บทที่ 1802 บุตรชาย บุตรสาว
เขาวางนางลงบนเตียง บรรจงปลดเปลื้องอาภรณ์ของนาง
กู้ซีจิ่วรีบคว้ามือเขาจับไว้ เอ่ยเสียงอ้อมแอ้มว่า “วันนี้ท่านเหนื่อยมากแล้ว พักผ่อนสักหน่อยก่อนเถิด”
หลายวันมานี้กลางวันเขาสอนวิชาให้เธอ กลางคืนก็ ‘ออกศึกรบดุเดือด’ กับเธอ เธอจึงเป็นกังวลว่าร่างกายของเขาจะทนไม่ไหว ปฏิเสธอยู่หลายครั้ง ไม่ว่าอย่างไรผลสำเร็จก็ริบหรี่
เรื่องที่ตี้ฝูอีต้องการทำแทบไม่เคยไม่สำเร็จ
เคราะห์ดีในช่วงเวลาที่เขาและเธออยู่ด้วยกัน ระดูเพิ่งจะหมดไป ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่อาจกินเธอได้ทุกคืน
กู้ซีจิ่วคำนวณรอบเดือนของตัวเองแล้ว รู้สึกว่าช่วงสองสามวันนี้น่าจะตั้งครรภ์ได้ง่าย…
เขาและเธอพัวพันร่วมสัมพันธ์กันเช่นนี้ น่าจะตั้งครรภ์ได้บ้างกระมัง?
ตี้ฝูอีแนบกายมองนาง ทว่าไม่คิดจะยอมปล่อย “ซีจิ่ว คืนนี้เป็นคืนวิวาห์ของพวกเรา…”
ยามที่ส่งตัวเข้าเรือนหอ จารึกนามบนป้ายทอง ถือเป็นสองความสุขที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา ทว่าตี้ฝูอีสนใจเพียงเรื่องแต่งงานร่วมห้องหอ ไม่มีทางปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปได้แน่
แววตาเขาใต้แสงเทียนสุกสว่างดังดวงดารา นัยน์ตาโรจน์รุ่งดังเปลวเพลิง
เขาแนบชิดเรือนร่างของนางอย่างซื่อสัตย์และร้อนแรง พิสูจน์ให้กู้ซีจิ่วเห็นว่าเขาไม่ต้องการสูญเปล่า
กู้ซีจิ่วมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้เป็นพวกบ้ารูปลักษณ์ ทว่าเมื่อได้มองใบหน้าที่งดงามกลบฟ้าดินจนสีหม่นเบื้องหน้าแล้วหัวใจกลับเต้นรัว…
กู้ซีจิ่วใจอ่อนยวบ อันที่จริงเธอก็ชอบเรื่องอย่างนี้มาก ได้แหวกเมฆาคว้าหยาดฝนกับคนรักช่างเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดยิ่งนัก เพียงแต่เธอกลัวว่าเขาจะเหน็ดเหนื่อย…
เธอยื่นมือขึ้นแตะแก้มเขา “สองวันนี้ท่านเหนื่อยมาก ข้ากลัวว่าท่านจะเหนื่อยล้า…”
ตี้ฝูอีกลืนน้ำลายลงคอ ประทับจุมพิตพลางกระซิบข้างริมฝีปากนาง “โง่งม เจ้าไม่ให้ข้าทำ ข้าถึงจะเหนื่อย…” เหนื่อยกับการอดกลั้นความปรารถนา…
ม่านเตียงปิดลง เงาร่างซ้อนทับพัวพันกัน…
คืนนี้เขาทั้งทนทานทั้งเร่าร้อนเป็นพิเศษ ทำเพียงครั้งเดียว แต่กลับทำให้เธอถึงที่สุดแห่งความงดงามได้ถึงสามครั้ง ทำให้เธอเบาสบายดังลอยล่องอยู่เหนือเมฆา…
ท่ามกลางการขย่มโคลงเคลง ในหัวของกู้ซีจิ่วแวบความคิดหนึ่งขึ้นมา ‘สองวันนี้เป็นรอบไข่ตก เขาเพียรขยันถึงเพียงนี้ คาดว่าต้องตั้งท้องแน่…เพียงแต่ร่วมสัมพันธ์บ่อยไปมีโอกาสจะได้ลูกสาว…’
แต่เธออยากได้ลูกชาย!
ไม่ใช่ว่าเธอยกย่องลูกชายดูถูกลูกสาว เพียงแต่คิดว่าลูกชายน่าจะเหมือนเขามากกว่า…
เธอรักตี้ฝูอีจับใจ ย่อมอยากมีตี้ฝูอีน้อยสักคน…
ผ่านไปหนึ่งชั่วยาม ในที่สุดตี้ฝูอีก็ตีระฆังถอยทัพ เรือนกายกู้ซีจิ่วอ่อนยวบ แทบไม่อยากขยับตัวแล้ว
ตี้ฝูอีอยากชำระล้างเนื้อตัวให้นาง จึงเอ่ยถาม “ให้ข้าพาเจ้าไปอาบน้ำหรือไม่?”
พวงแก้มกู้ซีจิ่วแดงระเรื่อ คล้องแขนโอบลำคอเขา “ไม่เอา ข้าหมดแรงเหลือเกิน ท่านใช้วิชาชำระล้างเถิด”
เธอยังจำเมื่อวานก่อนนั้นได้ดีที่เขาพาเธอไปอาบน้ำหลังเขาและร่วมรักเสร็จกิจ ตอนนั้นเดิมทีเธอคิดจะใช้วิชาชำระล้างทำความสะอาด แต่ตี้ฝูอีบอกว่าอาบน้ำเฉกเช่นปกติให้ความรู้สึกมีชีวิตชีวามากกว่า เธอคิดคล้อยตามจึงตามเขาไปอาบน้ำด้วย ผลที่ได้คืออาบไปอาบมาเธอถูกเขากินอย่างดุเดือดอีกรอบหนึ่ง ทำเอาเธอเพลียแทบจะหลับคาสระน้ำพุร้อน!
จากพฤติกรรมร้ายกาจของเขาในคราก่อน คืนนี้กู้ซีจิ่วไม่อยากโดนหลอกอีกครั้งเป็นอันขาด!
ตี้ฝูอีหัวเราะ ทว่าไม่ได้บังคับฝืนใจนาง ใช้วิชาชำระล้างทำความสะอาดและสวมชุดนอนอ่อนนุ่มให้ จากนั้นคนทั้งสองก็นอนกอดเคียงกายกัน
ทั้งสองคนไม่ได้นอนเคียงไหล่ใต้ผ้าห่ม กู้ซีจิ่วนอนหนุนแขนเขาและสนทนากับเขา “ฝูอี ท่านชอบบุตรชายหรือบุตรสาว?”
ตี้ฝูอีงุนงง “หืม?”
กู้ซีจิ่วดวงตาเป็นประกายแวววาว “พวกเราอาจจะมีลูก…ท่านชอบลูกชายหรือลูกสาว?”
แววตาตี้ฝูอีลึกล้ำดุจรัตติกาล นิ้วมือข้างหนึ่งหมุนวนเส้นผมดำขลับข้างแก้มนางและยิ้มบางๆ “ข้าชอบทั้งนั้น!”
รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องพูดเช่นนี้!
กู้ซีจิ่วขบเม้มริมฝีปากจิ้มลิ้ม แววตามีความปรารถนา “ข้าชอบลูกชาย ดีที่สุดเลยถ้าเหมือนท่านทุกประการ…”
——————————————————————–
บทที่ 1803 ไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรก็ล้วนหล่อเหลายิ่งนัก
ตี้ฝูอีหรี่ตายิ้ม “ไม่มีใครเป็นแบบข้าได้หรอก ข้าคือยอดบุรุษอันดับหนึ่ง ไม่มีผู้ใดก้าวข้ามข้าไปได้”
กู้ซีจิ่วผลักเขาทีหนึ่ง “ดูท่านคุยโวเข้าสิ หากว่าข้าให้กำเนิดบุตรชายจะทำให้เขาเหนือกว่าท่านแน่นอน!”
ตี้ฝูอีเอ่ยไปว่า “ฝีมือเขาจะเหนือกว่าข้าหรือไม่ไม่สำคัญ แต่ตำแหน่งในหัวใจเจ้าเขาไม่อาจเหนือกว่าข้าได้…”
กู้ซีจิ่วหัวเราะคิกคักคราหนึ่ง “ที่แท้ท่านก็หึงหวงบุตรชาย ท่านหึงหวงเช่นนี้ออกจะเร็วไปหน่อย ยังไม่มีวี่แววอะไรเลย…เช่นนั้นทำไมพวกเราไม่ให้กำเนิดบุตรสาวสักคนล่ะ ลูกสาวนุ่มนิ่มน่ารัก ล้วนกล่าวกันว่าบุตรสาวคือคนรักตัวน้อยในชาติก่อนของบิดา ท่านจะต้องหวงแหนนางยิ่งนักเป็นแน่”
ตี้ฝูอีจนปัญญาแล้ว “ข้ารู้สึกว่ากลายเป็นเจ้าเสียแล้วที่หึงหวง…”
กู้ซีจิ่วส่ายหน้า “เปล่านะ ยิ่งท่านหวงแหนบุตรสาวเท่าไหร่ข้าก็ยิ่งเป็นสุขเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นครอบครัวเราสามคนจะกลมเกลียวไม่พรากจาก ออกท่องเที่ยวไปด้วยกัน บุตรสาวของพวกเราจะต้องงดงามอย่างยิ่งแน่นอน” ยิ่งพูดเธอก็ยิ่งคาดหวัง ยิ่งพูดสายตาก็ยิ่งเปล่งประกาย
ทั้งสองพูดคุยหัวเราะต่อกระซิกกันอยู่บนที่นอน กู้ซีจิ่วทับอยู่บนหน้าอกเขา ประจันหน้ากับเขา ความสนใจของเธอร่อนลงบนเส้นผมของเขาอีกครั้ง เส้นผมเขาดำขลับดุจแพรต่วน ดูสลวยอย่างยิ่ง…
เธอคว้ามาเล่นปอยหนึ่ง พลางเอ่ยถามเขา “เส้นผมของท่านทำไมถึงเป็นสีดำอีกล่ะ? ปรับเปลี่ยนได้ด้วยตัวเองหรือ?”
ตี้ฝูอีชะงักไปเล็กน้อย “ข้าจำได้ว่ามีบางคนเคยบอกเอาไว้ว่าไม่ชอบข้าตอนผมขาว…”
“เช่นนั้นก็เป็นการเปลี่ยนด้วยตัวเองสินะ ไม่นึกเลยว่าท่านจะมีความสามารถเช่นนี้ด้วย ความจริงแล้วท่านตอนผมขาวก็บาดใจคนยิ่งนักเช่นกัน หล่อเหลามีเสน่ห์ไปอีกแบบ” ชะงักไปอีกแวบหนึ่ง เธอจึงเอ่ยสรุปว่า “ไม่ว่าท่านจะเป็นอย่างไรก็ล้วนหล่อเหลายิ่งนัก ข้าชมชอบทั้งสิ้น!”
เธอกอดเอวเขาไว้เสียเลย “ฝูอี เห็นแก่ที่ข้าชมชอบท่านมากถึงเพียงนี้ อย่าดับขันธ์เลย ข้าอยู่โดยปราศจากท่านไม่ได้”
หากว่าผู้ป่วยระยะสุดท้ายทราบว่าตัวเองเป็นที่ต้องการเป็นพิเศษ จะเกิดแรงฮึดต่อสู้กับโรคร้ายขึ้นมา! มีความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ต่ออย่างแรงกล้า และความปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ต่ออันแรงกล้านี่เองที่เป็นกุญแจสำคัญในการต่อสู้กับโรคร้าย…
ความจริงแล้วกู้ซีจิ่วไม่คิดจะสร้างแรงกดดันให้ตี้ฝูอีเลย แต่เธอคิดว่าถ้าทำให้เขารู้ว่าเธอต้องการเขามากมายเพียงใด เขาจะได้ต่อสู้กับโชคชะตา ไม่แน่ว่าอาจสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นก็ได้!
ดวงตาคู่โตของเธอมองเขาอย่างจริงจัง แววตาเปี่ยมไปด้วยความหวัง
ตี้ฝูอีเงียบงัน ในใจเสมือนมีมีดเล่มหนึ่งบิดคว้านอยู่ เขายิ้มนิดๆ “ข้าจะพยายาม!”
เพื่อเด็กสาวในอ้อมแขน เขาจะสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อ!
มีคนกล่าวไว้ว่าโฉมงามคือหลุมฝังศพของยอดบุรุษ ในความเป็นจริงแล้วโฉมงามคนใดบ้างเล่าที่มิใช่ขวัญกำลังใจที่ผลักดันให้วีรบุรุษมุ่งหน้าฝ่าฟัน?
เด็กสาวในอ้อมแขนเป็นบ่วงชั่วชีวิตของเขา เขาไม่อาจหักใจละทิ้งไปได้
เขาจุมพิตหน้าผากนางคราหนึ่ง “ซีจิ่ว ข้าดีใจยิ่งนักที่ชีวิตนี้ได้พบเจ้า!” เป็นนางที่ทำให้เขาได้ลิ้มรสชาติของการรักใครสักคน ทำให้เขารู้ว่าที่แท้โลกนี้ก็งดงามถึงเพียงนี้ การมีชีวิตอยู่เป็นสุขถึงเพียงนี้
สองแขนของเธอโอบรัดเขาไว้ ถูไถใบหน้าเข้ากับใบหน้าของเขา “ข้าก็เหมือนกัน”
ถึงแม้เขาจะทำให้เธอเจ็บปวดไม่น้อย แต่เธอก็ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้พบเขาได้รักเขา…
กลิ่นอายของเธออ่อนโยนหอมหวาน เด็กสาวที่เดิมทีเย็นชาปานนั้น เมื่อยู่ต่อหน้าเขากลับพูดจาออเซาะฉอเลาะ ชอบออดอ้อน ชอบกอดเขา เหมือนสาวน้อยคนหนึ่ง
ทำให้หัวใจที่เย็นชากร้าวแกร่งเสมอมาของเขาหลอมละลาย เหล็กกล้าร้อยหลอมกลายเป็นนิ้วมือที่อ่อนนุ่ม…
จะหักใจปล่อยให้นางเดียวดายอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร?
จะหักใจทิ้งนางลงได้อย่างไร?
ดูเหมือนกู้ซีจิ่วจะนึกอะไรขึ้นได้ “ในเมื่อเทพศักดิ์สิทธิ์ก็มีวันที่ดับขันธ์ได้เหมือนกัน มีการส่งมอบหน้าที่อันใดนั่น เช่นนั้นก่อนท่านจะมาเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างไรเล่า? ท่านน่าจะเคยติดต่อกับอีกฝ่ายด้วยกระมัง?
———————————————-