ลิขิตฟ้าชะตารัก – ตอนที่ 397 ช่างเถิด / ตอนที่ 398 ตรวจสอบ

ตอนที่ 397 ช่างเถิด

 

 

 

 

ครั้งนี้อนุรองสำนึกได้ว่าตัวเองพลาดไปเสียแล้ว

 

 

“หาตัวมาสวมรอยเป็นเหลียงเอ๋อร์หรือ” เมี่ยวอวี้ทวนคำของนาง แล้วมองไปทางอนุรองอย่างขบขัน “เมื่อครู่บอกเองมิใช่หรือว่าสาวใช้ข้างกายของคุณหนูใหญ่ไม่มีคนชื่อเหลียงเอ๋อร์มิใช่หรือ แต่เมื่อครู่นี้อนุรอง ท่านกลับบอกว่าข้าหาคนมาสวมรอยเป็นเหลียงเอ๋อร์ ในใจของท่านเองก็คงต้องรู้จักเหลียงเอ๋อร์เป็นแน่ มิเช่นนั้นจะพูดเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”

 

 

อวี้อาเหราหัวข้าะเสียงเย็น “เมี่ยวอวี้พูดได้ไม่เลว สาวใช้ของท่านพี่มีคนชื่อเหลียงเอ๋อร์ใช่หรือไม่”

 

 

“ถ้าใช่แล้วจะทำไม” อนุรองทำคอแข็ง พยายามที่จะแก้ต่าง “หากมีสาวใช้ชื่อเหลียงเอ๋อร์แล้วเป็นอย่างไร เพียงสาวใช้คนเดียวจะน่าเชื่อถือเพียงใดกัน อาจจะมีคนใส่ร้ายเยียนเอ๋อร์ก็เป็นได้ อีกอย่าง เหลียงเอ๋อร์ที่คุณหนูรองจับตัวมานี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ จะยืนยันตัวตนของนางอย่างไรกัน”

 

 

“เจ้า” อวี้อาเหราชะงัก ไม่คิดว่าอนุรองจะพูดอย่างแข็งกร้าวขึ้นมาเช่นนี้

 

 

อนุรองร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้วมองไปทางหลิงอ๋อง “ท่านอ๋อง ข้าอดทนต่อคุณหนูรองอยู่เสมอ ไม่กล้าที่จะล่วงเกิน แต่ทำไมนางจึงชอบใส่ร้ายป้ายสีข้าอยู่เสมอ แม้ใส่ร้ายตัวข้าก็ไม่เป็นไร แต่เยียนเอ๋อร์เป็นคนจิตใจดี ไหนเลยจะกล้าทำเรื่องร้ายกาจเช่นนี้ได้เจ้าคะ”

 

 

สีหน้าของหลิงอ๋องนิ่งงัน ทุกคำพูดของอนุรองนั้นก็มีเหตุผลอยู่ไม่น้อย แต่อีกด้านหนึ่ง อวี้อาเหราก็ไม่ใช่คนที่จะพูดโกหก ในเวลานี้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดี

 

 

อวี้อาเหราหันกลับไปมา แล้วถามขึ้นอย่างหาญกล้า “เสด็จพ่อ ท่านเลือกจะเชื่อคำพูดของอนุรองแต่ไม่เชื่อคำพูดของลูกหรือเจ้าคะ”

 

 

หลิงอ๋องลังเล สายตากลอกกลิ้งไปมา สุดท้ายก็มองมาที่ตรงหน้า เอามือไขว้หลังแล้วเอ่ยว่า “ข้าไม่เชื่อใครทั้งนั้น แต่เชื่อหลักฐานที่อยู่ตรงหน้า ขอให้พวกเจ้านำหลักฐานมา ข้าก็จะเชื่อคนนั้น”

 

 

ในใจของอวี้อาเหราก็เย็นเฉียบขึ้น ดูท่าแล้วสถานะของนางที่เป็น ‘ลูกสาวที่เขารักเอ็นดูมากที่สุด’ ก็คงจะไม่อาจชนะสองแม่ลูกได้ ช่างน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง จึงค่อยเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง “อนุรอง ท่านบอกเองว่าตอนนี้ไม่อาจเอาหลักฐานอะไรมายืนยันสถานะของเหลียงเอ๋อร์ได้ใช่หรือไม่ ในวันนั้นนอกจากข้าและเจาเอ๋อร์แล้ว ก็ยังมีท่านอ๋องน้อยจวินแห่งจวนหนานหยางอ๋องอยู่ด้วย ท่านอาจจะไม่เชื่อข้าและเจาเอ๋อร์ แต่จะไม่เชื่อคำพูดของท่านอ๋องน้อยจวินหรือ” 

 

 

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ไปเชิญท่านอ๋องน้อยจวินมาดูว่านางใช่เหลียงเอ๋อร์หรือไม่” อนุรองกัดฟันกรอด

 

 

“พอแล้ว” ในที่สุดหลิงอ๋องก็เอ่ยขัดขึ้นอย่างหมดความอดทน แล้วดุว่าอนุรอง “เจ้านี่ช่างไม่รู้ประสานัก ท่านอ๋องน้อยจวินอยู่ในสถานะใดกัน แล้วยังดึกดื่นถึงเพียงนี้ เจ้าจะไปเรียกก็เรียกมาได้หรืออย่างไร หรืออยากจะให้เรื่องน่าทุเรศนี่กระจายออกไปภายนอกจวนกัน”

 

 

“ท่านอ๋อง…” อนุรองไม่พอใจ แต่ก็ไม่กล้าว่าอะไรมาก

 

 

หลิงอ๋องคิดได้ไม่เลวเลย เรื่องเช่นนี้ไม่ควรจะป่าวประกาศให้คนนอกรู้เลย แต่ทำอย่างนี้ก็เท่ากับยอมให้เยียนเอ๋อร์ต้องรับผิดหรือ เมื่อคิดได้เช่นนี้นางก็ไม่ยอม แต่พยายามที่จะพูดเสียงอ่อน “เมื่อครู่นี้ข้ารู้สึกตื่นเต้นไปหน่อย จึงพูดผิดไป หากท่านอ๋องน้อยจวินไม่สะดวก เรื่องนี้คงไม่อาจชำระให้ผ่องใสได้ เช่นนั้นก็แล้วกันไปเถิดมิดีหรือเจ้าคะ”

 

 

“แล้วกันไปเถิดหรือ” อวี้อาเหราเห็นเช่นนั้นก็จ้องหน้าอนุรองนิ่งงัน “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของข้า จะบอกว่าช่างมันก็ช่างได้หรือ เสด็จพ่อ ลูกสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเล็ก แต่เรื่องกฎระเบียบลูกก็รู้หมด หากจะต้องถูกใส่ร้ายเช่นนี้ลูกก็คงต้อง แค่กๆ…”

 

 

 

 

ตอนที่ 398 ตรวจสอบ

 

 

 

 

เมื่อเห็นอวี้อาเหราไอขึ้นมา เมี่ยวอวี้ก็ตกใจ รีบเข้ามาประคองทันที “คุณหนู ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ…”

 

 

“ใครก็ได้ รีบไปตามหมอมาเร็ว” หลิงอ๋องตะโกนออกไปด้านนอก แล้วค่อยเข้าไปประคองอวี้อาเหราที่ไอออกมาแรงๆ เมื่อเห็นนางไอไม่หยุด ก็เริ่มร้อนรนขึ้นมา ใบหน้าเริ่มแดงก่ำไปทั่ว ในใจก็ค่อยๆ หนักอึ้ง “อาเหราไอขนาดนี้ หมอหลวงบอกว่าเป็นเพียงไข้ธรรมดาจริงหรือ”

 

 

“ทูลท่านอ๋อง ที่จริงแล้วอาการไข้ของคุณหนูนั้นไม่ได้หนักหนามากนัก วันนี้ต้องต้อนรับท่านหญิงน้อยเซิ่น รัชทายาทและยังมีเซิ่นซื่อจื่ออีก เพิ่งนอนหลับแล้วตื่นขึ้นมากลางดึก ไม่คิดว่าจะได้รู้เรื่องของเหลียงเอ๋อร์ขึ้นมา จึงโกรธเสียจนรีบมาที่นี่ และเพราะความโกรธจึงอดไม่ได้ที่จะสาดน้ำใส่หน้าของคุณหนูใหญ่ แต่ท่านอ๋องกลับไม่เชื่อนาง คุณหนูรองคุกเข่าอยู่ตรงนี้ตั้งนาน แน่นอนว่าร่างกายนั้นจะต้องฝืนเป็นอย่างมากเลยนะเจ้าคะ”

 

 

เมี่ยวอวี้กล่าวพยางน้ำตาไหล พูดออกมาไม่หยุดเหมือนน้ำไหลไฟดับ

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงอ๋องก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด “ล้วนเป็นความผิดของข้าเอง”

 

 

“เสด็จพ่อ” อวี้อาเหราพยายามที่จะระงับเสียงไอของตัวเอง เอ่ยกับหลิงอ๋องอย่างเหนื่อยล้า “ลูกไม่โทษเสด็จพ่อหรอกเจ้าค่ะ เสด็จพ่อนั้นเป็นผู้มีเมตตามาแต่ไหนแต่ไร การที่จะเชื่อในพยานหลักฐานนั้นเป็นเรื่องไม่ผิด ต้องโทษที่ลูกลูกร่างกายอ่อนแอเอง เพียงแค่เป็นไข้แต่กลับต้องทำให้เสด็จพ่อต้องเป็นกังวล ลูกช่างอกตัญญูยิ่ง”

 

 

“เฮ้อ เห็นเจ้ารู้ประสาเช่นนี้ก็วางใจ อย่าได้โกรธเสียจนเสียสุขภาพเลย” หลิงอ๋องถอนหายใจ เมื่อเห็นท่าทีนางเข้มแข็งเช่นนี้ก็ชื่นชมไม่น้อย ออกคำสั่งกับเมี่ยวอวี้ว่า “เจ้าพยุงคุณหนูของเจ้ากลับไปเถิด เดี๋ยวที่นี่ข้าจะจัดการเอง”

 

 

“เสด็จพ่อ ลูกยังไม่อยากลับเจ้าคะ” อวี้อาเหราไม่ยอมกลับ

 

 

“ทำไมกัน” หลิงอ๋องสงสัย

 

 

อวี้อาเหราหลุบตาลงต่ำ “ลูกอยากรู้ว่าเป็นใครกันแน่ที่ใส่ร้ายลูก มิใช่เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่ลูกอยากรู้ว่าคนผู้นั้นทำไปทำไม ทำไมจึงชอบใส่ร้ายลูกอยู่เรื่อย”

 

 

“ก็ได้ ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่เถิด” หลิงอ๋องมองนางนิ่งๆ เคารพการตัดสินใจของนาง จากนั้นก็สั่งให้คนพยุงอวี้อาเหรามานั่ง แล้วยังสั่งให้สาวใช้สุมฟืน เพื่อให้ห้องทั้งห้องอบอุ่นขึ้น

 

 

หลังจากจัดการเรื่องทั้งหมดแล้ว สายตาของทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังร่างของอนุรองและอวี้จื่อเยียน

 

 

อนุรองมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเย็นชา ในใจโกรธเคืองเสียจนแทบจะกระอักเลือด เมื่อครู่นี้อวี้อาเหราตั้งใจจะพูดเช่นนั้นใช่หรือไม่ นางรู้ดีว่าหลิงอ๋องใส่ใจสุขภาพของนางมากที่สุด เพราะกลัวว่านางจะเหมือนกับพระชายาหลิงอ๋องที่จากไปตั้งแต่อายุยังน้อย ดังนั้นจึงแสดงท่าทีเช่นนี้ นางช่างเจ้าเล่ห์ยิ่งนัก

 

 

ทว่า นางเองก็ไม่รู้ว่าที่อวี้อาเหราไอออกมาเมื่อครู่นั้น เป็นเพราะนางตื่นเต้นจนเกินไปหรือเปล่า

 

 

ทว่าเมื่อนางไอแล้วพูดขึ้นมาเช่นนั้น แน่นอนว่าเป็นเพราะนางตั้งใจพูดขึ้นมาแน่ๆ

 

 

อวี้จื่อเยียนเป็นกังวลและหวาดวิตก เมื่อเห็นเหลียงเอ๋อร์ที่รบเร้าตัวเองให้เมตตานางก็ตกใจเป็นอย่างมาก แต่มือที่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของอนุรองนั้นได้ปลอบใจนางได้ไม่น้อย นางเงยหน้าขึ้น แล้วส่งสายตาไปมองอวี้อาเหราอย่างโกรธเคือง

 

 

น่าตายนัก เรื่องผ่านมาตั้งนานแล้วจะตรวจสอบให้มันได้อะไรขึ้นมา

 

 

นึกจะใช้เรื่องนี้มาโค่นล้มพวกนางหรือ ไม่ได้หรอก

 

 

หลิงอ๋องจึงค่อยพูดขึ้นด้วยท่าทีสงบ “เมื่อครู่นี้อาเหราพูดได้ถูกต้อง ในเมื่อท่านอ๋องน้อยจวินเคยเห็นหน้าเหลียงเอ๋อร์มาแล้ว แน่นอนต้องเชื่อว่าอาเหราคงไม่กล้าที่จะโกหก ถ่ายทอดคำสั่งของเรา รีบไปตรวจสอบคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องทะเบียนการซื้อขายบ่าวไพร่มาให้หมด หากมีเรื่องของเหลียงเอ๋อร์ผู้นี้จริงๆ แน่นอนว่าข้าจะต้องจัดการให้อาเหราแน่นอน”

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ลิขิตฟ้าชะตารัก

วิญญาณของ อวี้อาเหรา หญิงสาวจากศตวรรษที่ 21 ได้ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูรองแห่งจวนหลิงอ๋องที่มีร่างกายอ่อนแอ ซ้ำยังถูกองค์รัชทายาทที่นางรักมานานหลายปีผลักตกเหวจนตายอย่างไร้เยื่อใย! หลังจากที่อวี้อาเหราได้เข้ามาอยู่ในร่างนี้แล้ว ด้วยสภาพร่างกายของร่างเดิมทำให้นางต้องทนรับกับอาการป่วยไข้หลังจากที่ถูกน้ำซัดไปเป็นเวลานาน แต่นับว่าสวรรค์ยังมีเมตตานัก ที่ทำให้นางรอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของ ฉู่ป๋าย ซื่อจื่อผู้โดดเด่นแห่งจวนเซิ่นอ๋อง ต่อหน้าบุรุษผู้โดดเด่นเช่นเขา นางไหนเลยจะกระโจนเข้าหาเฉกเช่นสตรีนางอื่น สิ่งที่นางทำนั้นคือการหลีกเลี่ยงเขาให้ไกลที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ว่าเรื่องไม่คาดฝันได้เกิดขึ้นเสียแล้ว… … “คุณหนู ท่าน…ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงสาวใช้เอ่ยบอกด้วยความตกใจ “เหลวไหล! ข้ายังไม่เคยข้องเกี่ยวกับบุรุษใด แล้วจะตั้งครรภ์ได้อย่างไรกัน!” อวี้อาเหราเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ ฉับพลันนั้นเซิ่นซื่อจื่อที่นั่งอยู่ข้างกายจึงเอ่ยขึ้น “หากว่าเจ้าลำบากใจนัก เช่นนั้นข้าจะรับเป็นพ่อของเด็กให้เอง”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset