ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 207-208

ตอนที่ 207 ยอมรับกับผีน่ะสิ 

 

 

 

 

 

ฟู่เส่าชิงนั้นไม่เหมือนกับคุณชายธรรมดาทั่วไป แต่เป็นถึงองค์ชายแห่งเป่ยเจียง หลังจากนี้เมื่อราชินีแห่งเป่ยเจียงสวรรคตแล้วเขาก็จะต้องสืบทอดราชบัลลังก์ต่อ เช่นนั้นวังหลังของเขาก็ไม่อาจมีหญิงสาวเพียงผู้เดียวได้ 

 

 

นิสัยใจคอของเริ่นหว่านเอ๋อร์นั้นไม่เหมาะสมเลยที่จะแต่งงานเข้าไปในพระราชวังอันโหดร้าย ไม่ช้าก็เร็วนางจะต้องถูกทำร้ายจนเหมือนตายทั้งเป็น แต่นางก็เชื่อเป็นอย่างมากว่าตอนนี้ไม่ว่านางจะพูดไปมากมายเพียงใด ก็ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายจะยอมรับฟัง 

 

 

เริ่นหว่านเอ๋อร์มองมาราวกับเข้าใจในสิ่งที่นางพูด “ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะ พี่เหรา” 

 

 

“อืม” อวี้อาเหราตอบรับสั้นๆ หากไม่เห็นแก่คำว่าพี่สาวนี้ นางก็ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของผู้อื่นมากนัก ทุกคนต่างมีชีวิตทางเดินเป็นของตัวเอง ไม่ว่าผู้อื่นจะพูดอย่างไรก็ไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงอะไรได้ 

 

 

ในขณะที่พวกนางกำลังพูดคุยกันอย่างจริงจังอยู่นั้น เจาเอ๋อร์ก็วิ่งพรวดพราดเข้ามา 

 

 

“เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วเพียงนี้ แล้วขนมเล่า” อวี้อาเหราถามขึ้นอย่างแปลกใจ 

 

 

“คุณหนู คุณหนูหว่านเอ๋อร์เจ้าคะ เมื่อครู่นี้บ่าวพบองค์ชายเป่ยเจียงในห้องครัว เพราะอย่างนั้นจึงใช้เส้นทางที่ใกล้ที่สุดรีบมาบอกก่อน นี่จะทำอย่างไรดีเจ้าคะ” เจาเอ๋อร์ขมวดคิ้ว 

 

 

“ทำอย่างไรอะไรกัน พวกเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่” อวี้อาเหราไม่เข้าใจ 

 

 

“แต่คุณหนูหว่านเอ๋อร์…” เจาเอ๋อร์มองไปทางเริ่นหว่านเอ๋อร์ 

 

 

อวี้อาเหราชะงักไป “หว่านเอ๋อร์ เจ้าไปหลบที่หลังฉากกั้นก่อนเถิด ข้าขอดูก่อนว่าฟู่เส้าชิงมาทำอะไรที่นี่” 

 

 

“อ้อ” เริ่นหว่านเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่านางนั้นมีแผนการอะไรกันแน่ แต่ก็เชื่อคำพูดของนาง เข้าไปหลบที่หลังฉากกั้นตามที่สั่ง ฉากกั้นที่มีขนาดใหญ่นั้นบังทั้งร่างของนางได้มิด 

 

 

เป็นจริงดังคาด ทันใดนั้นฟู่เส่าชิงก็เดินเข้ามาจากด้านนอก มองซ้ายมองขวา กวาดสายตาไปทั่ว 

 

 

“เจ้ามองหาอะไรหรือ” อวี้อาเหราถามขึ้นด้วยสีหน้าไม่แปรเปลี่ยน 

 

 

“ข้าอยากจะมาดูว่าเริ่นหว่าเอ๋อร์อยู่ที่นี่หรือไม่ วันนี้ก็ไม่รู้ว่านางเกิดนึกอะไรขึ้นมา ทำให้ข้าหมดอารมณ์ร่ำสุรากับเหล่าสาวงามยิ่งนัก ถ้าหากไม่ใช่เพราะคิดว่านางคงไม่มีทางมาหาเจ้า เช่นนั้นข้าก็คร้านที่จะถ่อมาถึงจวนหลิงอ๋องที่ไม่มีอะไรน่าสนใจแม้แต่น้อย” 

 

 

อวี้อาเหรากลอกตา ที่แท้แล้วเจ้าหมอนี่ก็แค่ต้องการจะหลบเริ่นหว่าเอ๋อร์ เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาทำกับนาง จนนางร้องไห้ร้องห่มจะเป็นจะตายแล้วก็ทำให้นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา น้ำเสียงเย็นๆ พูดขึ้นว่า “หากไม่มีอะไรน่าสนใจเจ้าก็ไม่ต้องมา จวนหลิงอ๋องของข้านั้นไม่ใช่วังหลังของพระราชวังเป่ยเจียงของเจ้า ที่ใครจะมาก็มาได้” 

 

 

“โอ้ เหตุใดวันนี้สาวน้อยเช่นเจ้าถึงได้เคืองโกรธถึงเพียงนี้เล่า” ฟู่เส่าชิงหัวเราะค้าง แล้วหันไปสั่งความกับเจาเอ๋อร์ “ไปเถิด ไปรินน้ำชาให้ข้าหน่อย” 

 

 

“ไม่ต้องไป” อวี้อาเหราเรียกเอาไว้ “ที่นี่ไม่มีน้ำชา” 

 

 

“เหตุใดเจ้าถึงได้ใจแคบถึงเพียงนี้นะ” ฟู่เส่าชิงสงสัยขึ้นมา “ข้าก็ไม่ได้ทำอะไรให้เจ้าสักหน่อยนี่” 

 

 

“ไม่ได้ทำหรือ?” อวี้อาเหราแค่นเสียงเย็น “วันนี้ข้าได้ยินมาว่าเจ้าก็ดูจะยินดีกับเรื่องที่ฝ่าบาทจัดงานเลือกคู่ให้เจ้านี่น่า” 

 

 

“แล้วเหตุใดจะไม่ยินดีเล่า” ฟู่เส้าชิงหัวเราะเย้ย จากนั้นก็โต้กลับว่า “สาวน้อย เจ้าคงชอบข้าขึ้นมาแล้วสิใช่หรือไม่ พอได้ยินว่าฝ่าบาทจัดการเรื่องการเลือกคู่ให้ข้าก็โกรธขึ้นมาอย่างนั้นหรือ” 

 

 

“หากข้าชอบเจ้าก็คงจะตาบอดแล้ว” เพียงพริบตาอวี้อาเหราก็รู้สึกหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก 

 

 

ฟู่เส่าชิงผู้นี้อย่างไรก็เป็นองค์ชายแห่งเป่ยเจียง แล้วเหตุใดเขาถึงได้หน้าด้านหน้าทนถึงเพียงนี้นะ มาบอกว่านางชอบเขาหรือ เช่นนั้นนางยอมไปชอบฉู่ป๋ายเสียยังจะดีกว่า 

 

 

“ในเมื่อไม่ใช่ แล้วเหตุใดเจ้าจะต้องโกรธเคืองถึงเพียงนี้ด้วย” ฟู่เส่าชิงยังคงยิ้ม “เจ้าไม่เห็นจะต้องอายเลย คนที่ชอบข้านั้นก็ไม่ได้มีเพียงเจ้าคนเดียวเสียหน่อย ข้าไม่หัวเราะเยาะเจ้าหรอกน่า รีบยอมรับมาเร็วๆ เถิด” 

 

 

“ยอมรับกับผีน่ะสิ!” อวี้อาเหราแค่นเสียงเหอะออกมาคราหนึ่ง 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 208 ช่างชั่วช้าเสียจริง 

 

 

 

 

 

ฟู่เส่าชิงชะงักไป จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ไม่คิดว่าธิดาเอกแห่งจวนหลิงอ๋องเมื่อจะด่าคนขึ้นมาแล้วจะด่าได้อย่างออกรสออกชาติถึงเพียงนี้” 

 

 

อวี้อาเหราถูกเขาทำให้โกรธจนไม่ทันยั้งคิด ทันใดนั้นก็รีบผ่อนลมหายใจออกมา เหตุใดถึงได้มีคนเช่นนี้อยู่บนโลกด้วยนะ ไม่ว่านางจะพูดอย่างไรเขาก็มักจะเปลี่ยนเรื่องเฉไฉ จนทำให้หมดคำที่จะตอบโต้ 

 

 

“องค์ชายเชิญประทับก่อนเพคะ บ่าวจะไปรินน้ำชามาให้เพคะ” ยังดีที่เจาเอ๋อร์หัวไว เมื่อเห็นคุณหนูของตนเริ่มจะต่อกรไม่ไหว ก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันที  

 

 

“เจ้านี่ก็น่าสนใจจริงๆ” ฟู่เส่าชิงแย้มยิ้ม 

 

 

อวี้อาเหรานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลอบมองไปยังฉากกั้น แล้วถามขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าได้ยินคนพูดกันว่าเจ้าไล่เริ่นหว่านเอ๋อร์ออกจากหอว่านฮวาหรือ” 

 

 

“แล้วจะทำไม ก็นางทำให้ข้าปวดหัว” ฟู่เส่าชิงทำทีเป็นกุมหัว “หากไม่ใช่เพราะเมื่อตอนนั้นนางได้ช่วยข้าเอาไว้ ข้าก็คงไล่นางไปเสียนานแล้ว ไหนเลยจะปล่อยให้นางสร้างเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ได้อีก แล้วเรื่องงานเลี้ยงเลือกคู่นั้นก็เป็นเรื่องที่ฝ่าบาทตัดสินพระทัย หากข้าไม่ชอบแล้วจะทำอะไรได้? แต่โชคดีที่ข้าไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก อย่างไรเสียการดื่มเหล้าได้สาวงามก็ไม่มีอะไรที่ไม่ดี กลัวแต่เพียงว่าฝ่าบาทจะตาบอดเลือกคนอัปลักษณ์มาให้ก็เท่านั้น เช่นนั้นข้าก็คงไม่ชอบอยู่บ้างจริงๆ…” 

 

 

 ตาบอด? เขาก็ช่างกล้าพูด! 

 

 

อวี้อาเหรานับถือในความกล้าหาญของเขายิ่งนัก วาจานี้หากให้ฝ่าบาทได้ยินเข้า มีหวังบันดาลโทสะจนต้องสั่งประหารเขาเป็นแน่ ช่างไม่สำนึกเลยแม้แต่น้อย 

 

 

“แต่อย่างไรเริ่นหว่านเอ๋อร์ก็เป็นเด็กผู้หญิง เจ้าไล่นางไปเช่นนี้มันดูไม่เหมาะสม…” 

 

 

“แล้วจะทำไม” ฟู่เส่าชิงแค่นเสียงเย็น “อย่างไรเสียนางก็วิ่งตามก้นข้าไปทั่วทั้งเมืองเฟิ่งเฉิง ไม่ว่าใครต่างก็รู้ จะเหลือหน้าอะไรมาให้อายกันอีกเล่า!” 

 

 

ทันทีที่พูดจบ เริ่นหว่านเอ๋อร์ก็เดินออกมาจากฉากกั้น มองมาด้วยสายตาโกรธเคือง “พี่ชิง วาจานี้ท่านก็พูดออกมาจากใจของท่านจริงๆ หรือเจ้าคะ” 

 

 

“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่ได้” ฟู่เส่าชิงมีสีหน้าประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

“หากข้าไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าก็คงไม่ได้ยินความในใจของท่านหรอกใช่หรือไม่” เริ่นหว่านเอ๋อร์ตะคอกออกมาด้วยความโกรธเคือง 

 

 

แสงสว่างภายในใจราวกับมลายหายไปในพริบตา ราวกับนางไม่ใช่คนน่าสงสารผู้เศร้าสร้อยอีกต่อไปแล้ว หลายปีที่ผ่านมานางเป็นสาวน้อยไร้เดียงสา แต่เขากลับไม่เห็นค่า ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย แล้วจะไม่ให้นางโกรธได้อย่างไร! 

 

 

อวี้อาเหราที่อยู่ข้างๆ รู้สึกว่าฟู่เส่าชิงนั้นใจร้ายยิ่งนัก อีกฝ่ายเป็นเพียงเด็กหญิงที่ไร้เดียงสาเพียงเท่านั้น เหตุใดถึงได้ใจร้ายถึงเพียงนี้ นี่ก็ช่างน่าโกรธเคืองจนนางต้องกัดฟันกรอดๆ พลันนึกถึงคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่วิ่งไล่ตามองค์รัชทายาทผู้นั้น สุดท้ายแล้วก็กลับถูกผลักตกหน้าผาไปก็เท่านั้นเอง 

 

 

ช่างชั่วช้าเสียจริง! 

 

 

ในใจของนางก่นด่าคนทั้งสองอย่างเดือดดาล 

 

 

หลังจากที่ฟู่เส่าชิงนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย มุมปากของเขาก็เผยเป็นรอยยิ้ม “คิดว่าข้าจะสนใจอย่างนั้นหรือ ความจริงในใจอะไรกัน ทั้งหมดนี่ก็เป็นเจ้าเองที่วิ่งไล่ตามข้า หากข้าไม่เห็นแก่บุญคุณที่ช่วยชีวิต เจ้าคิดว่าจะยังสามารถตามติดข้าได้อยู่อีกหรืออย่างไร” 

 

 

“ท่าน!” เริ่นหว่านเอ๋อร์โกรธจนตาแดงก่ำ 

 

 

“อย่ามาท่านๆ ข้าๆ อยู่เลย ในเมื่อตอนนี้เจ้ารู้หมดแล้ว ก็ไสหัวไปเสีย” สายตาของฟู่เส้าชิงสับสน 

 

 

เริ่นหว่านเอ๋อร์กัดริมฝีปากล่างของตนเอง ฝ่ามือที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อค่อยๆ กำเข้าหากันแน่น เงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของฟู่เส่าชิง กลับเห็นว่าสีหน้าของเขาเป็นปกติ แม้นเมื่อก่อนจะคิดว่าเขาเองก็น่าจะคิดเช่นนี้ แต่ตอนนี้ช่างเจ็บปวดใจยิ่งนัก 

 

 

นางหลุบสายตาลง แล้วพุ่งออกนอกประตูไป 

 

 

“หว่านเอ๋อร์…” อวี้อาเหรายังไม่ทันที่จะร้องเรียก นางก็หายไปเสียแล้ว หันกลับมาจ้องมองฟู่เส่าชิงด้วยความโกรธเคือง ทันใดนั้นก็ยกเท้าขึ้นเตะเขา 

 

 

หลังจากร้องโอดโอยขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ฟู่เส่าชิงก็มองหน้านางด้วยความตกใจ “เจ้าเตะข้าทำไมกัน” 

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว… … “คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น “หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset