกจากตำหนักใต้ดินที่ประหลาดซับซ้อนแห่งนั้นได้โดยตรง และพบเข้ากับหลานเยวี่ยที่ใกล้ๆ ทางเข้าตำหนักใต้ดิน
หลานเยวี่ยที่เพิ่งได้รับคำสั่งมาจากกู้ซีจิ่วรอเป็นกองหนุนอยู่ด้านนอกมาโดยตลอด เมื่อเห็นนางอุ้มหลานไว่หูออกมา ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ปรี่เข้ามาหา “นางเป็นยังไงบ้าง?”
“บาดเจ็บเล็กน้อย ยังดีที่ไม่เป็นไร” กู้ซีจิ่วพรูลมหายใจเบาๆ กวาดสายตามองแวบหนึ่ง “เยี่ยนเฉินล่ะ?”
หลานเยวี่ยถอนหายใจ “เขาควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ พวกเจ้าเข้าไปได้ไม่นาน เขาก็เปิดประตูบานนั้นขึ้นอีกครั้งแล้วบุกเข้าไปเลย…”
กู้ซีจิ่วตะลึง
ดวงหน้าน้อยๆ ของหลานไว่หูซีดเผือดกว่าเดิม
เยี่ยนเฉิน! นางอยากพบเยี่ยนเฉิน…
ยามนี้ผู้ที่คอยอยู่ด้านนอกมิได้มีเพียงหลานเยวี่ยเท่านั้น ยังมีหลัวจั่นอวี่กับหลีเมิ่งซย่าด้วย แม้กระทั่งหลงซือเย่ก็อยู่ด้วยเช่นกัน
คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่กู้ซีจิ่วใช้ยันต์ถ่ายทอดเสียงเรียกมาก่อนที่จะเข้าไปในตำหนักลับแห่งนั้น
มีเพียงหลงซือเย่คนเดียวที่เธอไม่อยากรบกวน จึงไม่ได้ใช้ยันต์ถ่ายทอดเสียงติดต่อ แต่บังเอิญว่าหลงซือเย่กำลังดื่มชาอยู่กับหลัวจั่นอวี่พอดี…
หลานเยวี่ยคิดจะเข้าไปรับตัวหลานไว่หู “ซีจิ่ว ให้ข้าอุ้มนางเถอะ”
เมื่อหลานไว่หูเห็นหลานเยวี่ยยื่นมือมา นางก็หดกายเข้าหาอ้อมแขนของกู้ซีจิ่วตามสัญชาตญาณ หลบหลีกสองมือของเขา
หลานเยวี่ยนิ่งค้าง
หลานไว่หูไม่กล้ามองสีหน้าผิดหวังของหลานเยวี่ย เมื่อเฉียดผ่านความเป็นความตายมาแล้ว นางถึงได้เข้าใจว่าคนที่นางชอบมาโดยตลอดก็คือเยี่ยนเฉิน อยากออกเรือนแค่กับเขา!
หลานเยวี่ยดีต่อนาง แต่นางไร้ความรู้สึกต่อเขา อย่างมากก็เห็นเขาเป็นสหายเท่านั้น…
นางไม่ต้องการปกปิดความรู้สึกของตนอีกแล้ว ย่อมไม่อยากให้หลานเยวี่ยอุ้มนาง
———————————————————————–