ตอนที่ 401 ขอความเมตตา
“รับไม่ได้ก็ต้องรับ” หลิงอ๋องไม่หลงเหลือทางใดไว้ให้ต่อรอง สั่งให้คนนำแส้มา แส้เส้นนั้นทั้งหยาบทั้งหน้าเท่าครึ่งของกำปั้น แม้ว่าเมื่อตีลงไปจะไม่ตายแต่ก็ทำให้หนังหลุดไปได้หลายชั้น
อวี้จื่อเยียนเห็นแส้เส้นนั้นก็ตกใจเสียจนตัวสั่นเทา ในยามนี้นางจึงรู้ว่าหลิงอ๋องโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว รีบคุกเข่าลง “เสด็จพ่อไว้ชีวิตด้วย เยียนเอ๋อร์ไม่กล้าแล้ว ขอเสด็จพ่อปล่อยลูกไปสักครั้งเถิด”
“เจ้ายังกล้าพูดให้ยกโทษให้อีกหรือ” หลิงอ๋องร้อง “เมื่อครู่นี้ข้าให้เจ้ายอมรับผิดด้วยตัวเองแต่เจ้ากลับไม่ยอมรับผิด จนต้องเอากฎระเบียบมาพูดเจ้าจึงค่อยบอกให้ยกโทษให้หรือ”
“ท่านอ๋อง ปล่อยเยียนเอ๋อร์ไปสักครั้งเถิด นางอายุยังน้อยไม่รู้ประสา จึงถูกล่อลวงไปในทางที่ผิด ต้องโทษข้าที่ดูแลลูกไม่ดี หากท่านอ๋องจะลงโทษ ก็ตีข้าเถิด ข้ายอมรับโทษตายเอง” อนุรองรีบปกป้องอวี้จื่อเยียน
“อายุยังน้อยไม่รู้ประสาหรือ” หลิงอ๋องเลิกคิ้ว “อาเหราอายุน้อยกว่านางเสียอีก ยังรู้จักช่วยข้าแบ่งเบาภาระงานในบ้าน ทั้งยังจัดการเรื่องธุรกิจที่ดินได้เรียบร้อย แต่พวกเจ้าแม่ลูกกลับทำเรื่องเลวร้ายลอบใส่ร้ายนาง ก่อนหน้านี้ข้ายังทำเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เพราะเห็นว่าในท้องของเจ้ายังมีทายาทของข้าอยู่ มิเช่นนั้น นำพวกเจ้าสองแม่ลูกไปสับเป็นพันชิ้นก็ยังไม่สาสม”
“เสด็จพ่อ หากจะตีก็ตีลูกเถิด ไม่เกี่ยวกับท่านแม่” อวี้จื่อเยียนพุ่งเข้ามาขวางทางอนุรองเอาไว้ “ในครรภ์ของนางยังมีเด็กอยู่ หากโดนแส้เฆี่ยนคงต้องตายหนึ่งศพสองชีวิต แต่ชีวิตของเยียนเอ๋อร์ไม่มีค่า จะฆ่าจะตีก็เชิญตามสบาย”
“เจ้า” หลิงอ๋องเห็นพวกนางแม่ลูกแย่งกันรับผิด ในใจก็เริ่มลังเลขึ้นมา แม้พวกนางสองคนทำเรื่องที่ไม่สมควรมากมาย แต่พวกนางก็เป็นมารดาผู้มีเมตตาและบุตรที่กตัญญู แส้ถูกวาดค้างไว้ในอากาศไม่ได้ฟาดลงมา
ใบหน้าของอวี้อาเหราเคร่งขรึม “เสด็จพ่อ หากทรงทำไม่ลงก็ช่างเถิดเจ้าค่ะ อาเหราทนต่อสภาพตายทั้งเป็นเช่นนี้ได้…”
“อย่าพูดเรื่องตายไม่ตาย” หลิงอ๋องได้ยินนางพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าย่อมนึกถึงความเลวร้ายที่พวกนางสองแม่ลูกวางแผนใส่ร้ายอวี้อาเหราขึ้นมา ความโกรธพุ่งขึ้นมาอีกครั้ง หันไปออกคำสั่งกับองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลังอย่างเย็นชา “นำตัวอนุรองออกไป”
เหล่าองครักษ์ตรงปรี่เข้าไป อนุรองทำอย่างไรก็ไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ไม่อาจต้านทานกำลังคนที่มากกว่าได้
หลิงอ๋องฟาดแส้ที่หยาบหนาเหมือนกำปั้นลงไปแรงๆ ที่ร่างของอวี้จื่อเยียน
ชั่ววินาทีนั้นที่นางร้องออกมา เสียงร้องราวกับดวงใจที่แตกสลาย
ทางลงโทษด้วยแส้นั้นแม้เป็นชายร่างกายกำยำก็ยังยากที่จะทานทน แล้วอวี้จื่อเยียนที่เป็นกุลสตรีตระกูลสูงผู้มีรูปร่างบอบบางแน่งน้อยเล่า เพียงเฆี่ยนสองครั้งก็ได้เลือด แม้แต่เสียงร้องอย่างเจ็บปวดก็เบาลงเสียจนแทบไม่ได้ยิน
ใบหน้าของอนุรองทั้งเป็นทุกข์ทั้งโกรธแค้น ไม่ว่านางจะร้องขอความเมตตาอย่างไรก็ไม่เป็นผล หลิงอ๋องใจแข็งลงโทษอวี้จื่อเยียนเช่นนี้ ไม่มีทางเลือก นางคุกเข่าลงตรงหน้าอวี้อาเหรา แล้วร้องขอความเมตตาให้อวี้จื่อเยียน
อวี้อาเหราหัวข้าะเสียงเย็นชา “อนุรอง วันนี้เจ้าอยากให้ข้าเมตตาลูกสาวของเจ้า แต่หากเป็นข้าที่ถูกเฆี่ยน เจ้าจะนึกอยากจะไว้ชีวิตข้าเช่นนี้ไหม”
แน่นอนว่าไม่ ในใจของอนุรองเข้าใจความหมายของนางทันที เสียงร้องขอความเมตตาจึงไม่หลุดออกมาอีก
ใช่แล้ว นี่เป็นเรื่องของศัตรูคู่แค้น หากสลับตำแหน่งกัน นางก็คงไม่ปล่อยอวี้อาเหราเอาไว้
อวี้อาเหราเข้าใจลึกซึ้ง คนคนหนึ่งเป็นคนมีเมตตา แต่มีคนบางกลุ่มที่ไม่ควรได้รับความกรุณา มิเช่นนั้นอาจจะกลับมาแว้งกัดตัวเองก็เป็นได้
ตอนที่ 402 ไม่คิดเล็กคิดน้อย
เพราะนางเข้าใจเรื่องนี้ดี จึงไม่เข้าไปร้องขอความเมตตาแทนอวี้จื่อเยียน และยิ่งไม่ยอมใจอ่อน หากใจอ่อนต่อศัตรูก็เท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองเสียเปล่าๆ
นางไม่ใช่คนมีเมตตาอะไร โลกที่ไร้ความรู้สึกนี้หล่อหลอมหัวใจนางจนเย็นชา ทั้งยังสอนอะไรนางมากมาย
โลกแห่งนี้ก็เป็นเช่นนี้ มีเมตตาต่อคนที่มีเมตตาต่อตนเท่านั้น สำหรับคนที่มีจิตใจดั่งงูพิษ ต้องคอยระวังจะโดนงูพิษแว้งกัดจนตาย ตอนนี้ทัศนคติการมองโลกของอวี้อาเหราเป็นเช่นนี้
อนุรองถูกตอกกลับเสียจนพูดไม่ออก เมื่อเห็นอวี้จื่อเยียนถูกเฆี่ยนตีอย่างทุกข์ทรมาน ทันใดนั้นนางก็เป็นลมหมดสติไป
หลิงอ๋องชำเลืองมอง “พยุงอนุรองไปพักที่ห้องให้ดี”
อวี้อาเหราเห็นละครสนุกๆ จนพอแล้ว เมื่อได้ยินเสียงเซ็งแซ่ข้างๆ หูก็ไม่นึกสนใจ “เสด็จพ่อ ในเมื่ออนุรองหมดสติเช่นนี้ และท่านพี่ก็ได้รับโทษตามสมควรแล้ว เรื่องนี้ก็ให้แล้วกันไปเถิดเจ้าค่ะ หากจะเฆี่ยนท่านพี่เสียจนตายเข้าจริงๆ คนภายนอกคงจะคิดว่าลูกรังแกลูกอนุอย่างโหดร้ายมิใช่หรือ”
“แต่นางทำกับเจ้าถึงเพียงนี้…” หลิงอ๋องลังเล แส้ในมือหยุดค้างชั่วขณะ
ที่จริงแล้วในใจของเขาก็นึกสงสารอวี้จื่อเยียน ในเมื่อเป็นลูกสาวที่เลี้ยงมาถึงสิบกว่าปี ไหนเลยจะไม่มีความรู้สึก แต่เพราะอยู่ต่อหน้าทุกคน จึงเหมือนขึ้นเวทีมาแล้วไม่อาจลงได้ ตอนนี้อวี้อาเหราเสนอบันไดมาให้ เขาย่อมคล้อยตามเป็นธรรมดา
“ลูกไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้ว แม้แต่นักปราญช์ก็ยังเคยทำผิด และท่านพี่ก็ยังเป็นเพียงปุถุชน เสด็จพ่อ ยกโทษให้ท่านพี่เถิดเจ้าค่ะ” อวี้อาเหรายังคงเกลี้ยกล่อมต่อไป
“ก็ได้ วันนี้เห็นแก่หน้าเจ้า จะปล่อยนางไปสักครั้ง” ในที่สุดหลิงอ๋องก็โยนแส้ให้องครักษ์ที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็หันไปทางอวี้จื่อเยียน “วันนี้เป็นอาเหราที่ขอความเมตตาให้เจ้า ต่อไปหากเจ้ายังจะก่อเรื่องอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่เมตตาเจ้า”
“ขอบ…ขอบคุณเสด็จพ่อ” อวี้จื่อเยียนโดนเฆี่ยนเสียจนมีแผลทั่วร่าง เสื้อผ้าขาดวิ่น เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือดสดๆ น้ำเสียงที่พูดออกมาก็อ่อนระโหยไร้เรี่ยวแรง เมื่อเห็นหลิงอ๋องลงมือเฆี่ยนตีนางหนักเช่นนี้ยังสามารถรักษาชีวิตให้รอดขึ้นมาได้ก็ยังนับว่าโชคดี
สายตาของอวี้จื่อเยียนไร้ซึ่งแววสำนึกบุญคุณ แต่กลับเต็มไปด้วยรังสีอำมหิต วันนี้อวี้อาเหราลงแส้เฆี่ยนตีนางได้ นางจะต้องเอาคืน ต้องมีสักวัน ที่จะต้องทำให้นางไม่ตายดี
อวี้อาเหราสัมผัสได้ถึงสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความแค้นของอวี้จื่อเยียนที่ส่งมายังนาง ทำเพียงยิ้มอ่อนบางอย่างสบายใจ นางเดาผลลัพธ์เรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว คนบางจำพวกให้ตายก็ไม่เปลี่ยนสันดาน ทำอย่างไรก็ไม่เห็นความเมตตาของนาง ทำไมไม่คิดบ้าง ว่าวันนี้เป็นใครที่ช่วยชีวิตนางเอาไว้
หลิงอ๋องถอนสายตาจากอวี้จื่อเยียน “นับแต่วันนี้ไป คุณหนูใหญ่ถูกไล่ไปยังหนานย่วน หากไม่ได้รับคำสั่งของเราห้ามกลับมาที่นี่ และไม่อนุญาตให้อนุรองไปพบนางด้วย”
“ขอรับ” ทุกคนร้องออกมาพลางก้มหน้าต่ำ
อวี้อาเหราเข้าใจในทันที หลิงอ๋องไว้ชีวิตอวี้จื่อเยียน เพราะเห็นแก่หน้าของลูกในท้องอนุรอง แต่ขับไล่นางไปยังหนานย่วนเพื่อเป็นการแลกลี่ยน วิธีนี้ก็ถือว่าไม่เลว หากไม่ใช่เพราะอนุรองตั้งครรภ์ ยามนี้สองแม่ลูกคงถูกไล่ออกไปจากจวนแล้วเป็นแน่
ยามที่อวี้จื่อเยียนถูกสาวใช้พยุงออกไปยังต้องมองนางตาเขม็ง
เมี่ยวอวี้ลุกขึ้นยืน แล้วจึงมองมาที่คุณหนูของตัวเอง
“คืนนี้เจ้าทำได้ดีมาก” อวี้อาเหราชมเชย
“ขอบพระคุณคุณหนู” เมี่ยวอวี้ตอบรับเบาๆ
อวี้อาเหราส่องสายตาไปทางหลิงอ๋อง ปั้นสีหน้าโทษตัวเอง “เรื่องวันนี้เป็นความผิดของลูกเอง ที่โกรธเสียจนรบกวนเวลาพักผ่อนของเสด็จพ่อ ลูกช่างอกตัญญูยิ่ง…”